“อยากใช้ชีวิตให้เต็มที่” ถ้อยคำนี้คงกำลังสะท้อนดังอยู่ในใจของใครหลายต่อหลายคน ยิ่งในกลุ่มคนรุ่นใหม่ซึ่งเต็มไปด้วยเป้าหมาย และไลฟ์สไตล์ที่โคตรจะหลากหลาย การได้มีพลังใช้ชีวิตแบบไม่มีสะดุด พร้อมใส่สุดในทุกกิจกรรม ย่อมเป็นสิ่งที่หัวใจของพวกเขาเหล่านั้นเรียกร้องต้องการอย่างยากจะปฏิเสธ จาก Insight ดังกล่าว เรียกได้ว่าเป็นโอกาสดี ที่ ROCKSTAR บูสเตอร์ดริ้งค์กระป๋องดาวสุดเท่จากอเมริกาเล็งเห็น พร้อมเดินหน้าลุยตลาดในประเทศไทย กับการเจาะกลุ่มเป้าหมายคนทำงานรุ่นใหม่ในช่วง Gen Millennials – Gen Z ที่มีไลฟ์สไตล์ “Work Hard, Play Harder” และต้องการผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเติมเต็มพลังให้กับการใช้ชีวิตแบบเต็มที่ในทุกวัน ด้วยจุดเด่นของ ROCKSTAR ที่วาง Position ไว้เป็นเครื่องดื่มเติมพลังระดับพรีเมียม มีภาพลักษณ์ทันสมัย โดดเด่นด้วยความสดชื่น ซาบซ่า รสชาติกลมกล่อม และยังเป็นเครื่องดื่มผสมกาเฟอีนที่พร้อมเป็นทางเลือกสำหรับคนรุ่นใหม่สาย Healthy ด้วยส่วนผสมของวิตามินซี – วิตามินบีรวม, โสมสกัด (Ginseng Extract) และ Taurine มีให้เลือกทั้ง ‘สูตรออริจินัล’ และ ‘สูตรไม่มีน้ำตาล’ และการจะยืนหนึ่งในตลาด คงไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของ Product
ช่วงนี้ขายของไม่ดี ตอนนี้ทุกแบรนด์เลยงัดทุกกลยุทธ์ที่มีมาใช้ แต่ด้วยสถานการณ์ที่อ่อนไหวแบบนี้ ใช่ว่าการตลาดที่คิดไว้จะได้ผลและที่สำคัญถ้าหวังจะโหนกระแสแบบไม่รู้เหนือรู้ใต้ แคมเปญหรือสิ่งที่คิดที่เผยแพร่ช่วงนี้อาจจะพาแบรนด์ร่วงได้ไม่รู้ตัว ทุกวงการต้องมีกฎ ทุกสถานการณ์ก็มีเส้นของมันที่ห้ามข้าม และนี่คือ 6 เทคนิคต้องรู้ก่อนวางกลยุทธ์ธุรกิจช่วงนี้ หลักการหลายข้อในนี้แม้สิ้นสุดสถานการณ์นี้ไปยังไงก็ยังเก็บมาใช้ได้ ถามตัวเองว่าทำไมคนจะต้องซื้อของ ๆ เรา สถานการณ์วิกฤตที่จิตใจคนกำลังอ่อนไหว จำไว้เสมอทุกแบรนด์กำลังทำสงครามความเชื่อมั่นอยู่ ของที่คุณขายไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม จะต้องเน้นคุณภาพ พัฒนาคุณภาพชีวิต และชักจูงอารมณ์ให้คนรู้สึกว่า “ควรซื้อ” สินค้า ลองพิจารณาสินค้าที่มีในมือ หาเอกลักษณ์ที่สามารถตอบโจทย์อินไซต์คนตอนนี้ ต่อให้ไม่สามารถช่วยเรื่องการป้องกันโรคโดยตรง แต่มันอาจจะมีข้อดีอื่น ๆ ที่สร้างความบันเทิง สร้างแรงบันดาลใจ หรือไวรัลกับฝูงชนที่เบื่อ ๆ อยู่บ้านได้ อย่าห้าวหิวเงิน เป็นฝ่ายให้และแบ่งปันก่อนเพื่อจดจำ ถึงจะต้องคิดถึงปากท้อง ต้องกินต้องใช้ แต่นาทีวิกฤตคนโลภจะอยู่ไม่ยืดอย่างที่คิด ดังนั้น ไม่ว่าสิ่งที่เราขายจะเกี่ยวข้องหรือไม่เกี่ยวกับสถานการณ์นี้ การตลาดที่ดียังคงเป็นการจัดแคมเปญ CSR หรือสร้างคอนเทนต์ให้คุณค่ากับสังคม จำไว้ว่าเมื่อไรที่คนเครียด คนเศร้า ถ้าเราป้อนความบันเทิงหรือสิ่งอื่นที่เขาจะได้ประโยชน์จากมัน ความรู้สึกบวกกับแบรนด์และการจัดอันดับในใจอาจนำเขากลับมาสนับสนุนเราได้ ตัวอย่างของสิ่งที่ควรทำ กรองคำ ระวังการใช้ภาษาเกินจริง อย่าโม้เก่ง ยกข้อดีเกินงาม เพราะหลายคนไม่มีงานทำในสถานการณ์นี้ ดังนั้น ควรแสดงความเอาใจใส่ เห็นอกเห็นใจกันและกัน
เคยไหม เวลานั่งอยู่บนรถที่ไม่มีที่ท่าว่าจะขยับ แต่หิวไส้แทบขาดแล้วทำอะไรไม่ได้ ทิ้งรถก็ไม่ได้เพราะพะวักพะวง บอกตรง ๆ ว่าหลายครั้งที่เดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะเห็นกระเป๋ารถเมล์โดดลงไปสั่งของกินร้านข้าง เราเองก็หิวมองตาละห้อย อยากจะฝากซื้อ แต่กลัวเสียม้า แต่ก็เกรงใจกระเป๋ารถเมล์ ลุกไปซื้อเองก็กลัวเสียม้า สุดท้ายเลยต้องแขวนท้องแล้วหันเหไปมองอย่างอื่นแทน ถ้านั่งหิวคารถติดแล้วสั่งอาหารให้มาส่งถึงที่ได้ก็คงดี เป็นเรื่องที่เราเคยคิดมานานแล้วแต่ยังไม่มีใครลองทำ ในที่สุดวันนี้ Burger King ก็คิดแบบเดียวกับเราเหมือนกันจึงสร้างแคมเปญใหม่ให้บริการที่เรียกว่า “the Traffic Jam Whopper.” ส่งเบอร์เกอร์ชิ้นโตของ Burger King ด้วยมอเตอร์ไซค์มาถึงหน้าต่างรถที่เรานั่ง We Believers คือ Agency เจ้าของแคมเปญนี้ พวกเขาผสมผสานระหว่างการใช้ฟีเจอร์สุดไฮเทคกับการจัดส่งรูปแบบดั้งเดิม ส่ง Whoopers (ชื่อเรียกเบอร์เกอร์ซิกเนเจอร์ของเบอร์เกอร์คิง) ในพื้นที่แออัดของเม็กซิโก หลังจากเริ่มต้นแคมเปญไป พบว่าผลลัพธ์มันเกินคาด เพราะยอดการสั่งเบอร์เกอร์เพิ่มขึ้นถึง 63% ตั้งแต่สัปดาห์แรกที่ปล่อยแคมเปญออกไป และมีการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันของ Burger King เพิ่มสูงขึ้นถึง 44 ครั้ง ส่งผลให้ Burger King ก้าวขึ้นมาเป็นแอปฯ Fast Food อันดับ
ไม่ว่าจะมีงานวิจัยชิ้นแล้วชิ้นเล่าออกมาพูดถึงอันตรายจากแสงสีฟ้ามากน้อยแค่ไหนก็ตาม แต่เรารู้ดีกว่าพฤติกรรมเหล่านี้คงไม่สามารถแก้ได้ทันที เพราะช่องทางสำหรับตามข่าวสารให้ทันของเราส่วนใหญ่ก็มาจากสมาร์ตโฟน แท็บเล็ตหรือจอคอมพิวเตอร์อยู่ดี ดังนั้น แทนที่จะมานั่งพูดเรื่องเดิม เรามามองอีกด้านหนึ่งอย่างพฤติกรรมการอ่านที่เปลี่ยนไปกันดีกว่า ในยุคที่คนเปิดหนังสือน้อยลง เปิดจอมากขึ้น แล้วพฤติกรรมการอ่านของเรามันเปลี่ยนไปจากเดิมมากน้อยแค่ไหน GO-Gulf บริษัท Web Agency ของ Dubai เขารวบรวมและนำเสนอสถิติออกมาในรูปแบบ Infographic ให้เข้าใจได้ง่าย ๆ แล้ว ลองเดาตัวเลขในใจเล่น ๆ แล้วไปดูพร้อมกัน ผู้เขียนบอกได้เลยว่าข้อมูลนี้มันเป็นประโยชน์กับ Online Marketing และคนที่เขียน Content online มาก 8 วินาทีมาตรฐาน เกิน 15 วินาทีขึ้นไปถึงได้ใจ จากปี 2000 เราเคยใช้เวลาเฉลี่ยอยู่ที่ 12 วินาที แต่ผ่านมา 18 ปีเราทำสถิติลดลงไปอีก 4 วินาที เหลือการใช้งานอยู่ที่ราว 8 วินาทีแล้ว และจำนวนนักท่องเว็บ 55% ใช้เวลาไม่ถึง 15 วินาทีเท่านั้นในหน้าเว็บไซต์ แต่ถ้าเว็บไซต์ไหนสามารถสร้าง
ในโลกปัจจุบัน ผู้คนส่วนใหญ่ล้วนมีความเป็นปัจเจก เส้นสมมติที่เคยขีดรอยทางให้เราต้องดำเนินชีวิตตามกระแสหลักที่ใคร ๆ ต่างก็ว่าดี มันค่อย ๆ จางลง มีพื้นที่ซึ่งเปิดกว้างให้เรามีอิสระที่จะคิด ที่จะแสดงออกความเป็นตัวตนออกมาได้อย่างชัดเจนมากขึ้น หากมองในแง่การตลาด นี่คือโจทย์ยากที่จะสร้างแบรนด์ให้สามารถครองใจผู้บริโภคได้ในปัจจุบัน แต่ยังมีอยู่หนึ่งก้อนความคิดที่สามารถสร้างจุดร่วมให้เกิดการยอมรับในตัวแบรนด์ นั่นคือ ‘ให้แบรนด์ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงความเป็นตัวตนที่แตกต่าง’ ซะเลย ด้วยแนวคิดนี้ ทำให้ในปัจจุบันเราได้เห็นสื่อโฆษณา รวมถึงกิจกรรมทางการตลาดจากแบรนด์ต่าง ๆ ที่ใส่ความสนุก และกล้าที่จะแตกต่าง ลงไปในตัวงานมากขึ้น ซึ่งส่งผลดีในแง่ของการจุดประกายไอเดีย สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้บริโภคอย่างเรา ๆ นอกเหนือจากการโฆษณาเพียงอย่างเดียว ซึ่ง U BEER ถือเป็นอีกแบรนด์ที่น่าจับตามอง ด้วยความโดดเด่นในการนำแนวคิดที่เป็นตัวแทนของความแตกต่างมาใช้ได้อย่างชัดเจน ด้วยการตอบรับที่ดีจากกลุ่มคนรุ่นใหม่ พิสูจน์ได้จากกระแสโซเชียลที่ร้อนแรงมาตั้งแต่ปลายปีก่อน และหลังจากที่เปิดตัวผลิตภัณฑ์เบียร์ขวดไปแล้ว ล่าสุด U BEER ยังได้เปิดตัวบรรจุภัณฑ์ใหม่ในรูปแบบกระป๋อง ตอกย้ำภาพลักษณ์ตัวแทนของคนรุ่นใหม่ด้วยดีไซน์ของแพ็คเกจที่ดูเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยความเท่ โดดเด่นด้วยโลโก้ตัว U สีดำ ตัดกับกระป๋องสีเหลืองตัวแทนของความสนุกสดใส และการสร้างจินตนาการอย่างไม่หยุดยั้ง และการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ตัวนี้ ยังคงแนวคิดของ U BEER เอาไว้อย่างชัดเจน ด้วยความมุ่งหวังที่ต้องการให้แบรนด์ U เป็นแบรนด์ของ YOU หรือพวกเราทุกคน