CARS

รู้จัก BMW 6-Series ยนตกรรมระดับ Luxury ที่รวมเอาความ Sexy มี Style และ High-Tech ไว้ในคันเดียว

By: HYENA November 1, 2017

หากว่าคุณฝันอยากจะได้รถที่ยอดเยี่ยมสักคันหนึ่ง มันคงไม่ได้หมายความว่า คุณต้องการรถที่โดดเด่นในเรื่องของความแรง หรือสมรรถนะในการขับขี่เท่านั้น แต่มันต้องเป็นรถที่มีคุณค่า มีระดับ ภูมิใจทุกครั้งที่ได้ลงไปนั่งขับ และที่สำคัญคือ ความสวยงามต้องไม่เป็นรองใคร ด้วยองค์ประกอบเหล่านี้เองที่ทำให้หลายคนเลือกคิดถึง BMW ขึ้นมาเป็นอันดับแรก

แต่ด้วยการที่ BMW เองก็มีรถหลากหลาย Series ซึ่งถูกออกแบบมาให้ตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกันไป อย่าง 6-Series ที่เราจะพูดถึงกันในวันนี้ ซึ่งเปลี่ยนแปลงไปจาก 6-Series ที่ผ่านมา จากเดิมเราคุ้นตากันในแบบรถ Coupe’ สมรรถนะสูง ระดับ Super Luxury แต่ 6-Series รุ่นล่าสุด กลับเปิดตัวออกมาเหมือน 5-Series GT ทำให้หลายคนเกิดคำถามว่า มันมีที่มาที่ไปยังไงกันแน่

Jason Meredith’s Bagged BMW E24 6-Series by Stance Works

ก่อนจะพูดถึงยุคปัจจุบัน เราจะพาย้อนไปทำความรู้จักกับ BMW 6-series กันก่อน อย่างที่เรารู้ว่า BMW ได้แบ่ง Series รถยนต์ของตัวเองตาม Segment และไลฟ์สไตล์การใช้งาน ซึ่งเลข 6 ของ BMW นั้นถูกใช้สำหรับรถยนต์แบบ  Grand Tourers (Gran Turismo ในภาษา Italian) หมายถึงรถยนต์หรูหรา และมีสมรรถนะสูง เหมาะกับการใช้ขับทำความเร็วมาก ๆ บนทางยาว ๆ เช่น ขับรถเล่นต่างจังหวัดในวันหยุด โดยส่วนใหญ่จะมาในรูปแบบรถยนต์เครื่องวางหน้า ขับเคลื่อนล้อหลัง 2 ประตู Coupe’ ซึ่ง BMW ได้เปิดตัว 6-Series เป็นครั้งแรกในปี 1976 ในฐานะลูกหลานของ BMW E9 Coupe’ ที่สร้างชื่อเสียงในหน้าประวัติศาสตร์ให้ BMW ในช่วง 1968  – 1975

แต่จะว่าไปแล้ว BMW 6-Series นั้นไม่ได้มีออกมาสู่ตลาดให้เห็นกันบ่อย ๆ ทำให้นับตั้งแต่การถือกำเนิดจนมาถึงปัจจุบัน นับสายตระกูลรวมกันได้เพียง 4 Generations เท่านั้น เริ่มจาก First Generation 6-Series E24 (1976 – 1989), Second Generation 6-Series E63/E64 (2003 – 2010), Third Generation 6-Series F06/F12/F13 (2011 – 2016) เป็นครั้งแรกที่มีการทำตัวถัง 4 ประตูออกมา และ Fourth Generation G32 ที่เพิ่งเปิดตัวไปล่าสุด มากับตัวถัง 5-door hatchback ในชื่อ 6-Series Gran Turismo โดยที่จริงแล้ว มันคือ 5-Series GT ที่ถูกเปลี่ยนรหัส ในขณะที่ BMW ขยับรถยนต์ High Performance Coupe’ ไปใช้เลข 8-Series แทนนั่นเอง

กลับมาดูที่รถยนต์คันใหม่ ในรหัสตัวเลข 6-Series สด ๆ ร้อน ๆ มันก็มีสิ่งน่าสนใจอยู่มากมาย โดยเฉพาะใครที่กำลังมองหารถยนต์หรูหรา หล่อ แรง พร้อมเดินทางแบบครอบครัว อยากขับทั้งวันทำงานและวันพักผ่อนแบบครบเครื่องในหนึ่งคัน เราเชื่อว่าคุณจะต้องถูกใจยอดยนตกรรมแบบ Grand Tourer จาก BMW คันนี้อย่างแน่นอน

ไม่ใช่แค่ความสวยเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่รูปลักษณ์ที่โดดเด่นสะดุดตาของ BMW 6-Series Gran Turismo ยังมีเหตุผลบางอย่างซ่อนเอาไว้อยู่ด้วย โดยรถคันนี้ได้แรงบันดาลใจ และออกแบบให้สอดคล้องกับหลัก Aerodynamic ถึงแม้ว่าจะเป็นรถที่มีขนาดกลางค่อนไปทางใหญ่ แต่ตัวถังของมันผลิตด้วยเทคโนโลยีใหม่ที่มีชื่อว่า BMW EfficientLightweight ที่เป็นการใช้โครงสร้างน้ำหนักเบาอัจฉริยะ ผสมผสานวัสดุอลูมิเนียม รวมถึงเหล็กทนทานสูงมาใช้กันโดยเฉพาะ

อีกสิ่งหนึ่งที่มีการปรับปรุง และถูกเปลี่ยนแปลงให้มีความแตกต่างจาก 5-Series Gran Turismo  รถ Hatchback ขนาดใหญ่ที่ทาง BMW เคยผลิตขึ้นมา นั่นก็คือระยะของฐานล้อที่ถูกขยายให้มีความยาวมากขึ้น 3.8 นิ้ว และลดระยะความสูงระหว่างตัวถังถึงพื้นลงไปอีก 1 นิ้ว แม้ความแตกต่างทางตัวเลขที่เห็นอยู่อาจจะดูเล็กน้อย แต่ในด้านของการออกแบบแล้ว มันส่งผลให้ BMW 6-Series Gran Turismo คันนี้ มีฟีลลิ่งในการขับขี่ สมรรถนะในการยึดเกาะ การควบคุมที่เฉียบคมแตกต่างออกไปอย่างชัดเจน

ในเรื่องของการตกแต่งภายใน ถูกออกแบบมาโดยเน้นอารมณ์สปอร์ต หรูหรา กว้างขวาง และโฉบเฉี่ยวทันสมัยเหมือนใน BMW generation ใหม่ เช่น เรือนไมล์แสดงผลแบบ Digital,จอ iDrive ขนาด 10.25 นิ้ว รองรับการสั่งงานด้วยท่าทาง รวมถึงระบบ Apple Car Play และ Android Auto ถ่ายทอดความ Entertainment ผ่านชุดเครื่องเสียง Bowers & Wilkins Diamond Surround Sound System, กระจกบานประตูแบบ frameless ไร้ขอบ, เบาะหนังเกรด Premiun สีขาว White Ivory, Nappa Leather Colors และ Dakota Leather Color ให้เลือกได้ตามความชอบ เช่นเดียวกับการตกแต่งแผงคอนโซนลายไม้ ที่ทำให้ภายในห้องโดยสารมีเสน่ห์คลาสสิคยิ่งขึ้นไปอีก

ห้องเก็บสัมภาระท้ายมีขนาดใหญ่ถึง 610 ลิตร และสามารถขยายเพิ่มเป็น 1,800 ลิตรได้ด้วยการพับเบาะหลังลง

BMW 6-Series Gran Turismo จะมีการแบ่งย่อยออกเป็น  3 รุ่น ซึ่งแต่ละรุ่นก็จะมีการตกแต่งทั้งภายใน และภายนอกที่แตกต่างกันตามความเหมาะสมก็คือรุ่น Standard, Luxury และ M Sport

สำหรับในประเทศสหรัฐอเมริกานั้น BMW 6-Series Gran Turismo จะมีการวางจำหน่ายเพียงแค่รุ่นเดียว นั่นก็คือ 640i Gran Turismo xDrive ใช้ระบบขับเคลื่อน All-Wheel Drive ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์รหัส B58 ขนาดความจุ 3.0 ลิตร 6 สูบเรียง ที่ให้พละกำลังสูงถึง 335 แรงม้า และแรงบิด 332 ปอนด์/ฟุต ที่จัดส่งกำลังได้อย่างต่อเนื่องจากชุดเกียร์ ZF 8HP อัตโนมัติ 8-speeds จึงทำให้ BMW 6-Series 640i Gran Turismo xDrive ทำความเร็ว 0-100 โดยใช้เวลาเพียงแค่ 5.1 วินาทีเท่านั้น ส่วนในประเทศไทยต้องรอดูว่า BMW Thailand จะนำเครื่องยนต์รุ่นไหนมาทำตลาด

โดยรวมแล้ว BMW 6-Series Gran Turismo คันนี้ ความสวยไม่เป็นรองใครอย่างแน่นอน อีกทั้งยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของ 6-Series ที่มีความโดดเด่นสะดุดตาเอาไว้อย่างชัดเจน มันจึงเป็นรถอีกคันที่มีความครบเครื่อง ทั้งในด้านการออกแบบที่ครบเครื่อง หรูหรา สอดแทรกด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย เราจึงกล้าพูดได้เลยว่า BMW 6-Series Gran Turismo คือ ความแตกต่างที่ชัดเจนจาก 5-Series แม้มันจะดูคล้ายกัน แต่ก็มีรายละเอียดที่สร้างประสบการณ์ได้ต่างกันแน่นอน

 

SOURCE

 

HYENA
WRITER: HYENA
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line