หากพูดถึงความเป็น Japanese ทุกคนก็จะคิดถึงความปราณีต ประดิษฐ์ประดอย และดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ ที่ได้รับการการันตีเหมือนเครื่องหมายตีตราว่า หากพูดถึง made in japan เราจะคิดถึงของคุณภาพสูง สมราคา จึงไม่น่าแปลกใจที่ส่งผลให้แฟชั่นของพวกเขาจะเจริญก้าวหน้า ได้รับการยอมรับจากคนทั่วทุกมุมโลก และเมื่อไม่นานมานี้ก็เริ่มมีการพูดถึงเกี่ยวกับ “Japonism” หรือคตินิยมศิลปะญี่ปุ่น ซึ่งถ้าคนไม่ได้สนใจ หรือเสพสื่อญี่ปุ่นแบบคลั่งไคล้อาจจะคิดว่าเป็นศัพท์ใหม่ แต่จริง ๆ แล้วคำนี้ มีการถูกบัญญัติมานมนานแล้วตั้งแต่ปี 1872 ที่ซึ่งนักสะสมศิลปะชาวฝรั่งเศสชื่อ Phillippe Burty ได้จำกัดความ Japonism หมายถึงศิลปะวัฒนธรรมของญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นงานปั้น สถาปัตยกรรม หรือ Fine art ที่ถูกถ่ายทอดผสมผสานผ่านวัฒนธรรมดั้งเดิม และความทันสมัยของญี่ปุ่นยุคใหม่ที่ได้ผนวกความเป็นตะวันตกลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งบ่อยครั้งที่ Japonism มักถูกนำมาใช้เล่นกับแฟชั่นของผู้หญิงเป็นหลัก แต่ก็มีบ้างที่มีการนำแนวคิดนี้มาผสานกับเสื้อผ้าของผู้ชายจนเกิดความโมเดิร์นที่เท่แปลกตา และเต็มไปด้วยลูกเล่นต่าง ๆ มากมาย ตัวอย่างเช่น Jaspal Man ที่มีการนำแรงบันดาลใจจาก Japonism ร่วมสมัย มาเป็นไอเดียในการออกแบบเสื้อผ้าฤดูกาลใหม่ ที่เราได้หยิบยกมาพูดในวันนี้ ซึ่งหนุ่ม ๆ UNLOCKMEN สามารถนำไปใช้ได้ไปกับชีวิตประจำวัน
ผู้ชายอย่างเราคงจะไม่มีใครสนใจเปลี่ยนกระเป๋าสตางค์กันบ่อย ๆ อยู่แล้ว ถ้าเกิดไม่ทำหาย หรือขาดหลุดลุ่ยเซอร์จนสภาพรับไม่ได้ คงไม่ค่อยมีใครเปลี่ยนกันแต่อย่างใด ต่างจากผู้หญิงที่เน้นความสวยงามเข้าว่า ต้องมีกระเป๋าสตางค์หลากหลายแบบเพื่อเข้ากับการแต่งตัวที่แตกต่างตามโอากาส รวมถึงสาว ๆ บางคนที่สนใจเรื่องดวงว่ากระเป๋าใบนี้ใช้แล้วเงินจะไหลมาเทมา หรือเงินรั่วไหลทำให้ต้องมีการเปลี่ยนกระเป๋าสตางค์บ่อยเป็นว่าเล่น แต่ก็ใช่ว่าผู้ชายอย่างทั้งหลายจะใช้กระเป๋าสตางค์อะไรก็ได้ ขอให้ยัดแบงค์ ยัดบัตรได้ก็พอ เราขอแนะนำว่าเมื่อถึงคราวต้องเปลี่ยนจริง ๆ กระเป๋าสตางค์ก็เป็นอีกหนึ่งไอเทมที่หนุ่ม ๆ จะละเลยไม่ได้ เพราะมันเป็นสิ่งที่เราต้องใช้เป็นประจำวัน หากอยากจะใช้ไปนาน ๆ ก็ควรเลือกใบที่มีวัสดุตัดเย็บดีเสียหน่อย ก่อนอื่น ขั้นตอนแรกเราต้องมาทำความรู้จักว่ากระเป๋าสตางค์สำหรับผู้ชายนั้นมีกี่ประเภท และมีรูปร่างหน้าตาเช่นไรกันบ้าง เริ่มจากแบบแรกที่เรียกว่า Bifold หรือกระเป๋าสตางค์แบบสองพับซึ่งเป็นที่นิยมมากที่สุดในหมู่ผู้ชาย และวัสดุที่นิยมใช้กันมากก็จะเป็นประเภทหนังแท้ กระเป๋าสตางค์ทรงนี้ถูกผลิตขึ้นครั้งแรกในช่วงปี 50s หลังจากที่มีบัตรเครดิตการ์ด จึงเกิดเป็นช่องใส่บัตรค่อนหลากหลาย อีกทั้งจุดเด่นคือเวลาใส่เงินจะสามารถกางออกได้ทั้งแผ่น กระเป๋าทรงนี้จึงเหมาะกับผู้ชายที่ชอบเหน็บกระเป๋าสตางค์ไว้ที่กระเป๋าหลังกางเกงเป็นหลัก แบบที่สองเรียกว่า Trifold กระเป๋านี้เป็นที่นิยมสำหรับเด็ก ๆ วัยรุ่นมากกว่าผู้ใหญ่ หากใครยังคิดภาพไม่ออก ให้นึกถึงกระเป๋าสตางค์ 3 พับแบบสมัยก่อนที่รูปร่างหน้าตาจะคล้ายกระเป๋าแบบ Bifold เลย แต่ต้องพับ 3 ทบ และด้วยจำนวนพับที่มากขึ้นทำให้เก็บของได้มากขึ้น แต่ก็แลกมาด้วยขนาดที่ดูเทอะทะขึ้น Checkbook Wallet เป็นกระเป๋าที่เหมาะสำหรับนักธุรกิจที่ไม่ค่อยพกเงินสด แล้วก็ต้องเดินทางบ่อย
เรื่องของสไตล์การแต่งตัวเป็นสิ่งที่ห้ามอะไรกันไม่ได้อยู่แล้ว ซึ่งแต่ละคนก็จะมีความหลากหลาย และชัดเจนอยู่ภายในตัวเอง บางคนชอบสตรีท บางคนเรียบง่าย ๆ มินิมอล ก็สุดแล้วแต่ไลฟ์สไตล์ความปรารถนาส่วนตัว และจากที่เราสังเกตเทรนด์การแต่งตัวของผู้ชายไทย ส่วนใหญ่จะค่อนข้างชื่นชอบอะไรที่เรียบง่าย ๆ สบาย ๆ ชิว ๆ อยู่ซะมาก ดังนั้นวันนี้ทีมงาน UNLOCKMEN ขอจะมาแนะนำรองเท้าสายมินิมอลที่ผู้ชายสายชิวควรมีติดไว้อย่างน้อยหนึ่งคู่ Common Project Original achilles low ขอเปิดหัวด้วยแบรนด์หรูเรียบอย่าง Common Project แบรนด์ที่ไม่จำต้องเป็นมีลวดลายอะไรให้มันยุ่งยาก เพียงตัวเลขที่บริเวณส้นเท้าก็สามารถทำให้มันได้รับความนิยมจนกลายเป็นแบรนด์มินิมอลระดับต้น ๆ ของโลก โดยเฉพาะรองเท้ารุ่น achilles low ที่เรียกใช้วัสดุคุณภาพสูง แม้ว่าจะเลอะง่ายไปเสียหน่อย แต่ก็สามารถทำความสะอาดได้ง่ายเช่นกันเพราะทำจากวัสดุหนังแท้ ราคาก็จัดอยู่ในขั้นแพงนิดหนึ่ง แต่ถือว่าเป็นการลงทุนครั้งเดียวอยู่ Converse Jack Purcell หากพูดถึงต้นตำรับความมินิมอลคงจะหนีไม่พ้นรองเท้า Jack Purcell ที่ออกแบบมาเพื่อนักเทนนิสในชื่อเดียวกันเมื่อครั้งอดีต ซึ่งระดับความคลาสสิคของมันก็จัดอยู่ในขั้นตำนาน เพราะรองเท้าคู่นี้เก๋าขึ้นหิ้งขนาดฮิปเตอร์ตัวพ่ออย่าง James Dean ยังสวมใส่เลย อีกทั้งในปัจจุบันทาง Converse ก็มีการปรับปรุงใส่เทคโนโลยีใหม่ ๆเข้าไปให้สวมใส่สบายมากยิ่งขึ้น
เมื่อพูดถึงนาฬิกาดี ๆ สักเรือน เราเชื่อว่าสิ่งแรกที่หลายคนนึกถึงคือนาฬิกาจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ด้วยความเนี้ยบ ความประณีตพิถีพิถันของช่างฝีมือ รวมถึงการไม่หยุดนิ่งที่จะพัฒนาเทคโนโลยีกลไกบอกเวลาอันแม่นยำเที่ยงตรงของชาวสวิส ทำให้ชื่อเสียงของนาฬิกาสัญชาติสวิสเป็นที่เลื่องลือไปทั่วโลก แบรนด์ Tissot ถือเป็นเรือนเวลา Swiss Made หรือนาฬิกาสัญชาติสวิสแท้ ผลิตในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่มีชื่อเสียงได้รับการยอมรับมายาวนาน และกำลังจะมีอายุครบ 165 ปี ในปีหน้า นับย้อนไปตั้งแต่จุดเริ่มต้นในปี 1853 จากการร่วมมือของ 2 พ่อลูก Charles-Félicien Tissot และ Charles-Émile Tissot ที่ริเริ่มผลิตและเปิดกิจการร้านขายนาฬิกาพกพาขึ้นที่เมือง Le Locle ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ และดำเนินกิจการนาฬิกาภายใต้ชื่อแบรนด์ Tissot สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นมาจนถึงปัจจุบัน จุดเด่นของเรือนเวลาจาก Tissot แน่นอนว่าต้องเป็นเรื่องของคุณภาพมาตรฐานสวิส ในราคาที่คุ้มค่าจับต้องได้ รวมถึงการนำนวัตกรรมใหม่ ๆ มาปรับใช้ อีกทั้งยังโดดเด่นในเรื่องการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ กล้าที่จะลองใช้วัสดุแปลกใหม่ในการทำนาฬิกา หากอ่านแล้วยังจินตนาการความแปลกไม่ออก เราขอบอกว่าเคยมีนาฬิกาข้อมือที่ผลิตจากหิน และไม้ ภายใต้ชื่อแบรนด์ Tissot ออกมาวางจำหน่ายโชว์ความล้ำกันตั้งแต่ยุค 80s สำหรับผู้ชายอย่างเรา ๆ
หากพูดถึงแร็พเปอร์ผิวขาวในวงการเพลงต่างประเทศคงไม่ค่อยจะได้รับความนิยมเสียเท่าไหร่ นาน ๆ จะมีหลุดออกมาดังเปรี้ยงป้างแบบ Eminem สักคน ซึ่งก่อนหน้านี้ก็พอจะมี Macklemore ที่ดังขึ้นมาสักแป๊ป แต่สายนี้จะออกอินดี้ไปเสียหน่อยเลยไม่ค่อยได้รับการโปรโมตในวงกว้าง แต่ชั่วโมงนี้หากพูดถึงแร็พเปอร์ผิวขาวอย่างไรก็ต้อง G-Eazy แร็พเปอร์สุดเท่ หน้าหล่อ ลุคแบดบอยที่พ่วงความสามารถบวกกับการแต่งตัวที่ฉีกสไตล์จากฮิปฮอปทั่วไป สำหรับคนที่อาจจะยังไม่รู้ว่า G-Eazy คือใคร เขามีชื่อเต็ม ๆ ว่า Gerald Earl Gillum มีฉายาว่าเจมส์ดีนแห่งวงการฮิปฮอป ซึ่งจะบอกว่าเส้นทางการเป็นนักร้องของเขาค่อนข้างโชคดีมากในระดับหนึ่ง เพราะเขาได้โพสต์เพลงลงใน Myspace กับแก๊งค์เพื่อนที่ชื่อ The Bay Boyz จากนั้นโปรดิวเซอร์ของ Lil Wayne และ Snoop Dogg มาเห็นเข้าจึงได้ จับมาเซ็นสัญญาออกเพลงเป็นเรื่องเป็นราว และเพียงไม่นาน G-Eazy ก็มีเพลงสร้างชื่ออย่าง Me, Myself & I แต่สิ่งที่เราจะพูดไม่ใช่เรื่องของความสำเร็จหรือประวัติส่วนตัวของ G-Eazy แต่อย่างใด เพราะวันนี้อยากจะมาพูดเรื่องสไตล์การแต่งตัวของเขาที่จัดอยู่ในขั้นเทพคนหนึ่ง มาลองดูกันว่าเป็นมีสไตล์ไหนที่ชาว UNLOCKMEN พอจะไปปรับใช้กับตัวเองได้บ้าง ฮิปฮอปในมาดร็อคเกอร์
ในยุคปัจจุบันที่โซเชียลมีเดียเป็นสื่อหลักสำหรับการเสพข่าวสารไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดก็ตาม ดังนั้นจึงเลี่ยงไม่ได้ที่ข่าวคราวต่าง ๆ จะถูกส่งต่อไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของแฟชั่นที่คุณสามารถสื่อสาร หรือตามเทรนด์แม้จะอยู่อีกคนละซีกโลกได้ง่าย ๆ เพียงแค่คลิกเข้าไปในอินเตอร์เน็ต ตัวอย่างเช่นสมัยก่อนหากคุณจะตามเทรนด์ของไอคอนที่ชื่นชอบก็ต้องรอกว่าจะมีรูปปาปารัสซี่ ตามนิตยสาร ดักถ่ายรูป ซึ่งต่างจากปัจจุบันที่คุณเพียงแค่เข้า Instagram ก็จะเจอรูปสไตล์ของไอดอลที่คุณชื่นชอบ และประโยชน์จากการสื่อสารอันรวดเร็วของโซเชียลมีเดียคือการทำงานบนแพลตฟอร์มออนไลน์สามารถทำการสำรวจ หรือเช็คสถิติต่าง ๆ วัดผลการเข้าถึงเนื้อหาได้ง่ายขึ้นอีกด้วย ดังนั้นวันนี้ทีมงาน UNLOCKMEN จึงขอนำสถิติของ Dash Hudson ที่รวมข้อมูลในเชิงลึกต่าง ๆ ว่า แท้จริงแล้ว ใครคือผู้ทรงอิทธิพลในเรื่องสไตล์แฟชั่นมากที่สุดบนโชเชียล มีเดียกันแน่? ใครมียอด Followers มากที่สุด การจะวัดผลว่าใครมีผู้ที่มีคนติดตามมากที่สุดก็ทำได้ง่าย ด้วยการนับยอด followers จาก ยูสเซอร์ของพวกเขา และผลลัพธ์ก็ไม่น่าแปลกใจว่า Justin Bieber คือคนในแวดวงแฟชั่นที่มียอดติดตามมากที่สุดด้วยจำนวน 90.4 ล้านคน ตามมาด้วยแร็ฟเปอร์ Drake ที่ 37.5 ล้านคน และ Pharrell Willams ในอันดับสามที่ 9.9 ล้านคน นั้นก็พอจะเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าสตรีทแฟชั่นได้ระบาดกลายเป็นวัฒนธรรมป๊อปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นผู้คลั่งไคล้ หลงใหล ในเรือนเวลาแบบเข้าเส้น หรือแม้แต่คนธรรมดาทั่วไปที่บังเอิญอยากจะหานาฬิกาคุณภาพดีเอาไว้ประดับข้อมือกันสักเรือน ต่างก็ต้องยอมรับถึงชื่อเสียง คุณภาพของเรือนเวลา Swiss Made หรือ แบรนด์นาฬิกาจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่ง Mido ถือเป็นอีกแบรนด์นาฬิกาจากสวิส ที่พวกเราชาวไทยให้การตอบรับอย่างดีมาทุกยุคทุกสมัย ด้วยจุดเด่นในเรื่องของการออกแบบที่โดดเด่น วัสดุตัวเรือนชั้นดี งานประกอบที่พิถีพิถัน รวมถึงกลไกบอกเวลาคุณภาพสูงมาตรฐานสวิส ในราคาที่สมเหตุสมผล เมื่อพูดถึงความนิยมของแบรนด์ MIDO ทั้งในไทย และในระดับโลก ต้องย้อนกลับไปประมาณ 99 ปีก่อน ที่ได้มีการเริ่มต้นก่อตั้งโรงงานผลิตนาฬิกา MIDO G. Schaeren & Co. AG ขึ้นที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันท่ี 11 พฤศจิกายน 1918 โดย Georges Schaeren จวบจนถึงทุกวันนี้นับเป็นเวลาเกือบหนึ่งศตวรรษ ที่ MIDO ยังคงยึดปรัชญาหลักในการสร้างสรรค์เรือนเวลาที่ผสมผสานระหว่างความงามความเป็นต้นตํารับและความมีอรรถประโยชน์ซึ่งสามารถใช้งานได้จริง โดยจุดเปลี่ยนสําคัญของนวัตกรรมเรือนเวลาจาก MIDO สําหรับเราต้องยกให้ในปี 1930 ที่ MIDO ได้คิดค้นระบบการปิดซีลเม็ดมะยมแบบจุกคอร์กสําเร็จ (ภายหลังเรารู้จักกันในชื่อ Aquadura) และเป็นผู้นําในด้านการทําตัวเรือนนาฬิกาให้กันนํ้าได้อย่างแท้จริง
พอพูดถึงรองเท้าผ้าใบสมัยนี้ก็จะมีเพียงไม่กี่แบรนด์ที่วิ่งเข้ามาในหัว ไม่ว่าจะเป็น adidas , Nike , Converse , Vans เพียงเท่านั้น แต่อันที่จริงแล้ว รองเท้ายี่ห้อแปลก ๆ จากทางฝั่งยุโรปก็มีลูกเล่นดีเทลที่เจ๋งไม่แพ้กัน เพราะถ้าหากพูดกันตามเนื้อผ้า ปัจจุบันเหล่าแบรนด์ยอดนิยมทั้งหลายต่างย้ายฐานการผลิตมาอยู่ในประเทศอย่าง จีน เวียดนาม อินโดนีเซีย ทำให้บ่อยครั้ง คุณภาพของสินค้าจะมีหลุด qc บ้าง อาทิ กาวปริ เย็บไม่ประณีต รองเท้าไม่ทนบ้าง ซึ่งต่างจากรองเท้าแบรนด์ยุโรปที่ยังคงความคราฟต์ของงานออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ดังนั้นวันนี้ UNLOCKMEN จะมาแนะนำรองเท้านอกกระแสจากฝั่งยุโรปที่มีคุณสูงเหมาะแก่การเป็นเจ้าของ Diadora N9000 Diadora ถือเป็นแบรนด์สปอร์ตชื่อดังจากประเทศอิตาลี มีจุดเด่นคือพวกเขายังคงใช้ฐานการผลิตเดิมในประเทศ และคัดสรรเฉพาะวัสดุเกรดพรีเมี่ยมในการสร้างรองเท้าคุณภาพสูงออกมา อย่างเช่น N9000 คู่นี้ ซึ่งเจ้า N9000 เป็นรองเท้าวิ่งทรงรีโทรที่เคยผลิตครั้งแรกในปี 1990 จึงจะเห็นได้ว่ารองเท้ารุ่นนี้มีจุดเด่นเอกลักษณ์แบบรองเท้ายุค 90s อย่าง Ralph Lauren , Nautica และ Coogi สำหรับวัสดุที่ Diadora
เทรนด์กีฬาวิ่งเป็นอะไรที่กำลังมาแรงมาก ๆ เนื่องจากไม่จำเป็นต้องเสียสตางค์อะไรมากมาย แค่เตรียมรองเท้าของคุณให้พร้อม ผูกเชือก หูฟัง แล้วออกไปวิ่งเพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงได้แล้ว แต่เดี๋ยวก่อน ลองก้มลงดูที่เท้าของคุณ ถ้าหากคุณไม่สนใจกับสิ่งที่อยู่ระหว่างเท้า และโปรแกรมออกกำลังกายที่กำลังจะออกไป เรื่องนี้คุณอาจจะต้องพบกับอุปสรรค และอาการบาดเจ็บในภายภาคหน้าได้ ซึ่งเราไม่ได้บอกว่าชาว UNLOCKMEN จะต้องซื้อรองเท้าราคาหลายพัน แต่อยากให้แน่ใจว่ารองเท้าแต่ละคู่ถูกออกแบบมาเพื่อจุดประสงค์ที่แตกต่างกันออกไป เราจึงไม่ควรเหมารวม แล้วใส่รองเท้าเพียงคู่เดียวในการทำทุก ๆ กิจกรรมออกกำลังกาย รองเท้าแม้จะเป็นอุปกรณ์ป้องกัน และเพิ่มสมรรถนะ แต่ในทางกลับกันถ้าเลือกที่ไม่เหมาะสมกับตัวเองอาจจะเกิดโทษได้เช่นกัน ดังนั้นมาลองอ่านวิธีการเลือกซื้อรองเท้าวิ่งที่ดี และเหมาะกับตัวคุณ รองเท้าวิ่ง ก็คือรองเท้าวิ่ง ก่อนอื่นเลยต้องเข้าใจว่าอย่าพยายามเอารองเท้าเทรนนิ่งหรือรองเท้ากีฬาประเภทอื่นมาใช้สำหรับการวิ่ง เพราะว่ารองเท้าวิ่งต่อให้เป็นคู่ที่ไม่ได้มีราคาค่างวดอะไร แต่มันถูกออกแบบมาให้เราสามารถมี Balance และยืดหยุ่น รวมถึงซัพพอร์ตร่างกายของเราเวลาที่ออกวิ่ง ไม่เชื่อคุณลองใช้รองเท้าเทรนนิ่งมาวิ่งในระยะทางระดับเดียวกันกับรองเท้าวิ่งปกติ คุณจะรู้สึกถึงความแตกต่าง เพราะรองเท้าวิ่งจะทำให้คุณรีดประสิทธิภาพในตัวออกมาได้มากที่สุด รวมถึงลดอาการบาดเจ็บที่จะตามมาด้วย อย่าซื้อรองเท้าวิ่งตามกระแส หรือตามเพื่อน ที่เราบอกอย่างนี้ก็เพราะ พฤติกรรมการวิ่งของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ด้วยลักษณะรูปรอยเท้า (Arch type) ที่ส่งผลต่อการหมุนของเท้าที่เป็นกลไกในรองกับแรงกระแทก ( Pronation) ก็ต่างกันออกไป ซึ่งเท้าแบบ High Arch ลักษณะกลางเท้าคอด เท้าแบบนี้ เวลาวิ่งเท้าจะไม่สามารถช่วยลดแรงกระแทกได้
ช่วงหลัง ๆ เราอาจจะแนะนำเรื่องสไตล์ที่ออกไปในเชิงสตรีทแฟชั่นเสียเป็นส่วนใหญ่จนลืมไปว่า ก็ยังมีผู้ชายอีกจำนวนไม่น้อยที่เป็นสาย Metrosexual หนุ่มเมืองที่มีความหลงใหลเกี่ยวกับการดูแลรักษาตัวเอง รวมถึงแฟชั่นอย่างมากแต่ไม่ใช่เกย์ ซึ่งอันที่จริงแล้วปัจจุบันผู้ชายในบ้านเราก็ค่อนข้างจะให้ความสนอกสนใจเรื่อง เสื้อผ้า หน้า ผม มากยิ่งขึ้นกว่าสมัยก่อน โดยจะเห็นได้ว่าอย่างน้อยทุกวันนี้ไลฟ์สไตล์ของเราจะหันมาให้ดูแลตัวเองไม่ว่าจะเป็นสุขภาพที่หันมาออกกำลังกาย หรือการจัดแต่งทรงผม พร้อมเสื้อผ้าที่ดูเนี้ยบอย่างสุด ๆ และผู้ชายสาย Metrosexual ที่แล่นเข้ามาในความคิดเป็นลำดับต้น ๆ ที่เราจะนึกถึง คงจะหนีไม่พ้น Adam Levine นักร้องนำวง Maroon 5 Adam Levin โด่งดังในฐานะนักร้องผู้มากความสามารถการันตีผลงานความสำเร็จมากว่าสิบปี แต่อีกหนึ่งสิ่งที่ช่วยเป็นจุดเสริมส่งให้เขากลายเป็นซุปเปอร์สตาร์ระดับโลก ก็คือ สไตล์การแต่งตัว พร้อมรอยสักเท่ ๆ ทำให้ Adam Levine มีความเป็นแบดบอย ดังนั้นวันนี้ทีมงานจึงขอนำสไตล์การแต่งตัว Metrosexual แบบฉบับ Adam Levine มาฝากชาว UNLOCKMEN กัน Colourful Rock Star Adam Levine เป็นนักร้องร็อคที่ไม่ได้เดินตามความจำเจที่ต้องใส่เพียงเสื้อผ้าสีโทนดำ ขาว สไตล์นักดนตรีทั่วไป