ปี 2020 ถือเป็นปีที่หนักหน่วงสำหรับพวกเรา เพราะทั่วโลกต้องเจอกับวิกฤต COVID-19 ที่ส่งผลกระทบ และทำให้โลกของเราเปลี่ยนแปลงในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น การเปลี่ยนจากทำงานที่ออฟฟิศมาทำงานที่บ้าน การยืนชิดกันเปลี่ยนเป็นการยื่นแบบเว้นระยะห่าง รวมถึง การบังคับสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเวลาออกจากบ้าน เพื่อป้องกัยการแพร่เชื้อโรค ไม่มีใครรู้ว่าวิกฤตนี้จะจบลงเมื่อไหร่ และหลังจากจบลงแล้วโลกของเราจะเปลี่ยนไปอย่างไร UNLOCKMEN เลยอยากแนะนำหนังเกี่ยวกับโรคระบาดที่สนุกสุดมันส์ สร้างความตื่นตัวเกี่ยวกับโรคระบาด ให้เราหาดูกันในช่วงว่าง ๆ OUTBREAK (1995) หนังเรื่องแรกที่เราอยากแนะนำ คือ Outbreak ซึ่งเล่าถึงการระบาดของไวรัสที่มีชื่อว่า “โมทาบา” (คล้ายคลึงกับเชื้ออีโบลาในชีวิตจริง) ในเมืองหนึ่งของรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยสาเหตุของการระบาดมาจาก การลักลอบนำลิงทดลองจากประเทศแอฟริกาเข้ามาในประเทศ เพื่อขายในตลาดมืด และทหารยศสูงในกองทัพพยายามจะปิดข่าวเรื่องการระบาดของไวรัสตัวนี้ แม้จะเป็นหนังเก่า แต่ Outbreak ก็สามารถถ่ายทอดการแพร่ระบาดของไวรัสออกมาได้อย่างสมจริง และที่น่าสนใจไปมากกว่านั้น คือ เควิน สเปซีย์ นักแสดงผู้รับบทเป็น พันโท เคซีย์ ชูลเลอร์ ในเรื่อง ยังได้รับรางวัล Best Supporting Actor จาก 2 ที่ ได้แก่ New
หลายคนอาจมีเป้าหมายประจำปีใหม่ (New Year’s Resolutions) ที่อยากทำให้สำเร็จในแต่ละปี ไม่ว่าจะเป็น เรื่องเล็ก หรือ เรื่องใหญ่ ก็มีหลายคนเหมือนกันที่ต้องล้มเลิกการทำเป้าหมายนั้นให้สำเร็จไประหว่างทาง เพราะเจอกับอุปสรรค์ต่าง ๆ เช่น เวลาไม่พอ เหนื่อยเกินไปที่จะทำต่อ ฯลฯ จนกำลังใจห่อเหี่ยว และต้องมาเศร้าตอนช่วงท้ายปี และบ่นว่า ปีนี้ไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย ใครที่ปีนี้ทำเป้าหมายของตัวเองไม่สำเร็จ เราอยากบอกว่า ไม่เป็นไร ปีหน้าเอาใหม่ และได้รวบรวมภาพยนตร์ 5 เรื่องที่จะช่วยให้ทุกคนมีกำลังใจในการทำตามเป้าหมายของตัวเองด้วย ซึ่งแต่ละเรื่องทเราคัดมาแต่ที่มีคุณภาพ มีเนื้อเรื่องที่น่าสนใจ แถมเกิดจากทีมสร้างหนังคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็น ผู้กำกับมากรางวัล และนักแสดงก็มากฝีมือด้วย จะมีเรื่องอะไรบ้าง ไปดูกันได้เลย Groundhog Day (1993) ภาพยนตร์เรื่องนี้เล่าเรื่องของ ฟิล คอนเนอร์ส์ นักพยากรณ์อากาศ เมื่อวันหนึ่งเขาและทีมงานต้องเดินทางไปยังเมืองพันซิทอว์นีย์ เพื่อทำข่าวประจำปีเรื่องเทศกาลวันกราวน์ฮ็อก และได้เจอกับปรากฎการณ์เหนือธรรมชาติ เขาพบว่าตัวเองติดอยู่ในวังวนของวันที่ 2 กุมภาพันธ์ เขาต้องตื่นมาเจอกับเหตุการณ์เดิมซ้ำ ๆ ทุกวันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และสิ่งที่เขาได้ทำในแต่ละวัน จะไม่มีผลถึงวันถัดไปด้วย พูดง่าย ๆ
เมื่อเทศกาล Halloween วนกลับมาอีกหน ปีนี้หลายคนอาจไม่ได้ออกท่องราตรีที่ไหนเพราะกลัวคนเยอะ คนแน่น แล้วต้องกลับมากังวลเรื่อง COVID-19 การเลือกอยู่บ้าน แล้วหาหนังหลอน ๆ รับกับบรรยากาศวันปล่อยผีดูสักเรื่องหรือหลายเรื่องก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ แต่หนังผีใคร ๆ ก็คงแนะนำกันบ่อยแล้ว UNLOCKMEN อยากชวนดูหนังที่ เฮ้ย ก็ไม่มีผีโผล่ออกมาหรอกนะ แต่ดูแล้วชวนหวาดหวั่น ประสาทมันสั่นกลัวสุดขีดคลั่ง รับรองว่าดูไปอดรีนาลีนหลั่งไปแน่นอน US ว่ากันว่าสิ่งที่ชวนขนพองสยองขวัญที่สุดอาจไม่ใช่ผี ไม่ใช่คนอื่น แต่เป็นตัวเรานี่เอง US คือหนังที่เล่นกับความหลอนในหัวใจมนุษย์ว่าถ้าเราไม่ได้มีแค่เราเพียงคนเดียวอีกต่อไปล่ะ? ถ้ามีตัวเราอีกคน ที่รูปกายภายนอกเหมือนเราแทบทุกประการ แต่เรากลับไม่รู้ว่าลึก ๆ เราอีกคนต้องการอะไรกันแน่? และมันจะระทึกขวัญสักแค่ไหน เมื่อตัวเราอีกคนเริ่มออกมาไล่ล่าตัวเรา นอกจาก US จะทำให้ใจเต้นสั่นระรัวแล้ว ยังแฝงประเด็นให้ชวนขบคิดว่าที่เราเป็นเราทุกวันนี้มันเพราะความสามารถของเรา หรือเพราะโอกาสบางอย่างที่เราเข้าถึงได้มากกว่าคนอื่นกันแน่ และถ้าเราอีกคนเขาดันเติบโตในสภาวะแวดล้อมที่ผลักให้เขาต้องออกล่าอย่าป่าเถื่อน เรื่องราวชวนขนลุกนี้จะจบลงอย่างไร? เปิดดูในวันปล่อยผี ถึงไม่มีผีแต่มีหลอนแน่นอน Get Out ยังพาไต่ระดับความหลอนกับหนังเขย่าประสาทของผู้กำกับ Jordan Peele ถ้า US ว่าด้วยความหลอนของการมีตัวเราอีกคน Get Out ก็จะพาเราดำดิ่งไปในความหลอนของการติดอยู่ในร่างกายตัวเอง!
“เรือดำน้ำ” กลายเป็นประเด็นร้อนฉ่าที่ทั้งสื่อ รัฐบาล กองทัพ และประชาชนคนธรรมดายกขึ้นมาถกเถียงกันในช่วงหลายวันมานี้ เนื่องมาจากกองทัพเรือต้องการใช้งบประมาณ 22,500 ล้านบาทเพื่อจัดซื้อเรือดำน้ำจากจีน จำนวน 2 ลำ บ้างก็ว่าจำเป็นต่อความมั่นคงของชาติ บ้างก็ว่าเศรษฐกิจเช่นนี้ควรชะลอไปก่อน บ้างก็ว่าสงครามสมัยใหม่ต้องพึ่งอาวุธสมัยใหม่ไม่ใช่เรือดำน้ำจากจีน ฯลฯ นานาความคิดเห็น UNLOCKMEN สนับสนุนการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้วยเหตุผล เพราะอะไรที่นำภาษีประชาชนไปใช้ เราก็ควรตั้งคำถามและแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้ แต่สำหรับใครที่อ่านข่าวจนเครียด แลกเปลี่ยนจนตึง เราเลยชวนมาผ่อนคลายชั่วคราวด้วย “5 หนังเรือดำน้ำ” ที่จะพาเราดำดิ่งไปในโลกใต้ทะเลอันลึกลับจนอาจลืมการใช้ภาษีหลายหมื่นล้านไปได้ (ชั่วขณะหนึ่ง) Greyhound หนังสงครามชวนลุ้นระทึกที่ Tom Hanks รับบทนายทหารผู้เป็นกัปตันเรือในสมรภูมิสำคัญ ไม่เพียงเท่านั้นเขายังเป็นคนเขียนบทภาพยนตร์เองด้วย นี่คือเรื่องราวของ Greyhound เรือพิฆาตซึ่งรับภารกิจคุ้มกันเรือขนส่งสินค้าจากอเมริกาไปยังเกาะอังกฤษในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ภารกิจของเรือลำนี้เป็นส่วนหนึ่งของยุทธการแอตแลนติก (Battle of the Atlantic) ยุทธการแห่งน่านน้ำที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะเส้นทางนี้ถือเป็นท่อน้ำเลี้ยงสำคัญที่จะส่งสินค้าและอาวุธเป็นล้านตันไปที่เกาะอังกฤษ ซึ่งศัตรูอย่างกองทัพเรือเยอรมนีเองก็รู้ดีจึงพยายามทุกวิถีทางเพื่อสกัดกั้นภารกิจ! 5 นาทีแรกของหนังเราก็จะได้ลงเรือเลย ไม่ต้องลุ้นให้ยืดเยื้อ มากไปกว่านั้นตลอดเกือบ 90 นาที ก็เชิญดื่มด่ำกับอุปสรรคที่ถาโถมมาให้นั่งไม่ติดตลอดเรื่อง ไหนจะต้องสาดกระสุนใส่ศัตรู ไหนจะการติดต่อสื่อสารไม่ได้ดังใจ
แม่ คือมนุษย์ผู้ยิ่งใหญ่ที่ถูกเชื่อมโยงเข้ากับความอบอุ่นทั้งมวลของโลกใบนี้ เมื่อไรที่พูดถึงแม่ เรามักนึกถึงกลิ่นอาหารที่รอเราอยู่ที่บ้าน อ้อมกอดนุ่ม ๆ ที่พร้อมโอบรับเราอยู่เสมอ น้ำเสียงปลอบโยนที่พร้อมอยู่ข้างเราไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฯลฯ อย่างไรก็ตามความเป็นแม่ก็คือความเป็นมนุษย์ แม้ลูกทุกคนจะมีภาพจำว่า “แม่ = ความอบอุ่น อ่อนโยน” แต่เพราะการเป็นแม่นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะเมื่อแม่ต้องปกป้องลูกให้พ้นจากภัยอันตราย หรือวันที่แม่เหนื่อย เมื่อนั้นเองที่เราจะได้เข้าใจว่าแม่ไม่ได้มีแค่ด้านละมุน ๆ เท่านั้นแต่แม่โหด ๆ แกร่ง ๆ หรือแม้แต่แม่ด้านอ่อนแอก็มีเช่นกัน UNLOCKMEN ชวนต้อนรับบรรยากาศวันแม่แห่งชาติ ด้วยการพาไปรู้จักความเป็นแม่ที่ไม่เคยง่าย ผ่านตัวละครแม่ ๆ หลายมิติจากหนัง 5 เรื่อง จะชวนแม่มาดูด้วยกันให้มันส์ระเบิดก็ไม่ผิดกติกาแต่อย่างใด A Quiet Place เป็นแม่ในสภาวะปกติธรรมดาก็เหนื่อยหัวหมุนสายตัวแทบขาดแล้ว แต่การเป็นแม่ในโลกที่พังพินาศ มีสัตว์ประหลาดบุกโลก และทางเดียวที่จะรอดก็คือต้องใช้ชีวิตให้เงียบกริบเข้าไว้ ชีวิตผู้ใหญ่ที่เคยใช้ชีวิตแบบมีเสียงอะไรแค่ไหนก็ได้ แต่ต้องหันมาทำทุกอย่างให้เงียบใบ้ไร้เสียงก็ไม่ง่ายแล้ว แต่ A Quiet Place พาเราไปดูความทรหดของพ่อแม่ที่มีลูกเล็ก 2 คน ที่ต้องคอยระวังไม่ให้เด็ก ๆ เผลอทำเสียงอะไรออกมา เพราะแม้แต่เสียงหายใจที่ดังเกินไปก็อาจหมายถึงความตายที่รออยู่
ในแต่ละปี ๆ จะต้องมีคดีความอย่างน้อยหนึ่งคดีที่ชวนให้มนุษย์อย่างเรา ๆ รู้สึกอัดอั้น หรือสัมผัสได้ถึงความไม่ชอบมาพากลของกระบวนการยุติธรรมบางอย่างออกมาสม่ำเสมอ โดยเฉพาะเมื่อข่าวนั้น ๆ ถูกฉายซ้ำไปซ้ำมาให้เราเห็นในหน้าฟีดโซเชียลมีเดียและสื่อหลักต่าง ๆ ทำให้ความเครียด ความอัดอั้นพุ่งทะลุขีดไปหลายหน เพื่อระบายความคับข้องใจ เราชวนมาดูหนังแหกคุกเพื่อระบายความตึงเครียดชั่วคราว (หรือจะเครียดกว่าเดิมก็ไม่รู้) แต่รับรองว่ามันส์แน่นอน Escape Plan บนโลกใบนี้มีอาชีพแปลก ๆ อยู่ไม่น้อย และหนึ่งในนั้นคืออาชีพนักหาจุดอ่อนของเรือนจำ และแหกคุกออกมาให้ได้เพื่อเอาไปบอกว่าเรือนจำแต่ละแห่งยังมีข้อบกพร้อมต้องแก้ตรงไหนเพื่อให้คุมขังนักโทษได้รัดกุมยิ่งขึ้น ซึ่งเรย์ เบรสลิน ตัวเอกของเรื่องก็เป็นสุดยอดนักหาจุดอ่อนเรือนจำที่ทำงานมาจนเชี่ยวชาญ กระทั่งวันหนึ่งเขาถูกส่วตัวไปสำรวจเรือนจำแห่งใหม่ที่มีระบบรักษาความปลอดภัยสุดโหด ไม่เคยมีใครแหกคุกที่นี่ได้มาก่อน ยิ่งระทึกไปกว่านั้นเมื่อเขาพบว่าเขาไม่สามารถถอนตัวจากภารกิจนี้ได้ เขาวางแผนกับรอทท์เมเยอร์นักโทษสุดเก๋าเพื่อหาทางแหกคุกสุดโหดนี้ไปด้วยกัน แม้แผนแหกคุกของ Escape Plan จะไม่ได้ซับซ้อนหรือหลักแหลมอะไร แต่หากวันตึง ๆ ต้องการความตื่นเต้น แอกชัน มันส์หยด ก็รับรองได้ว่า Escape Plan จะชวนให้ดูไปลุ้นไปเพลิน ๆ ได้แน่นอน The Next Three Days เมื่อการแหกคุกไม่ได้เกิดจากในคุก แต่เกิดจากใครบางคนที่อยู่นอกคุก และอยากทำเพื่อคนที่เขารัก! The
ในวันที่คนทั้งโลกยังเชื่อว่าโลกแบน มนุษย์คนแรกที่เชื่อว่าโลกกลม และทำทุกทางเพื่อบอกให้คนอื่นรู้ความจริงว่าโลกกลม ย่อมโดนครหา ตราหน้าว่าเสียสติ เพ้อเจ้อ หรือบ้าไปแล้ว ที่หนักหนาสาหัสกว่านั้น การยืนยันในสิ่งที่เชื่อและสิ่งที่ถูกต้องอาจโดนข้อหาร้ายแรงถึงขั้นขังลืม หรือต้องสละชีวิต แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีคนหาญกล้าต่อกรกับความไม่ถูกต้อง และสู้เพื่อสิ่งที่เชื่ออีกจำนวนมาก โดยไม่ต้องเป็นฮีโร่มาจากไหน แต่เป็นคนธรรมดาอย่างเรา ๆ ใครที่ไม่แน่ใจว่าคนตัวเล็ก ๆ จะต่อสู้เพื่อสิ่งที่พวกเขาเชื่อได้จริงไหม? หรือพวกเขาเอาพลังมาจากที่ใดถึงได้กล้าหาญขนาดนั้น? UNLOCKMEN แวะเอาแรงบันดาลใจจากคนธรรมดาที่หาญกล้าต่อสู้เพื่อสิ่งที่พวกเขาเชื่อมากฝากกัน ทั้ง 5 เรื่องนี้สร้างจากเรื่องจริง ของบุคคลที่มีตัวตนอยู่จริง และพวกเขาก็สู้อย่างบ้าดีเดือดเพื่อสิ่งที่ตัวเองเชื่อจริง ๆ Dallas Buyers Club มีคนจำนวนมากที่มักจะบอกเราว่าอะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ อะไรทำง่าย และอะไรเปลืองแรงว่ะ มึงอย่าไปทำเลย แต่ Dallas Buyers Club ที่มีชื่อไทยว่า “สอนโลกให้รู้จักกล้า” ทำให้เราเข้าใจว่าบางทีคนพวกนั้นแม่งก็ไม่ได้รู้อะไรดีไปกว่าเรา เขาแค่ไม่กล้ามากพอ และมีแค่เราเองนี่แหละที่รู้ว่าเราจะสู้ไปสุดขีดได้ถึงไหน Dallas Buyers Club เล่าเรื่องราวชีวิตจริงของหนุ่มคาวบอยในเท็กซัสในปี 1985 เขาถูกวินิจฉัยว่าติดเชื้อ HIV และจะมีชีวิตอยู่ได้แค่ 30 วัน
โลกไม่เคยใจดีกับเรา คนอื่นก็เช่นกัน หลายครั้งมีคนช่วยเหลือ แต่ก็หลายหนที่หันไปทางไหนจะพึ่งใครก็มืดหม่น หรือในบางสถานการณ์ที่เศรษฐกิจไม่เป็นดังใจ หน้าที่การงานไม่เป็นอย่างที่หวัง และคนทุกคนก็ล้วนตกอยู่ในความย่ำแย่พอ ๆ กัน คนเดียวที่เหลืออยู่ให้พึ่งพิงได้ก็คือ “ตัวเราเอง” การรักและใจดีกับตัวเองมาก ๆ โดยเฉพาะในวันที่หนทางเต็มไปด้วยอุปสรรค แม้จะไม่ง่าย แต่หากโลกทั้งใบใจร้ายกับเรา แล้วเรายังโบยตีตัวเอง โทษตัวเองซ้ำ ๆ แล้วจะเหลือพลังที่ไหนให้ลุกขึ้นสู้ต่อ? ดังนั้นแม้โลกใบนี้จะเต็มไปด้วยความท้าทาย ตราบใดที่ยังหายใจ มารักและให้กำลังใจตัวเองมาก ๆ เข้าไว้ ถ้าไม่รู้จะเริ่มต้นฝึกรักและปลุกพลังให้ตัวเองอย่างไร ลองเริ่มต้นด้วยการปล่อยตัวปล่อยใจไปกับหนัง 5 เรื่องนี้ Little Miss Sunshine ถ้าชีวิตคือการแข่งขัน ใคร ๆ ก็อยากครองตำแหน่งผู้ชนะ วิ่ง เหนื่อย สู้ แพ้ หดหู่ วิ่งใหม่ เหนื่อยใหม่ แย่งชิงตำแหน่งผู้ชนะหนึ่งเดียวจนแทบขาดใจ สายตาจับจ้องจนหลงลืมไปว่าการแพ้มันเลวร้ายขนาดนั้นจริง ๆ เหรอ? และการแพ้ในมาตรฐานการแข่งขันที่ไม่เคยสนใจความหลากหลายของมนุษย์ และมุ่งเปลี่ยนให้เราเดินตามทางเดียวกันหมดมันน่าเสียใจมากน้อยแค่ไหน? Little Miss Sunshine จะพาเราขึ้นรถโฟล์คสีเหลืองบุโรทั่งไปกับครอบครัว (ที่ถ้าตัดสินจากมาตรฐานสังคมก็อาจบอกว่าพวกเขาคือ)
ถ้าจะมีสักช่วงวัยที่ทิ้งคราบน้ำตาและความทรงจำปวดเจ็บยากลืมเลือนไว้ในชีวิตเราได้มากพอ ๆ กับที่ฝากเสียงหัวเราะและเรื่องราวชวนอุ่นในใจเอาไว้ วันวัยที่ว่านั้นก็คงเป็น “วัยรุ่น” ช่วงวัยแห่งการเปลี่ยนผ่าน ณ ขณะที่ชีวิตคาบเกี่ยวระหว่างการเป็นเด็กและการเป็นผู้ใหญ่ ณ ขณะที่เราเชื่อว่ามีแต่ความเป็นไปได้รอเราอยู่ วัยที่เต็มไปด้วยความหวังเจิดจ้า แต่ขณะเดียวกันการเติบโตก็นำบาดแผลใหม่ ๆ มาสอนให้เราเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นทุกที ๆ แม้บางคนจะผ่านวัยนั้นมาแล้ว แต่เมื่อหวนนึกถึงทีไรก็ชวนให้รู้สึกอะไรบางอย่างในใจทุกที เพราะนั่นคือชั่วขณะสำคัญที่ประกอบร่างสร้างให้เราเป็นผู้ใหญ่อย่างที่เราเป็นในตอนนี้ เพื่อให้ทบทวนตัวเองได้ดื่มด่ำกว่าเดิม เพื่อให้ระลึกถึงทุกเสียงหัวเราะและหยาดน้ำตาของการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในวันนี้ เราเลยอยากเอา ‘5 หนัง COMING OF AGE’ตีแผ่รอยยิ้มและบาดแผลของการเติบโตมาปลอบประโลมความทรงจำ และความเจ็บปวดจากการเติบโต The Perks of being a wallflower วินาทีที่เราตระหนักได้ว่าชีวิตตอนมัธยมก็ไม่เห็นจะหนักหนาอะไรนี่หว่า นั่นอาจเป็นวินาทีที่เราข้ามผ่านช่วงวัยเด็กสู่วัยผู้ใหญ่อย่างสมบูรณ์แล้ว แต่ถ้าหมุนเข็มนาฬิกากลับไปช่วงวัยก่อนจะ 20 ปี ความพยายามไขว่คว้าคะแนนดี ๆ มาครอบครอง การวิ่งสุดฝีเท้าเพื่อเป็นที่รักในแก๊งเพื่อน การเอื้อมสุดแขนเพื่อให้สาวสักคนหันมามอง ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ไม่เคยเป็นเรื่องง่ายของเราในวัยรุ่น The Perks of being a wallflower พาเราย้อนกลับไปในช่วงมัธยมปลาย ตอนที่ตัวละครหลักเพิ่งเข้าไฮสคูลเป็นครั้งแรก ที่ที่เราต้องปรับตัว
พลัง แรงบันดาลใจ การงอกงามไปสู่สิ่งใหม่ เมื่อไรที่พูดถึงกลุ่มคำพวกนี้เราล้วนนึกถึงวัยเด็ก หรือวัยรุ่น ช่วงวัยที่เป็นรุ่งอรุณของชีวิต แสงอบอุ่นจากดวงอาทิตย์แห่งวัยเยาว์ค่อย ๆ ฉายให้เห็นความฝันและความเป็นไปได้ ในทางกลับกันเมื่อเราอายุมากขึ้น ๆ แม้เราจะยังสบายดี แต่ก็คล้ายว่าในแต่ละปี เรากำลังเดินทางเข้าสู่ช่วงความสลัวรางของชีวิต หมดฝัน ไม่กล้าเริ่มต้นใหม่ ไร้เรี่ยวแรงจะเติบโต เพราะเชื่อว่าความมั่นคงคือสิ่งที่ดีที่สุด UNLOCKMEN จึงอยากพาสำรวจ “ความมีอายุ” ในความหมายใหม่ แม้จะไม่ได้เต็มไปด้วยพลังบ้าคลั่งเหมือนตอนวัยรุ่น แต่ในเลขปีที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ก็มีมิติใหม่ ๆ ให้เราได้ดื่มด่ำ เรียนรู้ในแบบของมัน ขอแค่อย่าหยุดเรียนรู้ About Schmidt คุณค่าของคุณคือะไร? คำตอบของคำถามนี้อาจเป็นอะไรก็ได้ ครอบครัว ความรัก การได้ออกเดินทาง หรือ “หน้าที่การงาน” หากเป็นเช่นนั้นเคยคิดไหมว่าหากเราแก่ตัวไปจนกระทั่งวันหนึ่งต้องหยุดทำงานที่เราทำมาตลอดหลายสิบปี เราจะยังรู้สึกมีคุณค่าอยู่ไหม? About Schmidt ว่าด้วยเรื่องราวของ Warren Schmidt ผู้เชี่ยวชาญและทำงานอยู่ในบริษัทระดับโลก แต่เขากำลังจะต้องเกษียณจากงาน นี่จึงเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ อายุที่มากขึ้น ร่างกายที่ร่วงโรย งานที่เคยยึดถือที่ได้เวลาต้องปล่อยวาง คู่ชีวิตลาจากโลกไป ไม่เพียงเท่านั้นลูกสาวที่เคยรู้สึกว่าเป็นแก้วตาดวงใจก็ยังจะมาแต่งงานกับไอ้หนุ่มที่ดูไม่เอาไหนอีก!?