คงปฏิเสธไม่ได้ว่าวิกฤตการณ์โควิด-19 ที่กินเวลามาร่วม 2 ปี นั้นส่งผลกระทบเป็นวงกว้างทั้งทางด้านเศรษฐกิจ รวมไปถึงรูปแบบวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป และตลาดอสังหาฯ ก็เป็นอีกหนึ่งภาคธุรกิจที่ต้องปรับตัวขนานใหญ่เปลี่ยนจากรุกมาเป็นตั้งรับเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่ท้าทาย แต่ล่าสุดในงาน ANANDA 2022 WHAT WE’RE MADE OF เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ทุกถ้อยแถลงถึง Business Direction รวมถึงวิดีโอแสดงวิสัยทัศน์ที่พร้อมก้าวข้ามทุกข้อจำกัดไปสู่อีกขั้นในปีหน้า จากผู้นำแห่งวงการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับคนเมืองอย่าง ANANDA คือสัญญาณที่บอกว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ของไทยนั้นพร้อมที่จะกลับมาเติบโตอีกครั้ง อีกทั้งยังเต็มไปด้วยความน่าสนใจกับความตั้งใจฉีกกรอบแนวคิดที่อยู่อาศัยแบบเดิม ๆ เพื่อตอบสนองวิถีชีวิตใหม่ของคนเมืองได้อย่างแท้จริง ยืนยันได้จากการประกาศกลับมาเดินหน้าลุยเปิดตัวโครงการใหม่ และธุรกิจใหม่ของ ANANDA ในปี 2022 ซึ่งในวันนี้ UNLOCKMEN ขอรับอาสาสรุปทุกประเด็นสำคัญในการคลายข้อสงสัยที่ว่าเหตุใดทาง บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) จึงเชื่อมั่นกับทิศทางของตลาดอสังหาฯ ไทยในปีหน้า พร้อมอัพเดทโปรเจ็กต์ใหม่ ที่ตอกย้ำการก้าวข้ามขีดจำกัดไปสู่อีกขั้นของ ANANDA เพื่อเป็นข้อมูลเน้น ๆ สำหรับคนเมืองยุคใหม่ซึ่งกำลังมองหาที่อยู่อาศัย รวมถึงเหล่านักลงทุนที่กำลังติดตามความเป็นไปของตลาดอสังหาฯ ในบ้านเราเอาไว้ประกอบการตัดสินใจในปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง URBAN LIFE
เมื่อเราปรนเปรอชีวิตไปกับเรื่องซื้อข้าวของที่ต้องการ ถึงจุดหนึ่งผู้ชายเราจะอยากมองหาความมั่นคงให้ตัวเอง ด้วยการซื้อบ้านหรือคอนโด บางคนรู้ช้า บางคนรู้เร็ว แต่ไม่ว่าอย่างไรส่วนมากแล้ว “อสังหาริมทรัพย์” จะเป็นอีกเลเวลการลงทุนที่เรารู้สึกอยากไปเอี่ยวด้วยเสมอ จะอยู่เองหรือปล่อยเช่าก็อุ่นใจ เพราะเรารู้ว่าหนทางนี้มันคือการเตรียมพร้อมสู่วิถีการเป็น “เสือนอนกิน” แน่นอนว่าถ้าพูดถึงอสังหาฯ ขึ้นมา ย่านกลางเมือง หรือย่านเศรษฐกิจจะได้รับการปักหมุดให้เป็นสินค้าระดับมาสเตอร์พีซ ดังนั้นพวกเรต 2.5 – 5 ล้านบาท ที่มนุษย์เงินเดือนธรรมดาอย่างเรา ๆ ต้องหืดจับก็นับว่าโคตรจะพื้นสำหรับสิ่งนี้ไปทันที เพราะบางแห่งที่เรากำลังจะพูดถึงอยู่นี้มีราคาระดับหลักร้อยล้าน! ใช่ คุณฟังไม่ผิด ที่สำคัญพื้นที่แพงมหาโหดนี้ยังมีคนแห่กันไปซื้อด้วย แม้ประเทศเราจะอยู่ในช่วงเศรษฐกิจจะไม่ค่อยดีก็ตาม อะไรคือเบื้องหลังความพิเศษกว่าและอยู่ค้างฟ้าที่คนมีเงินต้องสอยมาให้ได้เหล่านี้ ลองมาดูไปพร้อมกัน อันดับ 1 : 98 Wireless โครงการพรีเมี่ยมละแวกไม่ใกล้ไม่ไกลออฟฟิศเราเอง เดินจาก BTS เพลินจิตเราต้องผ่านที่นี่ทุกวัน เพนเฮ้าส์ที่นี่จัดเป็นอันดับหนึ่งของประเทศทั้งเรื่องความแพงและความหรู ด้วยเงื่อนไขที่ผู้ซื้อทุกคนต้องตาลุกวาวอย่างการปล่อย Freehold หรือขายขาด ให้คนซื้อได้กรรมสิทธิ์ โดยว่ากันว่าพื้นที่กลางเมืองตรงนี้คือพื้นที่ 77 ยูนิตสุดท้ายของถนนเส้นนี้แล้วที่เราจะมีโอกาสเป็นเจ้าของ ละแวกนี้ปกติราคาตารางวาละ 2 ล้านบาท วันหน้ารับรองว่าจะทวีราคามากกว่านี้ การเก็งกำไรแบบนี้เลยเป็นเรื่องที่ใครก็ตามที่มีเงินเย็นในมือจะไม่ปล่อยโอกาสนี้ให้พลาดไป สำหรับส่วนอื่นอย่าง facility
ทุกเช้า เราเดินทางออกจากบ้านเพื่อไปปฏิบัติหน้าที่อันหลากหลาย แต่ล้วนมีความสำคัญไม้แพ้กันในมุมของแต่ละคน เราพุ่งออกจากบ้านด้วย Passion ที่เต็มเปี่ยม แต่พลังงานเหล่านั้นกลับหมดไประหว่างทางตั้งแต่เรายังเดินทางไม่ถึงจุดหมาย การเสียเวลาราว 2-3 ชั่วโมงในแต่ละวันให้กับการเดินทางไปและกลับ ทำให้คนรุ่นใหม่เริ่มตั้งคำถาม และหาทางออกให้กับตัวเองว่า “แล้วเราจะอัพเกรดคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นได้อย่างไร” ซึ่งทางออกที่ง่ายที่สุดในปัจจุบัน คงต้องเป็นการมองหาที่อยู่อาศัยที่ช่วยอำนวยความสะดวกตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนได้ แน่นอนว่ามันไม่มีคำว่าดีที่สุด แต่สิ่งที่เราควรพิจารณาคือ ‘คำว่าเหมาะสมกับเราที่สุด’ มากกว่า ‘YOU ARE WHERE YOU LIVE’ อาจจะเป็นคำใหม่สำหรับใครหลายคน การเลือกใช้ชีวิตตามรูปแบบไล์ฟสไตล์ของเรา มันได้ซอยย่อยถี่ลงถึงระดับสถานที่ หรือย่านที่อยู่อาศัยไปแล้ว ด้วยปัจจัยหลายอย่างที่ Filter ตัวเลือกของเราอย่างไม่รู้ตัว ซึ่งข้อดีของการเข้าใจไลฟ์สไตล์และสิ่งแวดล้อมของย่านที่อยู่อาศัยนั้น ๆ คือการใช้ชีวิตที่มีความสุข อัพเกรดคุณภาพชีวิตได้ดีกว่าการเลือกที่อยู่แค่จากกรอบราคาและความนิยมของโครงการอย่างที่หลายคนบอกกันว่าดี แต่บางทีมันอาจจะไม่เหมาะกับเราก็ได้ จากการพยายามอัพเกรดคุณภาพชีวิตของตัวเองเหมือนกับคนอ่านทุกคน เราก็เป็นอีกคนที่มองหาที่อยู่อาศัยที่สามารถช่วยทุ่นแรงวันทำงานจันทร์ถึงศุกร์ และยังตอบโจทย์ด้านไล์ฟสไตล์ครบ ๆ ในวันหยุดและจังหวะหลังเลิกงานได้เต็มที่ วันนี้เราจะมาแนะนำอีกโครงการคอนโดมิเนียมที่น่าสนใจ เป็นอีกทางเลือกสำหรับคนที่กำลังมองหาคอนโดใหม่ ณ ตอนนี้ มีจุดเด่นทั้งด้านที่ตั้งโครงการ ราคาพื้นที่ ไลฟ์สไตล์ รวมถึงคอนเซปต์และสิ่งอำนวยความสะดวกภายใน นั่นก็คือ LIFE SUKHUMVIT 62 The Concept
เมื่อพูดถึง เอพี (ไทยแลนด์) เราคิดว่าคงไม่มีใครไม่รู้จัก และเชื่อว่าสิ่งแรกที่หลายคนนึกถึงคงหนีไม่พ้นภาพของผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สำหรับคนเมือง ซึ่งนอกจากจะเป็นที่รู้จักผ่านคอนโดมิเนียมชั้นนำหลากหลายโครงการ ในส่วนของไฮเอนด์ทาวน์โฮมจากเอพี ภายใต้แบรนด์ “บ้านกลางเมือง” และ “PLENO” (พลีโน่) คืออีกหนึ่งภาพจำของพวกเรา ที่ตอกย้ำให้เห็นถึงประสบการณ์การพัฒนาทาวน์โฮมระดับมืออาชีพ และความมุ่งมั่นในการพัฒนานวัตกรรมที่อยู่อาศัยเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืนของเอพี จนสามารถครองใจผู้บริโภคกว่า 50,000 ครอบครัว ภายใต้ความสำเร็จเหล่านี้ คงเป็นเรื่องดีไม่น้อยหากเราได้เรียนรู้ถึงวิธีคิด รวมถึงกลยุทธ์ที่เอพีดำเนินมาตลอด 25 ปีเพื่อนำมาเป็นแนวทางปรับใช้ในการทำงาน การทำธุรกิจของตัวเองบ้าง ซึ่งถือเป็นโอกาสดีที่ UNLOCKMEN ได้มีโอกาสพูดคุยกับทาง เอพี (ไทยแลนด์) เกี่ยวกับเคล็ดลับในการก้าวสู่ความสำเร็จ จนเรียกได้ว่าเป็น NO.1 TOWNHOME หรืออันดับหนึ่งของผู้พัฒนาทาวน์โฮมในประเทศไทย ซึ่งสิ่งที่ตัวแทนของเอพีบอกเล่าให้เราฟังไม่ได้เป็นกลยุทธ์ที่ยุ่งยากซับซ้อน แต่สิ่งที่ทำให้ เอพี (ไทยแลนด์) นั้นมีความแตกต่างเหนือคู่แข่งจนก้าวมายืนอยู่แถวหน้าของวงการผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เป็นแค่คำง่าย ๆ สามพยางค์ที่เรียกว่า “ความเข้าใจ” ที่แม้จะฟังดูง่าย แต่กว่าที่จะเข้าใจอะไรได้อย่างลึกซึ้งนั้นต้องใช้ทั้งเวลา และความทุ่มเทเป็นอย่างมาก โดย “ความเข้าใจ” ในมุมมองของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างเอพี คือความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงความต้องการของผู้อยู่อาศัย รวมถึง Lifestyle ที่แตกต่างกัน เพื่อนำมาต่อยอดพัฒนาการออกแบบสเปซ ที่ไม่ได้ตอบโจทย์เพียงแค่มิติเรื่องฟังก์ชั่นการใช้งานเท่านั้น
ท่ามกลางความวุ่นวายในกรุงเทพมหานคร ต้องยอมรับว่าที่อยู่อาศัยถือเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่สามารถกำหนดรูปแบบจังหวะชีวิตของคนเมืองอย่างเรา ๆ ได้เป็นอย่างดี ด้วยรูปแบบวิถีชีวิตหลักของผู้คนส่วนใหญ่ ที่หลีกหนีการเดินทางเข้าเมืองได้ยาก ด้วยภารกิจต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน ทำธุรกิจ หรือแม้กระทั่งวันพักผ่อน ที่ยังไงก็เลี่ยงการเข้าไปใช้ชีวิตซึ่งมี Lifestyle ผูกอยู่กับห้างสรรพสินค้า ร้านรวง รวมถึงสถานที่ต่าง ๆ ใจกลางเมืองไม่ได้ ด้วยเหตุผลเหล่านี้ทำให้ใครต่อใครต่างก็อยากหาที่อยู่อาศัยที่มีพิกัดอยู่ใจกลางเมือง หรือมีทำเลใกล้กับรถไฟฟ้า เพื่อให้จังหวะชีวิตที่รีบเร่งเคร่งเครียดนั้นผ่อนคลายลง กับการเดินทางในเมืองที่สะดวกสบาย สามารถประหยัดเวลาในการเดินทาง รวมถึงกำหนดเวลาวางแผนชีวิตได้ง่ายขึ้น และเมื่อมีความต้องการสูง แน่นอนว่าราคาค่างวดของพื้นที่ Prime Area ที่มีค่ายิ่งกว่าทองเหล่านั้น ต่างถูกจับจองไปพัฒนาเป็นโครงการคอนโดมิเนียมน้อยใหญ่ ที่มีราคาต่อตารางเมตรโหดใช่ย่อย ยิ่งในพื้นที่แถบสีลม, สาทร, พระราม 4 ซึ่งเป็นพื้นที่ CBD ศักยภาพสูงยิ่งไม่ต้องพูดถึง กับราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรของคอนโด Hight Rise แนวรถไฟฟ้า ที่ราคาทะลุ 1.5 แสนบาท ไปจนถึง 4 แสนบาท แล้วแต่ความหรูหราไฮโซของโครงการ ทำให้ใครที่วางแผนอยากมีคอนโดใจกลางกรุงใกล้รถไฟฟ้า อาจต้องถอดใจ ถอยไปมองหาทำเลในซอย หรือถอยไปไกลหน่อยในทำเลเกาะแนวรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย แต่จริง ๆ
เหตุผลหลัก ๆ ในการเลือกที่อยู่อาศัยของคนเมืองส่วนใหญ่คงหนีไม่พ้นทำเลที่ตั้งซึ่งต้องรองรับการเดินทางที่สะดวก เพราะวิถีชีวิตในแต่ละวันล้วนแล้วแต่มี Lifestyle ที่เกี่ยวข้องกับสถานที่ต่าง ๆ ใจกลางเมืองแทบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นวันทำงาน หรือแม้กระทั่งวันพักผ่อน ทำให้คอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้าคือตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของผู้คนซึ่งต้องการมี Urban Lifestyle ที่ลงตัว แต่ต้องยอมรับว่าคอนโดมิเนียม ทำเลรถไฟฟ้าที่ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางเมืองนั้น มีข้อจำกัดในเรื่องเพดานราคา และพื้นที่ใช้สอย ซึ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ที่จะเป็นเจ้าของคอนโดกว้างขวาง มีที่จอดรถส่วนตัวแบบไม่ต้องจอดซ้อนคัน พร้อมพื้นที่นั่งเล่นสังสรรค์ เอาไว้นั่งเล่นเกม ดูหนัง สร้าง Men Cave ไว้รอต้อนรับเพื่อนฝูง หรือพื้นที่ตั้งโชว์ของสะสมเท่ ๆ เก๋า ๆ โดยที่ไม่ต้องซุกไว้ในตู้ รวมถึงใครที่กำลังจะตกลงปลงใจแต่งงาน แล้วต้องการคอนโดกว้าง ๆ เพื่อรองรับการขยับขยายครอบครัวในอนาคต ในงบประมาณที่คนทำงานอย่างเรา ๆ สามารถเป็นเจ้าของได้ ผ่อนสบาย ไม่ต้องแบกภาระหนักจนหน้ามืดทุกเดือน ทางออกของการหาที่อยู่อาศัยซึ่งตอบโจทย์ด้านพื้นที่ใช้สอยที่เพียงพอ มีโลเคชั่นที่เดินทางสะดวก รวมถึงราคาที่เหมาะสม ไม่พุ่งทะลุไปถึงตารางเมตรละหลายแสน เหมือนคอนโดหรูติดรถไฟฟ้าใจกลางมหานคร คงหนีไม่พ้นทาวน์โฮม, ทาวน์เฮ้าส์ ซึ่งอยู่ในพื้นที่รอบนอกถัดออกมาจากย่านใจกลางเมือง ที่ถึงแม้จะไม่ติดรถไฟฟ้าแบบเดินชิลล์ ๆ ไม่ทันได้เมื่อย
ท่ามกลางการแข่งขันที่เข้มข้นในวงการอสังหาฯ นอกจากเรื่องของการพัฒนาโครงการให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้อยู่อาศัย รวมถึงการฟาดฟันด้วยกลยุทธ์ทางการตลาดที่ดุเดือด ยังมีแนวคิดดี ๆ ที่มองย้อนกลับไปถึงจุดเริ่มต้นในการสร้างพื้นฐาน พัฒนาคน พัฒนาบุคลากร รวมถึงผู้คนทั่วไป ให้มีความรู้ความเข้าใจด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ดียิ่งขึ้น กับการเปิดตัว AP Academy Lab แล็บเพื่อการเรียนรู้ครบวงจรด้านอสังหาฯ แห่งแรกในประเทศไทย ซึ่งพัฒนาโดยบริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ผู้นำในการพัฒนาที่อยู่อาศัยคุณภาพสำหรับคนเมือง ที่ยกห้องเรียน และห้องปฏิบัติการด้านอสังหาฯ มารวมเอาไว้ในที่เดียว ด้วยคอนเซ็ปต์ที่น่าสนใจ และความสงสัยว่าแหล่งเรียนรู้ด้านอสังหาฯ แนวใหม่ จะฉีกกฎการเรียนรู้ในตำราให้สัมผัสได้จริง สามารถเข้าถึง เข้าใจง่ายโดยไม่น่าเบื่อได้อย่างไร UNLOCKMEN จึงขอเข้าไปเยี่ยมชม AP Academy Lab แล็บการเรียนรู้ดีไซน์เท่ ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 800 ตารางเมตร บนชั้น 31 ของอาคารเลครัชดา ถนนรัชดาภิเษก ที่ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดัง ‘คุณแจ๊ค ปิตุพงษ์ เชาวกุล’ แห่ง Supermachine Studio สตูดิโอออกแบบไทยชื่อเสียงโด่งดังไกลในระดับสากล ร่วมกับ ทีม AP