เดือนพฤษภาคมถือเป็นอีกเดือนที่อุดมไปด้วย “วันหยุด” ที่เราจะได้หยุดงานนอนตีพุงหรือไปเที่ยวไหนต่อไหนให้ชุ่มปอด แต่ COVID-19 ก็ทำให้โลกทัศน์วันหยุดเราต้องเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง วันหยุดจำนวนมากแต่ไม่อาจออกไปไหนได้ (เพื่อความปลอดภัยของตัวเราและผู้อื่น) รวมถึงสถานที่หลายแห่งที่ยังต้องปิดตามมาตรการของรัฐและเคอร์ฟิว ทำให้วันหยุด (และวันธรรมดา) ของเดือนพฤษภาคม 2020 นี้ มีแต่บ้าน บ้าน บ้าน และบ้านเท่านั้น โชคดีที่เราอยู่ในโลกยุคที่บ้านยังมีทีวี อินเทอร์เน็ต และสตรีมมิงให้ได้ท่องเที่ยว เดินทางไปกับหนัง ซีรีส์ สารคดี ฯลฯ การอยู่บ้านจึงน่าเบื่อน้อยลง ดังนั้นพฤษภาคมนี้ใครที่ยังไม่รู้ว่าจะใช้วันหยุดไปกับอะไร เราแวะเอาคอนเทนต์จาก NETFLIX มาให้เลือกสรร The Godfather ความดีงามของระบบสตรีมมิงคือการที่เราจะดูเมื่อใด หยุดเมื่อใดก็ได้ หนังทั้งเรื่องเป็นของเรา การได้ดูที่มีหลาย ๆ ภาคในวันหยุดยาวแบบฉ่ำใจจึงเหมือนเป็นการได้เสพของอร่อยเต็มอิ่มของคอหนัง โดยเฉพาะเมื่อหนังเรื่องนั้นเป็นหนังระดับตำนาน จะมีอะไรดีกว่านี้อีก? The Godfather คงไม่ใช่หนังใหม่อะไร (แต่เราเชื่อว่าหลายคนก็อาจยังไม่เคยดู) ใครที่เคยดูแล้วก็ถือเป็นโอกาสอันดีในช่วงเดือนที่วันหยุดเยอะได้ย้อนกลับมาดูหนังแก๊งสเตอร์ระดับตำนานเรื่องนี้อีกหน The Godfather เรื่องราวว่าด้วยครอบครัวมาเฟียที่ไม่ได้มุ่งไปที่อาชญากรรมโดยตรง แต่ให้ฟีลรุ่นใหญ่ใจต้องนิ่ง โคตรมาเฟียที่ไม่ต้องข้องแวะกับความเป็นอันธพาล แต่อหังการตราตรึงใจนักวิจารณ์และคนดูแม้เวลาผ่านมาเป็นสิบ ๆ ปีแล้วก็ตาม ความดีงามคือมาครบทั้ง
อยู่คนเดียวมากี่วันแล้ว? โดดเดี่ยวแค่ไหน? รู้สึกเดียวดายบ้างหรือเปล่า? สถานการณ์ COVID-19 บีบคั้นให้ใครหลายคนต้องเก็บตัวอยู่ในที่พักอาศัยอย่างโดดเดี่ยว ท่ามกลางลมหายใจลำพังนั้นบางครั้งเราเผลอพูดกับตัวเอง บางทีหัวเราะท้องแข็งกับโพสต์จากเฟซบุ๊กแล้วจะหันไปแชร์กับใครสักคน แต่ตรงนั้นกลับมีเพียงอากาศว่างเปล่า หรืออย่างร้ายวินาทีที่เครียด กดดัน ไม่รู้ว่าอนาคตข้างหน้าคืออะไร น้ำอุ่น ๆ เอ่อไหลออกจากตา อยากหาไหล่ใครสักคนไว้ซับความเศร้า ก็กลับพบเพียงตัวเองกับหมอนใบเดิม เราเลยตั้งใจเอา ‘6 หนังมนุษย์เดียวดาย’ มาอยู่เป็นเพื่อน ใช่ มันไม่ได้ทำให้โดดเดี่ยวน้อยลง (บางเรื่องอาจเข้าถึงแก่นความโดดเดี่ยวเป็นเท่าทวี) แต่ในทุกเรื่องนี้จะพาเราทุกคนไปสำรวจความหมายของลมหายใจลำพัง ชีวิตโดดเดี่ยว และแต่ละวันอันเดียวดาย ในรูปแบบที่อาจทำให้เรามองความเดียวดายรายวันของเราในอีกมุมหนึ่ง ก็เป็นได้… Moon ความโดดเดี่ยวของใครหลายคนในวันนี้อาจชวนให้อึดอัด เพราะเราไม่รู้แน่ชัดว่าเราจะต้องกักตัวเดียวดายไปถึงเมื่อไร? มีจุดสิ้นสุดอยู่ที่ตรงไหน? ในทางกลับกัน ถ้าเรารู้ว่าเราต้องโดดเดี่ยวเป็นเวลาเท่าไร และจะได้กลับคืนสู่อ้อมกอดของทุกคนที่เรารักอย่างปกติ มันจะดีกว่ากันจริงหรือเปล่า? Moon คือหนังที่ว่าด้วยนักบินอวกาศที่ได้รับภารกิจสำรวจดวงจันทร์ หน้าที่ของเขาก็คือภารกิจ 3 ปีเต็มบนดวงจันทร์ตะปุ่มตะป่ำ แม้จะเดียวดาย แต่ก็รู้แน่ชัดว่าหลังจาก 3 ปี เขาจะได้คืนกลับมาตุภูมิ แต่ความลึกซึ้งของ Moon ไม่ได้พาเราไปสำรวจชีวิตประจำวันของนักบินอวกาศที่ต้องอาศัยอยู่คนเดียวเป็นเวลานานเท่านั้น สิ่งที่ทำให้เราตะลึงพรึงเพริด และชวนให้ขบคิดเรื่องชีวิตของเรา ความเป็นมนุษย์ เทคโนโลยี
แม้ในยุคนี้กระแสนิยมจะเทไปทางแพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิงอย่าง Netflix, HBO หรือ Amazon Prime Video แต่เชื่อว่ายังมีผู้ชายอีกหลายคนที่ไม่ได้สนกระแสและย้อนนึกถึงภาพยนตร์เก่า ๆ ในห้วงอดีตอยู่เสมอ เพราะภาพยนตร์แต่ละยุคล้วนมีพื้นหลังทางประวัติศาสตร์ กลวิธีถ่ายทำ และเส้นเรื่องที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยกันทั้งนั้น ทว่ายุคที่โดดเด่นด้านการสร้างสรรค์อะไรใหม่ ๆ ยุคที่เป็นจุดเริ่มต้นของภาพยนตร์หลากหลายแนว และยุคที่ได้ชื่อว่าแยกออกจากฮอลลีวูดยุคเก่าอย่างเต็มตัว คงต้องยกให้กับ ‘ภาพยนตร์แห่งยุค 70s’ ทำไมต้องเป็นภาพยนตร์ยุค 70s ? จริงอยู่ที่ในยุค 60s วงการจอเงินได้รับอิทธิพลจาก French New Wave หรือกลุ่มผู้สร้างภาพยนตร์ฝรั่งเศส ที่เริ่มถ่ายหนังในสถานที่จริงแทนสตูดิโอ เน้นหนักเรื่องความเป็นธรรมชาติ และใช้เทคนิคการตัดต่อสุดล้ำอย่าง jump cut, insert รวมทั้งการถ่ายแบบ long take แต่ภาพยนตร์ยุค 70s กลับต่างออกไป เพราะในช่วงคริสต์ศตวรรษ 1970 เป็นช่วงที่อเมริกาเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ มีสงครามและความไม่สงบกระจายตัวอยู่หลายแห่ง ในทางกลับกันดนตรี ศิลปะ หรือแม้แต่อุตสาหกรรมภาพยนตร์นั้นเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก บท เส้นเรื่อง รวมทั้งเนื้อหาของภาพยนตร์ในยุคนี้จึงเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพสังคมโดยรอบ เหล่าผู้สร้างภาพยนตร์ของยุค 70s ต่างสรรหาประเด็นหนัก
“แมว” ชื่อสัตว์ชนิดนี้มาพร้อมรูปลักษณ์ชวนให้ใจหลอมละลายเสมอ แต่ภายใต้ความน่ารัก สิ่งที่ซ่อนอยู่คือนิสัยยากแท้หยั่งถึง อยากมาก็มา อยากหายไปก็พร้อมจากไปอย่างไร้เยื่อใย เมื่อใดอยากอ้อนคลอเคลียก็พร้อมเคล้าคลอไม่ห่าง แต่บทจะรำคาญก็พร้อมฝากรอยแผลเป็นทางยาวไว้ให้ดูต่างหน้า ความไม่อาจคาดเดานี้จึงกลายเป็นเสน่ห์ของแมวที่ทำให้หนุ่ม ๆ ซึ่งไม่ว่าจะแข็งแกร่งแค่ไหน กลับยอมเทใจศิโรราบ นิยามตัวเองเป็น “ทาสแมว” แบบไร้เงื่อนไข ดังนั้นเพื่อเอาใจหนุ่มทาสแมวชาว UNLOCKMEN วันนี้เราหยิบ 5 หนังแมว ๆ ในหลากหลายรูปแบบมาให้คุณดื่มด่ำถึงที่ If Cats Disappeared from the World มนุษย์ที่ไม่ได้เป็นทาสแมวดูหนังเรื่องนี้แล้วยังเสียน้ำตา แล้วประสาอะไรกับหนุ่ม ๆ ทาสแมวทั้งหลาย! ไม่ว่าคุณจะคิดว่าคุณแข็งแกร่งแค่ไหน แต่ดู If Cats Disappeared from the World แล้วต้องสะอึกสะอื้นแน่นอน หนังเล่าเรื่องราวของบุรุษไปรษณีย์ที่ทำสัญญากับปีศาจ ถ้าเขาอยากมีชีวิตนานขึ้น 1 วัน ต้องแลกกับของ 1 สิ่งที่จะหายจากโลกนี้ไปตลอดกาล… หนังเรื่องนี้ไม่เพียงบอกเล่าเรื่องราวของมนุษย์กับเจ้านายอย่างแมวเท่านั้น แต่จะชวนให้คุณตั้งคำถามกับตัวเองว่า “อะไรกันแน่ที่สำคัญที่สุดในชีวิตคุณ?” รับรองว่าคุณจะได้พิจารณาสิ่งต่าง ๆ รอบตัวอย่างลึกซึ้ง
ไม่บ่อยนักที่ทาง Marvel Studio จะยอมทำตามข้อเรียกร้องของเหล่าแฟนคลับ แต่ภาพยนตร์ “Black Widow” ในครั้งนี้ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งกรณีที่ทางเบื้องบนรับฟังเสียงเรียกร้องของแฟน ๆ จนสิ่งนี้เกิดขึ้นได้ในที่สุด สายลับรัสเซียสาว Natasha Romanoff (รับบทโดย Scarlett Johansson) คือหนึ่งในทีมอเวนเจอส์ยุคบุกเบิก ถึงแม้ที่ผ่านมาจะไม่มีหนังแยกของตัวเอง แต่บทบาทของเธอก็โดดเด่น แถมยังเป็นตัวแปรสำคัญในชัยชนะหลาย ๆ ครั้งของเหล่าอเวนเจอส์อีกด้วย ไม่แปลกที่คาแรกเตอร์นี้จะสามารถครองใจแฟน ๆ ทั่วโลกได้ทุกเพศทุกวัย และในที่สุดเทรลเลอร์แรกของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ถูกปล่อยออกมาให้แฟน ๆ ทั่วโลกได้รับชมกันสด ๆ ร้อน ๆ เมื่อวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา หลังจากได้ดูเทรลเลอร์แล้วก็เป็นอันเข้าใจตรงกันชัดเจนว่า Black Widow ไม่ใช่หนังเล่าจุดกำเนิดของ Natasha แต่เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนไทม์ไลน์ของ Avengers: Endgame โดยหนังเรื่องนี้มาพร้อมตัวละครใหม่ ๆ เช่น Yelena Belova (รับบทโดย Florence Pugh) และ Melina Vostokoff (รับบทโดย
เบื่อจะนั่งฟังเสียงฝนกระทบหน้าต่างที่ห้องเหงา ๆ คนเดียวหรือยัง? เบื่อการติดแหง็กไปไหนไม่ได้เพราะฝนตกมาเป็นอาทิตย์ ๆ แล้วหรือเปล่า? ถ้าใช่ เปลี่ยนวันฝนโปรยเหน็บหนาวให้เป็นวันที่อุณหภูมิพุ่งสูงกันหน่อยไหม? ลองชวนใครคนนั้นที่อยากอยู่ใกล้ ๆ มาดูหนัง 5 เรื่องนี้ไปด้วยกัน แม้ไม่มีฉากฝนตกเป็นประเด็นหลักของเรื่องให้เราอิน แต่ก็อาจทำให้เปียกแฉะหรืออุ่นจนร้อนกันไปข้าง THE DREAMERS เรื่องราวความสัมพันธ์ของฝาแฝดหนึ่งชายหนึ่งหญิงชาวฝรั่งเศสกับหนึ่งหนุ่มอเมริกันที่มาพบเจอกันในเมืองที่โรแมนติกและเต็มไปด้วยศิลปะอย่างปารีส คุณจะได้อุ่นจนร้อนคลั่งไปกับบทสนทนาเผ็ดเดือดว่าด้วยสังคม การเมือง ปรัชญา ศิลปะ แต่ในขณะเดียวกันหัวใจก็อาจเต้นไม่เป็นจังหวะด้วยฉากร้อนเร่าเกินบรรยายของตัวละครทั้งสามที่ผูกพันกันไว้ด้วยทัศนคติ วิธีคิดและเรือนร่างที่จะชวนให้วันฝนตกอุณหภูมิพุ่งทะลัก LOLITA เมื่อพ่อเลี้ยงหนุ่มใหญ่ ย้ายเข้าบ้านผู้หญิงที่คบหากัน แต่เธอคนนั้นก็มีลูกสาววัยกระเตาะพักอยู่ด้วย หนังจะพาเราไต่เขตแดนศีลธรรมของหนุ่มรุ่นพ่อกับสาวรุ่นลูกในพื้นที่อย่างบ้านหลังเล็ก ๆ ที่ดูจะมีเหตุให้ต้องใกล้ชิดเบียดแน่นกันอยู่ตลอดเวลา จะดูเพื่อร้อนวูบวาบทางใจกายก็ไม่เลว แต่หากอยากเดือดพล่านไปด้วยความหมิ่นเหม่ทางศีลธรรมที่สังคมอาจต้องช่วยกันหาคำตอบ เรื่องนี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวังแน่ ๆ STEALING BEAUTY เมื่อสาวสะพรั่งวัย 19 ปีเดินทางไปยังเมืองหนึ่งในอิตาลี เธอหอบสัมภาระ หัวใจ และตัวเธอที่ยังไม่เคยมีความสัมพันธ์ทางกายกับใครไปเยี่ยมเพื่อนของแม่ แต่อีกเป้าหมายที่เธอตั้งไว้คือเธอจะต้องได้ร่วมรักกับใครสักคนที่นี่ เมืองที่แม่ของเธอก็มามอบเซ็กซ์ครั้งแรกให้ใครบางคนไว้เหมือนกัน บอกเลยว่าแค่ตัวเรื่องเล่าก็ชวนอุ่นผะผ่าวที่แก้มแล้ว แต่ด้วยบรรยากาศของเมืองในยุโรปที่ชวนฝัน แดดอบอุ่นและความงามของหญิงสาวและเรื่องราวของหนุ่ม ๆ ที่ผ่านเข้ามา
เราเกิด เติบโต ใช้ชีวิตจนมีความคิดแบบหนึ่ง ความเชื่อแบบหนึ่ง ความรู้สึกแบบหนึ่ง แล้ววันหนึ่ง “บางสิ่งบางอย่าง” เข้ามากระแทกชีวิตเรา สั่นสะเทือนทุกสิ่งที่เราเคยเชื่อ เคยคิด เคยเป็น เคยรู้สึก จากนั้นชีวิตของเราก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เพราะ “บางสิ่งบางอย่าง” ทำให้เราเห็นโลกในมุมอื่นที่เราไม่เคยเห็น ทำให้เราได้คิดแบบใหม่อย่างที่เราไม่เคยคิด หรือทำให้เรามีความรู้สึกบางแบบที่เราไม่เคยรู้สึกมาก่อน บางสิ่งบางอย่างที่ว่าอาจเป็นใครสักคน เหตุการณ์สักเหตุการณ์ หนังสือสักเล่ม เพลงสักเพลง และใช่ อาจเป็นหนังสักเรื่องที่เปลี่ยนชีวิตเราไปตลอดกาล แต่ละคนจึงมี “หนังเปลี่ยนชีวิต” เป็นของตัวเอง UNLOCKMEN ชวนมาดูหนังเปลี่ยนชีวิตของพวกเรา เผื่อมันจะตรงกับหนังเปลี่ยนชีวิตของคุณ ทำให้คุณนึกถึงหนังเปลี่ยนชีวิตของตัวเองขึ้นมา หรือทำให้คุณจำได้ว่าชีวิตที่เปลี่ยนไปหลังจากดูหนังเรื่องนั้นมันมีรายละเอียดชวนนึกถึงเพียงใด The Fault in Our Stars – KAENG (CONTENT CREATOR) เราทุกคนมีเงื่อนไขในชีวิตไม่เหมือนกัน The Fault in Our Stars เล่าเรื่องราวของหนึ่งหนุ่มหนึ่งสาวที่มีเงื่อนไขในชีวิตเป็นความเจ็บป่วยทางร่างกาย หนังไม่ได้พาเราไปฟูมฟายเศร้าสร้อยกับสาวน้อยเป็นโรค แต่หนังทำให้เห็นชีวิต เห็นความหวัง และพาคุณไปพบบทเรียนบางอย่างที่เราเชื่อว่าคุณจะต้องฉุกคิดถึงชีวิตตัวเองแน่นอน KAENG’S OPINION: “ชอบที่หนังสื่อเป็นนัยว่าชีวิตคนเราไม่แน่นอน
John Wick : Chapter 3 ภาพยนตร์โคตรระห่ำที่ผู้ชมทั้งโลกตั้งหน้าตั้งตารอคอยการกลับมาของ คีอานู รีฟส์ พระเอกสุดเก๋าในบทนักฆ่าสวมสูทมาดเท่ ครั้งนี้ John Wick มาพร้อมกับชื่อภาค Parabellum ซึ่งอ้างอิงถึงภาษาลาตินที่ว่า “Si vis pacem , Para bellum” ในความหมายคือ “ถ้าต้องการสันติ จงเตรียมรับมือกับสงคราม” เรียกได้ว่าเป็นชื่อที่เหมาะกับสถานการณ์ของจอห์นที่นั่งไม่ติดในภาคนี้จริง ๆ เรื่องราวในหนังภาคสามก็อย่างที่แฟนคลับ John Wick รู้กันดีว่าเป็นการดำเนินเรื่องต่อจากตอนจบของภาคที่แล้ว เมื่อจอห์นถูกตัดหางปล่อยวัด (Excommunicado) เพราะแหกกฎศักดิ์สิทธิ์ขององค์กรที่บอกว่า “ห้ามฆ่าคนในพื้นที่ของโรงแรม The Continental” ทำให้เขากลายเป็นเป้าหมายของมือสังหารในเครือข่ายจากทั่วโลกที่ต้องการค่าหัวจำนวน 14 ล้านเหรียญ จอห์น วิค เหลือเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมง ก่อนที่หมายสั่งตายจากเบื้องบนหรือที่เรียกกันว่าสภาสูงจะมีผลบังคับใช้ ฉากตัวอย่างที่ถูกปล่อยออกมาจอห์นต้องวิ่งฝ่ามหานครนิวยอร์กในสภาพที่ดูไม่ได้ ซึ่งผิดนิสัยของจอห์นที่พร้อมจะบวกกับทุกคน แต่เมื่อเหตุการณ์มันบังคับ การเอาตัวรอดเป็นสิ่งที่เขาทำได้ในตอนนั้น สถานที่ที่คาดว่าเป็นเป้าหมายแรกของจอห์นน่าจะเป็นหอสมุดประชาชนนิวยอร์ก ซึ่งถ้าดูจากในแผนที่แล้วหอสมุดนั้นอยู่ไม่ห่างจากจุดที่เขาวิ่งมาคือ Central Park เราจะพาทุกคนไปไขความลับการล้างมลทินของจอห์น วิค กับของสำคัญหลายชิ้นที่จอห์นแอบซ่อนไว้ในหนังสือ ณ
ความรักอาจเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิต แต่ความสัมพันธ์ในรูปแบบคนรักเป็นอีกเรื่องหนึ่ง จริงอยู่ว่าการมีคนรักที่ดีและสุขสมหวังในความรัก รวมถึงการมีความสัมพันธ์ที่ราบรื่นนั้นเป็นเรื่องที่ทุกคนใฝ่ฝัน แต่ในความเป็นจริงสำหรับบางคนก็ถึงเวลาที่ต้องยอมรับว่า “วัความสัมพันธ์หอมหวานไม่ได้มีไว้สำหรับทุกคน” ประโยคนี้เป็นเรื่องจริงที่สุด วันนี้ UNLOCKMEN มีหนัง 5 เรื่องมาให้คุณได้รู้ซึ้งถึงความรักที่ไม่ได้หอมหวานหรือน่ารัก แต่ไม่ว่าจะมีความรักความสัมพันธ์แบบไหน เราก็ต้องมีชีวิตต่อไป The Lobster หนังตลกร้ายที่บอกเล่าผ่านความสัมพันธ์ผ่านพล็อตเรื่องโดดเด่น แปลกใหม่ แสบสันและจิกกัด มีฉากเป็นโลกกึ่งดิสโทเปียที่การไม่มีคู่ถือเป็นสิ่งผิดกฎหมาย คนโสดไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรจะโดนส่งตัวไปที่โรงแรม The Hotel ผู้ที่ถูกส่งไปมีเวลา 45 วันในการหาคู่ให้สำเร็จ ประเด็นมันอยู่ตรงที่ถ้าใครยังหาคู่ไม่ได้ในเวลาที่กำหนดจะถูกทำให้กลายเป็นสัตว์ หนังเรื่องนี้ถูกตีความเป็นหนังนอกกระแส แต่ก็ดูได้เพลิน ๆ ถ้าพูดถึงความสนุกมันก็เป็นเรื่องของรสนิยมส่วนบุคคลของพวกคุณแล้วแหละ 500 Days of Summer เมื่อความรักเป็นเรื่องของพรหมลิขิต Tom (Joseph Gordon-Levitt) ชายหนุ่มที่เชื่อในเรื่องพรหมลิขิตและ Summer (Zooey Deschanel) หญิงสาวที่เชื่อว่าความรักเป็นเรื่องเพ้อฝัน 500 วันแห่งเรื่องความรักของเขาและเธอจะหวานขมปนเฝื่อนขนาดไหน? เรื่องราวในหนังอาจจะเตือนใจใครบางคนได้ว่าคนที่คิดแบบเดียวกับเรา หรือทำอะไรเหมือนเรา ไม่ได้แปลว่าเขาคนนั้นจะเป็นเนื้อคู่ของเรา เพราะความหวานชื่นตลอดไปอาจไม่มีอยู่จริง Equals equals หนังโรแมนติกไซไฟในโลกยูโทเปียในอนาคตที่ไร้อาชญากรรม พลเมืองทุกคนถูกตัดต่อพันธุกรรมสะกดต่อมอารมณ์เอาไว้ ทุกคนตัดขาดความสัมพันธ์ส่วนตัว
ไม่ว่าจะเป็นเพลงหรือภาพยนตร์ เป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีการทำตามสูตรสำเร็จกันอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์หรือซีรีส์ก็ตาม ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไรถ้าไม่ได้ยกมาเลียนแบบทั้งโครงเรื่อง และจากกระแสซีรีส์ฮิตบน Netflix ที่เป็นตัวกำหนดเทรนด์การเขียนเนื้อเรื่องได้บ้างว่าต้องทำยังไงถึงจะสร้างยอดรับชมได้ถล่มทลายหลายล้านครัวเรือน หนึ่งในหลักสูตรนั้นคือการสร้างความตื่นเต้นอัดอั้นใจให้ผู้รับชมต้องใจจดจ่อเพื่อติดตามเรื่องราวที่ห้ามใช้ประสาทสัมผัสต่าง ๆ ของร่างกายเพื่อความอยู่รอด ไปดูกันว่าจะเป็นอย่างไรถ้าหากสิ่งต่าง ๆ ที่เคยทำเป็นปกติในชีวิตกลับกลายเป็นสิ่งต้องห้าม กับภาพยนตร์และซีรีส์ 5 เรื่อง 5 สไตล์ ที่เมื่อดูจบแล้วจะทำให้เราฉุกคิดได้ว่า ถ้าต้องอยู่ในสภานการณ์แบบเดียวกัน เราจะเอาตัวรอดจากสถานการณ์เหล่านั้นได้อย่างไร ห้ามมอง : Bird Box (2018) แค่ปิดตามเดินไม่กี่ก้าวยังน่ากลัว แล้วถ้าหากวันหนึ่งเราไม่สามารถมองเห็นอะไรได้อย่างเคยทั้งที่ตาก็ไม่ได้บอด แต่เพราะเหตุผลบางอย่างที่ทำให้มองไม่ได้ พร้อมหาคำตอบการเอาชีวิตรอดในโลกที่ห้ามมองเห็นไปพร้อมกับ Bird Box ซีรีส์ของ Netflix ที่เล่นกับดวงตาและความกลัวของมนุษย์ได้อย่างเหนือชั้น เพราะเมื่อเปิดตามองแล้วจะเห็นสิ่งที่ไม่สามารถบอกได้ว่ามันคือตัวอะไร และเมื่อมองเห็นมันจะกลายร่างเป็นสิ่งที่เรากลัวที่สุด ซึ่งภาพหลอนดังกล่าวจะสร้างความปั่นป่วนให้กับทั้งโลกเพราะทุกคนจะอยากฆ่าตัวตายโดยไม่ทราบสาเหตุ ดังนั้นทางรอดเดียวก็คือการห้ามเปิดตาอย่างเด็ดขาด Bird Box เป็นซีรีส์ที่ทำลายสถิติ Netflix อย่างถล่มทลายด้วยจำนวนผู้รับชมถึง 45 ล้านบัญชีแม้จะไม่มีใครเห็นหน้าตาของผู้ร้าย หรือแม้แต่เหตุผลว่ามันเกิดขึ้นเพื่ออะไร และจบลงด้วยความหมายอะไร แต่ก็ฮิตพอที่จะมีวัยรุ่นนำไปทำเป็น Bird Box Challenge จน Netflix