ยิ่งบ้านน่าอยู่มากเท่าไหร่ เรายิ่งอยากใช้เวลาอยู่บ้านนานขึ้นเท่านั้น และมากกว่าการเป็นที่อยู่อาศัย บ้านยังสะท้อนถึงตัวตนและไลฟ์สไตล์ของเจ้าของบ้านอีกด้วย เพื่อเติมเต็มรายละเอียดในชีวิตให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น Unlockmen เลยอยากแนะนำ 6 บริษัทอินทีเรียชื่อดัง เพื่อเป็นตัวเลือกให้ทุกคนที่อยากเปลี่ยนโฉมบ้านใหม่ให้พื้นที่ในฝันกลายเป็นจริง PIA Interior อยู่บ้านยาว ๆ ทั้งทีขอมุมพักผ่อนที่อลังการสักหน่อย ใครอยากมีโซนในฝันและอยากใช้เวลาอยู่กับตัวเองหรือชวนเพื่อน ๆ มาสังสรรค์ ดูหนัง หรือปาร์ตี้ใช้ทุกซอกทุกมุมแบบนี้ เราขอแนะนำบริการของ PIA Interior เพราะผลงานของที่นี่ทรงพลัง หรูหรา และกล้าหาญ เก๋าด้วยประสบการณ์กว่า 25 ปี ให้บริการออกแบบมาครบทั้งที่อยู่อาศัยส่วนตัว โรงแรมและรีสอร์ทระดับไฮเอนด์ สำนักงาน ฯลฯ PIA Interior เน้นการตกแต่งที่สร้างสรรค์ ดึงเอกลักษณ์ความแตกต่างสร้างดีไซน์ไม่จำเจจากคอนเซ็ปต์ที่ผู้อยู่อาศัยต้องการถ่ายทอดลงรายละเอียดออกมาได้ครบทุกอณู หนุ่ม ๆ คนไหนที่ต้องการความเท่แบบยูนีคต้องปักหมุดไว้ Facebook: @PIAinterior Website: www.piainterior.com Hyper-Haus ถอดตัวตนของเจ้าของบ้านออกมาในทุกมุม ทำให้บ้านเต็มไปด้วยเรื่องราวที่มีเสน่ห์ตลอดกาล นี่คือคอนเซ็ปต์การทำงานของ Hyper-Haus ที่พร้อมดีไซน์บ้านให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคุณ Hyper-Haus ให้บริการระดับ Ultra-Luxury แบบ One
ถ้าพูดถึง ‘เซินเจิ้น (Shenzhen)’ ใครหลายคนคงลำดับภาพสินค้าก๊อบปี้จากหลากแบรนด์ดังทั่วโลกขึ้นมาในหัว แต่คนส่วนใหญ่อาจยังไม่รู้ว่าในช่วงสิบปีให้หลัง ภาพลักษณ์เก่า ๆ ของเมืองเซินเจิ้นได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง เมืองริมฝั่งตรงข้ามเกาะฮ่องกงเมืองนี้ไม่ได้เป็นเมืองแห่งการลอกเลียนเหมือนก่อน หากกลายเป็นเมืองนวัตกรรมและศูนย์กลางการออกแบบของจีนแผ่นดินใหญ่ไปเรียบร้อยแล้ว นอกจากผลงานดีไซน์เจ๋ง ๆ จาก Shenzhen Design Week สองปีซ้อนที่ทำเอาคนทั่วโลกตกตะลึง เมืองเซินเจิ้นยังมีผลงานสถาปัตยกรรมเท่ ๆ ซุกซ่อนอยู่ตามจุดต่าง ๆ ทั่วเมือง และร้านอาหาร ‘Voisin Organique’ ก็เป็นอีกหนึ่งผลงานสถาปัตยกรรมภายในที่โดดเด่นไม่น้อยในเมืองนี้ Voisin Organique เป็นร้านอาหารจีนในเขตฟูเทียน (Futian) ที่เน้นเสิร์ฟอาหารจีนดั้งเดิมและจีนร่วมสมัยแบบ farm-to-table โดยมีวัตถุดิบหลักเป็นเนื้อสัตว์ที่ไม่ใช้สารเร่งโต รวมทั้งผักออร์แกนิกที่ไม่ได้ผ่านการตัดแต่งพันธุกรรมหรือใช้ปุ๋ยเคมี ร้านนี้คือหนึ่งในผลงานการออกแบบของ Various Associates สตูดิโอออกแบบในเซินเจิ้นที่ได้แรงบันดาลใจมาจากประสบการณ์หลงทางในหุบเขาอันมืดมิด ทีมนักออกแบบจึงฉาบเพดานขึ้นสลับลงเพื่อเล่นกับความสูงชันต่างระดับ ตั้งใจดีไซน์สเปซออกมาให้คล้ายกับช่องว่างระหว่างหุบเขา โดยหวังว่าความต่างของความสูงจะดึงดูดผู้คนให้แหงนมองขึ้นไป สมทบด้วยแสงไฟสลัวที่สาดยาวลงมาจากด้านบน ราวกับแขกในร้านกำลังรับประทานอาหารจากก้นบึ้งของหุบเขา พื้นผิวภายในร้านตั้งแต่ผนังไปจนถึงฝ้าเพดานถูกเคลือบด้วยกระดาษฟอยล์สีเงินด้าน สร้างบรรยากาศสลัวรางที่ทำให้แขกรู้สึกเหมือนตนกำลังนั่งอยู่ท่ามกลางสายหมอกที่คลุมเครือ จะชัดก็ไม่ใช่ จะเลือนรางก็ไม่เชิง ภายในร้านแบ่งเป็นโซนเลานจ์ ห้องรับประทานอาหาร และห้องครัวสุดกว้างขวางที่มีขนาดมากกว่า 100 ตารางเมตร โซนเลานจ์ดีไซน์เป็นบาร์เครื่องดื่มหรูมาคู่กับเก้าอี้สีแดงทรงสูง มีโต๊ะกลมคู่โซฟาสำหรับแขกที่มาเป็นกลุ่ม รวมทั้งโต๊ะไม้กลมติดกับหน้าต่างช่องเล็ก
เรารู้จัก ‘ยูเครน’ ในฐานะประเทศลึกลับแห่งยุโรปตะวันออก และอาจเป็นประเทศที่โด่งดังเรื่องข่าวสงครามมากกว่าจะเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวหลากเชื้อชาติ แต่เมืองเคียฟ (Kiev) หรือ อิฟ (Kyiv) เมืองหลวงของประเทศลึกลับแห่งนี้ กลับเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรม วิทยาศาสตร์ การศึกษา และวัฒนธรรมของยุโรปตะวันออก แถมยังมีพื้นที่ว่างให้สถาปัตยกรรมปรากฏตัวเพื่อบอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์และความขลังผ่านกำแพงอิฐเก่าแก่ Rina Lovko Studio ได้รับโจทย์ให้ออกแบบ ‘Balthazar’ บาร์ชั้นใต้ดินที่ตั้งอยู่ทางใต้ของตลาด Besarabsky อันเป็นตลาดในร่มที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและชาวเมืองก็คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี Balthazar เป็นบาร์เครื่องดื่มเก่าแก่ที่ดูลึกลับและมีเสน่ห์เฉพาะตัว และ Rina Lovko Studio สตูดิโอสัญชาติยูเครนรายนี้ก็เข้ามาออกแบบภายใน โดยไม่ทิ้งกลิ่นอายความเก่าและเก๋าของวัสดุในอดีต ภายในบาร์เผยให้เห็นโครงสร้างแบบอินดัสเทรียลลอฟต์ที่ชัดเจน การตกแต่งจะใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้สีเข้มเป็นหลัก มีเบาะนั่งสีเขียว และกระเบื้องเคลือบเฉดเขียวหุ้มฐานของเคาน์เตอร์ เพื่อสร้างบรรยากาศลึกลับ มีเสน่ห์ และน่าค้นหา แสงไฟสลัวตามมุมต่าง ๆ ของร้านเกิดจากการผสมผสานของเทียน โคมระย้า และโคมไฟตั้งพื้นที่คลุมด้วยผ้า ส่วนผนังและเพดานยังคงความเก่าของอิฐมอญที่ก่อรูปร่างไว้เมื่อหลายปีก่อน โดยไม่ได้ดัดแปลงหรือแต่งเติมจนความขลังที่ว่านั้นเลือนรางไป แม้การออกแบบภายในครั้งนี้จะไปได้สวย แต่ Rina Lovko Studio ก็ยังต้องเจอกับปัญหาใหญ่ เพราะเดิมทีบาร์ใต้ดินแห่งนี้มีทางเดินคดเคี้ยวและลูกค้ามักจะถูกเพดานอิฐความสูง 1.6 เมตรมาขัดจังหวะการเดิน เนื่องจากไม่สามารถทุบเพดานอิฐด้านบนที่เป็นโครงสร้างหลักได้
Wabi-sabi (วะบิ-ซะบิ) เป็นอีกแนวทางการออกแบบของญี่ปุ่นที่โด่งดังไม่แพ้มินิมัลสไตล์อันเลื่องชื่อ บ้างว่า Wabi-sabi คือปรัชญาการใช้ชีวิตเช่นเดียวกับ Ikigai (อิคิไก) แต่ไม่ได้มุ่งเน้นเรื่องการค้นหาความหมายในชีวิต หากว่าด้วยเรื่องการยอมรับความไม่สมบูรณ์ของทุกสรรพสิ่งรอบตัว นอกจากแนวคิดนี้จะหยั่งรากลึกลงในวิถีชีวิตของคนญี่ปุ่นแล้ว Wabi-sabi ยังเข้ามามีอิทธิพลต่อแวดวงการออกแบบด้วยเช่นกัน เหล่านักออกแบบและสถาปนิกบางคนเริ่มนำวัสดุที่ผุกร่อนและมีรอยตำหนิมาใช้ในงาน เลิกยึดติดกับความงามตามอุดมคติและเปิดใจยอมรับว่าบางครั้งความไม่สมบูรณ์แบบก็งดงามและมีคุณค่า NC Design & Architecture สตูดิโอออกแบบของฮ่องกงได้รับโจทย์ให้ออกแบบห้องที่มีพื้นที่ใช้สอย ดูสวยงาม และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สตูดิโอรายนี้จึงนำวัสดุที่มีร่องรอยขีดข่วนและรอยตำหนิ ตั้งแต่เฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ไปจนถึงของตกแต่งชิ้นเล็ก มาสร้างสรรค์ผลงานสถาปัตยกรรมภายใน ที่สะท้อนความงดงามของความไม่สมบูรณ์แบบตามหลักปรัชญา Wabi-sabi พื้นที่ใช้สอยขนาด 157 ตารางเมตรถูกแบ่งให้เป็นสามส่วนหลักคือห้องนั่งเล่น ห้องนอน และห้องน้ำที่มีทางเดินไม้ยกระดับเป็นตัวกั้น ซึ่งทางเดินไม้ที่ออกแบบให้สูงกว่าพื้นห้องนั้นได้แรงบันดาลใจมาจาก Genkan (เก็นคัง) โถงทางเข้าบ้านที่ไล่ระดับพื้นตามแบบบ้านญี่ปุ่นดั้งเดิม ส่วนห้องครัวและห้องอ่านหนังสือจะตั้งอยู่ทางด้านหลังของห้องหลัก ภายในอพาร์ตเมนต์นี้ดีไซน์ด้วยวัสดุธรรมชาติเป็นหลัก ใช้พื้นไม้และผนังไม้บางส่วนสร้างความอบอุ่นแบบบ้านญี่ปุ่น ผนัง เพดาน ผ้าม่าน และเฟอร์นิเจอร์บางชิ้นก็เลือกใช้เป็นสีเอิร์ธโทนที่ดูอบอุ่นเช่นกัน แม้จะตกแต่งให้ดูเรียบง่าย แต่ก็มีเฟอร์นิเจอร์หินอ่อนที่มีรอยตำหนิหลายชิ้นช่วยสร้างความโดดเด่นและเป็นจุดนำสายตา ทั้งยังได้หินอ่อนทรงเรขาคณิตและโลหะออกซิไดซ์เก่า ๆ ประดับประดาตามผนัง เป็นเหมือนงานประติมากรรมขนาดย่อม เฟอร์นิเจอร์ที่ติดตั้งในห้องนั่งเล่นยังถูกเลือกสรรอย่างพิถีพิถัน เพื่อสร้างบรรยากาศที่สงบ เรียบง่าย และดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด โทรทัศน์และประตูที่เชื่อมไปยังห้องต่าง ๆ
ในบรรดาสถาปัตยกรรมทั้งหมด คงต้องยอมรับว่า ‘สถาปัตยกรรมภายใน’ เป็นสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวผู้ชายเรามากที่สุด มันครอบคลุมตั้งแต่การใช้ชีวิตในบ้านไปจนถึงที่ทำงาน นอกจากจะมุ่งเน้นจัดวางพื้นที่ในอาคารให้ตอบโจทย์ด้านสุนทรียศาสตร์แล้ว ยังเน้นหนักด้านประโยชน์การใช้สอยเพื่อให้ผู้คนที่อยู่แวดล้อมมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นตามมาด้วย แม้แต่ Branch Studio Architects สตูดิโอสถาปัตยกรรมชื่อดังยังนำหลักการออกแบบภายในมาปรับใช้ และแปลงโฉมอาคารบริหารของโรงเรียน Caroline Chisholm College ในเขต Braybrook ของกรุงเมลเบิร์น ให้กลายเป็นผลงานสถาปัตยกรรมสุดเท่ โดยมีกระดาษแข็งทรงกระบอกเป็นพระเอกหลักในการออกแบบ ‘Office Square’ หรือ ‘Piazza Dell’Ufficio’ ในภาษาอิตาลี เป็นอาคารสำนักงานรกร้างที่ไม่ได้ถูกใช้งานมาตั้งแต่ปี 1970 เดิมทีผนังอาคารจะดีไซน์เป็นสีฟ้าหม่น มาพร้อมมูลี่สีเบจที่ยิ่งเพิ่มความหม่นหมองขึ้นเป็นเท่าตัว ก่อนที่ Branch Studio Architects จะเข้ามาปรับปรุงโครงสร้างภายในของอาคารและเนรมิตพื้นที่เก่าเก็บให้กลายเป็นผลงานดีไซน์สุดเท่ สำหรับรองรับแผนกบัญชีและสวัสดิการของโรงเรียน Caroline Chisholm College แห่งนี้ จุดประสงค์ในการออกแบบอาคาร Office Square ไม่เพียงทำพื้นที่ให้เกิดประโยชน์และยกระดับงานดีไซน์ให้มีเสน่ห์ยิ่งขึ้น หากสถาปัตยกรรมภายในยังเข้ามาช่วยทำให้การติดต่อสื่อสารของพนักงานและนักเรียนเป็นไปอย่างราบรื่น บริเวณศูนย์กลางของสำนักงานสร้างเป็นสเปซเล็ก ๆ ที่เรียกว่า “Clock Tower” จัดวางกระดาษแข็งทรงกระบอกให้โค้งเข้าหากันจนเกิดเป็นมุมพักผ่อนขนาดย่อม ด้านในมีเคาน์เตอร์ทรงโค้งมนที่ดีไซน์มาให้คล้ายกับหน้าปัดของนาฬิกา พื้นที่โดยรอบจะแยกออกเป็นห้อง ๆ
ถ้าจะพูดว่าการออกกำลังกายกับผู้ชาย (บางคน) เป็นของคู่กันก็คงจะไม่ผิดนัก เพราะในปัจจุบันเป็นยุคที่ผู้ชายส่วนใหญ่เริ่มหันมาให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้น และการออกกำลังกายก็ไม่เพียงช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง หากยังสร้างมัดกล้าม สร้างรูปร่างกำยำล่ำสัน และทำให้ผู้ชายหลายคนดูภูมิฐานขึ้นมาได้ แต่คงต้องบอกว่าสภาพแวดล้อมของฟิตเนสก็มีผลต่อการออกกำลังกายไม่น้อย เพราะฟิตเนสที่มีผู้คนพลุกพล่านและทัศนียภาพไม่เอื้ออำนวย อาจทำให้หนุ่ม ๆ หลายคนไม่จดจ่อและจริงจังกับการออกกำลังมากเท่าที่ควร จะดีแค่ไหนถ้าพื้นที่ออกกำลังกายของหนุ่ม ๆ มีงานดีไซน์ที่ถูกยกระดับให้เอื้อประโยชน์แก่การออกกำลังกายและทำให้คุณจริงจังกับกิจกรรมเรียกเหงื่อมากยิ่งขึ้น VSHD Design นำสถาปัตยกรรมแนวบรูทัลลิสต์ (Brutalist) มาประยุกต์เข้ากับพื้นที่ออกกำลังกาย จนเกิดเป็น ‘WAREHOUSE GYM’ ฟิตเนสสุดคูลที่ใช้ดีไซน์เรขาคณิตเข้ามาเพิ่มความจริงจังให้กับการออกกำลังกายของหนุ่ม ๆ นี่เป็นฟิตเนสล่าสุดจากบริษัทฟิตเนสแวร์เฮ้าส์ยิม ตั้งอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าในกรุงดูไบ การออกแบบภายในเน้นหนักรูปทรงเรขาคณิตและแพตเทิร์นเดิม ๆ ซ้ำไปซ้ำมาจากอิทธิพลของสถาปัตยกรรมแบบบรูทัลลิสต์ ไฮไลต์ของฟิตเนสแห่งนี้คือมีการจัดหาดีเจเข้ามาสปินแผ่นเพลงเจ๋ง ๆ พร้อมตกแต่งแสงไฟให้เหมือนไนต์คลับ เพื่อสร้างสิ่งแปลกใหม่ให้กับการออกกำลังกาย VSHD Design ตั้งใจจะสร้างพื้นที่ออกกำลังกายให้มีกลิ่นอายเหมือนอยู่ในห้องใต้ดิน มอบความสงบ เป็นส่วนตัว และใช้งานดีไซน์เคร่งขรึมช่วยกระตุ้นให้ผู้ชายจริงจังกับการออกกำลังมากขึ้น ภายในโดดเด่นด้วยคาน เสา และผนังคอนกรีต พร้อมนำพาร์ติชั่นมากั้นเพื่อแบ่งโซนการออกกำลังกายอย่างเป็นระบบ แทนที่จะใช้การดีไซน์เปิดโล่งเพื่อให้แสงสว่างลอดผ่านเข้ามา ทีมนักออกแบบกลับประดับประดาแสงไฟสปอตไลต์มุ่งเน้นไปยังอุปกรณ์ออกกำลังกาย หวังปลุกเร้าอารมณ์และสะท้อนภาพลักษณ์ของฟิตเนสดั้งเดิม ทั้งยังติดตั้งกระจกทรงกลมเพื่อให้เกิดพื้นที่ต่อเนื่องแบบ open plan ช่วยให้ผู้ออกกำลังกายรู้สึกว่าฟิตเนสแห่งนี้กว้างขวางและไม่อึดอัดคับแคบ WAREHOUSE GYM ยังเลือกใช้วัสดุและของตกแต่งท้องถิ่นจากส่วนประกอบของธรรมชาติ
ถ้าพูดถึงสถาปัตยกรรมจีนโบราณ หนุ่ม ๆ หลายคนคงนึกภาพกำแพงเมืองจีนที่ใช้โครงสร้างอิฐก้อนใหญ่ถมทับด้วยดินเหลืองและเศษหินความยาว 21,196.18 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ 15 มณฑลทั่วประเทศแดนมังกร และเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง ในอดีตกำแพงอิฐที่ทอดยาวนี้ถูกสร้างขึ้นเป็นป้อมปราการเพื่อป้องกันการรุกรานดินแดน แต่ปัจจุบันมันกลายเป็นสถาปัตยกรรมจีนโบราณอันล้ำค่า ที่เป็นรากฐานให้งานออกแบบชนิดอื่น ๆ นอกจากไม้ที่เป็นจุดเด่นของสถาปัตยกรรมจีน การออกแบบพื้นที่ให้กว้างขวางก็เป็นอีกเอกลักษณ์ที่สำคัญไม่แพ้กัน ทีมสถาปนิกของ Zaha Hadid Architects จึงหยิบโครงสร้างสถาปัตยกรรมจีนโบราณผนวกเข้ากับการออกแบบสมัยใหม่ จนออกมาเป็นท่าอากาศยานนานาชาติปักกิ่ง-ต้าซิง ที่ผสมผสานเทคโนโลยีกับกลิ่นอายทางวัฒนธรรมของจีนอย่างลงตัว แม้อาคารผู้โดยสารขนาด 700,000 ตารางเมตร จะดีไซน์ออกมาให้กะทัดรัด แต่ก็สามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 72 ล้านคนต่อปี โครงสร้างของอาคารผู้โดยสารถูกล้อมด้วยหลังคากระจกที่เป็นเหมือนสกายไลต์ช่วยเปิดรับแสงจากธรรมชาติ พร้อมสร้างความรู้สึกโปร่ง โล่ง สบาย ให้กับเหล่านักท่องเที่ยว ที่นี่ใช้พลังงานจากแผงโซลาร์เซลล์ ระบบดูดความร้อนจากชั้นพื้นดิน ทั้งยังออกแบบช่องทางลำเลียงน้ำฝนและมีระบบจัดการน้ำที่เป็นระบบและมีประสิทธิภาพ การออกแบบภายในถอดแบบมาจากสถาปัตยกรรมจีนโบราณ ที่เน้นหนักในการจัดพื้นที่ให้เชื่อมต่อถึงกันได้แบบ open plan จากจุดศูนย์กลางของท่าอากาศยานผู้โดยสารสามารถเดินเชื่อมไปยังเครื่องบินโดยตรงผ่านประตูทั้ง 79 แห่ง เมื่อมองจากมุมสูงท่าอากาศยานแห่งนี้จะมีรูปทรงคล้าย ๆ ปลาดาว 5 แฉก ที่ไม่เพียงสวยงามแปลกตา
โลกส่วนตัวของเราไม่ได้มีอยู่แค่ในความคิดยามที่เราปิดการเชื่อมต่อตัวเองออกจากสิ่งรอบข้าง แต่พื้นที่ที่เป็นของเราอย่าง “บ้าน” หรือ “ห้องส่วนตัว” (พูดถึงในเชิงสถานที่ไม่ใช่บ้านในความหมายของครอบครัว) คืออีกพื้นที่ที่ทำให้เราได้เป็นตัวเองอย่างเต็มที่ ไม่ใช่แค่การปลดปล่อยความคิด อยู่ในอิริยาบถสบาย ๆ แม้ว่ามันจะไม่ได้เป็นระเบียบ ของกระจัดกระจายตามประสาห้องของหนุ่ม ๆ หรือเป็นห้องที่เรียบร้อยทุกกระเบียดนิ้วก็ตาม หากมันเป็นพื้นที่ที่เราได้เลือกสรรให้เป็นไปอย่างใจ การตกแต่งตั้งแต่พื้นจรดเพดาน เฟอร์นิเจอร์ทุกมุม ของตกแต่งทุกชิ้น ถูกเลือกให้มาอยู่ในพื้นที่ของเราแล้วล่ะก็ นั่นแหละถึงจะเรียกว่าโลกส่วนตัวได้แบบเต็มปาก ไม่ว่าห้องนั้นจะเป็นห้องนั่งเล่นที่รวมทุกคนเอาไว้ด้วยกัน ห้องทำงานที่เป็นเหมือนมุมสงบให้เราได้ปลีกวิเวกอย่างเต็มที่ ห้องนอนที่เป็นสุดยอดฐานทัพลับของผู้ชายที่ไม่อาจให้ใครก้าวเข้ามาได้ง่าย ๆ อย่าปล่อยให้มันเป็นห้องที่เลือกอะไรก็ได้มาวางอยู่ในนั้น เมื่อมันเป็นพื้นที่ของเรา ต้องลงมือทำให้มันเป็นของเราโดยสมบูรณ์ หากยังไม่มีไอเดียอะไร ไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหน UNLOCKMEN ขอแนะนำเทคนิคง่าย ๆ ที่จะเปลี่ยนห้องของคุณให้กลายเป็นห้องในฝันด้วยเทคนิคการแต่งห้องแบบคุมโทนด้วยการจับคู่สี ฟังดูเป็นเรื่องซับซ้อน แต่ลองใช้วิธีของเรากันก่อน รับรองว่าง่ายจนคุณอยากจะลงมือทำมันเดี๋ยวนี้เลย คุมโทนไม่ยาก ถ้ารู้จักจับคู่สี การคุมโทนคำพูดง่าย ๆ ที่แสนจะทำยาก ไล่มาตั้งแต่ในไอจีที่พยายามคุมแล้วคุมอีกก็ยังไม่ถูกใจเราเสียที จนมาถึงห้องที่เราเคยเห็นภาพห้องแสนจะคุมโทนอย่างใน Pinterest, Tumblr แต่ไม่เคยทำแบบนั้นได้ ซื้อของให้เหมือน วางเฟอร์นิเจอร์ตามแทบจะทุกมุมแล้ว ก็ยังมีบางอย่างที่ยังไม่เข้าที่เข้าทางและนั่นอาจเป็นสิ่งที่เรามองข้ามไปอย่างเรื่องของสีนี่แหละ ที่ไม่ได้เลือกอย่างพิถีพิถันมากพอ การจับคู่สีไม่ใช่เรื่องยาก แม้ไม่ได้มีหัวด้านศิลปะก็สามารถเข้าใจเรื่องนี้ได้เหมือนกัน มารู้จักการจับคู่สีกันทีละขั้นตอน อย่างแรกเราอยากให้นึกถึงวงล้อสีที่เราเคยเรียนในตอนประถมศึกษา เจ้านี่แหละที่จะทำให้เราเข้าใจเรื่องสีมากขึ้น
จากข้อเท็จจริงที่ว่าผู้คนส่วนใหญ่ใช้เวลา 1/3 ของชีวิตไปกับการนอน จึงแทบปฏิเสธไม่ได้ว่าห้องนอนนั้นถือเป็นอีกพื้นที่สำคัญของชีวิต ซึ่งนอกจากจะทำหน้าที่เป็นห้องสำหรับพักผ่อน ห้องนอนยังเป็นพื้นที่ที่สามารถสะท้อนตัวตนของเราออกมาได้เป็นอย่างดีผ่านเฟอร์นิเจอร์ รวมถึงข้าวของต่าง ๆ ที่เราเลือกใช้ภายในห้อง ด้วยเหตุผลนี้ทำให้ผู้คนทั้งหลาย รวมถึงผู้ชายอย่างเรา ๆ ต่างก็อยากมีห้องนอนในฝันที่ตกแต่งออกมาในรูปแบบที่ตัวเองปรารถนา ในสไตล์ที่เป็นตัวเองอย่างที่สุด แต่ถึงแม้ใจจะอยากแต่งห้องแบบเต็มที่ ก็ใช่ว่าจะจับต้นชนปลายความต้องการในหัวให้ออกมาเป็นรูปเป็นร่างของห้องนอนในฝันได้ชัดเจนขนาดนั้น วันนี้ UNLOCKMEN จึงขอแนะนำ 5 สไตล์การตกแต่งห้องนอนแมน ๆ ให้ออกมาเท่สมใจ เพื่อเป็นจุดตั้งต้นของไอเดียการออกแบบพื้นที่ส่วนตัวอย่างห้องนอนที่ถ่ายทอดความเป็นตัวเองออกมาได้ชัดเจนที่สุด และที่สำคัญคือต้องไม่หลุดคอนเซ็ปต์ความเท่ในแบบที่ผู้ชายอย่างเราต้องการ ไอเดียแรกสำหรับผู้ชายสายคลาสสิก เน้นคุมโทนสีน้ำตาลของพื้นห้อง และเฟอร์นิเจอร์ไม้ ขาดไม่ได้กับโซฟาหนังดี ๆ เอาไว้นั่งอ่านหนังสือสักตัว พร้อมเพิ่มความโดดเด่นสร้างลูกเล่นให้กับห้องไม่ให้ถูกกลืนไปด้วยสีน้ำตาลเพียงอย่างเดียวด้วยการเลือกเตียงนอน หรือ ตกแต่งผนังหัวเตียงในโทนสีเทา ซึ่งให้ความแตกต่างแต่ก็ยังกลมกลืนกับอารมณ์โดยรวมของห้องนอนสไตล์นี้ ถ้าความเรียบง่ายคือรูปแบบการใช้ชีวิตที่โปรดปราน การแต่งห้องนอนแนวมินิมัลคือทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะในความน้อยก็ยังมีความเท่แฝงอยู่ภายใต้ผนังห้องสีเทาเข้มตัดกับสีน้ำตาลอ่อนของเนื้อไม้ที่นำมาตกแต่งกรุเป็นผนังหัวเตียง และสำหรับเฟอร์นิเจอร์ที่เข้ากับห้องนอนแนวนี้เราแนะนำว่าควรหาเฟอร์นิเจอร์เรียบ ๆ ที่ไม่เน้นดีเทลของพื้นผิวและรูปทรงอะไรมากมายมาใช้ พร้อมเพิ่มมิติให้กับห้องด้วยการใช้สีดำเข้ามาแซมในส่วนของกรอบบานประตู, หน้าต่าง หรือไม่ก็โชว์ความติสท์ด้วยกรอบรูปสีดำเรียบ ๆ ก็ดูเท่ไม่ใช่เล่น อีกหนึ่งทางเลือกของหนุ่มสายมินิมัล แต่เพิ่มความอบอุ่นในแบบฉบับนิปปอนขึ้นมาอีกนิด เฟอร์นิเจอร์ รวมถึงผนังหัวเตียงไม้สีอ่อนยังเป็นหัวใจสำคัญหลักในการสร้างอารมณ์ความอบอุ่นเรียบง่ายให้กับห้องนี้ ที่แตกต่างออกไปก็จะเป็นในเรื่องของการเพิ่มสีสันรวมถึงลูกเล่นงานดีไซน์ข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ให้ห้องนอนห้องนี้ดูมีรายละเอียดและความขี้เล่นที่เพิ่มมากขึ้น
สำหรับหนุ่มคนไหนรักการตกแต่งพื้นที่ของตัวเองให้เป็นไปตามความชอบ คุมโทน คุมเรื่องราว ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน หรือแม้แต่สตอรี่ของของตกแต่งชิ้นนั้น ๆ ก็สามารถมาเป็นสิ่งตกแต่งได้เช่นกัน เชื่อเถอะว่าหนุ่มประเภทนี้มักจะสอดส่ายสายตาไปที่ดีเทลของสิ่งต่าง ๆ อยู่เสมอ เพื่อปรับเปลี่ยนสิ่งที่มีอยู่บ้าง และมองหาสิ่งที่จะมาเพิ่มเติมบ้าง UNLOCKMEN อยากชวนหนุ่มที่ชื่นชอบ Interior Design มาดู Documentary ที่เราแนะนำซึ่งเกือบทั้งหมดสามารถหาดูได้ใน Netflix เผื่อว่าใครจะได้ไอเดียเจ๋ง ๆ ไปไว้ใช้กับพื้นที่ของตัวเองกันบ้าง Amazing Interior บ้านหน้าตาธรรมดา ๆ หากมองจากภายนอก แต่พอได้ก้าวเข้าไปแล้วเราจะพบว่า Interior Design คือหัวใจสำคัญของบ้านหลังนั้น ๆ เพราะมันเปลี่ยนภายนอกที่น่าเบื่อ ธรรมดา เหมือน ๆ กันไปหมด ให้แตกต่างกันได้ตามความชอบของเราเอง ซึ่งเรื่องนี้จะพาเราไปดูบ้านเหล่านั้นที่ Interior Design ตอบโจทย์ความชอบส่วนตัวของเจ้าของแบบสุดขั้ว ไม่ใช่แค่การตกแต่งเล็กน้อย แขวนรูป ทาสี อะไรแบบนั้นแล้ว แต่ Beyond ไปถึงการทำพื้นที่นั้นให้กลายเป็นโลกส่วนตัวของเจ้าของจริง ๆ Stay Here ดีไซน์เนอร์และผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์จะพาเราไปดูพื้นที่เจ๋ง ๆ ที่เจ้าของเลือกจะเปลี่ยนมันให้เป็นที่พักแบบไม่เหมือนกันด้วย Interior Design