นอกจาก Central Bangna กับ Mega Bangna ไปบางนา ทำอะไรดี? ประโยคคำถามนี้มักจะเกิดขึ้นเสมอในกลุ่มคนที่ไม่ค่อยได้ใช้ชีวิตอยู่ในย่านนั้น ถ้าย้อนเวลาจากปัจจุบันไปสัก 2 – 3 ปี พูดตรง ๆ ว่าเราเองก็นึกไม่ออก และมักจะต้องถามเพื่อนฝูงเจ้าถิ่นให้คอยแนะนำ แต่ปัจจุบันนี้ย่านบางนา ได้รับการพัฒนาเร่งความเจริญอย่างรวดเร็ว จากการแข่งกันขยายตัวของรถไฟฟ้าสายสุขุมวิทที่ข้ามมาจนถึงฝั่งบางนา แบริ่ง ล่าสุดไปจบที่สถานีสำโรง รวมถึงสายอื่นที่แย่งกันตัดไปมาผ่านย่านนี้ จนเป็นที่อิจฉาของคนย่านอื่นชนิดตาลุกเป็นไฟ เพราะนอกจากอยู่ดี ๆ มูลค่าที่ดินจะเกิดผลแล้ว ยังมีไลฟ์สไตล์เท่ ๆ ร้านบรรยากาศดี ๆ กระจายตัวตามรางรถไฟมารวมกันบนย่านนี้เพียบ เพื่อตอบคำถามว่า ไปไหนดีแถวบางนา เราจึงได้ไป Explore ค้นหาและรวบรวมร้านตกแต่งเท่ บรรยากาศดี และมีคอนเซ็ปต์น่าสนใจ เป็นลายแทงสำหรับผู้ชายที่อยาก Hang Out อารมณ์ Cool Lifestyle ที่คนย่านนั้นต่างภูมิใจเสนอ แล้วจะเห็นความหล่อของชีวิตในโซนบางนา ที่โดดเด่นหรูหราไม่แพ้เพื่อนบ้านอย่างทองหล่อ เอกมัย ลืมภาพว่ามีแค่ Bitec Bangna กับถนนอันเวิ้งว้างไปได้เลย THE
เมื่อพูดถึงย่านทองหล่อ สิ่งแรกที่หลายคนนึกถึงคงหนีไม่พ้นพื้นที่ทำเลทองใจกลางกรุงเทพฯ ซึ่งรายล้อมไปด้วย ร้านค้า สถานที่ต่าง ๆ ที่ตอบสนองต่อ Premium Lifestyle อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารดี ๆ แหล่ง Hangout โดน ๆ ที่ดึงดูดให้กลุ่ม Urban Men อย่างชาว UNLOCKMEN มีเหตุให้ต้องไปเยือนทองหล่ออยู่เสมอ แต่ท่ามกลางความคึกคักของแสงสี และ Lifestyle ที่ไม่หยุดนิ่งในย่านทองหล่อ ยังมีอีกหนึ่งพิกัด ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นแหล่งพักผ่อนระดับไฮคลาสที่เข้ามาเติมเต็มการใช้ชีวิตในทองหล่อให้ครบทุกด้านมากยิ่งขึ้น ถือเป็นสถานที่สำหรับเปลี่ยนบรรยากาศ หลีกหนีจากวันวุ่น ๆ ชีวิตอันเร่งรีบในกรุงเทพฯ หลบไปนอนชาร์จพลังได้ทันใจ สามารถเก็บกระเป๋ามุ่งหน้าไปได้ทันที โดยไม่ต้องเปลืองวันลาหรือเสียเวลาเดินทางเหนื่อยขับรถข้ามจังหวัด ข้ามอำเภอ เพียงเพื่อแลกกับการได้นอนพักนิ่ง ๆ ในบรรยากาศหรูหรา สไตล์ยุโรปคลาสสิค ซึ่งสถานที่ ที่เราพูดถึง และกำลังจะพาทุกท่านไปสัมผัสบรรยากาศนั่นก็คือ Metropole The Crest Collection by The Ascott Limited หรือเรียกสั้น ๆ ว่า Metropole
กลับมาเป็นปีที่สองแล้วสำหรับการจัดลำดับร้านอาหารในประเทศสิงคโปร์ โดยสิงคโปร์ มิชลินไกด์ ปี 2017 คู่มือแนะนำร้านอาหารชั้นนำระดับโลก ซึ่งในปีนี้มีร้านอาหารที่ได้รับดาวมิชลินทั้งหมด 38 ร้าน รวมถึงร้านอาหารหน้าใหม่ที่ได้รับดาวมิชลินเป็นครั้งแรกอีกทั้งหมด 12 ร้าน นี่นับเป็นปีที่สองแล้ว ที่สิงคโปร์ มิชลินไกด์ ได้ตอกย้ำสิงคโปร์ในฐานะประเทศที่มีความโดดเด่นทางด้านอาหาร ซึ่งขับเคลื่อนโดยบรรดาเชฟยอดฝีมือ ที่ทุ่มเทและพัฒนาในการสร้างสรรค์เมนูและร้านอาหารใหม่ๆ รวมถึงชาวสิงคโปร์ และนักท่องเที่ยวที่มองหาประสบการณ์ใหม่ๆ ทางด้านอาหารอยู่เสมอ สำหรับปี 2017 สิงคโปร์มีร้านอาหารที่ได้รับดาวมิชลิน 1 ดาว ทั้งหมด 30 ร้าน โดยในจำนวนร้านอาหารทั้งหมดนี้ มี 11 ร้านที่เป็นร้านอาหารหน้าใหม่ ซึ่งได้รับดาวมิชลินเป็นครั้งแรกอีกด้วย ซึ่งร้านอาหารหน้าใหม่เหล่านี้ ล้วนเป็นภาพสะท้อนของสิงคโปร์ ในฐานะเมืองแห่งความหลากหลายของประเภทและสัญชาติอาหาร เพราะในปีนี้ มีร้านอาหารกว่า 30 ประเภท ที่ได้รับดาวมิชลินไปครอบครอง ไล่ตั้งแต่อาหารเปอรานากัน, ออสเตรเลีย ไปจนถึงแต้จิ๋ว, ฝรั่งเศส และอิตาเลียน ลองมาดูตัวอย่างร้านเด็ดที่ได้ดาวมิชลินไปครอบครองในปีนี้ ที่คุณไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวสิงคโปร์ มาเริ่มกันที่ร้านอาหารสัญชาติออสเตรเลียร่วมสมัยอย่าง Cheek by Jowl ของเชฟชาวศรีลังกา ที่เคยใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ที่ออสเตรเลีย
เหตุผลหลัก ๆ ในการเลือกที่อยู่อาศัยของคนเมืองส่วนใหญ่คงหนีไม่พ้นทำเลที่ตั้งซึ่งต้องรองรับการเดินทางที่สะดวก เพราะวิถีชีวิตในแต่ละวันล้วนแล้วแต่มี Lifestyle ที่เกี่ยวข้องกับสถานที่ต่าง ๆ ใจกลางเมืองแทบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นวันทำงาน หรือแม้กระทั่งวันพักผ่อน ทำให้คอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้าคือตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของผู้คนซึ่งต้องการมี Urban Lifestyle ที่ลงตัว แต่ต้องยอมรับว่าคอนโดมิเนียม ทำเลรถไฟฟ้าที่ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางเมืองนั้น มีข้อจำกัดในเรื่องเพดานราคา และพื้นที่ใช้สอย ซึ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ที่จะเป็นเจ้าของคอนโดกว้างขวาง มีที่จอดรถส่วนตัวแบบไม่ต้องจอดซ้อนคัน พร้อมพื้นที่นั่งเล่นสังสรรค์ เอาไว้นั่งเล่นเกม ดูหนัง สร้าง Men Cave ไว้รอต้อนรับเพื่อนฝูง หรือพื้นที่ตั้งโชว์ของสะสมเท่ ๆ เก๋า ๆ โดยที่ไม่ต้องซุกไว้ในตู้ รวมถึงใครที่กำลังจะตกลงปลงใจแต่งงาน แล้วต้องการคอนโดกว้าง ๆ เพื่อรองรับการขยับขยายครอบครัวในอนาคต ในงบประมาณที่คนทำงานอย่างเรา ๆ สามารถเป็นเจ้าของได้ ผ่อนสบาย ไม่ต้องแบกภาระหนักจนหน้ามืดทุกเดือน ทางออกของการหาที่อยู่อาศัยซึ่งตอบโจทย์ด้านพื้นที่ใช้สอยที่เพียงพอ มีโลเคชั่นที่เดินทางสะดวก รวมถึงราคาที่เหมาะสม ไม่พุ่งทะลุไปถึงตารางเมตรละหลายแสน เหมือนคอนโดหรูติดรถไฟฟ้าใจกลางมหานคร คงหนีไม่พ้นทาวน์โฮม, ทาวน์เฮ้าส์ ซึ่งอยู่ในพื้นที่รอบนอกถัดออกมาจากย่านใจกลางเมือง ที่ถึงแม้จะไม่ติดรถไฟฟ้าแบบเดินชิลล์ ๆ ไม่ทันได้เมื่อย
หนังสือกลายเป็นของขวัญที่โดดเด่นที่สุดอย่างหนึ่ง เพราะต้องอาศัยความใส่ใจจากตัวผู้ให้ แถมต้องรู้นิสัยใจคอของผู้รับอยู่บ้าง ยิ่งซื้อหนังสือให้ผู้หญิงที่เรารักสักคนไม่ว่าจะเป็นแม่ผู้ให้กำเนิดในวันแม่ที่จะถึงนี้ หรือหวานใจในโอกาสสำคัญต่าง ๆ เราอาจยิ่งกุมขมับเพราะไม่รู้ว่าจะเลือกยังไงดี UNLOCKMEN ขออาสารับความยุ่งยากใจตรงนั้นมาจัดการให้เอง! เพราะยิ่งใกล้ช่วงวันแม่แห่งชาติเข้ามา เราก็สนับสนุนให้เลือกสรรของขวัญอย่างหนังสือเป็นอีกทางเลือก (นอกจากดอกมะลิ อาหารเสริม ฯลฯ) แถมเราช่วยเลือกให้ด้วยว่า 5 เล่มไหนที่น่าจะถูกใจผู้หญิงที่คุณรักชัวร์ ๆ ! หยดน้ำหวานในหยาดน้ำตา หยดน้ำหวานในหยาดน้ำตา ผู้เขียน: อุรุดา โควินท์ สำนักพิมพ์: มติชน ถ้าคุณแม่หรือแม่คุณของคุณเป็นผู้หญิงอ่อนหวาน หรือจะเข้มแข็งก็ไม่ว่า แต่ชอบเสพความงดงามของความสัมพันธ์ หยดน้ำหวานในหยาดน้ำตา คือหนังสือที่คุณควรรีบหยิบใส่ตะกร้าซื้อไปฝากให้เร็วไว เพราะหยดน้ำหวานในหยาดน้ำตาถูกเขียนขึ้นจากความคิด ความรู้สึก ความทรงจำของนักเขียนสาวที่เราลงความเห็นว่ามีภาษาที่งดงามที่สุดอีกคนหนึ่ง หยดน้ำหวานในหยาดน้ำตาว่าด้วยเรื่องราวชีวิตจริงของ “อุรุดา โควินท์” นักเขียนสาวซึ่งเป็นคนรักของ “กนกพงศ์ สงสมพันธ์” นักเขียนหนุ่มผู้ประสบความสำเร็จอีกคนของวงการน้ำหมึกไทย หนังสือบอกเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ ชีวิตคนสองคนในชั่วระยะหนึ่งของเวลาก่อนความตายจะพรากพวกเขาจากกัน และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการเขียนนวนิยาย จนกลายมาเป็น หยดน้ำหวานในหยาดน้ำตา เล่มนี้ UNLOCKMEN บอกเลยว่าไม่อยากให้คุณพลาด ซื้อให้แม่ก็ได้ หวานใจก็ดี รับรองว่าทันทีที่อ่านจบ อ้อมกอดที่มีให้กันจะโอบแน่นขึ้นกว่าเดิม ทำลาย, เธอกล่าว
พรายฟองนุ่ม กับรสชาติเบียร์ละมุนในปากเป็นสิ่งที่ผู้ชายอย่างเราคุ้นเคย แต่ใครจะไปเชื่อว่าการเลือกแก้วที่ใช่ให้เหมาะกับเบียร์ที่ชอบจะยิ่งทำให้รสชาติที่เราคุ้นเคยดีอยู่แล้ว ทวีความละมุนลิ้น แถมขับรสชาติเบียร์ให้เด่นชัดขึ้นมาได้อีก ทีแรก UNLOCKMEN ก็เบือนหน้าหนี ไม่อยากเชื่อทฤษฎีที่ว่ามานี้เช่นกัน จึงขอลองด้วยตัวเองและอาสาหาคำตอบมาให้ผู้ชายหลาย ๆ คนที่กำลังสงสัยเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน Plisner: Wussie / ABV 5.8 % เริ่มกันด้วย Plisner ตัวนี้กลิ่นดี แค่แรกเริ่มลองจิบก็ได้กลิ่นอายอบอวลของความเป็นสมุนไพร แต่เดี๋ยวก่อน มันไม่ใช่สมุนไพรแบบขิงข่าตะไคร้อย่างที่คนไทยชอบจินตนาการกัน แต่เป็นความ herbal แบบ spice เบา ๆ ไม่รุนแรงแต่ชวนให้ดื่มด่ำเหลือเกิน แค่แก้วธรรมดาก็ชวนฝันมากแล้ว แต่ยิ่งเราลองเทลงในแก้วทรงสูงโปร่งเพรียวที่ออกแบบมาเฉพาะเพื่อ Plisner นั้นยิ่งขับเน้นให้เรามองเห็นสีทองอำพันของเบียร์ได้อย่างมีมิติยิ่งขึ้น ช่วงปลายปากแก้วถูกออกแบบมาให้โอบเข้าเล็กน้อยเพื่อให้พรายฟองเบียร์คงตัวอ้อยอิ่งเพิ่มอรรถรสให้เรายิ่งขึ้น ที่สำคัญปากแก้วที่ใช้เลเซอร์ในการตัดทำให้บางกริบเพิ่มรสสัมผัสระหว่างปากเรากับเบียร์จนขับกลิ่นและรสให้เด่นชัดขึ้นสามระดับทุก ๆ การจิบ Hefeweizen: Schneider Weisse Tap 7 Mein Original / 5.4% ตามด้วย Hefeweizen จากเยอรมันอย่าง Schneider Weisse Tap 7
กลับมาเป็นครั้งที่ 4 กับ วันเดอร์ฟรุ๊ต เฟสติวัลระดับโลกจัดโดยคนไทย ที่เฉลิมฉลองศิลปะ ดนตรี และไอเดียสร้างสรรค์ ผสานความยั่งยืนและความหลากหลายทางวัฒนธรรมแบบไม่เหมือนใคร เหล่าวันเดอเรอร์เตรียมตัวให้พร้อม #Wonderfruit2017 จะจัดขึ้นในวันที่ 14-17 ธันวาคม 2560 ณ เดอะฟิลด์ แอท สยามคันทรีคลับ พัทยา บัตรเข้างานราคาเฟสแรกเปิดจำหน่ายแล้ววันนี้ ทาง www.wonderfruit.co ความคืบหน้าล่าสุดสำหรับคอดนตรีตัวจริงทั้งหลาย วันเดอร์ฟรุ๊ต เผยไลน์อัพเฟสแรก พบกับเจ้าพ่อเทคโน Richie Hawtin ร่วมด้วย ศิลปินฮิปฮอปรุ่นเก๋าจากอังกฤษ Roots Manuva ศิลปินจากเท็กซัส Khruangbin กับแนวเพลงไซคีเดลิคผสมกลิ่นอายเพลงหมอลำของไทย และวงร็อคไซคีเดลิคของไทยที่ดังไกลระดับสากล Khun Narin นักร้องสาวชาวอังกฤษเจ้าของเพลงโซลฟังสบาย Izzy Bizu พร้อมทั้งดีเจและโปรดิวเซอร์ดนตรีอิเล็กทรอนิกส์และเทคโน อย่าง Gui Boratto, Nicola Cruz และ Be Svendsen ซึ่งเฟสแรกนี้ถือว่าเป็นทีเซอร์เรียกน้ำย่อยกันก่อน ติดตามการประกาศไลน์อัพอีกจำนวนมากในเฟสถัดไป นอกจากนี้ การกลับมาเป็นครั้งที่
เรื่องง่ายๆเกี่ยวกับแว่นตากันแดดที่เรามักมองข้าม
นอกจากเรื่องราวของสถานที่ท่องเที่ยว รวมถึงศิลปะ วัฒนธรรมของไทย ที่เลื่องชื่อระบือไกลไปทั่วโลก ทางด้านอาหารการกินของเรา ก็เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในอาหารที่ผู้คนทั่วโลกชื่นชอบ และมักมีชื่อของอาหารไทยติดอับดับอาหารอร่อยที่สุดในโลกอย่างสม่ำเสมอ และนี่คือที่มาของแคมเปญระดับโลกอย่าง Chang Sensory Trails (ช้าง เซนซอรี่ เทรลส์) ที่ต้องการเปิดประสบการณ์รสชาติอาหาร และเครื่องดื่มของไทยให้กับชาวโลกได้สัมผัส ซึ่งผลตอบรับจากการจัดงานครั้งแรก ณ เมืองท่าแห่งเอเชียอย่างสิงคโปร์เมื่อปีก่อน ต้องบอกว่าผู้คนต่างให้ความสนใจ และชื่นชอบในรสชาติความเป็นไทยอย่างมาก คอนเฟิร์มได้จากบรรยากาศภายในงาน ที่ UNLOCKMEN มีโอกาสได้ไปอิ่มอร่อยแบบเต็มที่ รับประสบการณ์ดี ๆ มาอย่างเต็มเปี่ยม มาในปีนี้ แคมเปญ Chang Sensory Trails ปีที่ 2 ยังคงเดินหน้าตอกย้ำความเด็ดดวงของอาหารไทยให้กับชาวโลก สานต่อเส้นทางสู่ระดับโลกอย่างยิ่งใหญ่ ด้วยการนำรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของอาหาร และเครื่องดื่มจากประเทศไทย ไปเปิดสัมผัสทั้งทวีปยุโรปและอเมริกา โดยเริ่มต้นออกสตาร์ทการเดินทาง ณ มหานครลอนดอน ประเทศอังกฤษ จากนั้นจึงลัดฟ้าข้ามทวีปมุ่งหน้าสู่ซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา ก่อนที่จะย้อนกลับมายังทวีปเอเชีย ณ ประเทศสิงคโปร์ อีกครั้ง เพื่อส่งมอบประสบการณ์ความเป็นไทยที่คาดไม่ถึง ให้ชาวต่างชาติประทับใจไม่รู้ลืม และแน่นอนว่า UNLOCKMEN ไม่พลาดที่จะไปร่วมสัมผัสประสบการณ์ความอร่อย
พูดถึงอินเดีย อย่างแรกที่ทุกคนนึกถึงคืออะไรกันครับ? คงนึกถึงแค่เมืองที่มีแม่น้ำคงคาไหลผ่าน และเป็นเมืองที่มีประชากรเยอะเป็นลำดับ 2 ของโลก ทุกอย่างต้องดูแน่น ๆ อึดอัดไปหมด เชื่อว่ามีหลายคนคิดแบบนี้ ภาพของอินเดียในหัวจึงไม่ได้สวยงามน่าไปเยือนสักเท่าไหร่ แนะนำว่าสลัดความคิดนี้ออกไปจากหัวก่อนครับ เพราะเราจะบอกว่านั่นเป็นแค่ส่วนเล็ก ๆ ส่วนเดียวของคำว่า “อินเดีย” UNLOCKMEN จะพาไปปลดปล่อยความน่าตื่นเต้น ฉีกทุกเส้นทางเดินเอื่อย ๆ ในเมืองหลวง กับการแนะนำ 10 การเดินทางแปลกตาที่เต็มไปด้วยความหลากหลายและเรามั่นใจว่านี่จะเป็นเส้นทางการเดินทาง ท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในอินเดียแน่นอน เมื่อเตรียมพร้อมก็แบกเป้ ไปลุยได้เลย! GUWAHATI TO TAWANG จุดเริ่มต้นแรกกับเส้นทางการเดินทางฝั่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดียอย่าง Guwahati ถึง Tawang จะต้องใช้เวลาเดินทางถึง 14-15 ชั่วโมงกับระยะทางประมาณ 509 กิโลเมตร เนื่องจากเส้นทางนี้ค่อนข้างมีความขรุขระเป็นอุปสรรคในการเดินทาง แต่รับรองเลยว่าคุ้มค่าสุด ๆ กับทุกทิศทางในการเดินทางที่มีวิวฉากใหญ่ ๆ ปกคุลมด้วยหิมะและบางส่วนตัดกับหญ้าเขียวชอุ่ม แน่นอนว่าตลอดเส้นทางเรายังสามาถแวะพักที่ Dirang ใน West Kameng เพื่อซึมซับวัฒนธรรมชาวพุทธที่วัด Kalchakra และ Ngingmapa หรือจะหยุดที่ Tezpur