มีหลายสาเหตุที่ความสัมพันธ์ทำให้เรารู้สึกแย่ อึดอัด และไม่มีความสุข สาเหตุนั้นอาจเกิดขึ้นจากตัวของเราเอง สาเหตุนั้นอาจเกิดขึ้นจากอีกฝ่าย แต่ไม่ว่าจะเกิดขึ้นจากสาเหตุใด ปัญหาที่เกิดขึ้นจากตัวเราเอง ก็เป็นเรื่องที่สามารถแก้ไขได้ง่ายกว่าเสมอ ในบทความนี้เราเลยอยากจะโฟกัสไปที่ปัญหาในส่วนของตัวเราเอง คือ การไม่มีความยืดหยุ่นทางจิตใจ (psychological inflexibility) ซึ่งมันอาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความสุขในการใช้ชีวิตคู่อย่างมาก และเรามีคำแนะนำเรื่องวิธีการพัฒนาตัวเองให้มีความยืดหยุ่นทางจิตใจมากขึ้นมาฝากทุกคนด้วย What is psychological flexibility ? เวลาเราต้องเผชิญหน้ากับปัญหาต่าง ๆ สิ่งหนึ่งที่ทำให้เราแต่ละคนรับมือกับปัญหาเหล่านั้นได้แตกต่างกัน คือ ความยืดหยุ่นทางจิตวิทยา (psychological flexibility) คนที่มีความยืดหยุ่นต่ำอาจเกิดความเครียดสูงเวลาเจอกับปัญหา และไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ดี ในขณะที่ คนที่มีความยืดหยุ่นสูงอาจจะตั้งสติและคิดแก้ปัญหาได้ดีกว่า เมื่อเจอปัญหาเดียวกัน ความยืดหยุ่นทางจิตวิทยา (psychological flexibility) คือ ทักษะในการรับมือกับความคิด ความรู้สึก อารมณ์ รวมถึงประสบการณ์ที่ยากลำบากและมีความท้าทาย ลักษณะของความยืดหยุ่นทางจิตวิทยาก็เช่น เปิดรับและยอมรับทุกประสบการณ์ไม่ว่าจะดีหรือร้าย มีสติรู้ตัวและอยู่กับปัจจุบันได้ตลอดทั้งวัน รับมือกับความคิดและความรู้สึกแย่ ๆ ได้โดยไม่ยึดติดกับมัน สามารถมองปัญหาแบบรอบด้านแม้จะอยู่ในความคิดแย่ ๆ หรือความรู้สึกที่เลวร้าย ยึดมั่นในคุณค่าของตัวเองแม้จะเจอกับความเครียดหรือความวุ่นวาย รวมถึง ไม่ล้มเลิกที่จะทำตามเป้าหมายแม้จะเจอกับอุปสรรค์และความยากลำบาก ในทางกลับกัน หากเราไม่มีทักษะนี้ เราอาจใช้ชีวิตได้อย่างไม่มีความสุข
เคยรู้สึกไหมว่าคนอื่นไม่ค่อยอยากจะคุยกับเราเท่าไหร่ ? หรือว่า เจอกับความเจื่อนในการสนทนากับคนอื่นบ่อย ๆ รึเปล่า ? ไม่แน่ว่า ปัญหาอาจเกิดขึ้นมาจากตัวเรามี พฤติกรรมนักฆ่าบทสนทนา (Conversation Killers) และไม่มีใครกล้าบอกเรา ส่งผลให้เรามักเป็นผู้ทำลายบทสนทนาโดยที่เราไม่รู้ตัวอยู่เสมอ ในบทความนี้ UNLOCKMEN อยากช่วยให้ทุกคนพูดคุยกับคนอื่นได้อย่างราบรื่น โดยจะมาลิสต์พฤติกรรมแย่ ๆ ที่มักจะสร้างความไม่สบายใจให้กับคู่สนทนาของเรา และเมื่อเราหยุดทำพฤติกรรมเหล่านั้น จะช่วยให้ความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นได้ด้วย แต่ก่อนอื่นเราอยากจะมาพูดถึงความหมายของคำว่า Conversation Killers กันก่อน คำ ๆ นี้หมายถึง พฤติกรรมการสนทนาแย่ ๆ ที่จะทำให้คนอื่นอยากหยุดคุยกับเราให้เร็วที่สุด ซึ่ง Conversation Killers สามารถส่งผลเสียอย่างรุนแรงต่อความสัมพันธ์ได้ และอาจทำให้ความสัมพันธ์จบลงได้ในที่สุด บางคนอาจมี Creative Killers แต่ไม่รู้ตัวตัวเอง และไม่ได้ตั้งใจทำให้อีกฝ่ายรู้สึกแย่ ดังนั้น การรับรู้และกำจัด Conversation Killers อาจช่วยให้เรามีความมั่นใจในการสนทนามากขึ้น และยังส่งผลดีต่อการรักษาความสัมพันธ์กับคนรอบข้างด้วย สำหรับประเภทของ Conversation Killers จะมีหลากหลาย โดยแต่ละประเภทจะส่งผลเสียต่อการสนทนาต่างกัน ซึ่ง ชิวานิ
สกิลเปิดขวดเบียร์หรือขวดโซดาด้วยมือเปล่าดูเหมือนจะเป็นสกิลติดตัวชายแทบทุกคน จนถือเป็นเป็นสกิลที่ดูบ้าน ๆ ไปแล้ว แต่ถ้าเปิดไวน์โดยไม่มีที่เปิดขวดไวน์ได้ล่ะ? คิดดูว่าจะคูลแค่ไหน? UNLOCKMEN ขอรับรองว่านี่จะเป็นอีกหนึ่งสกิลใหม่ ๆ ที่เพิ่มคะแนนให้คุณในสายตาสาว ๆ ท่ามกลางคืนที่หิ้วไวน์ไปเตรียมโรแมนติกเต็มที่ แต่ดันไม่มีที่เปิดขวด เพราะนอกจากจะดูโรแมนติกมากกว่าการดื่มเบียร์กินพิซซ่าเป็นไหน ๆ จะได้คะแนนความเท่เพิ่มขึ้นจากการเปิดขวดไวน์โดยไม่ใช้ที่เปิดแบบแมน ๆ ไปอีกหนึ่งสเต็ป มาดูกันเถอะว่าการเปิดไวน์โดยไม่ใช้ที่เปิดสามารถใช้อะไรเปิดแทนได้บ้าง? รองเท้า ใครจะไปคิดว่ามันจะง่ายขนาดนี้ แค่ถอดรองเท้าที่เราใส่อยู่ออกมาหนึ่งข้าง เอาขวดไวน์ที่ต้องการเปิดวางลงไปแทนที่เท้าของเรา จากนั้นก็หากำแพงแล้วลงมือตบตูดขวดไวน์ลงบนกำแพงได้เลย ผลลัพธ์ก็เปิดออกมาง่ายดายอย่างที่เห็นในคลิปนี่เอง กุญแจบ้านนี่แหละ กุญแจบ้าน กุญแจรถ กุญแจห้องกิ๊ก หรือกุญแจอะไรก็ได้ เชิญล้วงควักออกมาทันทีที่รู้ว่าไม่มีที่เปิดไวน์อย่างเป็นกิจจะลักษณะ แล้วเสียบลงไปบนฝาก๊อกไวน์ทำมุม 45 องศา จากนั้นค่อย ๆ ออกแรงหมุนลูกกุญแจ จนฝาก๊อกค่อย ๆ เคลื่อนตามขึ้นมา ง่ายไม่ง่ายก็ดูจากคลิปเอาแล้วกัน นิตยสารสักเล่ม หลักการเดียวกันกับการใช้รองเท้าเปิด แต่นี่ง่ายกว่าเก่าด้วยการหานิตยสารที่ไม่ใช้แล้วมา เผื่อรองเท้าที่คุณใส่อยู่นั้นมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ หรือกลัวว่าจะดูไม่สะอาด ไปจนถึงกลัวว่ารองเท้าคู่โปรดของเราจะเปื้อนได้ เราก็ใช้นิตยสารที่หนาหน่อย มารองตูดขวด จากนั้นก็จัดการกระแทกเข้ากับกำแพงตามใจชอบได้เลย กรรไกร กรรไกรก็นับเป็นอีกของคู่บ้านที่ไม่ว่าบ้านไหนก็น่าจะมี คว้ามันมาใช้ให้เป็นประโยชน์ซะ ด้วยการแทงขาด้านหนึ่งของมันลงไปในฝาก๊อกโดยทิ่มลงไปให้ลึกจนสุดด้าม ก่อนจะใช้แรง
แม้แทบทุกคนจะเห็นด้วยกับแนวคิดที่ว่าอย่าดูคนแค่ภายนอก แต่ใช่ว่าเราจะมีเวลา มีโอกาสในการเรียนรู้นิสัยใจคอใครต่อใครได้ทุกคน ยิ่งในกรณีที่พบเจอกันเป็นครั้งแรกยิ่งแล้วใหญ่ เพราะมีการวิจัยออกมาว่า ก่อนที่จะได้พูดคุยทำความรู้จักกันดีพอ มนุษย์ก็ใช้ประสบการณ์จากบุคลิก รูปลักษณ์ภายนอก มาเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินคนแปลกหน้าที่เพิ่งพบเจอกันไปแล้วเรียบร้อย โดยระยะเวลาในการประเมินก็จะแตกต่างออกไป แบบฉับไวก็เริ่มตั้งแต่แว้บแรกทันทีที่เห็นหน้า ไปจนถึงราว ๆ ครึ่งนาที แต่โดยเฉลี่ยมนุษย์จะใช้เวลาแค่ไม่เกิน 7 วินาทีเท่านั้น ในการตัดสิน ให้คะแนนความน่าไว้ใจ ความน่าพูดคุย น่าคบหา ต่อบุคคลที่อยู่ตรงหน้า ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ถือเป็นข้อมูลที่น่าสนใจ ที่เราอยากให้ชาว UNLOCKMEN นำช่วงเวลา 7 วินาทีอันแสนมีค่า ไปใช้ให้เป็นประโยชน์ เพราะถ้ารู้กลยุทธ์การสร้างความประทับใจให้ตรงจุดตั้งแต่ 7 วินาทีแรก ก็เปรียบเสมือนเรามีกุญแจดอกสำคัญที่จะนำไปปลดล็อคกำแพงในจิตใจ เพิ่มแต้มต่อด้วยการสร้าง First Impression ให้ประทับใจผู้คนทั้งหลายที่เราต้องพบเจอกันเป็นครั้งแรก ไม่ว่าจะเป็นการพบปะลูกค้า, เจรจาธุรกิจ, สัมภาษณ์งาน, สร้างมิตรใหม่, หรือเข้าหาผู้ใหญ่ในเหตุการณ์สำคัญ ใครจะไปรู้ว่า เวลาแค่ 7 วินาที อาจจะนำพาไปสู่โอกาสอันยิ่งใหญ่ในอนาคตได้ง่ายขึ้น เคล็ดวิธีในการสร้าง First Impression นั้นทำได้ไม่ยาก Amy Cuddy ศาสตราจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาสังคมจากมหาวิทยาลัย Harvard
หลายครั้งที่เราต้องเผชิญกับช่วงเวลาแห่งความอึดอัด ซึ่งจากประสบการณ์ที่ได้ประเมินดูแล้ว ไม่มีอะไรที่จะเทียบเท่า การที่จะต้องไปงานเลี้ยง งานฉลอง หรืองานปาร์ตี้ ที่เราไม่รู้จักใครเลยแม้สักคนเดียว เรื่องแบบนี้สามารถเกิดขึ้นได้โดยที่คุณไม่ทันตั้งตัว โดยเฉพาะเมื่อคุณย่างเข้าสู่วัยทำงาน เพราะในบางครั้ง คุณอาจจะต้องเผชิญกับการไปงานเลี้ยง, งาน Party หรืองานอะไรก็ตาม ที่คุณไม่รู้จักใครเลยแม้แต่คนเดียว แน่นอนว่า ไม่มีใครอยากจะรู้สึกว่าตัวเองเป็นแกะดำท่ามกลางฝูงชน และผู้คนแปลกหน้า มันอาจจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อยก็จริง แต่การที่จะสร้างความสัมพันธ์ใหม่ ๆ ให้ราบรื่นกับกลุ่มคนที่พวกเขาต่างก็รู้จักกันเองอยู่แล้วนั้น ในความเป็นจริงถือเป็นสิ่งที่หลาย ๆ คน รู้สึกไม่กล้า และทำตัวไม่ถูกเมื่อเจอเหตุการณ์ที่ว่ามานี้ ดังนั้น วันนี้เราจึงมี 5 Step ที่จะช่วยให้คุณฝังตัวเข้ากับสังคม และแทรกซึมไปในสถานที่ต่าง ๆ ที่ไม่มีใครเลยสักคนที่คุณรู้จักได้อย่างราบรื่น ไม่ทำให้คนอื่น ๆ รู้สึกว่า ไอ้นี่เป็นใคร หรือ มันมาจากไหนกัน! แถมยังทำให้คนที่เพิ่งพบเจอกันแบบสด ๆ ร้อน ๆ รักคุณได้อย่างรวดเร็วเพียงแค่ได้พูดคุยกับคุณ “5 Simple Steps to Make Friends And Be Magnetic