หลังจากเคยมีการจัดสำรวจคนดังที่แต่งตัวดีในรอบหลาย ๆ ปีที่ผ่าน ชื่อของ Harry Style อดีตสมาชิกวงบอยแบนด์ชื่อก้องโลกอย่าง One Direction มักจะติดเข้ามาในโผด้วยเสมอ จากเด็กน้อยผู้ผ่านการประกวดร้องเพลงรายการ X-factor ที่ค่อย ๆ พัฒนาสไตล์การแต่งตัวจนกลายเป็นหนึ่งในบุคคลที่ทรงอิทธิพลในเรื่องแฟชั่นมากที่สุดในโลกคนหนึ่ง นอกจากเรื่องของหน้าตาที่เป็นส่วนสำคัญให้ Harry Style โดดเด่นเหนือเพื่อนร่วมวงคนอื่น ๆ การแต่งตัวของเขาก็ถูกดีไซน์ออกมาได้รับเข้ากับทรงผม และไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ เสียเหลือเกิน ดังนั้นวันนี้ทีมงานจะนำสไตล์การแต่งตัวของ Harry Style ซึ่งเรามองว่าเหมาะหนุ่มไทย มาฝากกัน Prince of Print หลังจากที่เริ่มแตกเนื้อหนุ่ม และสร้างภาพลักษณ์ที่ดูแบดบอยมากขึ้น Harry Style ก็มักจะเลือกเสื้อเชิ้ต ที่มีลวดลายฉูดฉาด ไม่ว่าจะเป็น ลายดอก ฮาวาย และอีกมากมาย จับคู่กับกางเกงทรงสกินนี่ที่เป็นชุดประจำของเขา ไม่ว่าจะออกไปเล่นคอนเสิร์ต หรืองานต่าง ๆ แน่นอนว่าการจับคู่โทนสีก็ทำได้อย่างน่าสนใจเสมอ ดังนั้นลองดูวิธีการมิกซ์แอนด์แมทช์ของ Harry เป็นแบบอย่าง และนำไปปรับใช้กัน เพราะแค่โทนสีเข้ากันได้ดี ก็สามารถดูโดดเด่นได้ไม่ยากเลย หลักการง่าย ๆ ที่ใช้ได้ทุกครั้งคือการเลือกสีที่มีความ
หากพูดถึงร้านขายสินค้าแฟชั่นที่เรียกว่า retailer store ที่อยู่ยง และเป็นที่คุ้นเคยกันดีสำหรับผู้ที่ชื่นชอบแฟชั่นสตรีทในบ้านเรา คงจะไม่มีใครไม่รู้จัก Vii Athletic Club หรือ VAC ร้านตัวแทนจำหน่ายสินค้าทั้งเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย รวมถึงรองเท้าชั้นนำของประเทศไทย ซึ่งล่าสุดพวกเขาได้มีการปรับโฉมร้านใหม่เพื่อตอบรับกับกระแสสตรีทแฟชั่นที่กำลังหลั่งไหลเข้ามาในบ้านเราอย่างไม่ลดละ ทีมงาน UNLOCKMEN มีโอกาสเดินทางไปเยี่ยมเยียนร้านในรูปโฉมใหม่ พร้อมพูดคุยกับ คุณ บ๊อบ วรากฤช วิวัฒนาเกษม เจ้าของร้าน และผู้ก่อตั้ง VAC สำหรับคนที่อาจจะรู้จัก หรือยังไม่รู้จัก VAC พร้อมขอคำชี้แนะ และมุมมองสังคมไทยในเรื่องสไตล์การแต่งตัว เห็นว่ามีการเปลี่ยนแปลงร้านใหม่ เหตุผลเพราะอะไรทั้งที่แบบเดิมก็ดีอยู่แล้ว? ในส่วนของสินค้าที่ขายก็ยังคงเหมือนเดิม เป็นสินค้าแฟชั่นเป็นหลัก แต่เราจะทำร้านให้มีความเป็นไลฟ์สไตล์มากขึ้น จะทำให้ VAC เป็นร้านแบบครบวงจร อย่างเช่น เราเป็นคนชอบอาร์ต ดีไซน์ ก็จะมีเพิ่มเติมเข้ามา ดังนั้นในอนาคต เราคิดว่าจะดึงแบรนด์ที่มีดีไซน์ซึ่งจะเป็นอะไรก็เช่น แก้ว หมอน เข้ามาขายมากขึ้น อย่างนั้นคุณ บ๊อบ จะมีวิธีนำสินค้าเข้ามาขายยังไง? คือหลัก ๆ เราก็จะดู
เคยสังเกตไหมทำไมบางครั้ง รองเท้าที่บรรดาคนดังทั้งหลายสวมใส่ช่างดูแปลกตา และไม่สามารถสรรหาได้ตามชั้นรองเท้าร้านค้าทั่วไป และยิ่งไปตามหาทั่วในอีเบย์ หรือบอร์ดซื้อขายของก็ยิ่งหาไม่พบเข้าไปอีก เหตุผลก็เพราะบางครั้งแบรนด์รองเท้าเหล่านี้ได้เปิดโอกาสให้ ดารา นักร้อง หรือแม้แต่ดีไซน์เนอร์ออกแบบรองเท้าต้นแบบ ซึ่งมีทั้งแบบ Sample เหมือนที่ Kanye West สวมใส่ adidas Yeezy 350 ก่อนวันขายจริงร่วมครึ่งปี หรือจะเป็นแบบ Friend&Family ที่ทำขึ้นพิเศษเพื่อแจกจ่ายเฉพาะบรรดาเพื่อนฝูงเท่านั้น ทำให้สัปดาห์นี้ UNLOCKMEN จะนำเสนอรองเท้าเจ๋ง ๆ ที่มีการดีไซน์ต้นแบบออกมาแต่ไม่ได้ขายจริง หรือไม่แน่ว่าอาจจะวางขายแบบเซอร์ไพร์สในเร็ววันนี้ Nike & Tom Sachs เมื่อราว ๆ ปี 2012 Nike ได้เลือกดีไซน์เนอร์ที่ไม่ได้มีผลงาน เป็นที่รู้จักในวงกว้างชื่อว่า Tom Sachs มาออกแบบรองเท้ารุ่นพิเศษชื่อว่า the Mars Yard ซึ่งรองเท้าคู่นี้มีผลิตออกมาจำนวนน้อยมาก ๆ ในทางกลับกันกับเป็นที่พูดถึง ทำให้ the Mars Yard 1.0 มีการประมูลกันสูงระดับ 100,000
เรื่องง่ายๆเกี่ยวกับแว่นตากันแดดที่เรามักมองข้าม
บทบาทหนุ่มตุ้ยนุ้ย และเพื่อนผู้แสนดีแห่งวงการฮอลลีวู้ด หลายคนคงจะนึกถึง Jonah Hill เพราะไม่ว่าเขาจะแสดงภาพยนตร์เรื่องใดก็มักจะได้รับบทเพื่อน คู่หู สม่ำเสมอ ซึ่งเรื่องฝีมือการแสดงคงไม่ต้องพูดถึง เมื่อเขาได้พิสูจน์ตัวเองผ่านผลงานมากมายทั้งบท ตลก ดราม่า แต่อีกสิ่งหนึ่งที่ Jonah Hill ทำออกมาได้เป็นอย่างดี และไม่ค่อยมีใครพูดถึง คือเรื่องสไตล์การแต่งตัวที่เขาสามารถแสดงออกได้ดีไม่แพ้กับการแสดง พัฒนาการของหนุ่มอวบที่รู้สึกจะชื่นชอบแบรนด์ Palace เป็นชีวิตจิตใจ ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่เขา bulk น้ำหนักตัวให้อ้วนมาก จนถึงช่วงที่ผอม เขาก็สามารถแต่งตัวออกมาได้มีความพอดี Jonah Hill อาจไม่ได้มีสไตล์ชนิดแหวก หรือเป็นไอคอนล้ำ ๆ แบบ Kanye West , Russell Westbrook , A$ap Rocky แต่เขามีสไตล์ที่ลงตัวแบบมนุษย์ธรรมดาเดินดินใส่กันทั่วไป ดังนั้นพวกเราจึงอยากจะนำเสนอสไตล์ของ Jonah Hill เพื่อเป็นแรงบันดาลใจสำหรับการแต่งตัวให้กับทุกคน Palace Spokeperson Jonah Hill เรียกได้ว่าเป็นแฟนตัวยงของแบรนด์ Palace ซึ่งกำลังได้รับความนิยมในวงการสตรีทแฟชั่นพอสมควร ซึ่งจะว่าไปแล้วเมื่อเราเจอเสื้อผ้าแบรนด์ที่รู้สึกชื่นชอบ ถูกใจ ก็ไม่ผิดแปลกที่เราจะสร้างแบรนด์รอยัลตี้
มีสไตล์แบบไม่ต้องเสียตัง มา DIY กางเกงยีนส์แบบ Cool Cool Style Unlockmen
“รอยสัก” ศิลปะบนเรื่องร่างมนุษย์ที่คนจำนวนไม่น้อยต่างหลงใหล แต่อะไรที่อยู่เบื้องหลังคนทำงานศิลปะอย่าง “ช่างสัก” แรงบันดาลใจใดที่ขับเคลื่อนให้พวกเขามาอยู่ตรงนี้ ความกดดันกับการสรรค์สร้างศิลปะที่จะอยู่บนเรือนร่างผู้คนไปชั่วชีวิตทำให้ความคิดของพวกเขาหมุนวนไปทางใด วันนี้ UNLOCKMEN ชวน บอลและดุ่ย ช่างสักจาก St.Martin Tattoo Studio มาพูดคุยกันยาว ๆ เพื่อให้ได้บรรยากาศและการพูดคุยเจาะลึกเป็นกันเอง UNLOCKMEN บุกเข้าไปถึงตรอกข้าวสาร สถานที่ที่ St.Martin Tattoo Studio ตั้งอยู่ท่ามกลางร้านสักอีกหลายร้านและร้านรวงอื่น ๆ บรรยากาศแห่งความหลากหลายและสีสันของตรอกข้าวสารยิ่งกระตุ้นเร้าให้การสัก น้ำหมึก ศิลปะบนเรือนร่างดูมีเสน่ห์เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว เมื่อเดินทางไปถึง St.Martin Tattoo Studio เราจึงไม่รอให้ความสงสัยคุกรุ่นในตัวเราอยู่นาน เราเริ่มยิงคำถามกับช่างสักมากฝีมือ 2 คนนี้อย่างรวดเร็ว UNLOCKMEN: แนะนำตัวกับชาว UNLOCKMEN หน่อย บอล: ผมชื่อเล่นชื่อบอลครับ แล้วก็ทำงาน tattoo ทำงานสักได้ทั้ง bamboo และ machine ทั้งสองอย่างอยู่ที่ St.Martin Tattoo Studio ข้าวสารครับ ดุ่ย: ชื่อดุุ่ยนะครับ ทำงานเป็นช่างสักอยู่ที่ St.Martin Tattoo Studio
บางครั้งการใส่กางเกงยีนส์ หรือสแล็ค ก็อาจจะทำให้หนุ่ม ๆ รู้สึกเบื่อหน่ายซ้ำซากจำเจมากจนเกินไป จึงไม่น่าแปลกใจหากพวกเราจะชอบลองอะไรแปลกใหม่ โดยการเลือกกางเกงประเภทอื่น อาทิ กางเกงวอร์มหรือจ็อกเกอร์ เพื่อมามิกซ์แอนด์แมทช์ในวันหยุดพักผ่อนสบาย ๆ หากใครลองสังเกตดูดี ๆ ในปัจจุบันจะมีกางเกงประเภทหนึ่งที่เรียกว่า “Zipper Pants” ลักษณะของมันจะคล้าย ๆ กับ จ็อกเกอร์ เพียงแต่มีดีเทลลูกเล่นคือซิปอยู่ปลายขา ด้วยลูกเล่นที่แปลกตา ทำให้ zipper pants กลายเป็นกางเกงคู่ใจของวัยรุ่นไทยในปัจจุบัน ดังนั้นเพื่อเป็นการไกด์ไอเดียสำหรับใส่กางเกง zipper อย่างไรให้ชาว UNLOCKMEN ได้สนุกกับการแต่งตัว เราจึงมีวิธีมิกซ์แอนด์แมทช์แบบง่าย ๆ โดยที่คุณแทบจะไม่ต้องเสียเงินซื้ออะไรใหม่เลย LA to Bangkok จุดเริ่มต้นของกางเกง zipper นั้นมาจากแบรนด์ Fear of God ที่ต้องการสร้างสไตล์ที่แตกต่างเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของคน LA แต่เนื่องด้วยความเรียบง่ายแต่ดูมีอะไร การแต่งตัวแบบนี้จึงได้แพร่หลายไปถึงคนทั่วโลก รวมถึงชาวไทย ซึ่งวิธีการมิกซ์แอนด์แมทช์ก็แสนง่าย เพียงหาเสื้อวงดนตรี หรือลายกราฟฟิคที่ชื่นชอบ มาใส่กับกางเกง zipper บวกกับสนีกเกอร์โดน ๆ สักคู่แบบนี้ก็ได้ได้ลุค
แน่นอนมันคือกรรมพันธ์ุและชาติพันธุ์ของเราชาวเอเชียที่ถูกสร้างมาให้รูปร่างไม่สูงโปร่ง ขายาวเหมือนฝรั่งตาน้ำข้าว ซึ่งโดยค่าเฉลี่ยส่วนสูงชายไทยนั้นสูงแค่เพียง 169.5 เซ็นติเมตร ซึ่งก็ไม่ได้เป็นตัวเลขที่สูงมากนัก ( ที่มา Size Thailand ) แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องน่าผิดหวังหรือเสียใจอะไร ในเมื่อเลือกขนาดตัวไม่ได้ เราก็ต้องมาหาวิธีแก้ไขอำพรางปกปิดจุดไม่เด่นของเรากันไป ซึ่งความจริงแล้วในหลักแฟชั่นเขาก็มีการผลิตเสื้อผ้าออกมาหลากหลากแบบเพื่อปกปิดข้อบกพร่องต่าง ๆ ออกมาช่วยเหลือหนุ่ม ๆ เอเชียอยู่แล้ว วันนี้ UNLOCKMEN จึงรวบรวมข้อมูลวิธีการแต่งตัวอย่างไรให้ดูสูงเพียว เพื่อชายไทยจะได้ดูสูงสง่าในทุกโอกาส Monochrome การใส่เสื้อคุมโทนสีเข้มนั้นจะทำให้คุณดูผอมลง ไม่เชื่อลองเปรียบเทียบเวลาคุณใส่สีดำกับเสื้อสีสันอื่น ๆ จะเห็นข้อแตกต่างที่ชัดเจนว่าสีแนว Monochrome จะสามารถปกคลุมความเจ้าเนื้อ และทำให้เราดู Slim ขึ้นได้อย่างแน่นอน แต่ก็ไม่จำเป็นต้องถึงกับดำสนิทไปหมดทั้งตัวเหมือนกับ Gothic เพราะมันจะทำให้ดูดำอึมครึมเกินไปสักนิดนึง Fit ความพอดีคือสิ่งที่ลงตัวที่สุด การใส่อะไรที่มัน Oversize หรือ Under บางครั้งผลลัพธ์ก็ไม่ได้จะออกมาดีเสมอไป ลองคิดภาพคนรุ่นพ่อที่ใส่สูทตัวโคร่ง มันช่างดูอ้วน และตันเอามากจริง ๆ ดังนั้นพยายามหาจุดลงตัวของหุ่นคุณ และใส่อะไรที่มันพอดี ก็จะช่วยให้คุณดูสูงขึ้นอย่างแน่นอน ส่วนกางเกง ก็ต้องคำนึงถึงรูปร่างอีกนั่นแหละ ถ้าขาเล็กเรียวอันนี้ใส่ Skinny ได้เลย แต่ถ้าพวกขาหุ่นนักกีฬา หลีกเลี่ยงกางเกง Skinny
การละเมิดลิขสิทธิ์ถือเป็นหนึ่งในปัญหาที่บรรดาแบรนด์ และผู้บริโภคยังคงพบเจอตลอดมา ซึ่งสาเหตุหลักใจความสำคัญของปัญหานี้ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัย ก็คือยังมีความต้องการซื้อ จึงทำให้อุปทานของการผลิตสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ออกมาวางจำหน่ายอย่างไม่ลดละ ซึ่งบางครั้งความซวยดันตกไปอยู่กับผู้บริโภคที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่คิดว่าได้ของถูกมาครอง แต่ก็ยังมีอีกกรณีคือการลอกเลียนสินค้า แล้วมีการปรับเปลี่ยนรายละเอียด และนำเสนอเป็นของตัวเอง ซึ่งตรงจุดนี้คือช่องโหว่ทางกฎหมายที่ไม่ครอบคลุมในเรื่องของดีไซน์ หากไม่ได้นำเอาโลโก้ หรือชื่อตราแบรนด์ไปใช้ เช่นเสื้อผ้าผู้หญิงที่คุณเห็นสินค้าดีไซน์ซ้ำกันราว 100 แบบ แค่เพียงเปลี่ยนโลโก้ก็ไม่สามารถทำอะไรในทางกฎหมายได้แล้ว วันนี้ทีมงาน UNLOCKMEN ขอหยิบเรื่องราวแบรนด์หนึ่งที่ท้าทาย และลอกเลียนดีไซน์จากแบรนด์ต่าง ๆ มากว่า 40 ปีอย่างไม่เกรงกลัวใครมาฝากกัน Thom McAn คือชื่อบริษัทรองเท้าที่เริ่มต้นกิจการขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ 1922 จากนาย Ward Melville และ J.Franklin McElwain ที่ได้นำชื่อโปรกอล์ฟมาเป็นชื่อแบรนด์ของตัวเอง ซึ่งผลิตรองเท้าประเภท dress shoes และมีชื่อเสียงอย่างมากในเรื่องคุณภาพสูง และราคาถูก พวกเขาสามารถขยายกิจการได้อย่างรวดเร็ว เพราะในเวลาเพียงแค่ 5 ปี Thom McAn สามารถเปิดสาขาได้มากกว่า 300 ร้านค้า และหลังจากยุค 60s บริษัท Melville Corporation