ยังคงเดินทางส่งต่อความรักไซส์ BIG อย่างต่อเนื่องมาจนถึงครั้งที่ 5 กับทริป MINI BIG LOVE STORY เมื่อวันที่ 24 – 26 มิถุนายน ที่ผ่านมา และครั้งนี้แน่นอนว่าเราก็ไม่พลาดที่จะเก็บภาพความประทับใจมาฝากชาว UNLOCKMEN เหมือนเช่นเคย สำหรับทริปนี้ทาง MINI THAILAND ได้รวมพลเหล่า #MINIster กลุ่มคอมมูนิตี้คนรัก MINI กว่า 20 ครอบครัว มุ่งหน้าไปยังจุดหมายปลายทางจังหวัดจันทบุรี เพื่อสานต่อ BIG LOVE STORY ภายใต้สิ่งแวดล้อมที่สวยงามของเมืองจันท์ ไม่ว่าจะเป็น ทะเล ภูเขา เมืองเก่า และป่าชายเลน กับการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ที่ช่วยสนับสนุนวิถีชีวิตของชุมชนท้องถิ่น รวมไปถึงร่วมอนุรักษ์ฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม จัดเต็มกิจกรรมที่ทั้งสนุกสนาน และเป็นการกระชับความสัมพันธ์ของครอบครัวชาว MINI ได้เป็นอย่างดี โดยทริป MINI BIG LOVE STORY ที่จังหวัดจันทบุรี นั้นเริ่มกิจกรรมแรกด้วยการพากลุ่ม MINIster ไปช้อป ชม
มินิ (MINI) ถือเป็นแบรนด์รถยนต์ที่ครองใจผู้คนทั่วโลก เพราะยนตรกรรมของมินิไม่เคยมีคำว่าธรรมดา และรถยนต์ทุกคันที่ผลิตขึ้นก็ล้วนเกิดจาก Passion ที่จะสร้างรถยนต์เพื่อผู้คนทั่วโลก ตั้งแต่วันแรกจนถึงปีนี้ที่มินิเดินทางมาครบรอบ 60 ปี ย้อนกลับไปเมื่อปี ค.ศ. 1959 มินิเปิดตัวรถยนต์รุ่นแรกสู่ตลาด ก่อนจะสร้างตำนานรถยนต์ที่มีเอกลักษณ์ โดยไม่มีรถค่ายไหนสามารถเลียนแบบได้ ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์การขับขี่แบบ Go-Krat Feeling และยังคงเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ออกมาเรียกเสียงฮือฮาจนถึงปัจจุบัน ในโอกาสที่มินิมีอายุครบรอบ 60 ปี มินิ ประเทศไทย จัดกิจกรรมเป็นของขวัญตลอดทั้งปี พร้อมส่งท้ายปีอย่างยิ่งใหญ่ด้วยการมอบของขวัญชิ้นพิเศษให้แฟน ๆ มินิชาวไทยในงาน Motor Expo 2019 ด้วยการเปิดตัวโมเดลรถยนต์ใหม่ออกมาถึง 3 รุ่นด้วยกัน วันนี้ UNLOCKMEN จะพาทุกคนไปชมความพิเศษของบูธ MINI ในงาน Motor Expo 2019 มาดูกันว่าภายในบูธปีนี้จะสวยงามแค่ไหน และถือโอกาสทำความรู้จักกับรถคันใหม่ทั้ง 3 รุ่นที่ มินิ ประเทศไทย ขนมาอวดโฉมให้ทุกคนได้ชม พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับ MINIster ชาวไทยเท่านั้น เมื่อมาบูธของ MINI
60 ปี ถือเป็นช่วงเวลาอันยาวนานที่สร้างความเปลี่ยนแปลงได้ในชีวิตคนเรา ยิ่งถ้าพูดถึงสิ่งที่กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราได้นานถึง 60 ปี ไม่ว่าจะเป็นความทรงจำ สิ่งของ หรือสถานที่ ระยะเวลา 60 ปีนับเป็นเครื่องพิสูจน์ชั้นเยี่ยมว่าสิ่งนั้น “ทรงคุณค่า” มากเพียงใด ปี 1959 คือช่วงเวลาที่ผู้คนทั่วโลกได้รู้จักกับ MINI (มินิ) ในฐานะรถยนต์ไซซ์เล็กสไตล์อังกฤษที่มาพร้อมดีไซน์สวยงามและมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร ในขณะที่สมรรถนะก็ไม่เป็นสองรองใคร รวมถึงอายุการใช้งานที่ทนทาน ทั้งนี้จึงกลายมาเป็นรากฐานสำคัญที่ทำให้ผู้คนหลงใหลรถยนต์ของมินิ จนกลายเป็นรถคู่ใจของผู้คนทั่วทุกมุมโลก จนกระทั่งเดินทางเข้าสู่ปีที่ 60 แล้ว ไม่เพียงแค่ผู้คนทั่วโลกเท่านั้น ชาวไทยยังไว้วางใจรถยนต์มินิตลอดระยะเวลา 60 ปีที่ผ่านมา เป็นข้อพิสูจน์ว่ารถยนต์มินิทรงคุณค่าในสายตาชาวไทยอยู่เสมอ ในวาระครบรอบ 60 ปี มินิ ประเทศไทย จึงอยากมอบของขวัญสุดพิเศษให้กับคนรักรถมินิในประเทศไทยในงาน MINI THAILAND UNITED 2019 ที่มาพร้อมคอนเสิร์ตจากศิลปินชั้นนำ ไม่ว่าจะเป็น โต๋-ศักดิ์สิทธิ์, ว่าน-ธนกฤต, ทอม-อิศรา รวมถึงวง ETC วง Season Five และคู่หูดูโอ้ในตำนานขวัญใจหนุ่ม ๆ อย่าง Triumps
เวียนมาอีกครั้งสำหรับงาน Bangkok International Motor Show โดยในปีนี้เป็นการจัดครั้งที่ 39 เข้าไปแล้ว แน่นอนว่าเราไม่พลาดที่จะมาสัมผัสความหลากหลายของสุดยอดยนตรกรรมในงานนี้ที่ชาเลนเจอร์ฮอลล์ อิมแพคเมืองทองธานี แต่ละคนอาจจะมีบูธในดวงใจชนิดที่ต้องเดินเข้าไปหาเป็นบูธแรกต่างกันออกไป และสำหรับบูธที่เราต้องแวะไปก่อนใครเสมอ ก็คือ MINI ที่สุดของ Iconic Car จากประเทศอังกฤษ ที่ยังคงเอกลักษณ์ความโดดเด่นดั้งเดิมไว้ครบถ้วน ผสมผสานกับนวัตกรรมใหม่ตามแนวคิด “From the original to the Original” ได้อย่างเต็มที่ทั้งตัวรถและการออกแบบบูธที่ใครเดินมาต้องหลงคิดว่าอยู่ London กันเลยทีเดียว บูธของ MINI ในปีนี้เต็มไปด้วยกลิ่นอายเมืองผู้ดี ที่ได้รับแรงบันดาลใจการออกแบบสไตล์ London Street โดยการจำลองบรรยากาศจากท้องถนนในกรุง London เมืองหลวงประเทศอังกฤษ ผู้ผลิตยนตรกรรมที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานตั้งแต่ปี 1959 ค่ายนี้ จะมาโชว์ของร้อนแรงในงาน Motor Show ทั้งที ย่อมต้องมีทีเด็ดเอาใจสาวก MINI ผู้ชื่นชอบรถขนาดกะทัดรัด ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยจุดเด่นด้านความสนุกสนานในการขับขี่แบบ Go-Kart Feeling และเสน่ห์ในแบบผู้ดีแดนอังกฤษ เรียกว่า ถ้าอยากใส่สูทให้เท่กว่าใคร ต้องสูท Kingsman จากอังกฤษ ถ้าอยากขับรถที่มีเรื่องราวประวัติศาสตร์และสร้างความโดดเด่น ต้องขับ MINI Cooper
ไม่ว่าใครก็ต้องการรถยนต์ที่ขับดูดี ขับสนุก ขับแล้วภาคภูมิใจ ที่สำคัญคือ มีรูปลักษณ์โดดเด่นสวยงามสะดุดตากันทั้งนั้น แต่จะมีรถแบบที่ว่าสักกี่คัน ที่มีคุณสมบัติตอบสนองความต้องการได้ครบถ้วน โดยเฉพาะผู้ชายอย่างเรา การซื้อรถสักคันนั้น มันต้องมีความเจ๋งอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ในรถคันนั้นด้วย DNA ความเจ๋งที่ว่านี้แหละ เป็นจุดที่จะทำให้เรารู้สึกหลงใหลรถแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่งมากกว่าอีกแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และแน่นอน ฟีลลิ่งการขับขี่ที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างเข้มข้นผ่านทุกยุคสมัย ผสมผสานเข้ากับเทคโนโลยียุคใหม่ที่ล้ำหน้าขึ้นเรื่อย ๆ เช่นเดียวกับ DNA ของรถยนต์ MINI ที่ไม่ว่าใครก็ตามที่กำลังมองหารถสักคันหนึ่ง แต่มีข้อแม้ว่าต้องเป็นรถที่ขับสนุก เร้าใจ ได้ฟีลลิ่งความมันส์เสมือนขับ Go-Kart ในสนามแข่ง และมีความแตกต่างเป็นตัวของตัวเองกว่าใครบนท้องถนน สะท้อนคาแรคเตอร์ของผู้ขับได้ทันที ก็คงจะเป็นรถยนต์จากค่ายอื่นไปไม่ได้ ด้วยสมรรถนะระดับตำนานที่เป็นเลิศจนยากจะมีใครเลียนแบบได้ ยังคงถูกถ่ายทอดต่อมาจากอดีตจนถึงปัจจุบัน จนหลายคนถึงกับยกย่องให้รถยนต์จากค่าย MINI เป็นหนึ่งในตำนานที่ยังมีชีวิต และไม่เคยทิ้งจิตวิญญาณความเป็นตัวเองไปเลยแม้แต่น้อยมาจนกระทั่งทุกวันนี้ เรียกว่าเห็นแค่เสี้ยวเดียวของรถ หรือได้ยินคำว่า MINI แม้แต่คนที่ไม่ได้สนใจรถยนต์ ยังสามารถนึกภาพในหัวออกได้ทันที วันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักเรื่องราวของรถยนต์ไซส์กะทัดรัด แต่สมรรถนะใหญ่เกินตัว จากต้นกำเนิดมาจนถึงยุคปัจจุบัน และหาคำตอบไปพร้อม ๆ กันเลยว่า ทำไม MINI ถึงได้กลายเป็นรถที่คนนิยมไม่เสื่อมคลาย คงต้องย้อนไปไกลถึงปี 1959 ซึ่งเป็นปีแรกที่มีคนทั่วไปได้ทำความรู้จักกับแบรนด์รถยนต์