เมื่อไม่นานมานี้ทีมงาน UNLOCKMEN มีโอกาสได้เดินทางไปประเทศ ญี่ปุ่น และเกาหลี ซึ่งทั้งสองประเทศนี้เรียกได้ว่ามีความเจริญก้าวหน้าทางวัฒนธรรมแฟชั่นมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยที่เราก็พยายามสังเกตสไตล์การแต่งตัวของหนุ่ม ๆ ที่โน่นว่าเป็นเช่นไร เผื่อจะเอามาอัพเดทให้กับชาว UNLOCKMEN ได้จับกระแสเทรนด์โลกไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งจากการสังเกตการณ์ของเราก็พบว่ามีอยู่ไอเทมหนึ่งกลายมาเป็นที่นิยมสำหรับผู้ชายวัยรุ่นของประเทศพวกเขาอย่างมาก เพราะไม่ว่าจะเดินไปทางก็มักจะเจอทั้งหญิง ชายสวมใส่กันอย่างแพร่หลาย นั่นคือหมวกที่เรียกว่า Beret สำหรับคนที่อาจจะ งง ๆ ว่ามันคือหมวกอะไร ถ้าเกิดเราบอกว่ามันคือหมวกทหารเบเร่ต์ แบบนี้น่าจะพอร้องอ่อ กันมากขึ้น แต่สำหรับคนที่ยังไม่คุ้นอีก เพื่อเป็นการต่อยอดวันนี้ทีมงาน UNLOCKMEN จะขอนำเรื่องหมวก Beret มาเล่าให้ฟังพร้อมแนะนำสไตล์การแต่งตัวสำหรับคนที่อยากลองอะไรใหม่ ๆ และตามเทรนด์โลกให้ทัน หากเราพูดถึงประวัติของเจ้าหมวก Beret คนส่วนใหญ่มักจะคิดว่าถูกผลิตขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 19 ในประเทศฝรั่งเศส และสเปน โดยถูกผลิตขึ้นออกมาใช้สำหรับงานราชการแจกจ่ายให้กับทหาร และตำรวจสวมใส่ แต่อันที่จริงแล้วหมวก Beret มีต้นกำเนิดที่ยาวนานกว่านั้นมาก เพราะมันเริ่มต้นตั้งแต่ยุค Bronze Age ซึ่งอยู่ในช่วงราว ๆ 1206 -1150 ก่อนคริสตกาล ชนคนที่อาศัยอยู่ทางตอนเหนือของยุโรปมักสวมใส่หมวกลักษณะกลมเป็นเครื่องป้องกันศีรษะ ก่อนที่อิทธิพลจะแพร่ขยายไปยังชนเผ่า
วันนี้เราขอพาผู้อ่าน UNLOCKMEN มาอัพเดตอีกหนึ่งสไตล์ที่มาแรงทั้งในยุโรป อเมริกา หรือแม้แต่ในเอเชียเองก็ตามนั่นคือ Oversize สไตล์ ซึ่งโดยจริง ๆ แล้วเทรนด์นี้ผู้ให้กำเนิดคนแรก ๆ คือ Yohji Yamamoto ที่นำเสนอไอเดียการใส่เสื้อแบบ loose มาออกแบบตั้งแต่ยุค 90s ก่อนที่จะค่อยปรับเปลี่ยนลดขนาดเรื่อยมาจนเป็น slim fit แบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน แต่เมื่อไม่นานมานี้เราก็รู้สึกว่าเทรนด์การแต่งตัวแบบ Oversize ดูเหมือนจะเริ่มกลับมาเป็นที่นิยมในวงกว้าง อาจด้วยความสบายไม่อึดอัด ทำให้เสื้อสไตล์ Oversize เข้าไปครองใจหนุ่ม ๆ อย่างรวดเร็ว สำหรับการใส่เสื้อ Oversize คนที่ไม่คุ้นชินอาจจะรู้สึกไม่ชอบคิดว่ามันเหมือนเดรสของผู้หญิง แต่เราอยากจะให้เปิดใจลองดูสักครั้ง เพราะข้อดีของมันคือจะช่วยอำพรางหุ่นปกปิดหุ่นที่แท้จริง เพราะประโยชน์ของการใส่เสื้อตัวยาว ถ้าคุณเป็นคนตัวผอมเสื้อ Oversize จะก็ทำให้เราดูตัวหนาขึ้น ไม่แห้งจนเกินไป หรือถ้าคุณเป็นคนตัวใหญ่ อาจจะไม่ต้องโคร่งมาก ๆ แต่เสื้อที่ช่วงตัวยาวจะทำให้ มันปิดก้น และช่วงขาใหญ่ ๆ ของเราได้ ซึ่งเราไม่จำเป็นต้องเป็น Hipster หรือ Street Icon ถึงขั้นใส่เสื้อตัวใหญ่มาก แค่เลือกใหญ่กว่าปกติ
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงเป็นแบบอย่างของความพอเพียงในทุกด้าน ของใช้ส่วนพระองค์จำนวนมากที่สะท้อนความประหยัดมัธยัสถ์เป็นต้นแบบให้ปวงชนชาวไทยดำเนินรอยตาม เราเชื่อว่าชาว UNLOCKMEN คงเคยเห็นภาพฉลองพระบาทที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงใช้งานจนสภาพชำรุดทรุดโทรม ซึ่งหากเป็นคนทั่วไปอาจจะทิ้งไปแล้ว แต่พระองค์ท่านกลับทรงให้เจ้าหน้าที่นำมาซ่อมเพื่อใช้งานต่อ ดังนั้น Sneakers of the week วันนี้ขอน้อมรำลึกด้วยการนำพระบรมฉายาลักษณ์ เมื่อครั้งพระองค์สวมฉลองพระบาท ซึ่งเป็นภาพที่อาจจะไม่ได้เห็นทั่วไปบ่อยนักมาให้ทุกท่านได้รับชมกัน เป็นพระบรมฉายาลักษณ์ขณะทรงต่อเรือด้วยฝีพระหัตถ์ ซึ่งพระองค์ท่านทรงสวมฉลองพระบาท Converse Jack Purcell สีขาวล้วน จากภาพทรงต่อเรือนี้ต่อมาพระองค์ทรงใช้เรือลงแข่งกีฬาจนได้รับเหรียญทองในการแข่งขันกีฬาแหลมทอง ครั้งที่ 4 (หรือกีฬาซีเกมส์ในปัจจุบัน) นับว่าเป็นพระอัฉริยภาพอีกด้านหนึ่งของพระองค์ท่าน ฉลองพระบาทคู่ที่สองคงจะเป็นที่คุ้นตาสำหรับใครหลาย ๆ คน เพราะเป็นพระบรมฉายาลักษณ์ขณะทรงประกอบพระราชกรณียกิจในท้องถิ่นทุรกันดาร โดยทรงสวมฉลองพระบาทยี่ห้อ Onitsuka Tiger พระบรมฉายาลักษณ์ที่สามเป็นภาพขณะพระองค์ทรงอุ้มคุณทองแดงสุนัขทรงเลี้ยง โดยที่พระองค์ท่านทรงสวมใส่ฉลองพระบาทยี่ห้อ New Balance ในวันที่ไม่เสด็จเข้าพระราชพิธี พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงโปรดสวมฉลองพระบาทเทนนิสมานานแล้ว โดยจะเห็นได้จากพระบรมฉายาลักษณ์เก่า ๆ ขณะทรงงาน หรือกำลังทรงเล่นกีฬาว่าจะสวมใส่ฉลองพระบาทสีขาวล้วน จนกระทั่งถึงพระบรมฉายาลักษณ์ไม่นานมานี้พระองค์ท่านก็ยังสวมใส่ฉลองพระบาทสำหรับกีฬาเทนนิสขณะทรงฉายพระบรมฉายาลักษณ์ จากพระบรมฉายาลักษณ์ที่ทีมงาน UNLOCKMEN ได้นำมา เราก็มองเห็นในอีกแง่มุมหนึ่งที่ทุกคนอาจจะดำเนินรอยตามพระองค์ได้ในเรื่องของการเลือกใช้สิ่งของด้วยความเรียบง่าย เน้นประโยชน์ใช้งานมากกว่าความฟุ่มเฟือย ซึ่งจะเห็นได้แม้จากฉลองพระบาทของพระองค์ท่าน
เพียงไม่นาน เวลาก็วนจนมาครบรอบหนึ่งปีการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยทางหน่วยงานราชการได้กำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติ ภายในช่วงเวลานั้นก็ประกอบไปด้วยวาระสำคัญ เช่น พระราชพิธีต่าง ๆ อีกทั้งมีการขยายช่วงเวลาไว้ทุกข์ตั้งแต่วันที่ 13 – 29 ตุลาคมนี้พร้อมให้กำหนดออกทุกข์ในวันที่ 30 ตุลาคม 2017 ทั้งนี้เราเชื่อว่าประชาชนคนธรรมดาคงจะไม่มีใครคุ้นชินกับช่วงเวลาการไว้ทุกข์มากนัก อาจจะงง ๆ ว่าในช่วงเวลาเช่นนี้ เราควรจะแต่งกายอย่างไรหากอยากจะไปเข้าร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงบรมศพอย่างเหมาะสม ดังนั้นวันนี้ทีมงาน UNLOCKMEN จึงได้นำการแต่งตัวที่เหมาะสำหรับไว้ทุกข์ และแบบไหนไม่ควรสวมใส่มาฝากกัน เสื้อสีดำแบบไหน ? หากใครอยากที่จะไปในบริเวณพระราชพิธี เราอยากจะให้สำรวมในเรื่องของเครื่องแต่งกายว่าจะต้องไม่มีความเป็นแฟชั่นจ๋าจนเกินไป เสื้อยืดสามารถสวมใส่ได้แต่ไม่ควรมีลายกราฟิกหรือถ้าจะให้เราแนะนำขอเน้นไปที่เสื้อโปโล และเสื้อเชิ้ตสีดำแบบเรียบไร้ลวดลายจะเป็นเสื้อเชิ้ตแขนสั้น หรือแขนยาวก็ได้ไม่มีข้อจำกัด แต่อย่างน้อยต้องติดกระดุมให้เรียบร้อย ไม่พับแขนเสื้อ และหากต้องการใส่ชุดสูท ควรเป็นสีดำล้วนอีกเช่นกัน กางเกงสีดำ ? มีหลายคนสงสัยว่าสามารถใส่กางเกงยีนส์ หรือผ้าสีดำได้ไม่ อันนี้เราขอตอบว่าได้ เพราะประชาชนทั่วไปจะมีโอกาสร่วมถวายอาลัยได้ในพื้นที่รอบนอก ไม่มีโอกาสได้เข้าไปพื้นที่บริเวณพระราชพิธีด้านในอยู่แล้ว แต่ถ้าหากจะสวมใส่คงต้องเลือกกางเกงที่ไม่แฟชั่นมีรอยขาด หรือการตัดแต่งที่ดูทันสมัยจนเกินไป ซึ่งถ้าให้ดีทีมงาน UNLOCKMEN ขอแนะนำเป็นการสวมใส่เป็นกางเกงสแลคสีดำล้วน ขากางเกงยาวถึงตาตุ่ม ไม่เต่อ ไม่ลอย จากนั้นทับชายเสื้อใส่ไว้ในกางเกงให้เรียบร้อย หากต้องการใส่เข็มขัดควรเป็นสีดำที่ไม่มีลวดลายอีกเช่นกัน รองเท้า ? อันนี้ถือว่าไม่มีข้อบังคับที่ตายตัว
หากพูดถึงนักแสดงระดับแถวหน้าที่มีชีวิตเรียบง่ายสมถะแบบสุด ๆ หลายคนคงจะนึกถึงชายที่ชื่อ Keanu Reeves พระเอกหนุ่มหล่อตลอดกาลเจ้าของผลงาน The Matrix Trilogy และก็ John Wick ซึ่งเป็นหนังทำรายได้ส่งให้เขาเป็นนักแสดงที่มีรายรับต่อภาพยนตร์หนึ่งเรื่องเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก อย่างที่เรารู้ ๆ กัน แม้ว่า Keanu Reeves จะมีทรัพย์สินราว 350 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่เขาก็ยังคงใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย ไม่อู้ฟู่จนเกินไป เพราะหากใครที่ติดตามเรื่องราวพระเอกคนนี้ก็คงจะพอทราบกันว่า แม้เขาจะมีรถสปอร์ตอยู่ พร้อมอพาร์ทเมนท์ขนาดใหญ่ แต่ Keanu Reeves กลับชอบเดินทางด้วยรถสาธารณะ หรือมอเตอร์ไซค์คู่ใจมากกว่า อีกทั้งเราจะเห็นภาพหลุดปาปารัสซี่บ่ายครั้ง ขณะเขากำลังนั่งกินอาหารอย่างง่าย ๆ อยู่ริมถนน หรือไปนั่งคุยกับ homeless ซึ่งนั้นเป็นเพียงความเรียบง่ายบางส่วนของผู้ชายคนนี้ ที่เราเคยพบเห็นจากโลกออนไลน์ แต่สิ่งที่วันนี้ UNLOCKMEN จะหยิบยกมาพูดถึงเป็นเรื่องของสไตล์การแต่งตัว เพราะก่อนนี้เราแทบไม่เคยสังเกตเลยว่า Keanu Reeves แต่งกายเหมือนเดิมมากว่า 27 ปี แบบไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ เลย ซึ่งเราคิดว่ามันเจ๋งมาก
BEAMS เป็นหนึ่งในแฟชั่นแบรนด์เก่าแก่ของประเทศญี่ปุ่นโดยมีสาขากระจายอยู่มากมายทั่วทุกมุมโลกรวมถึงในประเทศไทย ความพิเศษ และจุดเด่นของร้าน BEAMS ที่แตกต่างจากแบรนด์อื่น ๆ คือ พวกเขามีจุดเด่นตรงที่ไลน์สินค้าภายใต้แบรนด์อยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น BEAMS , BEAMS Plus , Vaporize สำหรับแผนกผู้ชาย ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วจะอิงไปกับแฟชั่นสตรีทแวร์ที่ดูไม่เกินจริงจนไปสามารถสวมใส่แบบ everyday style ได้ไม่ยาก โดยล่าสุดพวกเขาได้มีการออกคอลเลคชั่นใหม่อย่าง Autumn / Winter 2017 ดังนั้นทีมงาน UNLOCKMEN จึงได้นำข่าวคราวของคอลเลคชั่นนี้มากฝากกัน เริ่มต้นจาก BEAMS / B-SEC หรือไลน์สินค้าผู้ชายที่เกิดขึ้นพร้อม ๆ กับการก่อตั้งบริษัทที่มุ่งเน้นการนำเสนอเสื้อผ้าผู้ชายสไตล์ลำลอง ภายใต้คอนเซ็ปต์ Basic & Exciting โดยจะผสมผสานหลากหลายเทรนด์ที่เป็น casual basic style ตั้งแต่ sport , work , military ไปจนถึง preppy , rock แม้กระทั่ง surf
สำหรับสัปดาห์ที่ผ่านมาคงจะไม่มีกระแสรองเท้าคู่ใดที่ฮอตฮิตไปกว่าภาพหลุดจาก adidas original NMD Hu x Chanel ที่เป็นการร่วมงานระหว่าง Pharrell Williams และแบรนด์ โอว์ กู ตู ระดับท็อปจากฝรั่งเศส แม้ตอนนี้จะยังไม่มีแหล่งข่าวที่สามารถยืนยันได้ว่าจริงเท็จเพียงใด แต่เราเชื่อว่า sneakerhead ต่างกำสตางค์แบบใจตุ๊ม ๆ ต่อม ๆ รอเสียแล้ว ดังนั้นวันนี้เราจึงนำรองเท้าที่เป็นการร่วมงานระหว่างแบรนด์ไฮเอนด์กับสตรีทแฟชั่นที่กำลังวางขาย และน่าสนใจมาฝากกัน Raf Simon x adidas Ozweego iii นับวันรองเท้าคู่นี้จะทวีความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากในช่วงแรกมันถูกมองเป็นรองเท้าหน้าตาประหลาดที่ดูแล้วไม่น่านำมาสวมใส่อย่างยิ่ง แต่หลังจากกระแสความนิยมรองเท้าทรงโบราณหรือ Ugly sneakers รองเท้ารุ่น Ozweego ซึ่งเป็นผลงานจากดีไซเนอร์ชื่อดังอย่าง Raf Simon ก็ดูเหมือนจะได้รับความนิยมขึ้นทันตาเห็น แม้ว่าดูภายนอกแล้วรองเท้านั้นจะดูธรรมดาไม่มีราคาค่างวดอะไร แต่ราคาป้ายนั่นจัดอยู่ในเกณฑ์แพงที่ราว ๆ $500 หรือ 17,xxx บาท หากใครที่สนใจอยากจะมีรองเท้าแปลก ๆ แนว collaboration สตรีทไฮเอนด์
ถือเป็นโอกาสอันดีเมื่อทีมงาน UNLOCKMEN มีโอกาสไปร่วมกิจกรรมที่ร้าน SEEK Thailand ได้จัดเวิร์กช็อปถ่ายภาพ โดยการเชิญตากล้องระดับอินเตอร์ผู้อยู่เบื้องหลังภาพถ่ายสตรีทอาร์ตมากมายอย่าง Team COZY ดังนั้นเราจึงอยากนำภาพบรรยากาศ รวมถึงเคล็ดลับที่ได้จากการพูดคุยกับพวกเขาในเรื่องมุมมองเทคนิคการถ่ายภาพแบบสตรีทอาร์ตมาฝากกัน สำหรับคนที่ไม่ได้คลุกคลีกับวงการถ่ายภาพ อาจจะสงสัยว่า COZY คือใคร ทำไมพวกเขาจึงมีความสำคัญถึงขนาดต้องเดินทางไปเพื่อฟังบรรยาย โดยอันที่จริงแล้ว Team Cozy คือกลุ่ม Community เล็ก ๆ ที่เกิดขึ้นจากความชื่นชอบในการถ่ายรูป ซึ่งพวกเขาเป็นผู้อยู่เบื้องหลังงานถ่ายหลักของเว็บไซต์อย่าง Highsnobiety ที่ว่ากันว่าเป็นเว็บไซต์เกี่ยวกับสตรีทคัลเจอร์อันดับต้น ๆ ของโลก โดยพวกเขาจะใช้ Hashtag ที่ชื่อว่า #TeamCozy จากนั้นค่อย ๆ พัฒนาขยับขยายจากเพียงแค่การถ่ายภาพมาเป็นในเรื่องของแฟชั่นเสื้อผ้า จนมีฐานแฟน ๆ ไปทั่วโลก ดังนั้นพวกเขาจึงถือโอกาสเดินทางออกทัวร์เพื่อพบเจอกับบรรดาคนที่ชื่นชอบในเรื่องถ่ายภาพ และสตรีทแฟชั่นในครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นโอกาสอันเมื่อพวกเขามีโปรเจคที่ชื่อว่า The Cozy Asia Tour ทาง SEEK Thailand จึงได้เชิญพวกเขามาเพื่อเปิดเวิร์คช็อปเล็ก ๆ ขึ้น ณ Central Embrassy ภายในงานเราก็จะได้พบกับผู้ก่อตั้งอย่าง
ศิลปิน นักร้อง ถือเป็นผู้มีอิทธิพลต่อการแต่งตัวของผู้ชายเราอย่างมาก ยกตัวอย่างเช่นในยุค 90s ที่ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็เจอแต่คนพยายามลอกเลียนสไตล์จากฮีโร่แห่งยุคอย่าง Kurt Cobain จนเกิดเป็นกรันทจ์สไตล์ขึ้นมาจวบจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งแม้ว่าในปัจจุบันเราจะไม่ได้มีสไตล์ที่แปลกแหวกแนวขึ้นมาเป็นชื่อเรียก เท่ ๆ อีกต่อไป แต่นักร้อง นักดนตรี ก็ยังมีส่วนสำคัญที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับหนุ่ม ๆ ทั่วโลกอย่างไม่เปลี่ยนแปลง ดังนั้น UNLOCKMEN จึงนำการจัดสำรวจของ GQ ที่เขาได้รวบรวมนักดนตรีที่โดดเด่นในเรื่องของสไตล์ประจำปี 2017 จนไม่ควรพลาดที่จะไปติดตาม Drake ปัจจุบันเราแทบจะลืมภาพฮิปฮอฟใส่เสื้อตัวใหญ่ กางเกงหลุดก้นไปได้เลย เพราะพวกเขาหันมาแต่งตัวให้เหมาะสมกับตัวเองมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในรายของ Drake ที่พยายามหาสไตล์ใหม่ ๆ อยู่สม่ำเสมอ ไม่ปิดกั้นตัวเองจากแนวทางใดแนวทางหนึ่ง แต่ส่วนใหญ่ดูเหมือนเขาจะอินกับการแต่งตัวแบบ sportwear อีกทั้งเมื่อต้องปรับลุคเป็น formal ตัวของ Drake ก็มีวิธีการเลือกชุดสูทที่เหมาะกับตัวเขาเอง ที่ยังคงมีกลิ่นอายความเป็นฮิปฮอฟอยู่ไม่ได้เนี้ยบคุณชายจนเกินไป Instragam : champagnepapi Jared Leto เป็นหนึ่งคนที่ UNLOCKMEN ชื่นชอบมาก ๆ สำหรับ นักดนตรียุคใหม่ เนื่องจากเขามีสไตล์ที่จัดจ้านชัดเจน แม้ว่าหากเราดูในรายละเอียดแล้วตัวของ
เราเชื่อว่าทุกคนล้วนมีประสบการณ์ไปช้อปของมือสองที่สวนจตุจักร หรือตลาดนัดต่าง ๆ ซึ่งการซื้อขายแบบตัวต่อตัวมักไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่ อยู่ที่ตาดีตาร้ายเสีย เพราะผู้ซื้ออย่างเราจะได้เห็นของได้ลองใส่ก่อน หากชอบก็ซื้อ ไม่ชอบก็ไม่ซื้อ แต่เนื่องจากพฤติกรรมการช็อปปิ้งที่เปลี่ยนไป เกิดเป็นวัฒนธรรมการซื้อขายรูปแบบใหม่ ด้วยการหันมานิยมซื้อขายของทางออนไลน์กันมากขึ้น ซึ่งเราแทบจะไม่ต้องออกจากบ้าน แค่คลิกโอนเงินของก็ส่งมาถึงบ้านแล้ว แต่ในความง่ายนี้ก็ต้องแลกมาด้วยความเสี่ยงอื่น ๆ ที่ตามมา เพราะเมื่อไม่เห็นของเราจึงไม่สามารถลองได้ หรือแม้กระทั่งต้องมานั่งระแวงว่าของที่สั่งมาจะตรงตามที่ได้แจ้งไว้หรือเปล่า ดังนั้นทีมงาน UNLOCKMEN เลยจะขอมาแนะนำวิธีป้องกันตัวเองจากการซื้อของออนไลน์เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมา ต้องรู้สัดส่วนของตัวเองเสียก่อน ก่อนจะทำการซื้อเสื้อผ้าอะไรก็ตาม เราควรจะรู้สัดส่วนของตัวเองให้เป๊ะ ๆ เสียก่อน ซึ่งวิธีก็ทำได้โดยการวัด และจดบันทึกเอาไว้ ซึ่งเราเชื่อว่าหลายคนไม่เคยรู้มาก่อนว่าสัดส่วนจริงของตัวเอง โดยอาจจะรู้แบบคร่าว ๆ ว่าตัวเราใส่ไซส์อะไร แต่ไม่ได้เจาะจงละเอียดยิบ ดังนั้นถ้าอยากเป็นออนไลน์ช็อปเปอร์ที่ดี การรู้สัดส่วนของตัวเองจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดเลยก็ว่าได้ Lower Body ทีมงาน UNLOCKMEN ได้นำการวัดแบบสากลที่สุด ซึ่งเรียกว่ากฎของ Davinci เริ่มจากหาสายวัดมาสักเส้นเริ่มจากการวัดรอบคอเป็นตำแหน่งแรก รอบคอจะสามารถบอกขนาดของเอวได้โดยนำไปคูณสอง ความยาวของขา ให้เราเริ่มวัดจากด้านในของเป้าไปจนถึงตาตุ่ม ก็จะได้ความยาวของขา ( ให้เพื่ออีกสองนิ้วสำหรับความยาวขากางเกงในการซื้อกางเกง ) รอบเอว ( สำหรับคนที่คิดว่าวัดรอบคอไม่เป๊ะ )