ย้อนไปในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งเริ่มต้นขึ้นในปี 1939 และจบลงในปี 1945 ท่ามกลางชีวิตหลังสงครามเหลือไว้เพียงซากปรักหักพัง ได้มีนวัตกรรมหลายอย่างที่เกิดขึ้นจากช่วงเวลายากลำบากที่สุดของมวลมนุษยชาติ หลายสิ่งถูกคิดค้นขึ้นเพื่อฟื้นฟูความสะดวกในการใช้ชีวิตด้วยเทคโนโลยีและสิ่งของที่หลงเหลืออยู่ บางอย่างเกิดขึ้นและดับไป บางอย่างก็ได้กลายเป็น Culture ฝังรากลึกลงไปในวิถีชีวิตของมนุษย์ หนึ่งในนั้นคือ Lambretta แบรนด์ scooter สัญชาติ Italian จากเมือง Milan ที่มีอายุรวมมากถึง 75 ปี นับตั้งแต่ Lambretta เผยโฉมโมเดลแรกสุดในปี 1947 ถือเป็นหนึ่งในแบรนด์ Scooter ที่มีประวัติความยิ่งใหญ่สืบทอดมาอย่างยาวนาน มีโมเดลระดับ Iconic ที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของ post-war Italian design และยังเป็นหมุดหมายบันทึกประวัติศาสตร์สำคัญของโลกแห่ง Scooter มากมายหลายรุ่น ก่อนจะพัฒนามาสู่ Lambretta รุ่นใหม่ ๆ ที่เราเห็นกันอยู่ในปัจจุบัน วันนี้เราจะพาไปย้อนดูเรื่องราวในอดีตที่สำคัญตั้งแต่ก่อนจะมีคำว่า Lambretta ผ่าน timeline ของ Scooter รุ่นต่าง ๆ ที่น่าสนใจ
หลังจากเปิดตัวครั้งแรกภายในงาน Milan Design Week 2022 ที่จัดขึ้น ณ เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 65 ล่าสุด LAMBRETTA X300 ก็ถึงเวลาเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย เมื่อค่ำคืนวันที่ 18 พ.ย. 65 ที่ผ่านมา ณ ลานพาร์ค พารากอน บรรยากาศในงานต้องบอกเลยว่ายิ่งใหญ่อลังการ สมศักดิ์ศรีครบรอบ 75 ปี LAMBRETTA เต็มไปด้วยเหล่าเซเลบคนสําคัญทั้งสายแฟชั่น ดนตรี ไลฟ์สไตล์ และสาวกรถสกู๊ตเตอร์ ตบเท้าเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง อาทิ มาร์โค เมาเร่อ, โต้ง Twopee, พลอย หอวัง, กอล์ฟ พิชญะ, โฟร์ ศกลรัตน์, แจ็ค แฟนฉัน, ปิ๊น Carnival, อาเบย์ ณรัฐ, เบ็น วราวุฒิ บราวน์, บู้
อิตาลี เป็นประเทศที่โดดเด่นด้วยเรื่องของแฟชั่น และวัฒนธรรมที่มีเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว อีกทั้งยังมีความคลาสสิคที่ถูกผสมผสานจนกลายเป็นเสน่ห์ที่ทำให้ใครหลายคนต่างหลงใหลกับดินแดนแห่งนี้ เท่านั้นยังไม่พอสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ยังได้ถูกถ่ายทอดมายัง “Lambretta” สกู๊ตเตอร์อิตาลีพันธุ์แท้ที่ถือกำเนิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 1947 พวกเขาสั่งสะสมประสบการณ์จากรุ่นสู่รุ่น จนมาถึงโมเดลรุ่นใหม่ล่าสุด “X300” ที่เพิ่งเปิดตัวในบ้านเราไปได้ไม่นาน “X300” ถูกเนรมิตขึ้นมาเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 75 ปีของ Lambretta มาพร้อมกับคอนเซปต์ “Heritage To Future” มันคือการถ่ายทอดความงดงามในอดีตที่ส่งต่อมาสู่ปัจจุบัน หรือให้อธิบายเข้าใจง่าย ๆ ก็คือการคงไว้ซึ่งจิตวิญญาณของความคลาสสิค แต่เติมเต็มด้วยความล้ำสมัยนั่นเอง ว่าแต่ความน่าสนใจของ “X300” มีอะไรบ้าง ทาง Unlockmen ขออาสาพาทุกคนไปสัมผัสกับมันกันครับ บอดี้รูปทรง DIAMOND LINES สัมผัสแรกที่เตะตาคงหนีไม่พ้นบริเวณบอดี้ของ “Lambretta X300” ที่โดดเด่นด้วยรูปทรงคล้ายกับเพชรสุดเลอค่า ซึ่งมาจากการออกแบบลายเส้นบริเวณตัวรถอย่างสวยงามนั่นเอง เท่านั้นยังไม่พอ “X300” ยังถูกดีไซน์มาให้ขับขี่ง่ายมากขึ้นกว่าเดิม ด้วยโครงสร้างของตัวรถแบบ Low & Long ช่วยลดปัญหาเท้าเหยียบไม่ถึงพื้นในขณะจอด อีกทั้งยังมีการบาลานซ์ที่ยอดเยี่ยม หมดห่วงเรื่องการทรงตัว ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความสนุกในการขับขี่มากยิ่งขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัว “Lambretta X300” ยังมาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 275 CC. มีระบบจ่ายนํ้ามันเชื้อเพลิงด้วยเทคโนโลยีหัวฉีด และระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ ส่วนการสตาร์ทไม่ต้องเสียบกุญแจ แค่วางไว้ใกล้ตัวรถก็สามารถสตาร์ทได้ทันทีด้วยระบบ Smart Key