เมื่อมองไปยังภาพรวมทิศทางการทำตลาดของโครงการคอนโดมิเนียมในปัจจุบัน ส่วนใหญ่หลายคนน่าจะเห็นตรงกันถึงเรื่องราวของทำเล, การเดินทาง รวมถึง Facilities มากมาย ที่ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นจุดขายในแทบทุกโครงการ แต่ท่ามกลางสิ่งที่ดูเหมือนจะกลายเป็นการตลาดสูตรสำเร็จของวงการอสังหาฯ ทางบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI กลับเลือกที่จะใช้วิธีสื่อสารแนวคิดการพัฒนาแบรนด์ใหม่อย่าง Park Origin ในรูปแบบที่เรียกได้ว่าฉีกกฎของวงการอสังหาริมทรัพย์เลยก็ว่าได้ กับแนวคิด A Perfect Living Platform ที่ถูกนำมาตีความเป็นโฆษณาโดยฝีมือผู้กำกับหนังโฆษณาระดับท็อปของวงการอย่าง ‘ต่อ-ธนญชัย’ หรือที่หลายคนรู้จักกันในนาม ‘พี่ต่อ-ฟีโนมีน่า’ ซึ่งได้เปลี่ยนนิยามของโฆษณาอสังหาฯ ที่พวกเราคุ้นเคย ไปสู่มุมมองที่ตัวพี่ต่อเองยังยอมรับถึงความกล้าของทางออริจิ้น ที่เลือกซื้อไอเดียนี้ ซึ่งแก่นความคิดที่พี่ต่อได้สื่อสารออกมาผ่านหนังโฆษณาชิ้นแรกนั้น ไม่ได้มีเส้นเรื่องที่ดำเนินตามรอยงานโฆษณาอสังหาฯ ที่เราเคยเห็น ลืมไปเลยเรื่องภาพสวย ๆ ของโครงการ หรือเรื่องราวไลฟ์สไตล์น่าอิจฉาในสังคมเมือง แต่สิ่งที่โฆษณาชิ้นนี้ต้องการนำเสนอ คือการกระตุ้นให้เราฉุกคิดแล้วมองในมุมกลับ เพื่อเข้าถึงเจตนารมณ์ของทางออริจิ้น ที่มองตัวเองว่า แม้จะอยู่ในฐานะของผู้สร้าง หรือผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ แต่ในขณะเดียวกันก็ถือเป็นผู้ทำลายพื้นที่ธรรมชาติเพื่อให้ได้มาซึ่งพื้นที่สำหรับการอยู่อาศัย ด้วยเหตุนี้จึงกลายเป็นที่มาของคำถามที่ว่า แล้วจะสร้างคอนโดมิเนียมอย่างไร ให้เกิดคุณค่าเหมาะสมกับธรรมชาติที่ต้องเสียไป และสามารถตอบโจทย์การอยู่อาศัยภายในคอนโดให้ได้มากที่สุด ? ซึ่งคำถามนี้ได้กลายเป็นหัวใจหลักของแนวคิดในการพัฒนาแบรนด์ Park Origin ที่พร้อมพลิกโฉมการใช้ชีวิตในคอนโดด้วยการสร้าง
“หลังจากประสบความสำเร็จ เราจะฉลองก่อน จากนั้นค่อยไปต่อ” ใครสักคนกล่าวไว้ เวลาที่เรามุ่งมั่นทำธุรกิจส่วนตัวจนประสบความสำเร็จขึ้นมา ความรู้สึกในโมเมนต์นั้นมันช่างเต็มไปด้วยความสุข และความภาคภูมิใจที่ใคร ๆ ก็ไม่สามารถแย่งพลังงานบวกนี้ไปได้ และเพื่อตอกย้ำความหอมหวลของความสำเร็จนี้ ก็คงต้องให้รางวัลตัวเองกันหน่อย โดย David DeSteno, PhD นักจิตวิทยา และผู้เขียน Emotional Success: The Power of Gratitude, Compassion and Pride ได้ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างอารมณ์และความสำเร็จจนพบว่า ความรู้สึกต่าง ๆ เช่น ความภาคภูมิใจ สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนในการมุ่งสู่ความสำเร็จที่มากกว่าในอนาคต การให้รางวัลกับตัวเองของผู้ชายอย่างเรา ๆ มีหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นฉลองให้สะใจ, ซื้อเสื้อผ้ารองเท้าใหม่มาเสริมหล่อ, สักลายใหม่เท่ ๆ , เป็นเจ้าของ gadget ที่อยากได้, ออกไปเที่ยวทริปในฝันให้สุดมันส์ หรือลงทุนเพื่อวันข้างหน้า ซึ่งอสังหาริมทรัพย์เองก็น่าสนใจสำหรับนักลงทุน และผู้ที่อยากให้รางวัลกับตัวเองเป็นที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้ชายคนเมือง ถ้าพูดถึงการให้รางวัลกับตัวเองเป็นที่อยู่อาศัย อะไรมันจะดีไปกว่ารางวัลแห่งความสำเร็จที่ทำให้เรารู้สึกพักผ่อนได้อย่างสงบภายในความหรูหราเหนือระดับท่ามกลางแห่งสีสันใจกลางเเมืองที่รายล้อมอยู่ ราวกับเป็นการหนีห่างจากชีวิตคนเมืองมาสู่ที่ที่จะช่วยให้จิตวิญญาณของเราได้พักผ่อน ที่ที่เราสามารถปลดปล่อยความเป็นตัวเองออกมาได้เต็มที่ จาก insight ของคนเมืองที่ว่านี้ ทาง SINGHA ESTATE ผู้นำทางด้านอสังหาริมทรัพย์
แม้เรื่องของทำเลจะยังคงเป็นปัจจัยหลักในการเลือกที่อยู่อาศัย แต่ด้วยวิถีชีวิตที่แตกต่างของคนเมืองรุ่นใหม่ในปัจจุบัน ทำให้เกิดเป็นความต้องการที่มากกว่าแค่การเดินทางที่สะดวกสบาย เพราะกลุ่มคนเหล่านี้ต่างให้ความสำคัญกับสิ่งที่เรียกว่าไลฟ์สไตล์ หากจะต้องลงหลักปักฐานกับที่อยู่อาศัยสักแห่ง แน่นอนว่าจะต้องเป็นที่ซึ่งถูกออกแบบมาอย่างสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ส่วนตัวได้เป็นอย่างดี ด้วยความเข้าใจถึง Insight ข้อนี้ ทาง LIFE LADPRAO VALLEY ลักชัวรี่คอนโดมิเนียม จาก AP จึงถูกพัฒนาขึ้นมาพร้อมความตั้งที่จะยกระดับงานดีไซน์คอนโดมิเนียม ด้วยแรงบันดาลใจที่มาจากไลฟ์สไตล์ผู้อยู่อาศัย กับจุดเด่นที่แตกต่าง เพื่อสะท้อนชีวิตคนเมืองรุ่นใหม่ที่มีความโดดเด่น และเต็มเปี่ยมด้วยอัตลักษณ์แห่งบุคคล ซึ่งเกิดจากการสร้างประสบการณ์ที่ไม่จำกัด จากความท้าทายและเรื่องราวประสบการณ์ใหม่ ๆ และพัฒนามาเป็นแรงบันดาลใจให้กับตนเอง ภายใต้การออกแบบแนวคิด ‘Live Your Adventurous Spirit’ ที่พร้อมเติมเต็มการใช้ชีวิตที่สมบูรณ์แบบให้กับคนเมือง ANNAPURNA SANCTUARY CIRCUIT จุดเริ่มต้นแห่งแรงบันดาลใจ Annapurna Sanctuary Circuit หรือแชงกรีล่าแห่งเนปาล สถานที่ที่ธรรมชาติแสดงพลังงดงามอย่าง น่าเกรงขาม เส้นทางยอดนิยมแห่งเทือกเขาหิมาลัย และเป็นเส้นทางที่คลาสสิคที่สุดเส้นนึงของโลก หนึ่งในความใฝ่ฝันของคนเมืองรุ่นใหม่สาย Adventure ที่ทุกธรรมชาติของขุนเขา จะเป่ามนต์ให้ผู้เดินทางหลงรักด้วยทิวทัศน์งดงามซึ่งไม่อาจพบเจอได้ในชีวิตประจำวัน ตลอดเส้นทาง ได้พบความหลากหลายของธรรมชาติ ตั้งแต่ป่าเขียวชอุ่มราวกับป่าเขตร้อน แม่น้ำจากหิมาลัย และพรมสีขาวผืนกว้างของทุ่งหิมะ และ Annapurna Sanctuary Circuit
เพราะชีวิตของเรามีหลายด้าน การเลือกบ้านและที่อยู่อาศัยจึงต้องใส่ใจกันมากหน่อย ว่าทำเลที่ตั้งนั้นตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของเราในทุกแง่มุมหรือไม่ ทั้งการทำงาน การเดินทาง ความสะดวกสบาย และสิ่งแวดล้อมที่จะช่วยเติมเต็มวันพักผ่อนให้มีความหมาย สนองแนวคิดแบบ Work-Life-Balance ได้ดี องค์ประกอบเหล่านี้ถือเป็นสิ่งที่ผู้ชายคนเมืองอย่างเรามองหา เวลาเลือกทำเลที่อยู่อาศัยให้กับตัวเอง และสำหรับสร้างครอบครัว ด้วยความที่ ที่อยู่อาศัยเป็นหนึ่งในปัจจัย 4 และเป็นความต้องการพื้นฐานของมนุษย์เพื่อการดำรงชีวิต ทำให้ปัจจัยในการเลือกถิ่นที่อยู่อาศัยของมนุษย์ในปัจจุบันนั้นส่วนใหญ่แล้วจะพิจารณาถึงความสะดวกในการเข้าถึง, คุณภาพของสิ่งแวดล้อม, ลักษณะที่ดินที่ใช้ในการปลูกบ้านและทำเลที่ตั้ง รวมถึงราคา โดยที่อยู่อาศัยนั้นสามารถตอบสนองมนุษย์ได้ทั้งความต้องการทางร่างกาย, ความต้องการทางสังคม และความต้องการทางจิตใจ มีหลายย่านที่น่าสนใจในการใช้ชีวิต โดยเฉพาะย่านใจกลางเมืองที่ล้วนกลายเป็นทำเลทองเกือบทุกพื้นที่ ปัจจุบันไลฟ์สไตล์ใหม่ ๆ จึงขยายตัวไปรอบ ๆ มากขึ้น และเป็นพื้นที่ศักยภาพที่สามารถจับจองการใช้ชีวิตแนวราบในบ้านได้อย่างไม่เหนื่อย หนึ่งในย่านที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้ดีก็คือ “ย่านราชพฤกษ์” ทำเลที่นักลงทุนอสังหาริมทรัพย์มองว่าเป็นทำเลแห่งคุณภาพ หน้าด่านแรกที่รองรับการขยายตัวของเมืองหลวงในอนาคตก่อนใคร ประชากรในพื้นที่ไม่แออัดเนื่องจากการวางแผนรองรับการเติบโตที่รัดกุมกว่า โดยถนนราชพฤกษ์นั้นเชื่อมต่อระหว่างถนนรัตนาธิเบศร์กับเพชรเกษม เชื่อมพื้นที่กรุงเทพฯตะวันตกกับใจกลางเมือง เดินทางสะดวก ไม่ว่าจะเป็นจากแหล่งออฟฟิศใจกลางเมืองอย่างสาทร สีลม หรือบางรัก หรือสำหรับใครที่ทำงานอยู่ย่านจตุจักรก็ไปกลับไม่ยาก สามารถเชื่อมต่อกับทางด่วนศรีรัชได้ใน 10 นาที ไม่ไกลอย่างที่เคยคิด และกลายเป็นทำเลยอดฮิตแห่งใหม่เพื่อการอยู่อาศัยไปแล้ว ไม่ใช่แค่คุณภาพของทำเลเท่านั้น การใช้ชีวิตในย่านนี้ก็สะดวกสบาย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่ไม่หยุดนิ่งบนพื้นที่ที่ห่างไกลความวุ่นวาย รายล้อมไปด้วยสถานที่แฮงเอาท์ อยากจะเดินเล่น หาของกิน มองหาของแต่งบ้าน ใช้เวลากับครอบครัว นัดสาวนัดเพื่อน
ท่ามกลางความวุ่นวายในกรุงเทพมหานคร ต้องยอมรับว่าที่อยู่อาศัยถือเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่สามารถกำหนดรูปแบบจังหวะชีวิตของคนเมืองอย่างเรา ๆ ได้เป็นอย่างดี ด้วยรูปแบบวิถีชีวิตหลักของผู้คนส่วนใหญ่ ที่หลีกหนีการเดินทางเข้าเมืองได้ยาก ด้วยภารกิจต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน ทำธุรกิจ หรือแม้กระทั่งวันพักผ่อน ที่ยังไงก็เลี่ยงการเข้าไปใช้ชีวิตซึ่งมี Lifestyle ผูกอยู่กับห้างสรรพสินค้า ร้านรวง รวมถึงสถานที่ต่าง ๆ ใจกลางเมืองไม่ได้ ด้วยเหตุผลเหล่านี้ทำให้ใครต่อใครต่างก็อยากหาที่อยู่อาศัยที่มีพิกัดอยู่ใจกลางเมือง หรือมีทำเลใกล้กับรถไฟฟ้า เพื่อให้จังหวะชีวิตที่รีบเร่งเคร่งเครียดนั้นผ่อนคลายลง กับการเดินทางในเมืองที่สะดวกสบาย สามารถประหยัดเวลาในการเดินทาง รวมถึงกำหนดเวลาวางแผนชีวิตได้ง่ายขึ้น และเมื่อมีความต้องการสูง แน่นอนว่าราคาค่างวดของพื้นที่ Prime Area ที่มีค่ายิ่งกว่าทองเหล่านั้น ต่างถูกจับจองไปพัฒนาเป็นโครงการคอนโดมิเนียมน้อยใหญ่ ที่มีราคาต่อตารางเมตรโหดใช่ย่อย ยิ่งในพื้นที่แถบสีลม, สาทร, พระราม 4 ซึ่งเป็นพื้นที่ CBD ศักยภาพสูงยิ่งไม่ต้องพูดถึง กับราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรของคอนโด Hight Rise แนวรถไฟฟ้า ที่ราคาทะลุ 1.5 แสนบาท ไปจนถึง 4 แสนบาท แล้วแต่ความหรูหราไฮโซของโครงการ ทำให้ใครที่วางแผนอยากมีคอนโดใจกลางกรุงใกล้รถไฟฟ้า อาจต้องถอดใจ ถอยไปมองหาทำเลในซอย หรือถอยไปไกลหน่อยในทำเลเกาะแนวรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย แต่จริง ๆ
ปฏิเสธไม่ได้ว่า “ความสุข” คือสิ่งที่ทุกคนล้วนปรารถนา ต่างคนต่างก็พยายามเสาะแสวงหาวิธีการที่จะได้มาซึ่งวิถีแห่งความสุข และเมื่อพูดถึงปรัชญาความสุขอันแสนเรียบง่าย ในปัจจุบันเทรนด์ความสุขจากประเทศในแถบสแกนดิเนเวียก็กำลังมาแรงไม่แพ้กัน ด้วยความที่ประเทศในแถบนี้มักถูกจัดอันดับให้เป็นประเทศที่ประชาชนมีคุณภาพชีวิตดีที่สุดในโลก ซึ่งส่งผลมาถึงดัชนีชี้วัดความสุขที่ผู้คนในแถบสแกนดิเนเวียก็มีความสุขมากไม่แพ้ใคร เมื่อมาวิเคราะห์ว่าทำไมชาวสแกนดิเนเวียนถึงมีคุณภาพชีวิตดี ใช้ชีวิตมีความสุขกว่าชาวบ้านชาวช่อง คงต้องยกเครดิตให้ความเป็นรัฐสวัสดิการอย่างสมบูรณ์แบบ ที่แม้จะมีการจัดเก็บภาษีหนักหน่วง แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือสิ่งที่รัฐซัพพอร์ตอย่างเต็มที่ ประชาชนสามารถเข้าถึงสาธารณูปโภค, การศึกษา, สาธารณสุข และอื่น ๆ อีกมากมายได้ฟรี อย่างทั่วถึง เท่าเทียม เปี่ยมด้วยคุณภาพ แต่ทั้งนี้อีกสิ่งหนึ่งที่มีส่วนสำคัญในการทำให้ดัชนีความสุขของชาวสแกนดิเนเวียนั้นพุ่งสูง แน่นอนว่าไม่ใช่แค่ปัจจัยภายนอกเรื่องความอุ่นใจ ความสะดวกสบายในการดำเนินชีวิตเพียงอย่างเดียว แต่มันคือหลักวิธีคิดที่ฝังรากลึกจนสะท้อนออกมาเป็นคาแรคเตอร์ของผู้คนในแถบนี้ ที่มีความเป็น Minimalist สูง ชื่นชอบความเป็นอยู่แบบเรียบง่าย ใช้ชีวิตสบาย ๆ มีความสุขกับสิ่งง่าย ๆ รอบตัว ซึ่งมีคำอยู่คำหนึ่งในภาษาสวีดิช ที่เป็นคำจำกัดความของวิถีชีวิตแบบนี้ คำนั้นคือคำว่า “Lagom” LAGOM Lagom อ่านออกเสียงว่า ลา-กอม มีที่มาจาก “Lagom är bäst” คำที่ชาวสวีดิช รวมถึงผู้คนในแถบสแกนดิเนเวียคุ้นเคยกันดี เพราะมันคือสุภาษิตเก่าแก่ ที่สื่อสารใจความว่า “ความพอดีนั้นคือสิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุด” และถูกขยายความออกมาเป็น Quote ที่ว่า
ทุกลมหายใจเข้าออกของชีวิต Urban Men อย่างเรา ๆ ไม่ได้ผ่านเลยไปเปล่า ๆ แต่เราใช้ชีวิตในแต่ละนาทีเพื่อตามหาความหมายที่จะเติมเต็มตัวตนของเราให้สมบูรณ์แบบได้มากขึ้น เราทุ่มเททำงานเต็มที่เพื่อตามหาความหมายแห่งศักยภาพที่แท้จริงซึ่งซ่อนอยู่ในตัวเรา เราพักผ่อนสุดเหวี่ยงไม่แพ้กันเพื่อตามหาความหมายของความรื่นรมย์ในชีวิต แต่ไม่ว่าเราจะ Work Hard Play Hard ขนาดไหนความหมายที่แท้จริงของชีวิตก็เป็นสิ่งที่เราครุ่นคิดถึงมันอยู่เสมอ โดยเฉพาะชีวิตเหนือระดับที่จะทำให้การทุ่มเททำงานหนักและการพักผ่อนอย่างรื่นรมย์มีความหมายชัดเจนต่อเรายิ่งกว่าที่เคย ดังนั้นจะดีแค่ไหนถ้าเรามีพื้นที่อยู่อาศัยที่เติมเต็มความหมายของชีวิตให้เราได้อย่างสมบูรณ์ ไม่ใช่แค่ความหมายของชีวิตธรรมดา แต่เป็นความหมายของชีวิตเหนือระดับที่จะช่วยให้เราเป็นตัวเราเองได้อย่างโดดเด่นและพรีเมียมกว่าที่ผ่านมา Banyan Tree Residences Riverside Bangkok ที่สุดแห่งความหมายของชีวิตเหนือระดับ Banyan Tree Residences Riverside Bangkok คอนโดมิเนียมระดับ Super Luxury ที่จะทำให้เราเข้าถึงชีวิตเหนือระดับได้อย่างไร้ที่ติ ความโดดเด่นอย่างไม่อาจหาใครเทียบเรื่องทำเลที่ตอบโจทย์ทั้งการเดินทาง การพักผ่อน การใช้ชีวิตซึ่ง Banyan Tree Residences Riverside Bangkok ผนวกรวมความสะดวกสบายแห่งย่านธุรกิจเข้ากับความสงบเงียบบนทำเลโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีวิวสวยหมดจดเข้ากันได้อย่างลงตัว ชีวิตที่ใช้ไปที่ Banyan Tree Residences Riverside Bangkok จึงพรั่งพร้อมไปด้วย Landmark สำคัญ ๆ และ Heritage Lifestyle น่าดื่มด่ำ
“สมบูรณ์แบบ” คือนิยามของชีวิตที่ Urban Men อย่างเราตามหา โดยเฉพาะการได้ทำงานให้สมบูรณ์แบบควบคู่ไปกับการได้พักผ่อนอย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งจะนำผู้ชาย Work Hard Play Hard อย่างเราไปสู่การใช้ชีวิตที่สมบูรณ์แบบอย่างที่คาดหวัง แต่การทำงาน การพักผ่อน ไปจนถึงการใช้ชีวิตอย่างสมบูรณ์แบบจะเป็นไปไม่ได้เลย ถ้าพื้นที่อยู่อาศัยไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการให้เราได้ การมีพื้นที่อยู่อาศัยที่ให้ความสมบูรณ์แบบกับเราได้ครบทุกด้านของชีวิตจึงเป็นสิ่งที่พวกเราต่างใฝ่ฝันถึง แต่การมีพื้นที่อยู่อาศัยที่ทำให้เราค้นพบความสมบูรณ์แบบแห่งการอยู่อาศัยที่มากยิ่งกว่าที่เราคาดหวัง จึงเป็นยิ่งกว่าความฝัน เพราะทุกวันนี้พื้นที่อยู่อาศัยที่มีไว้อยู่อาศัยเพียงอย่างเดียวมันไม่พอสำหรับเติมเต็มความสมบูรณ์แบบให้ชีวิตอีกต่อไปแล้ว พื้นที่อยู่อาศัยสำหรับ Perfect Living จึงต้องไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย แต่เป็น Perfect Living Platform ที่พร้อมสรรพด้วยทำเลแห่งการทำงาน การพักผ่อน การใช้ชีวิต และสามารถผสมรวมไลฟ์สไตล์หลากรูปแบบไว้ได้ในพื้นที่หนึ่งเดียว ที่สำคัญต้องให้ความพิเศษซึ่งที่อื่นให้ไม่ได้ จึงจะเป็น A Perfect Living Platform ที่ทำให้เราค้นพบชีวิตสมบูรณ์แบบที่มากกว่าอย่างแท้จริง พบความสมบูรณ์แบบที่มากกว่า: ทำเลที่ให้เราได้มากกว่า ชีวิตที่สมบูรณ์แบบเกิดขึ้นไม่ได้ หากเราติดอยู่ท่ามกลางทำเลที่ไม่เอื้ออำนวยความสะดวกให้ชีวิต เวลาซึ่งเป็นต้นทุนสำคัญที่สุดในชีวิตของเราจะค่อย ๆ ถูกกัดกินจากทำเลที่ไม่อาจตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวัน ทำเลที่สมบูรณ์แบบจึงเป็นอีกรายละเอียดสำคัญที่เราไม่ควรมองข้าม เพราะเราสามารถพบความสมบูรณ์แบบของชีวิตที่มากกว่าได้ในทำเลที่เติมเต็มทุกความต้องการของเรา “พร้อมพงษ์” เป็นย่านที่มีครบยิ่งกว่าความสมบูรณ์แบบ พรั่งพร้อมไปด้วยการเดินทางที่ช่วยย่นระยะเวลาในการทำสิ่งสำคัญให้เราได้ภายในพริบตา อีกทั้งยังเป็นแหล่งไลฟ์สไตล์ครบทุกด้านที่ช่วยยกระดับการทำงาน การพักผ่อนและการใช้ชีวิตของเราไปได้ไกลกว่าคำว่าสมบูรณ์แบบ EmQuartier : ห้างสรรพสินค้าที่เป็นยิ่งกว่าห้างสรรพสินค้า