แม้ว่าจะเป็นรองเท้าระดับตำนานที่ทำให้ใครหลาย ๆ คนหันมาบ้าคลั่งรองเท้าสนีกเกอร์กันอย่างจริงจัง แต่สินค้าทุกตัวย่อมมีวันที่ความนิยมลดลงเป็นเรื่องธรรมดา ไม่เว้นกระทั่งแบรนด์ที่ทรงอิทธิพลอย่าง Air Jordan โดยล่าสุดจากรายงานของ Business Insider ได้เขียนถึงวิกฤตของแบรนด์ที่ว่ายอดขายตกลงอย่างน่าใจหาย ซึ่งประกอบกับการที่ Foot Locker ได้ส่งสัญญาณว่ารู้สึกเป็นกังวลเกี่ยวความเสี่ยงที่แม้แต่แบรนด์ Jordan เองก็คงไม่เคยคาดคิดมาก่อน เพราะจากรายงานของซีอีโอ Dick Johnson ได้กล่าวว่า “ยอดขายของ Jordan ได้ลดลงและต่ำสุดเป็นประวัติการณ์แม้กระทั่งในอเมริกาซึ่งทำยอดขายได้ดีมาโดยตลอด” ทำให้เป็นเรื่องที่แบรนด์อย่าง Air Jordan ต้องมาคิดวิธีการแก้ปัญหาให้ตรงจุดนี้ เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่า Air Jordan ถือเป็นแบรนด์คลาสสิคตลอดกาลที่ไม่ว่าจะรีโทร หรือรีสต๊อกสินค้ามาเมื่อไหร่ก็ไม่เคยเพียงพอต่อความต้องการของตลาดตลอดว่ากว่า 20 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้พวกเขาถือไพ่เหนือกว่าทั้งผู้บริโภค และคู่แข่งเลยสามารถจะกำหนดกฎเกณฑ์ว่าจะทำการเลือกขายรุ่นใดเมื่อใดก็ได้ตามความต้องการของพวกเขา แต่มันไม่ใช่อีกต่อเพราะในปัจจุบันแม้แต่พฤติกรรมของผู้เสพรองเท้าก็มีการเปลี่ยนแปลง ผู้บริโภคในตลาดส่วนใหญ่หันมาสวมรองเท้าแบบ Low-Top มากขึ้น เนื่องจากสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตจริงมากกว่ารองเท้าบาสอย่าง Air Jordan ที่สวมใส่แม้กระทั่งกางเกงจ๊อกเกอร์ หรือสกินนี่ยังลำบาก บวกกับกระแสความนิยมที่เริ่มเอนเอียงไปทางแบรนด์คู่แข่งอย่าง adidas มากขึ้น จึงไม่น่าแปลกใจที่ยอดขายรุ่นต่าง ๆ จะไม่ดีเหมือนที่เคยป็นมา อย่างไรก็ตาม Nike เองซึ่งเป็นแบรนด์แม่ของ
SHIRT, FORMAL SHIRT, DRESS SHIRT, BUTTON SHIRT, BUTTON-FRONT SHIRT ไม่ว่าจะเรียกมันว่าอะไร สำหรับผู้ชายอย่างพวกเรา มันก็คือเสื้อเชิ้ตที่คุ้นเคยกันดีอยู่แล้วนั่นเอง แต่ที่หลายคนมักมองข้ามไป คือรายละเอียด จุดสำคัญในการเลือกใส่เสื้อเชิ้ตที่ความฟิตเหมาะกับรูปร่าง ซึ่งทำให้ดูดีขึ้นได้มาก มั่นใจได้ทุกสถานการณ์ เพราะรายละเอียดเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าเสื้อเชิ้ตนั้นจะราคาถูกหรือแพง ก็ใช้หลักการเลือกเหมือนกัน มันจึงเป็นสิ่งสำคัญที่เราควรหันมาใส่ใจให้มากขึ้น เพราะการได้เสื้อเชิ้ตขนาดพอดี นอกจากช่วยเสริมบุคลิกให้ดูดี มีสง่าราศี ยังช่วยเสริมภาพลักษณ์และจิตวิทยาได้มากขึ้นด้วย การใส่เสื้อเชิ้ตที่พอดีตัว เปรียบเสมือนการแสดงออกถึงความพร้อม ความรู้ วุฒิภาวะ รวมถึงความมั่นใจได้ โดยไม่ต้องพูดจาสื่อสารแม้แต่คำเดียว ได้คะแนน First Impression ไปเต็มสิบตั้งแต่เริ่ม เสื้อที่ฟิตพอดีเหมือนมี Layer เท่ ๆ ที่สามารถทำให้รูปร่างดูดี รวมถึงช่วยพรางหุ่นให้สมบูรณ์แบบขึ้นได้ ถึงตรงนี้น่าจะเห็นความสำคัญของการเลือกเสื้อเชิ้ตมากขึ้นแล้วหรือยัง? ไม่ต้องห่วงว่ามันจะยุ่งยาก เพราะเสื้อเชิ้ตที่ Best Fits พอดีตัว ไม่จำเป็นต้องสั่งตัดเสมอไป ปัจจุบันเสื้อเชิ้ต Ready-to-Wear Shirt ก็เป็นอีกทางเลือกที่ดี และมีข้อดีหลายอย่าง เช่น ประหยัดเวลา
ผู้ชายหลายคนอาจจะให้ความสำคัญกับผลฟุตบอลมากกว่าประเภท UNDERWEAR จากการพูดคุยทำให้รู้ว่ามีผู้ชายน้อยคนนักที่จะใส่ใจในเรื่องรูปทรง และฟังก์ชั่นของกางเกงชั้นใน ขาดความใส่ใจพิถีพิถัน เพราะคิดว่าคงไม่มีใครเห็นอยู่แล้วนอกจากตัวเราเอง มีอะไรก็ใส่ ๆ ไป แต่ที่จริงแล้ว UNDERWEAR มีผลกับความมั่นใจของผู้สวมใส่โดยไม่รู้ตัว ลองนึกถึงวันที่คุณใส่กางเกงในตัวเก่าเก็บ สีตก ขอบยืด ขาย้วย จะก้มจะเงยมันก็เลยเกร็งไปหมด แถมกางเกงในที่เนื้อผ้าหนา ยังเสี่ยงกับเรื่องกลิ่นอับชื้นจากเหงื่อเมื่อเจออากาศร้อน หรือหลังเตะบอล เล่นฟิตเนส ภายในกางเกงก็จะเหนียวเหนอะหนะ ส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์ชวนปวดหัว เป็นจุดเริ่มต้นของอาการคันในร่มผ้า หล่อแค่ไหนก็ต้องสูญเสียความมั่นใจไปหมดสิ้น ไม่ใช่แค่นั้น MEN UNDERWEAR ยังมีผลต่อความรู้สึกของผู้หญิงด้วยเช่นกัน เพราะนอกจากจะทำหน้าที่ห่อหุ้มน้องชาย กางเกงชั้นในยังช่วยเติมเต็มคาแรคเตอร์ของผู้สวมใส่ให้ออกมาชัดเจนมากยิ่งขึ้น ปัจจุบันนอกจากการพิจารณาที่สีสัน ลวดลาย หรือรูปทรงตามสไตล์การแต่งตัวแต่ละโอกาสแล้ว เรายังควรเลือกกางเกงชั้นในที่มีเทคโนโลยี AIRism ช่วยระบายอากาศ ช่วยให้เย็นสบายทุกการเคลื่อนไหว ไร้ความอับชื้น พร้อมลุยทุกไลฟ์สไตล์ได้ตั้งแต่เช้ายันเย็น อุ่นใจท่ามกลางอากาศร้อนอบอ้าว ไปดูกันว่า MEN UNDERWEAR แบบไหนเหมาะกับใคร และผู้หญิงจะรู้สึกอย่างไรกับแต่ละแบบกันบ้าง LOW RISE BOXER BRIEF LOW RISE BOXER BRIEF เป็น
ตอนนี้ Virgil Abloh คือชื่อที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดบนโลกออนไลน์มากที่สุดชื่อหนึ่ง หลังจากออกคอลเลคชั่น “the ten” กับทาง Nike พร้อมกระแส OFF-WHITE ฟีเว่อร์ไปทั่วโลก และกลายเป็นแบรนด์เสื้อผ้ากราฟิกฮิตอันดับต้น ๆ ในปัจจุบัน สำหรับคนที่ไม่ได้คลุกคลีกับเรื่องราวของแฟชั่นอาจจะ งง ว่าเขาเป็นใครมาจากไหน ทำอะไรมาถึงดัง แต่ว่าสตรีทคัลเจอร์ที่เราเห็นกันอยู่ในปัจจุบัน ที่ไปเดินสยามแล้วเห็นวัยรุ่นแต่งตัวในสตรีทสไตล์ราคาแพงระยับล้วนมีเขาเป็นหนึ่งในเบื้องหลังผู้ปลุกกระแสสตรีทแฟชั่นกับไฮเอนด์แฟชั่นเข้าด้วยกัน เพราะจากจุดเริ่มต้นเมื่อหลายปีก่อนที่ Virgil Abloh ได้ไปเหมาเสื้อ Polo Ralph Laurent แล้วมาสกรีนทับด้วยกราฟิกโลโก้จากไอเดียของตัวเอง จากนั้นกลับไปขายต่อในราคาแพงขึ้นเกือบเท่าตัว แถมยังประสบความสำเร็จอย่างมาก ซึ่งเขาก็น่าจะเป็นโรลโมเดลให้กับ Supreme x Louis Vuitton หรืออีกหลาย ๆ แบรนด์ที่กำลังทำกันอยู่ในปัจจุบันในการร่วมร่างแบรนด์สตรีทและไฮเอนด์เข้าด้วยกัน ประวัติของ Virgil Abloh ถือว่าน่าสนใจทีเดียวเพราะเขาเรียนจบปริญญาตรีสาขา Civil Engineering และปริญญาโทสาขา Architecture นั่นดูเหมือนเส้นทางของเขาไม่น่าจะมีโอกาสมาบรรจบในเรื่องของแฟชั่นได้เลย แต่ทว่าด้วยความหลงใหลในเรื่องของดีไซน์ ทำให้เขาได้เดินเข้าสู่วงการสายแฟชั่นทั้งที่ไม่ได้มีสกิลด้านการออกแบบเสื้อผ้าติดตัวไปเลย หนทางสู่การเข้าวงการแฟชั่นของ Virgil Abloh จึงเหมือนมีโชคเล็ก ๆ
เปิดตัว Hamilton Intra-Matic 68 รุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่น ถือได้ว่าเป็นรุ่นหนึ่งที่เหมาะจะเป็นเรือนคู่ใจของหนุ่ม UNLOCKMEN ที่มีบุคลิกเจนจัด และหลงไหลเสน่ห์ของเรือนเวลาวินเทจ ที่แบรนด์นาฬิกาผู้ชายสุดเรียบหรูยี่ห้อดัง สัญชาติอเมริกาอย่าง Hamilton ได้หยิบมาปัดฝุ่นเรือนเด่นแห่งประวัติศาสตร์อย่าง Chronograph B จากปี 1968 หนึ่งในรุ่นยอดนิยมของนักสะสม สู่เรือนเวลารุ่นลิมิเต็ดของปีนี้ กับหน้าปัดสไตล์ “รีเวิร์สแพนด้า” พื้นดำและวงขาว เพื่อสืบสานรุ่นในตำนานสู่เรือนเวลาโครโนกราฟสไตล์วินเทจ อันเปี่ยมไปด้วยเกียรติประวัติแห่งการทำนาฬิกาของ Hamilton ผลิตขึ้นในจำนวนจำกัด 1,968 เรือนทั่วโลก มาในกล่องรูปแบบพิเศษดีไซน์หรูหรา อันจะเติมเต็มความรู้สึกของตำนานแห่งกาลเวลาได้อย่างสมบูรณ์แบบ Hamilton ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1892 ที่เมืองแลงคาสเตอร์ รัฐเพนซิลวาเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา นาฬิกา Hamilton ถ่ายทอดจิตวิญญาณแห่งความเป็นอเมริกัน ประกอบกับความเที่ยงตรงตามแบบฉบับเทคโนโลยีแห่งเรือนเวลาของสวิตเซอร์แลนด์ ด้วยดีไซน์ที่ล้ำสมัยของ Hamilton ทำให้นาฬิการุ่นต่างๆ ได้ไปปรากฏอยู่ในภาพยนตร์มากว่า 450 เรื่องแล้ว นอกจากชื่อเสียงในแวดวงฮอลลีวู๊ดแล้ว Hamilton ยังมีเกียรติประวัติในโลกแห่งการบินอีกด้วย แบรนด์ Hamilton เป็นบริษัทในเครือ Swatch Group
เชื่อหรือไม่ว่าผู้ชายเป็นเพศที่ชื่นชอบการแหกกฎทุกสิ่งทุกอย่างที่มีอยู่บนโลกใบนี้ แต่ในขณะเดียวกันมีอยู่อย่างหนึ่งที่ผู้ชายจะกลัว และมักจะไม่กล้าแหกกฎเลยคือเรื่องการแต่งตัว โดยเฉพาะชายไทยที่จะเน้นปลอดภัยไม่กล้าหลุดจากกรอบ ซึ่งอันที่จริงแล้วขอแค่เรามีเทสท์ในการเลือกสี และฟิตติ้งที่ถูกต้อง จะแต่งอะไรก็ดูดีเหมือนกันหมด ดังนั้นวันนี้เราอยากจะมาแชร์การแต่งตัวที่อยากให้ชาว UNLOCKMEN ลองแหกกฎมันดูสักครั้ง แล้วอาจจะพบทางใหม่ที่แตกต่าง ลองใส่สูทกับรองเท้าทรงที่แตกต่าง เราถูกสอนมาเสมอว่าเวลาใส่สูทต้องใส่รองเท้าคัทชูแบบ Oxford หรือ Brogue เท่านั้น แต่ทำไมเราจะต้องทำอะไรที่มันซ้ำซากด้วย ในเมื่อปัจจุบันก็สามารถมีลุคสมาร์ท ดูเจ๋งได้ด้วยการใส่บู้ทอย่าง Chelsea หรือแม้กระทั่งสนีกเกอร์สีพื้นเรียบ เพราะมันก็ดูดี แถมไม่ได้ดูไม่สุภาพอีกด้วย ลองใส่อย่างนี้มาทำงานไม่ต้องกลัวเจ้านายจะว่าอย่างแน่นอน ลองเบลเซอร์ทับเสื้อยืด กับกางเกงยีนส์ เวลาที่เราหยิบเบลเซอร์มาใส่ทีไร เรามักคิดว่ามันคือชุดสูทที่ต้องมาพร้อมกับเสื้อเชิ้ต หรืออะไรทำนองนั้น แต่เชื่อหรือไม่ว่า เราก็สามารถเอาเสื้อยืดมาใส่กับ เสื้อเบลเซอร์ได้ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อกราฟิกที่ไม่ได้สีสันฉูดฉาดเกินไป จนบางทีเราไม่จำเป็นต้องใส่เสื้อกันหนาวที่ดูไม่เป็นทางการเท่ากับเบลเซอร์เลยก็ได้ แถมอัพเกรดลุคที่โคตรจะเท่ไปในตัว ลองใส่ถุงเท้ายาวพร้อมกับพับขากางเกงบ้าง เราเชื่อว่าหลายคนคงไม่ได้ใส่ถุงเท้ายาวมาตั้งแต่เรียนจบมัธยม แต่ในปัจจุบัน เทรนด์การใส่ถุงเท้าเริ่มจะกลับมา พร้อมการแต่งตัวแบบรีแล๊กซ์ ที่ใส่กางเกง Baggy หลวม ๆ พับขาเล็กน้อย จากนั้นเราก็สามารถใส่ถุงเท้ายาวกับรองเท้าผ้าใบคู่เก่ง แต่อาจจะต้องเลือกให้สีของกางเกง ถุงเท้า รองเท้า ตัดกันเสียหน่อย อย่างเช่นหากใส่กางเกงดำ ถุงเท้าสีเหลือง รองเท้าก็ควรจะเป็นโทนมืดด้วยเช่นกัน ลองใส่เสื้อผ้าหลากสี
ประเทศจีนถือเป็นแดนมหัศจรรย์ที่มีเรื่องราวแปลก ๆ เนื่องจากพวกเขาอาจจะมีประชากรมาก เมื่อมากคนก็ต้องมากความเป็นเรื่องธรรมดา เพราะเราคงจะเคยได้ยินข่าวมามากมายเกี่ยวกับประเทศนี้จนไม่จำเป็นต้องสรรหาคำพูดใด ๆ มาจำกัดความ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของปลอมที่ขึ้นชื่อลือชาถึงขนาดมีมหานครแห่งของก๊อปปี้อย่าง เสินเจิ้น แต่ไม่ใช่เฉพาะในเสินเจิ้นเท่านั้น เพราะบรรดาของปลอมต่างขายกันอย่างเปิดเผยเต็มไปเกือบทุกซอกทุกมุมในประเทศนี้ ซึ่งล่าสุดหากใครตาไม่ดี ไม่รู้เรื่องอาจจะพลาดพลั้งได้ เมื่อมีข่าวออกมาจากประเทศจีนว่า ที่เมืองเหวินโจวมีช็อป YEEZY เปิดขายเป็นแห่งแรกของโลก ที่แม้แต่ Kanye West และ adidas ก็คงไม่เคยรู้มาก่อน จากกระแสความนิยมของ adidas YEEZY ที่แพร่ไปทั่วโลก บวกกับสินค้าที่มีไม่พอต่อความต้องการ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ถูกผลิตออกมาขาย แต่จากข่าวข้างต้นถือเป็นเรื่องอุกอาจที่มีชาวจีนไม่ทราบนามรวมเอาของปลอมภายใต้ trademark ของ Kanye West มารวมกันตั้งช็อปขายเป็นเรื่องเป็นราว และขายกันอย่างโจ๋งครึ่ม ภายในร้านก็เต็มไปด้วยรองเท้า adidas Yeezy ทั้งโมเดลที่เคยวางจำหน่ายมาแล้ว รวมถึงโมเดลแปลก ๆ ที่เราเชื่อว่าแม้แต่ Kanye West เองก็ยังไม่เคยออกแบบมาก่อน แต่พี่จีนเขามีออกมาแล้ว ดังนั้นใครที่เดินทางไปจีนก็ต้องระวังให้ดีอย่าหลงเชื่อว่ามีช็อป YEEZY ราคาถูกมาเปิดแล้ว แถมที่ขำกว่าจากภาพข่าวที่เรานำมาหากสังเกตจะเห็นได้ว่าร้านข้าง ๆ ก็เป็นการก๊อปปี้ New Balance
หากพูดถึงความเป็น Japanese ทุกคนก็จะคิดถึงความปราณีต ประดิษฐ์ประดอย และดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ ที่ได้รับการการันตีเหมือนเครื่องหมายตีตราว่า หากพูดถึง made in japan เราจะคิดถึงของคุณภาพสูง สมราคา จึงไม่น่าแปลกใจที่ส่งผลให้แฟชั่นของพวกเขาจะเจริญก้าวหน้า ได้รับการยอมรับจากคนทั่วทุกมุมโลก และเมื่อไม่นานมานี้ก็เริ่มมีการพูดถึงเกี่ยวกับ “Japonism” หรือคตินิยมศิลปะญี่ปุ่น ซึ่งถ้าคนไม่ได้สนใจ หรือเสพสื่อญี่ปุ่นแบบคลั่งไคล้อาจจะคิดว่าเป็นศัพท์ใหม่ แต่จริง ๆ แล้วคำนี้ มีการถูกบัญญัติมานมนานแล้วตั้งแต่ปี 1872 ที่ซึ่งนักสะสมศิลปะชาวฝรั่งเศสชื่อ Phillippe Burty ได้จำกัดความ Japonism หมายถึงศิลปะวัฒนธรรมของญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นงานปั้น สถาปัตยกรรม หรือ Fine art ที่ถูกถ่ายทอดผสมผสานผ่านวัฒนธรรมดั้งเดิม และความทันสมัยของญี่ปุ่นยุคใหม่ที่ได้ผนวกความเป็นตะวันตกลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งบ่อยครั้งที่ Japonism มักถูกนำมาใช้เล่นกับแฟชั่นของผู้หญิงเป็นหลัก แต่ก็มีบ้างที่มีการนำแนวคิดนี้มาผสานกับเสื้อผ้าของผู้ชายจนเกิดความโมเดิร์นที่เท่แปลกตา และเต็มไปด้วยลูกเล่นต่าง ๆ มากมาย ตัวอย่างเช่น Jaspal Man ที่มีการนำแรงบันดาลใจจาก Japonism ร่วมสมัย มาเป็นไอเดียในการออกแบบเสื้อผ้าฤดูกาลใหม่ ที่เราได้หยิบยกมาพูดในวันนี้ ซึ่งหนุ่ม ๆ UNLOCKMEN สามารถนำไปใช้ได้ไปกับชีวิตประจำวัน
ผู้ชายอย่างเราคงจะไม่มีใครสนใจเปลี่ยนกระเป๋าสตางค์กันบ่อย ๆ อยู่แล้ว ถ้าเกิดไม่ทำหาย หรือขาดหลุดลุ่ยเซอร์จนสภาพรับไม่ได้ คงไม่ค่อยมีใครเปลี่ยนกันแต่อย่างใด ต่างจากผู้หญิงที่เน้นความสวยงามเข้าว่า ต้องมีกระเป๋าสตางค์หลากหลายแบบเพื่อเข้ากับการแต่งตัวที่แตกต่างตามโอากาส รวมถึงสาว ๆ บางคนที่สนใจเรื่องดวงว่ากระเป๋าใบนี้ใช้แล้วเงินจะไหลมาเทมา หรือเงินรั่วไหลทำให้ต้องมีการเปลี่ยนกระเป๋าสตางค์บ่อยเป็นว่าเล่น แต่ก็ใช่ว่าผู้ชายอย่างทั้งหลายจะใช้กระเป๋าสตางค์อะไรก็ได้ ขอให้ยัดแบงค์ ยัดบัตรได้ก็พอ เราขอแนะนำว่าเมื่อถึงคราวต้องเปลี่ยนจริง ๆ กระเป๋าสตางค์ก็เป็นอีกหนึ่งไอเทมที่หนุ่ม ๆ จะละเลยไม่ได้ เพราะมันเป็นสิ่งที่เราต้องใช้เป็นประจำวัน หากอยากจะใช้ไปนาน ๆ ก็ควรเลือกใบที่มีวัสดุตัดเย็บดีเสียหน่อย ก่อนอื่น ขั้นตอนแรกเราต้องมาทำความรู้จักว่ากระเป๋าสตางค์สำหรับผู้ชายนั้นมีกี่ประเภท และมีรูปร่างหน้าตาเช่นไรกันบ้าง เริ่มจากแบบแรกที่เรียกว่า Bifold หรือกระเป๋าสตางค์แบบสองพับซึ่งเป็นที่นิยมมากที่สุดในหมู่ผู้ชาย และวัสดุที่นิยมใช้กันมากก็จะเป็นประเภทหนังแท้ กระเป๋าสตางค์ทรงนี้ถูกผลิตขึ้นครั้งแรกในช่วงปี 50s หลังจากที่มีบัตรเครดิตการ์ด จึงเกิดเป็นช่องใส่บัตรค่อนหลากหลาย อีกทั้งจุดเด่นคือเวลาใส่เงินจะสามารถกางออกได้ทั้งแผ่น กระเป๋าทรงนี้จึงเหมาะกับผู้ชายที่ชอบเหน็บกระเป๋าสตางค์ไว้ที่กระเป๋าหลังกางเกงเป็นหลัก แบบที่สองเรียกว่า Trifold กระเป๋านี้เป็นที่นิยมสำหรับเด็ก ๆ วัยรุ่นมากกว่าผู้ใหญ่ หากใครยังคิดภาพไม่ออก ให้นึกถึงกระเป๋าสตางค์ 3 พับแบบสมัยก่อนที่รูปร่างหน้าตาจะคล้ายกระเป๋าแบบ Bifold เลย แต่ต้องพับ 3 ทบ และด้วยจำนวนพับที่มากขึ้นทำให้เก็บของได้มากขึ้น แต่ก็แลกมาด้วยขนาดที่ดูเทอะทะขึ้น Checkbook Wallet เป็นกระเป๋าที่เหมาะสำหรับนักธุรกิจที่ไม่ค่อยพกเงินสด แล้วก็ต้องเดินทางบ่อย
เรื่องของสไตล์การแต่งตัวเป็นสิ่งที่ห้ามอะไรกันไม่ได้อยู่แล้ว ซึ่งแต่ละคนก็จะมีความหลากหลาย และชัดเจนอยู่ภายในตัวเอง บางคนชอบสตรีท บางคนเรียบง่าย ๆ มินิมอล ก็สุดแล้วแต่ไลฟ์สไตล์ความปรารถนาส่วนตัว และจากที่เราสังเกตเทรนด์การแต่งตัวของผู้ชายไทย ส่วนใหญ่จะค่อนข้างชื่นชอบอะไรที่เรียบง่าย ๆ สบาย ๆ ชิว ๆ อยู่ซะมาก ดังนั้นวันนี้ทีมงาน UNLOCKMEN ขอจะมาแนะนำรองเท้าสายมินิมอลที่ผู้ชายสายชิวควรมีติดไว้อย่างน้อยหนึ่งคู่ Common Project Original achilles low ขอเปิดหัวด้วยแบรนด์หรูเรียบอย่าง Common Project แบรนด์ที่ไม่จำต้องเป็นมีลวดลายอะไรให้มันยุ่งยาก เพียงตัวเลขที่บริเวณส้นเท้าก็สามารถทำให้มันได้รับความนิยมจนกลายเป็นแบรนด์มินิมอลระดับต้น ๆ ของโลก โดยเฉพาะรองเท้ารุ่น achilles low ที่เรียกใช้วัสดุคุณภาพสูง แม้ว่าจะเลอะง่ายไปเสียหน่อย แต่ก็สามารถทำความสะอาดได้ง่ายเช่นกันเพราะทำจากวัสดุหนังแท้ ราคาก็จัดอยู่ในขั้นแพงนิดหนึ่ง แต่ถือว่าเป็นการลงทุนครั้งเดียวอยู่ Converse Jack Purcell หากพูดถึงต้นตำรับความมินิมอลคงจะหนีไม่พ้นรองเท้า Jack Purcell ที่ออกแบบมาเพื่อนักเทนนิสในชื่อเดียวกันเมื่อครั้งอดีต ซึ่งระดับความคลาสสิคของมันก็จัดอยู่ในขั้นตำนาน เพราะรองเท้าคู่นี้เก๋าขึ้นหิ้งขนาดฮิปเตอร์ตัวพ่ออย่าง James Dean ยังสวมใส่เลย อีกทั้งในปัจจุบันทาง Converse ก็มีการปรับปรุงใส่เทคโนโลยีใหม่ ๆเข้าไปให้สวมใส่สบายมากยิ่งขึ้น