ประเทศจีนถือเป็นแดนมหัศจรรย์ที่มีเรื่องราวแปลก ๆ เนื่องจากพวกเขาอาจจะมีประชากรมาก เมื่อมากคนก็ต้องมากความเป็นเรื่องธรรมดา เพราะเราคงจะเคยได้ยินข่าวมามากมายเกี่ยวกับประเทศนี้จนไม่จำเป็นต้องสรรหาคำพูดใด ๆ มาจำกัดความ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของปลอมที่ขึ้นชื่อลือชาถึงขนาดมีมหานครแห่งของก๊อปปี้อย่าง เสินเจิ้น แต่ไม่ใช่เฉพาะในเสินเจิ้นเท่านั้น เพราะบรรดาของปลอมต่างขายกันอย่างเปิดเผยเต็มไปเกือบทุกซอกทุกมุมในประเทศนี้ ซึ่งล่าสุดหากใครตาไม่ดี ไม่รู้เรื่องอาจจะพลาดพลั้งได้ เมื่อมีข่าวออกมาจากประเทศจีนว่า ที่เมืองเหวินโจวมีช็อป YEEZY เปิดขายเป็นแห่งแรกของโลก ที่แม้แต่ Kanye West และ adidas ก็คงไม่เคยรู้มาก่อน จากกระแสความนิยมของ adidas YEEZY ที่แพร่ไปทั่วโลก บวกกับสินค้าที่มีไม่พอต่อความต้องการ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ถูกผลิตออกมาขาย แต่จากข่าวข้างต้นถือเป็นเรื่องอุกอาจที่มีชาวจีนไม่ทราบนามรวมเอาของปลอมภายใต้ trademark ของ Kanye West มารวมกันตั้งช็อปขายเป็นเรื่องเป็นราว และขายกันอย่างโจ๋งครึ่ม ภายในร้านก็เต็มไปด้วยรองเท้า adidas Yeezy ทั้งโมเดลที่เคยวางจำหน่ายมาแล้ว รวมถึงโมเดลแปลก ๆ ที่เราเชื่อว่าแม้แต่ Kanye West เองก็ยังไม่เคยออกแบบมาก่อน แต่พี่จีนเขามีออกมาแล้ว ดังนั้นใครที่เดินทางไปจีนก็ต้องระวังให้ดีอย่าหลงเชื่อว่ามีช็อป YEEZY ราคาถูกมาเปิดแล้ว แถมที่ขำกว่าจากภาพข่าวที่เรานำมาหากสังเกตจะเห็นได้ว่าร้านข้าง ๆ ก็เป็นการก๊อปปี้ New Balance
หากพูดถึงความเป็น Japanese ทุกคนก็จะคิดถึงความปราณีต ประดิษฐ์ประดอย และดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ ที่ได้รับการการันตีเหมือนเครื่องหมายตีตราว่า หากพูดถึง made in japan เราจะคิดถึงของคุณภาพสูง สมราคา จึงไม่น่าแปลกใจที่ส่งผลให้แฟชั่นของพวกเขาจะเจริญก้าวหน้า ได้รับการยอมรับจากคนทั่วทุกมุมโลก และเมื่อไม่นานมานี้ก็เริ่มมีการพูดถึงเกี่ยวกับ “Japonism” หรือคตินิยมศิลปะญี่ปุ่น ซึ่งถ้าคนไม่ได้สนใจ หรือเสพสื่อญี่ปุ่นแบบคลั่งไคล้อาจจะคิดว่าเป็นศัพท์ใหม่ แต่จริง ๆ แล้วคำนี้ มีการถูกบัญญัติมานมนานแล้วตั้งแต่ปี 1872 ที่ซึ่งนักสะสมศิลปะชาวฝรั่งเศสชื่อ Phillippe Burty ได้จำกัดความ Japonism หมายถึงศิลปะวัฒนธรรมของญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นงานปั้น สถาปัตยกรรม หรือ Fine art ที่ถูกถ่ายทอดผสมผสานผ่านวัฒนธรรมดั้งเดิม และความทันสมัยของญี่ปุ่นยุคใหม่ที่ได้ผนวกความเป็นตะวันตกลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งบ่อยครั้งที่ Japonism มักถูกนำมาใช้เล่นกับแฟชั่นของผู้หญิงเป็นหลัก แต่ก็มีบ้างที่มีการนำแนวคิดนี้มาผสานกับเสื้อผ้าของผู้ชายจนเกิดความโมเดิร์นที่เท่แปลกตา และเต็มไปด้วยลูกเล่นต่าง ๆ มากมาย ตัวอย่างเช่น Jaspal Man ที่มีการนำแรงบันดาลใจจาก Japonism ร่วมสมัย มาเป็นไอเดียในการออกแบบเสื้อผ้าฤดูกาลใหม่ ที่เราได้หยิบยกมาพูดในวันนี้ ซึ่งหนุ่ม ๆ UNLOCKMEN สามารถนำไปใช้ได้ไปกับชีวิตประจำวัน
ผู้ชายอย่างเราคงจะไม่มีใครสนใจเปลี่ยนกระเป๋าสตางค์กันบ่อย ๆ อยู่แล้ว ถ้าเกิดไม่ทำหาย หรือขาดหลุดลุ่ยเซอร์จนสภาพรับไม่ได้ คงไม่ค่อยมีใครเปลี่ยนกันแต่อย่างใด ต่างจากผู้หญิงที่เน้นความสวยงามเข้าว่า ต้องมีกระเป๋าสตางค์หลากหลายแบบเพื่อเข้ากับการแต่งตัวที่แตกต่างตามโอากาส รวมถึงสาว ๆ บางคนที่สนใจเรื่องดวงว่ากระเป๋าใบนี้ใช้แล้วเงินจะไหลมาเทมา หรือเงินรั่วไหลทำให้ต้องมีการเปลี่ยนกระเป๋าสตางค์บ่อยเป็นว่าเล่น แต่ก็ใช่ว่าผู้ชายอย่างทั้งหลายจะใช้กระเป๋าสตางค์อะไรก็ได้ ขอให้ยัดแบงค์ ยัดบัตรได้ก็พอ เราขอแนะนำว่าเมื่อถึงคราวต้องเปลี่ยนจริง ๆ กระเป๋าสตางค์ก็เป็นอีกหนึ่งไอเทมที่หนุ่ม ๆ จะละเลยไม่ได้ เพราะมันเป็นสิ่งที่เราต้องใช้เป็นประจำวัน หากอยากจะใช้ไปนาน ๆ ก็ควรเลือกใบที่มีวัสดุตัดเย็บดีเสียหน่อย ก่อนอื่น ขั้นตอนแรกเราต้องมาทำความรู้จักว่ากระเป๋าสตางค์สำหรับผู้ชายนั้นมีกี่ประเภท และมีรูปร่างหน้าตาเช่นไรกันบ้าง เริ่มจากแบบแรกที่เรียกว่า Bifold หรือกระเป๋าสตางค์แบบสองพับซึ่งเป็นที่นิยมมากที่สุดในหมู่ผู้ชาย และวัสดุที่นิยมใช้กันมากก็จะเป็นประเภทหนังแท้ กระเป๋าสตางค์ทรงนี้ถูกผลิตขึ้นครั้งแรกในช่วงปี 50s หลังจากที่มีบัตรเครดิตการ์ด จึงเกิดเป็นช่องใส่บัตรค่อนหลากหลาย อีกทั้งจุดเด่นคือเวลาใส่เงินจะสามารถกางออกได้ทั้งแผ่น กระเป๋าทรงนี้จึงเหมาะกับผู้ชายที่ชอบเหน็บกระเป๋าสตางค์ไว้ที่กระเป๋าหลังกางเกงเป็นหลัก แบบที่สองเรียกว่า Trifold กระเป๋านี้เป็นที่นิยมสำหรับเด็ก ๆ วัยรุ่นมากกว่าผู้ใหญ่ หากใครยังคิดภาพไม่ออก ให้นึกถึงกระเป๋าสตางค์ 3 พับแบบสมัยก่อนที่รูปร่างหน้าตาจะคล้ายกระเป๋าแบบ Bifold เลย แต่ต้องพับ 3 ทบ และด้วยจำนวนพับที่มากขึ้นทำให้เก็บของได้มากขึ้น แต่ก็แลกมาด้วยขนาดที่ดูเทอะทะขึ้น Checkbook Wallet เป็นกระเป๋าที่เหมาะสำหรับนักธุรกิจที่ไม่ค่อยพกเงินสด แล้วก็ต้องเดินทางบ่อย
เรื่องของสไตล์การแต่งตัวเป็นสิ่งที่ห้ามอะไรกันไม่ได้อยู่แล้ว ซึ่งแต่ละคนก็จะมีความหลากหลาย และชัดเจนอยู่ภายในตัวเอง บางคนชอบสตรีท บางคนเรียบง่าย ๆ มินิมอล ก็สุดแล้วแต่ไลฟ์สไตล์ความปรารถนาส่วนตัว และจากที่เราสังเกตเทรนด์การแต่งตัวของผู้ชายไทย ส่วนใหญ่จะค่อนข้างชื่นชอบอะไรที่เรียบง่าย ๆ สบาย ๆ ชิว ๆ อยู่ซะมาก ดังนั้นวันนี้ทีมงาน UNLOCKMEN ขอจะมาแนะนำรองเท้าสายมินิมอลที่ผู้ชายสายชิวควรมีติดไว้อย่างน้อยหนึ่งคู่ Common Project Original achilles low ขอเปิดหัวด้วยแบรนด์หรูเรียบอย่าง Common Project แบรนด์ที่ไม่จำต้องเป็นมีลวดลายอะไรให้มันยุ่งยาก เพียงตัวเลขที่บริเวณส้นเท้าก็สามารถทำให้มันได้รับความนิยมจนกลายเป็นแบรนด์มินิมอลระดับต้น ๆ ของโลก โดยเฉพาะรองเท้ารุ่น achilles low ที่เรียกใช้วัสดุคุณภาพสูง แม้ว่าจะเลอะง่ายไปเสียหน่อย แต่ก็สามารถทำความสะอาดได้ง่ายเช่นกันเพราะทำจากวัสดุหนังแท้ ราคาก็จัดอยู่ในขั้นแพงนิดหนึ่ง แต่ถือว่าเป็นการลงทุนครั้งเดียวอยู่ Converse Jack Purcell หากพูดถึงต้นตำรับความมินิมอลคงจะหนีไม่พ้นรองเท้า Jack Purcell ที่ออกแบบมาเพื่อนักเทนนิสในชื่อเดียวกันเมื่อครั้งอดีต ซึ่งระดับความคลาสสิคของมันก็จัดอยู่ในขั้นตำนาน เพราะรองเท้าคู่นี้เก๋าขึ้นหิ้งขนาดฮิปเตอร์ตัวพ่ออย่าง James Dean ยังสวมใส่เลย อีกทั้งในปัจจุบันทาง Converse ก็มีการปรับปรุงใส่เทคโนโลยีใหม่ ๆเข้าไปให้สวมใส่สบายมากยิ่งขึ้น
หากพูดถึงแร็พเปอร์ผิวขาวในวงการเพลงต่างประเทศคงไม่ค่อยจะได้รับความนิยมเสียเท่าไหร่ นาน ๆ จะมีหลุดออกมาดังเปรี้ยงป้างแบบ Eminem สักคน ซึ่งก่อนหน้านี้ก็พอจะมี Macklemore ที่ดังขึ้นมาสักแป๊ป แต่สายนี้จะออกอินดี้ไปเสียหน่อยเลยไม่ค่อยได้รับการโปรโมตในวงกว้าง แต่ชั่วโมงนี้หากพูดถึงแร็พเปอร์ผิวขาวอย่างไรก็ต้อง G-Eazy แร็พเปอร์สุดเท่ หน้าหล่อ ลุคแบดบอยที่พ่วงความสามารถบวกกับการแต่งตัวที่ฉีกสไตล์จากฮิปฮอปทั่วไป สำหรับคนที่อาจจะยังไม่รู้ว่า G-Eazy คือใคร เขามีชื่อเต็ม ๆ ว่า Gerald Earl Gillum มีฉายาว่าเจมส์ดีนแห่งวงการฮิปฮอป ซึ่งจะบอกว่าเส้นทางการเป็นนักร้องของเขาค่อนข้างโชคดีมากในระดับหนึ่ง เพราะเขาได้โพสต์เพลงลงใน Myspace กับแก๊งค์เพื่อนที่ชื่อ The Bay Boyz จากนั้นโปรดิวเซอร์ของ Lil Wayne และ Snoop Dogg มาเห็นเข้าจึงได้ จับมาเซ็นสัญญาออกเพลงเป็นเรื่องเป็นราว และเพียงไม่นาน G-Eazy ก็มีเพลงสร้างชื่ออย่าง Me, Myself & I แต่สิ่งที่เราจะพูดไม่ใช่เรื่องของความสำเร็จหรือประวัติส่วนตัวของ G-Eazy แต่อย่างใด เพราะวันนี้อยากจะมาพูดเรื่องสไตล์การแต่งตัวของเขาที่จัดอยู่ในขั้นเทพคนหนึ่ง มาลองดูกันว่าเป็นมีสไตล์ไหนที่ชาว UNLOCKMEN พอจะไปปรับใช้กับตัวเองได้บ้าง ฮิปฮอปในมาดร็อคเกอร์
พอพูดถึงรองเท้าผ้าใบสมัยนี้ก็จะมีเพียงไม่กี่แบรนด์ที่วิ่งเข้ามาในหัว ไม่ว่าจะเป็น adidas , Nike , Converse , Vans เพียงเท่านั้น แต่อันที่จริงแล้ว รองเท้ายี่ห้อแปลก ๆ จากทางฝั่งยุโรปก็มีลูกเล่นดีเทลที่เจ๋งไม่แพ้กัน เพราะถ้าหากพูดกันตามเนื้อผ้า ปัจจุบันเหล่าแบรนด์ยอดนิยมทั้งหลายต่างย้ายฐานการผลิตมาอยู่ในประเทศอย่าง จีน เวียดนาม อินโดนีเซีย ทำให้บ่อยครั้ง คุณภาพของสินค้าจะมีหลุด qc บ้าง อาทิ กาวปริ เย็บไม่ประณีต รองเท้าไม่ทนบ้าง ซึ่งต่างจากรองเท้าแบรนด์ยุโรปที่ยังคงความคราฟต์ของงานออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ดังนั้นวันนี้ UNLOCKMEN จะมาแนะนำรองเท้านอกกระแสจากฝั่งยุโรปที่มีคุณสูงเหมาะแก่การเป็นเจ้าของ Diadora N9000 Diadora ถือเป็นแบรนด์สปอร์ตชื่อดังจากประเทศอิตาลี มีจุดเด่นคือพวกเขายังคงใช้ฐานการผลิตเดิมในประเทศ และคัดสรรเฉพาะวัสดุเกรดพรีเมี่ยมในการสร้างรองเท้าคุณภาพสูงออกมา อย่างเช่น N9000 คู่นี้ ซึ่งเจ้า N9000 เป็นรองเท้าวิ่งทรงรีโทรที่เคยผลิตครั้งแรกในปี 1990 จึงจะเห็นได้ว่ารองเท้ารุ่นนี้มีจุดเด่นเอกลักษณ์แบบรองเท้ายุค 90s อย่าง Ralph Lauren , Nautica และ Coogi สำหรับวัสดุที่ Diadora
ในขณะที่หน้า Facebook News Feed มีแต่สาว Sexy นุ่งน้อยห่มน้อย เชื่อว่าเด็กรุ่นใหม่สมัยนี้น่าจะจินตนาการความตื่นเต้น ที่ต้องยืนแง้มแอบดูหนังสือ Sexy อย่างนวลนางในวัยเด็กหายไปซะสนิท แต่เราอยากขอนำเสนอสาว Sexy อีกรูปแบบนึง แบบที่ไม่ต้องเปิดหน้าอกให้ใครเห็น แต่เป็นความ Sexy ผ่าน Instagram ที่สุขภาพดี มีกล้ามท้องสวย ๆ ให้มองได้เพลิน ๆ ไม่แพ้กัน แถมดูมาก ๆ ยังทำให้เรารู้สึกอยากออกกำลังฟิตหุ่นตามพวกเธออีกด้วย ANLLELA SAGRA สาวนักกีฬาและนางแบบชาว Colombian ที่หุ่นของเธอนั้นแน่นฟิตเปรี๊ยะ ดูแข็งแรงและสุขภาพดี กล้ามเนื้อท้องเป็นมัด ๆ ที่ชัดเจนแจ่มแจ๋ว รับกับใบหน้าสวยเฉียบคมของเธอเป็นอย่างดี ไม่แปลกใจเลยที่เธอจะมี Followers มากถึง 9.1 ล้านคน เนตไอดอลไทยต้องดูไว้ แบบนี้ถึงจะเรียกว่ามีดีของจริง Follow Instagram: anllela_sagra PAIGE HATHAWAY คนที่สอง แม้ Follower จะไม่มากเท่าคนแรก แต่จำนวนคนติดตาม
เรื่องเซลฟี่อาจไม่ใช่เรื่องถนัดสำหรับผู้ชาย เมื่อเทียบกับสาว ๆ เพราะพวกเรามักคิดว่าการใช้รูป Abstract วิว หรือหน้าตัวเองแบบเบลอ ๆ จะทำให้เราดูเท่ ดูเป็นผู้ชายที่น่าค้นหา ซึ่งมันก็มีส่วนแต่ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะว่าสุดท้ายเวลาที่ผู้หญิง หรือใครก็ตามที่เข้ามาส่อง Facebook หรือ Instagram ของคุณ พวกเธอก็หวังจะเห็นหน้าของคุณแบบชัด ๆ เพราะสุดท้ายหน้าตาก็คือประตูบานแรกสำหรับทุกอย่าง ดังนั้นเราก็อยากจะมาให้ชาว UNLOCKMEN มาลองหัดเซลฟี่ หามุมเท่ ๆ ของตัวเอง ซึ่งเราศึกษาวิธีการจากนายแบบต่างประเทศว่าเขามีเทคนิคกันอย่างไร เพื่อว่าจะมาเก็บไว้ใช้เป็นรูปโปรไฟล์สักรูปสองรูป เพราะอย่างน้อยมันต้องดีกว่ารูปที่เพื่อนแท็กมาให้คุณอย่างแน่นอน Rule#1 เซลฟี่ คือการถ่ายรูปด้วยตัวเองดังนั้นถ้าคุณให้เพื่อนถ่าย มันก็จะไม่ใช่ทันที โดยคุณอาจจะต้องใช้เวลากับมันสักหน่อย วันไหนที่คุณรู้สึกมั่นใจแต่งตัว ทรงผมเป๊ะ ก็ลองหามุมแสงดี ๆ เซลฟี่ตัวเองสักหน่อย แต่ไม่จำเป็นต้องสนใจกับช่วงล่างมาก พยายามถ่ายให้เห็นเฉพาะครึ่งตัวบนก็พอ อย่างัดมุมสูงมาก เพราะส่วนใหญ่จะไปไม่ค่อยรอดถ้าไม่หล่อจริง Rule#2 การหาช๊อตเจ๋ง ๆ ที่น่าสนใจเพื่อแชร์ให้คนอื่นได้รับรู้เช่น กำลังขึ้นเครื่องบิน , ถ่ายในรถ , บนห้องสูทโรงแรม หรือภาพถ่ายกับเหล่าคนดังต่าง ๆ ก็ช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้รูปนี้ดูไม่ธรรมดาจนเกินไป
ช่วงหลัง ๆ เราอาจจะแนะนำเรื่องสไตล์ที่ออกไปในเชิงสตรีทแฟชั่นเสียเป็นส่วนใหญ่จนลืมไปว่า ก็ยังมีผู้ชายอีกจำนวนไม่น้อยที่เป็นสาย Metrosexual หนุ่มเมืองที่มีความหลงใหลเกี่ยวกับการดูแลรักษาตัวเอง รวมถึงแฟชั่นอย่างมากแต่ไม่ใช่เกย์ ซึ่งอันที่จริงแล้วปัจจุบันผู้ชายในบ้านเราก็ค่อนข้างจะให้ความสนอกสนใจเรื่อง เสื้อผ้า หน้า ผม มากยิ่งขึ้นกว่าสมัยก่อน โดยจะเห็นได้ว่าอย่างน้อยทุกวันนี้ไลฟ์สไตล์ของเราจะหันมาให้ดูแลตัวเองไม่ว่าจะเป็นสุขภาพที่หันมาออกกำลังกาย หรือการจัดแต่งทรงผม พร้อมเสื้อผ้าที่ดูเนี้ยบอย่างสุด ๆ และผู้ชายสาย Metrosexual ที่แล่นเข้ามาในความคิดเป็นลำดับต้น ๆ ที่เราจะนึกถึง คงจะหนีไม่พ้น Adam Levine นักร้องนำวง Maroon 5 Adam Levin โด่งดังในฐานะนักร้องผู้มากความสามารถการันตีผลงานความสำเร็จมากว่าสิบปี แต่อีกหนึ่งสิ่งที่ช่วยเป็นจุดเสริมส่งให้เขากลายเป็นซุปเปอร์สตาร์ระดับโลก ก็คือ สไตล์การแต่งตัว พร้อมรอยสักเท่ ๆ ทำให้ Adam Levine มีความเป็นแบดบอย ดังนั้นวันนี้ทีมงานจึงขอนำสไตล์การแต่งตัว Metrosexual แบบฉบับ Adam Levine มาฝากชาว UNLOCKMEN กัน Colourful Rock Star Adam Levine เป็นนักร้องร็อคที่ไม่ได้เดินตามความจำเจที่ต้องใส่เพียงเสื้อผ้าสีโทนดำ ขาว สไตล์นักดนตรีทั่วไป
หนึ่งในตำนานรถยนต์ Sedan หรูหราสำหรับผู้บริหาร แต่สามารถไล่หวดตามรถ Supercar ได้สบาย ๆ ต้องยกให้ BMW M5 ที่ถูกออกแบบบนพื้นฐานของ DNA เทคโนโลยีรถแข่งตั้งแต่แรกเริ่ม แค่อาศัยใช้ร่างของ Passenger cars เท่านั้นเอง ถ้าใครเคยขับ BMW 525d มาแล้ว คงจะรู้ดีว่ามันแรงขนาดไหน ถ้าขยับมาเป็น M5 นี่บอกได้เลยว่าคนละเรื่อง แต่เราคงต้องหยุดความปรับทับใจที่มีมาทิ้งไปก่อน เพราะ 2018 BMW M5 F90 มีรายละเอียดที่น่าตื่นตาตื่นใจรออยู่เพียบ จาก teaser video ด้านล่าง ที่ส่งเสียงแหวกอากาศโหด ๆ พร้อมโชว์ brake caliper สีเหลืองสไตล์ Sport ให้ขนลุกชัน Limits can be exceeded. The all-new BMW M5 is living proof.