เมื่อไม่กี่อาทิตย์เราเพิ่งพูดคุยกับเพื่อนไปถึงความรู้สึกตื่นเต้นเลือดสูบฉีดหลังจากที่ตั้งตารอคอยเพราะได้ยินข่าวคราวมานานเกี่ยวกับงานศิลปะสุดยิ่งใหญ่ที่มีชื่อว่า BAB (แบ๊บ) ซึ่งย่อมาจาก Bangkok Art Biennale (บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่) ที่กำลังจะจัดขึ้นในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นงานที่จัดขึ้นเพียง 2 ปีครั้งเท่านั้น และมีความพิเศษกว่าเทศกาลศิลปะอื่นที่เคยเกิด เนื่องจากเป็นการจัดแสดงงานศิลป์ที่เปิดให้ดูกันฟรี ๆ จากศิลปินจำนวนมากถึง 75 คน 33 ประเทศ รวบมาไว้ในสถานที่แห่งเดียวคือ “กรุงเทพฯ” ที่ ๆ เรากำลังย่ำเท้าอยู่ตอนนี้ แต่สิ่งที่ได้ยินจากเพื่อนกลับเป็นคำว่า “เฮ้ย! มีด้วยเหรอ” ดังนั้น เพื่อไม่ให้เพื่อน ๆ ชาว UNLOCKMEN คนไหนต้องพลาดการเสพศิลป์ครั้งนี้แล้วร้องเสียดายกันภายหลัง เพราะย้ำอีกครั้งว่างานจัดแค่ 2 ปีครั้งเท่านั้น แถมสิ่งที่คุณจะได้เห็นปีนี้ก็อาจจะไม่ได้เห็นในปีหน้า อยากดูอาจต้องเสียค่าตั๋วบินไปดู เราจึงขอเปิดวาร์ปไปชมงานตามพื้นที่ต่าง ๆ ที่จัดแสดงทั่วกรุงเทพฯ ด้านล่าง สนใจชมผลงานของศิลปินคนไหนเป็นพิเศษก็อย่าพลาดไปดูกันล่ะ 101 BANGKOK ART BIENNALE เพื่อให้สนุกกับการเปิดแรลลี่ดูงานศิลปะ BAB 2018 มากขึ้น
ขึ้นชื่อว่าผู้ชายสุดเหวี่ยงแล้ว เมื่อทำงานเหนื่อยหนักมาทั้งปี อยากไปปาร์ตี้ทั้งทีก็ต้องเลือกปาร์ตี้แบบมันส์สุดขีดให้ได้ปลดปล่อยความสนุกสุดขั้ว แต่ปาร์ตี้ที่มาพร้อมความสนุกสุดเหวี่ยงมักขาดความสะดวกและความลงตัวด้านอื่นไปอย่างน่าเสียดาย จะดีแค่ไหนถ้ามีปาร์ตี้ที่ให้ความสนุกกับเราได้อย่างเต็มสูบ แต่ในขณะเดียวกันก็ BLEND รสชาติความสะดวกสบายและความบันเทิงอื่น ๆ ไว้ได้อย่างกลมกล่อม Waterzonic 2018 คือปาร์ตี้ที่เราขอยกให้เป็นปาร์ตี้ที่ตอบโจทย์ในฝันของผู้ชายรักสนุกสุดเหวี่ยงอย่างพวกเราแบบไม่มีข้อกังขา เพราะไม่ว่าจะมากับเพื่อนแก๊งใหญ่ที่เต็มไปด้วยเพื่อนที่มีไลฟ์สไตล์ความสนุกเหมือนกันสุดขีดหรือต่างกันสุดขั้วแค่ไหน งานนี้ก็ชวนให้พวกเรา Let’s BLEND ความสนุกเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว Waterzonic 2018 ถือเป็นการกลับมาการันตีความมันส์อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 การกลับมาครั้งนี้มาอย่างยิ่งใหญ่และมันส์ทุกหยาดหยดสมกับการเป็นปาร์ตี้กลางสายน้ำที่ชุ่มไปด้วยความเปียกและฉ่ำไปด้วยความสนุกยากจะหาใครเหมือน โดยในปีนี้ Waterzonic จัดเป็นเฟสติวัล 2 วันเหมือนที่ผ่านมา แถมดึงเอาจุดเด่นของ EDM Festival มาโชว์ได้แบบอลังการ สำหรับใครที่พลาดโอกาสไปเสพสุขเมื่อวันที่ 14-15 กันยายน 2561 ที่ไลฟ์พาร์ค พระราม 9 ก็ไม่ต้องเสียใจไป เราเก็บภาพบรรยากาศความมันส์มาให้ได้เสพกันเต็มอิ่มแน่นอน โปรดักชั่น Waterzonic ไม่เคยทำให้เราผิดหวัง แม้จะได้ชื่อว่าเป็นปาร์ตี้ที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยสายน้ำแต่เรื่องแสงสีเสียงและดอกไม้ไฟสุดอลังการก็จัดหนักมาให้เราได้เต็มอิ่มกับการปล่อยตัวปล่อยใจไปกับเสียงเพลงราวกับลอยหลุดไปอีกโลกที่มีแต่ความสนุกสุดเหวี่ยง ที่สำคัญดีเจตัวท็อปที่ตบเท้าขึ้นเวทีมาให้เราได้ศุดปากตื้นเต้นไม่ขาดสายทั้ง Yellow Claw, Dimitri Vegas & Like Mike, San Holo และอีกมากมายที่ทำให้เราใจเต้นแรงด้วยความเมามันส์ตลอดงาน
“You can’t buy happiness. But you can prepare a cocktail and that’s kind of the same things” ประโยคที่เปรียบเทียบได้อย่างยอดเยี่ยมว่าค็อกเทลดี ๆ สักแก้วสามารถสร้างความรู้สึกแบบไหนให้เราได้บ้าง แต่อารมณ์แบบนี้ก็ใช่ว่าจะพบเจอกันง่าย ๆ และจะรับรู้ได้ก็ต่อเมื่อมีโอกาสได้นั่งอยู่ตรงข้ามกับบาร์เทนเดอร์ที่ใส่ใจการปรุงค็อกเทลเท่านั้น ซึ่งถ้าใครกำลังมองหาสิ่งที่ว่ามาอยู่ POUR BAR คือชื่อที่เราอยากแนะนำในวันนี้ POUR BAR ตั้งอยู่ท่ามกลางความพลุกพล่านของย่านลาดพร้าว ทันทีที่เปิดประตูเข้าไปคุณจะพบกับห้องโถงยาวถูกออกแบบมาให้เข้ากับบาร์ และแสงไฟโทนแดง-น้ำเงินที่เคลือบไว้ทั้งร้าน ช่วยสร้างคาแรคเตอร์ที่เท่และน่าตื่นเต้น เมื่อผสมเข้ากับเสียงเพลงกรันจ์ภายในร้านยิ่งสร้างคึกคักภายในเวลาเดียวกัน ทั้งหมดเริ่มมาจากความตั้งใจของ “บอมบ์ นภดล ธรรมส่องหล้า” หนุ่มอัธยาศัยดีผู้ควบ 2 ตำแหน่งคือเจ้าของร้านและบาร์เทนเดอร์หลัก ที่กำลังยืนล้างมืออย่างประณีต เพื่อเตรียมทำเครื่องดื่มแก้วพิเศษอยู่อีกด้านของบาร์ พร้อมเผยความพิเศษของทางร้านให้ฟังสำหรับคนที่จะมาเยี่ยมเยือน 2 อย่างด้วยกัน Special Ingredient ประสบการณ์มากกว่า 7 ปีของเขาทำให้ POUR BAR เป็นค็อกเทลบาร์ที่แตกต่างกับร้านอื่นโดยสิ้นเชิง เรื่องแรกคือเมนูค็อกเทลของทางร้านจะมีการเปลี่ยนแปลงตามตารางตั้งแต่
ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับเดือนสิงหาคมอันแสนเดือดของตลาด Sneakers หลังจากค่ายยักษ์ใหญ่ต่างเรียงหน้ากันปล่อยรองเท้าคู่เด็ดของตัวเองออกมาให้เราเฝ้ามองเพื่อจับจองอย่างไม่ขาดสาย ซึ่งหลายคนคงได้เป้าหมายที่ถูกใจไปแล้วบ้างไม่มากก็น้อย แต่สำหรับคนที่ยังไม่ได้ยังไม่โดน วันนี้ UNLOCKMEN ได้คัดสรรรองเท้าที่น่าสนใจ ซึ่งจะออกวางขายในเดือนกันยายนนี้มาไว้ให้แล้ว ไปดูกันว่ามีคู่ไหนทำให้เราอยากจะเสียเงินกันบ้าง NEW BALANCE x END (Dusk Pack) งาน Collab ล่าสุดจาก New Balance และ END ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการมองไปที่เส้นขอบฟ้าในตอนพลบค่ำ ความคิดนี้ถูกถ่ายทอดลงในโมเดล X90 โดยมีการผลิตออกมาทั้งหมด 2 สีด้วยกัน คือ White และ Black ในส่วนของ Midsole ใช้สีเนวี่กับม่วงตัดสลับ มาพร้อมเทคโนโลยี REVlite จุดขายของ NB ในส่วนของ Uppers ขึ้นรูปเป็นผ้า Mesh ซึ่งดูมีสีสันทีเดียวสำหรับ X90 Day Release : 1 กันยายน Price : 135$ PUMA
ทุกวันนี้เทคโนโลยีดี ๆ สำหรับการถ่ายภาพนับวันจะยิ่งราคาถูกลงเรื่อย ๆ แต่ก็น่าแปลกที่เราพบว่าเมื่อเวลาผ่านไป ความกระหายที่จะกดชัตเตอร์ที่เคยมีมันดันหายไปเสียเฉย ๆ เหลือเพียงความว่างเปล่า ไม่มีไอเดียและไม่รู้จะออกไปถ่ายอะไรเลยปล่อยให้หยากไย่ขึ้นอุปกรณ์ ดังนั้นเพื่อปัดฝุ่นทุกอุปกรณ์ถ่ายภาพเราเคยรัก ไม่ว่าจะเป็น DSLR ตัวเก่งหรือมือถือ UNLOCKMEN เตรียม 5 วิธีสำหรับปลุกแรงบันดาลใจให้ออกไปเก็บภาพไว้ให้ที่นี่แล้ว 1. ออกเดินทางไปที่ใหม่ ๆ หนึ่งเหตุผลที่ทำให้เราไม่อยากถ่ายรูป บางครั้งก็เกิดจากการวนเวียนอยู่ในที่เดิม ๆ ทุกวัน เดินไปเดินมาในสถานที่เดิม เจอแต่คนเดิม ๆ เลยทำให้รู้สึกเบื่อ ไม่รู้จะเก็บไว้เป็นความทรงจำทำไม วิธีแก้แรกจึงเป็นการออกเดินทางไปในสถานที่ใหม่ เพราะมันสร้างความตื่นเต้นให้เราได้ และความรู้สึกที่ไม่รู้ว่าจะได้กลับมาที่แห่งนี้อีกไหม มันจะทำให้เราขยับนิ้วรัวชัตเตอร์ไปเองโดยไม่รู้ตัว 2. โดดเข้าหา Photography Challenge เมื่อจับการถ่ายภาพไปอยู่ในสมรภูมิการแข่งขันมันจะสนุกขึ้น การแข่งขันที่เราพูดถึงไม่ได้หมายถึงการออกไล่บี้ไปคว้ารางวัล แต่เป็นการร่วมแคมเปญทางโซเชียลเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เกี่ยวกับการถ่ายภาพ ซึ่งเรามักจะเห็น Challenge ประเภทนี้ใน feeds อยู่เป็นระยะ กรณีที่ช่วงนี้เริ่มซาเราก็หันมาสร้างแคมเปญและ Hashtag เล่นระหว่างกลุ่มเพื่อนก่อนได้โดยไม่ต้องรอได้เลย เพราะการลงไปถ่ายภาพในสนามที่มีโจทย์เดียวกันและเห็นมุมมองของคนอื่นสร้างความท้าทายและทำให้รู้สึกมีความหมายมากขึ้น
ในที่สุดก็ถึงวันสุดท้ายของการทำงานในสัปดาห์สักที หลังจากตรากตรำเหน็ดเหนื่อยมาตลอดหลายวัน การให้รางวัลตัวเองด้วยการนั่งทานอาหารอร่อย ๆ พร้อมจิบเครื่องดื่มแก้วโปรดก็ฟังดูเป็นไอเดียที่ไม่เลว ยิ่งถ้ามีวิวแม่น้ำสวย ๆ ลมเย็น ๆ มากระทบตัวประกอบไปด้วย คงเป็นการพักผ่อนที่วิเศษสุด ๆ วันนี้ UNLOCKMEN จึงมี 5 บาร์ริมน้ำบรรยากาศ (โคตร) ดีมาแนะนำ เชิญเสพและหยิบร้านที่ชื่นชอบเก็บเข้าไปในลิสต์ได้เลย 342 Bar พูดถึงบรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยาโดยมีฉากหลังเป็นย่านเมืองเก่า สถานที่แรก ๆ ที่จะโผล่ขึ้นมาในสมองคงหนีไม่พ้น ‘วังหลัง’ และที่นี่เองก็มีบาร์ริมน้ำสุดชิลซ่อนตัวอยู่ 342 Bar ตั้งอยู่บน Rooftop ของโรงแรมบ้านวังหลังริเวอร์ไซด์ สิ่งแรกที่คุณจะเห็นหลังประตูลิฟท์เปิดคือวิวแม่น้ำเจ้าพระยาจากมุมสูงสุดลูกหูลูกตาโอบล้อมด้วยแสงสีและตึกสูงของกรุงเทพมหานคร เป็นความ Contrast กันระหว่างความสงบเงียบกับความวุ่นวายของเมืองใหญ่ที่ลงตัว เรื่องอาหารเครื่องดื่มที่นี่ก็ตามมาตรฐาน มีครบครันไม่ว่าจะเป็นเบียร์สดจากแท็ป วิสกี้ และอาหารอร่อย ๆ ถึงแม้ราคาจะเรียกไม่ได้ว่าเป็นมิตรเสียทีเดียว แต่ถ้าเทียบกับบรรยากาศที่ได้ บอกเลยว่าคุ้มค่าแน่นอน Location: 342 Soi Wat Rakhang (Arunamarin 18), Prannok Road, Siriraj Bankoknoi
สัญชาตญาณนักดื่มในตัวผู้ชายมีระดับมักไม่ใช่แค่การกรอกของเหลวลงคออย่างพลุ่งพล่านแล้วจบลงที่ความเมามายไม่ได้สติเท่านั้น แต่ศิลปะแห่งการดื่มกินของผู้ชายอยู่ที่การได้ดื่มด่ำเครื่องดื่มสีอำพันในมือพร้อม ๆ กับการละเลียดความเป็นมาและเรื่องราวของเครื่องดื่มแก้วนั้น การดื่มด่ำ Single Malt Scotch Whisky ก็เช่นกัน การได้ซึมซาบที่มาที่ไปของเครื่องดื่มสุดคลาสสิคผ่านการอ่าน SINGLE MALT 101: รู้จักโลก “ซิงเกิลมอลต์”แบบรอบด้านเพื่อการดื่มอย่างมีระดับของผู้ชาย ในครั้งก่อนจึงทำให้การกลับไปดื่ม Single Malt แก้วเดิมกลับให้ความรู้สึกลุ่มลึกกว่าที่เคยหลายเท่าตัว ครั้งนี้ UNLOCKMEN เลยขออาสาพาผู้ชายทุกคนไปยังเขต Highland ของประเทศสก็อตแลนด์ เพื่อทำความรู้จักกับ GLENMORANGIE ที่เป็น Single Malt Scotch Whisky ระดับพรีเมียมซึ่งรับรองได้เลยว่าจะเติมเต็มเรื่องรสชาติแบบที่ผู้ชายทุกคนตามหาและมาพร้อมเรื่องราวเฉพาะแบบฉบับ GLENMORANGIE ที่เข้มข้นไม่แพ้รสชาติและทำให้คุณเป็นนักดื่ม Single Malt ตัวจริงแน่นอน THE LEGACY OF GLENMORANGIE การได้ดื่มด่ำรสชาติ Single Malt ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานถือเป็นการดื่มที่นอกจากทำให้การดื่มลื่นคอยิ่งขึ้นยังทำให้เราซึมซับความเป็นมาของ Single Malt สไตล์นักดื่มตัวจริงไปด้วยอย่างแนบเนียน โดยเรื่องราวของ GLENMORANGIE ครั้งนี้จะย้อนกลับไปไกลถึงปี ค.ศ. 1843 GLENMORANGIE ได้ก่อตั้งขึ้นโดยชาวสก็อตแลนด์ที่ชื่อว่า William Matheson ในปี
การสั่งซื้อรองเท้าออนไลน์กลายเป็นอีกช่องทางช็อปปิ้งของผู้ชายสาย Sneakerhead อย่างเรา เพราะปัจจัยหลายอย่างที่ไม่เอื้อให้เราไปซื้อเองที่ร้านอีกต่อไป หรือบางครั้งรุ่นที่ต้องการก็เป็นของหายากซึ่งมีขายแค่ในต่างประเทศเท่านั้น ลำบากต้องมานั่งรอพ่อค้าสายหิ้วไปอีก แต่เมื่อเรากลายร่างมาเป็นนักช็อปฯ ออนไลน์มือใหม่ กลับต้องนั่งกุมขมับงงเป็นไก่ตาแตกกับสารพัด Code แปลก ๆ ที่คนขายพิมพ์ต่อจากชื่อรุ่น ไม่ว่าจะเป็น DS , VNDS , OG , PE , LE สำหรับคนที่โปรอยู่แล้ว คงไม่ใช่เรื่องยาก แต่ถ้าเป็นบางคนซึ่งยังไม่เชี่ยวชาญ แต่อยากได้รองเท้าดี ๆ มาครอบครองสักคู่แล้วละก็ กว่าจะทำความเข้าใจด้วยตัวเองของจะพาลหมดสต๊อกไปเสียก่อน วันนี้ UNLOCKMEN จะขออาสาไขความกระจ่างของรหัสอักษรเหล่านี้ให้เอง 1. รหัส DS หมายถึง Deadstock DS คืออักษรย่อที่บ่งบอกว่ารองเท้าคู่ดังกล่าวไม่มีวางขายตามร้านทั่วไปแล้ว และไม่มีการเก็บไว้ในสต๊อก พูดง่ายๆ คือขายดีจนเกลี้ยงไปแล้ว บางรุ่นอาจยกเลิกสายการผลิต ไม่มีคู่ใหม่แน่นอน ตัวอย่างเช่น Converse ที่ผลิตใน ปี 60 s , 70 s ,
แต่ละวินาทีที่เราอาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ เป็นแต่ละวินาทีที่อัดแน่นไปด้วยกิจกรรมสุดหลากหลาย ทั้งหน้าที่การงานที่เราต้องทุ่มให้สุดชีวิต ทั้งการใช้ห้วงเวลาแห่งการเที่ยวเล่นแบบสุดขั้วหัวใจ และการพักผ่อนในวันสบาย ๆ เพื่อชาร์จไว้เป็นขุมพลังสำคัญในการก้าวต่อไป ชีวิตของคนรุ่นใหม่อย่างเราจึงไม่ได้ต้องการแค่ความเรียบง่ายที่จำกัดเราไว้แค่การพักผ่อนเท่านั้น แต่เราต้องการพื้นที่ที่ปลดล็อกทุกข้อจำกัดของไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ให้เราได้มากกว่าการพักผ่อน โดยเฉพาะพื้นที่อยู่อาศัยที่จะไม่ได้เป็นแค่ที่ให้เราหอบร่างกลับไปนอนเพื่อให้เวลาในแต่ละคืนผ่านพ้นไป แต่พื้นที่อยู่อาศัยของคนรุ่นใหม่ต้องเป็นแหล่งรวมไลฟ์สไตล์ไร้ขีดจำกัด ที่จะทำให้เราเข้าใจคำว่า LIVING EXTRAORDINARY ได้แบบถึงแก่น ย่านอ่อนนุชจึงเป็นอีกพื้นที่ที่ตอบโจทย์การปลดล็อกขีดจำกัดในการใช้ชีวิตให้กับคนรุ่นใหม่ที่แต่ละวันมีกิจกรรมต้องทำมากมายได้ครบจบในที่เดียว ทั้งการเดินทางที่สะดวกสบายด้วย BTS ทั้งแหล่งเติมเต็มไลฟ์สไตล์แห่งการทำงาน การพักผ่อน และการเล่นแบบสุดเหวี่ยง บอกได้แค่ว่าย่านอ่อนนุชคือทุกคำตอบของชีวิตชาว Urban ไม่ว่าโจทย์ของเราจะเป็นการทำงานแสนหน่วงหนัก การพักผ่อนแสนเนิบช้า หรือการเที่ยวเล่นแสนสนุก CRAFTSMAN BARBER SHOP เริ่มต้นปลดล็อกขีดจำกัดแห่งไลฟ์สไตล์ขั้นแรกด้วยการเปิดโอกาสให้ตัวเองได้ตัดผมในร้านสุดชิคแห่งยุคสมัยดูสักครั้ง ผู้ชายยุคใหม่มักประสบปัญหาในการหาร้านตัดแต่งทรงผมที่ถูกใจได้ยากแสนยาก บ่อยครั้งเลยต้องดิ่งไปย่านใจกลางเมืองที่พ่วงมาด้วยรถติดสาหัส การหาที่จอดรถสุดยากเย็น แต่ที่อ่อนนุช CRAFTSMAN BARBER SHOP แฝงตัวอย่างแนบเนียนเพื่อรอให้ผู้ชายรุ่นใหม่ได้ปลดล็อกไลฟ์สไตล์แฟชั่นทรงผมแบบที่ไม่ต้องเหนื่อยไปไหนไกล ขีดจำกัดเดิม ๆ อย่างการต้องนั่งรอตัดผมอย่างน่าเหนื่อยหน่ายก็จะถูกปลดล็อกอย่างสิ้นเชิง เพราะที่ CRAFTSMAN BARBER SHOP มีบริการกาแฟดริป รวมถึงเบียร์เย็นฉ่ำใจพร้อมเสิร์ฟให้เราระหว่างการรอ ที่สำคัญบรรยากาศแบบวินเทจและการตกแต่งที่แสดงออกถึงความพิถีพิถันภายในร้าน จะยิ่งทำให้เรารับรู้ได้เลยว่า CRAFTSMAN BARBER SHOP ที่ฝังตัวอยู่ในย่านอ่อนนุชแห่งนี้นี่แหละที่จะปลดล็อกทรงผมคูล ๆ หรือแม้แต่ทรงหนวดเคราเท่
เวลาเราไปคาเฟ่สักที่อาจจะเขิน ๆ ที่ถ่ายรูปออกมาแล้วมันช่างเป็นคาเฟ่หวานแหวว มองไปมุมไหน ทั้งการออกแบบภายใน การตกแต่ง เฟอร์นิเจอร์ หรือแม้แต่เมนู ทุกอย่างมันดูฟรุ้งฟริ้งไปเสียหมด ซึ่งนั่นมันก็ไม่ผิด แค่ผู้ชายอย่างเราคงไม่อินกับสไตล์นี้เท่าไหร่นัก และดูจะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของสาว ๆ เสียมากกว่า ถ้าหากหนุ่ม ๆ คนไหนเจอกับปัญหานี้บ่อย ๆ และกำลังมองหาพื้นที่เท่ ๆ เอาไว้นั่งชิลล์ในวันหยุด หรืออยากจะพาสาวไปรีแลกซ์ในบรรยากาศที่แฮปปี้กันทั้งคู่ UNLOCKMEN ขอแนะนำ “NOXX CAFE” พระราม 9 ที่รวมเอาความเรียบง่ายของ Minimal และความแข็งแรงดุดันของ Industrial มาไว้ด้วยกัน จะออกมาเจ๋งแค่ไหน มาดูกัน จากแบรนด์เสื้อผ้าสู่คาเฟ่ เรามีโอกาสได้พูดคุยกับคุณ “วสุ มโนมัยพิบูลย์” เจ้าของคาเฟ่และไอเดียเจ๋ง ๆ ที่เราจะได้เห็นในคาเฟ่นี้ โดยก่อนจะมีคาเฟ่แห่งนี้ คุณวสุได้มีแบรนด์เสื้อผ้าของตัวเองในชื่อเดียวกัน และพอแบรนด์เสื้อผ้าเริ่มอยู่ตัว จึงอยากขยับขยายแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น จึงเปิดเป็น “NOXX CAFE” นี้ขึ้นมา ด้วยความตั้งใจที่ต้องการให้เป็นคาเฟ่ที่เหมาะกับคนทุกไลฟ์สไตล์ เป็นพื้นที่ Unisex เหมาะกับทุกเพศ Custom