ในยุคที่กล้องถ่ายรูป และ Smartphone ล้ำสมัยด้วยเทคโนโลยีขนาดนี้ ทั้งความคมชัดในระดับที่ไม่ธรรมดา คมกริบแทบจะบาดลูกตาบวกกับความสะดวกสบายใจการ Edit ภาพให้สวยได้ด้วย Application เสร็จสรรพในตัว ทำให้กล้องถ่ายรูปเริ่มที่จะมีคนสนใจน้อยลง แต่เห็นที่จะไม่มีกล้องชนิดไหน ที่น่าเห็นใจไปมากกว่า กล้อง Instant ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นกระแสอย่างหนักชนิดฮิตติดชาร์จทั้งในประเทศไทย และในต่างประเทศ แต่สุดท้ายกลับโดนมนุษย์ที่บ้าความทันสมัย โยนทิ้งโยนขว้าง บ้างก็เลือกใช้ไป เพราะสาเหตุที่ว่า ทั้งใหญ่ และไร้ความคมชัด แถมยังต้องใช้ฟิล์มอีก แต่จะว่าไปแล้ว ถ้าหากคุณลองมองกล้อง Instant ดูดี ๆ ใช้มันให้ถูกกับความต้องการ รวมไปถึงเลือกใช้แบรนด์ที่มีคุณภาพ กล้อง Instant เหล่านี้ ก็มีดี และไม่ได้กากจนคุณต้องเลิกใช้มันอย่างที่หลาย ๆ คนทำกันในปัจจุบันนี้ก็ได้ วันนี้เราจึงได้นำเอา 5 กล้อง Instant ที่รับรองได้เลยว่า ไม่กากอย่างที่ใครหลาย ๆ คนคิด เอามาแนะนำให้คุณลองดูกัน เผื่อใครที่กำลังจะซื้อกล้อง Instant มาใช้จะได้ลองนำเอาไปคิด ส่วนคนที่เคยมีของดีเหล่านี้อยู่ และโยนมันทิ้งเอาไว้ที่บ้านจนฝุ่นเก่า จะได้ลองหยิบมันขึ้นมาปัดฝุ่นใช้งานกันอีกครั้ง อย่าปล่อยให้พังไปฟรี ๆ
ต้องยอมรับว่าทุกวันนี้เทคโนโลยี Virtual Reality หรือ VR นั้นมีบทบาทในชีวิตของผู้คนในยุคปัจจุบันมากขึ้น ที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดคือในแง่ของการเป็นอุปกรณ์ด้านความบันเทิงที่ค่อย ๆ พัฒนาขึ้นมาท่ามกลางการแข่งขันในเรื่องของเทคโนโลยีความคมชัดของภาพ ที่นับวันจะยิ่งชัดขึ้นไปเรื่อย ๆ จากความละเอียดทั่ว ๆ ไป ก็เริ่มมีแบบ HD, Full HD ไปจนถึง 4K และ 5K ที่เข้าขั้นชัดโคตร ๆ ไปแล้ว แถมยังเตรียมการพัฒนาความชัดไปสู่ระดับ 8K ที่เรียกได้ว่าเป็นความคมชัดระดับบ้าคลั่ง ชัดกว่า Full HD ถึง 16 เท่า ย้อนกลับมาที่เรื่องราวของเทคโนโลยี Virtual Reality ที่มีให้สัมผัสกันในรูปแบบของแว่น VR ซึ่งกำลังได้รับความนิยมเพราะว่านอกจากเทคโนโลยีความคมชัดแบบเว่อร์วังอลังการของภาพที่รุดหน้าไปไกล ทางด้านของประสบการณ์การรับชมที่สมจริงก็ได้เจ้า VR นี่แหละมาช่วยเติมเต็ม เพียงแค่สวมแว่นนี้เข้าไปก็เหมือนได้หลุดเข้าไปอยู่อีกโลกกับภาพที่ไม่ว่าจะก้มเงย หันหน้าไปทางไหน ก็มองเห็นได้โดยรอบ พร้อมกับวิวทิวทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงไปตามทิศทางที่มอง ส่งผลให้ตอนนี้ VR แทบจะมีเอี่ยวในทุกแพลตฟอร์มความบันเทิงด้านภาพ ทั้งเกม และหนัง แม้กระทั่งอุตสาหกรรมหนังผู้ใหญ่ 18+ ก็หันมาลุยคอนเท้นท์ที่รองรับ
ผู้ชายที่ยอดเยี่ยม และมีรสนิยมส่วนใหญ่ มักจะรู้จักเลือกสิ่งที่ดีที่สุด และเหมาะสมกับตัวเองที่สุดให้กับตัวเองอยู่เสมอ จึงไม่แปลกใจที่หลาย ๆ ครั้งเรามักจะได้เห็นประโยคที่คอยเตือนให้เรารู้ว่า อะไรกันแน่ที่เป็นสิ่งซึ่งควรค่าแก่การเป็นเจ้าของ อย่างประโยคคลาสสิคที่ว่า “Dress Italian, Drive German, Drink Scott, Smoke Cuba และ Kiss French” ซึ่งทุกสิ่งที่กล่าวมานี้ ล้วนก็เป็นสิ่งที่ไม่มีใครเถียงได้ ว่ามันไม่จริง หรือยังมีสิ่งที่ดีกว่า เพราะมันผ่านการพิสูจน์มาแล้ว ทั้งในเรื่องของ คุณภาพ คุณค่า และกาลเวลา อย่างที่ว่า ทอง ยังไงก็ยังเป็นทองอยู่วันยันค่ำ ไม่เคยเสื่อมคุณค่า หรือมีอะไรที่ถดถอยไปตามกาลเวลา กลับมาที่ประโยคคลาสสิคที่เราอ้างถึงก่อนหน้านี้กันสักหน่อย เพราะถึงแม้ว่า คำพูดประโยคนั้น มันอาจจะดูเหมือนไกลตัวพวกเราชาวไทยไป ไล่เรียงรายชื่อแต่ละประเทศในประโยค ก็ไม่เห็นจะมีประเทศไหนอยู่ใกล้กับประเทศของเราเลย แต่ถ้าหากคุณลองคิดดูดี ๆ จะเห็นได้เลยว่า จริง ๆ แล้ว มันก็ไม่ได้ไกลตัวของเราไปมากมายจนเกินเอื้อมถึง ยกตัวอย่างเช่น รถยนต์จากประเทศ German ที่เราเชื่อว่า ไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็ตาม หากมีโอกาสเลือกรถให้กับตัวเองได้สักคันหนึ่ง ก็คงจะต้องมีชื่อแบรนด์ BMW
เปิดตัวไปครั้งแรกในปี 2012 Honda N-One รถยนต์ JDM Kei-cars ยอดฮิตสำหรับลูกค้าญี่ปุ่นโดยเฉพาะ ด้วยหน้าตาน่ารัก ขนาดกระทัดรัด ที่ผ่านมาได้รับความนิยมอย่างมากมาโดยตลอด แม้อายุขัยการทำตลาดจะผ่านมาเนิ่นนาน แต่ก็ยังไม่มีการปรับเปลี่ยน New Model ด้วยรูปทรงที่ออกแบบมาได้คลาสสิค มีความ Retro ในตัวอย่างเต็มเปี่ยม จึงเอาชนะกาลเวลาแบบไม่มีล้าสมัยได้ไม่ยาก อาศัยแค่อัพเกรดการตกแต่งให้ดูน่าตื่นเต้นขึ้นก็เกินพอ ซึ่งถือว่าไม่ใช่ธรรมดา สำหรับรถญี่ปุ่นที่ทำตลาดมาเกือบ 6 ปีได้โดยไม่ต้องมี new generation ออกมาใหม่ และเวอร์ชั่นล่าสุดที่ Honda ปล่อยออกมาให้เลือก 4 สไตล์การตกแต่งรอบใหม่นี้ ก็ทำให้ N-One ดูหล่อขึ้นเป็นกอง ทุกอย่างของ Honda N-One ยังคงเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เครื่องยนต์ 660cc. 58 แรงม้า ขับเคลื่อนล้อหน้าด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT เหมือนเดิม แต่เพิ่มรูปแบบการตกแต่งใหม่ พร้อมออพชันอำนวยความสะดวกมากขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องปกติสำหรับการทำตลาดรถ Kei car ที่วาง positioning
Caught Red-Handed แปลว่าโดนจับได้คาหนังคาเขา ในที่นี้เราสามารถใช้ได้กับกรณีของ apple อย่างเต็มปากเต็มคำ หลังจากข้อสงสัยที่หลายคนเคยพูดกันว่า apple กดดันให้เราซื้อเครื่องทางอ้อม โดยทำให้เครื่องรุ่นเก่าทำงานได้ช้าลงเป็นเต่าคลานหรือเปล่า? คำตอบที่ apple ยอมรับหลังจากโดนคนจริงจับได้ก็คือ ‘ใช่ เราทำให้มันช้าลงจริง แต่เราหวังดีนะ’ ถ้าเราเคยสงสัยว่า ทำไม iPhone ออกรุ่นใหม่ทีไร รุ่นเก่าที่เรากำลังใช้อยู่ถึงได้เสื่อมประสิทธิภาพลงอย่างรวดเร็ว ไม่เหมือนวันแรกที่มันเคยทำงานได้อย่างคล่องแคล่ว ยิ่งเทียบกับรุ่นใหม่ new iOS ยิ่งต่างกันเหมือนกระต่ายกับเต่า ล่าสุดความลับมาแตกเอาด้วยฝีมือของ Geekbench ที่ทำการทดลองเทียบประสิทธิภาพของ iPhone หลายรุ่นทั้งเก่าและใหม่ พบว่าเมื่อ iPhone รุ่นเก่ามีอายุมากขึ้น แบตเตอรี่ก็เสื่อมลง และนั่นทำให้การทำงานของ iPhone ช้าลงอย่างเห็นได้ชัด แต่เมื่อเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่เข้าไป ต่อให้รันบน iOS รุ่นล่าสุดเกินอายุ iPhone กลับสามารถทำงานได้ตามปกติ หลังการค้นพบครั้งนี้ apple ออกมายอมรับว่า ลดประสิทธิภาพการทำงานของ iPhone รุ่นเก่าที่แบตเตอรี่เสื่อมจริง แต่ที่ทำไปเพราะหวังดี เนื่องจากเมื่อพลังไฟในแบตมีน้อย อาจส่งผลให้ iPhone ดับเองได้แม้จะมีแบตเตอรี่เหลืออยู่ถึง
กลับมาเจอกันอีกครั้งกับคอลัมน์ Toys for Boys ที่เชื่อว่าหนุ่ม ๆ UNLOCKMEN หลายคนคงกำลังรอคอยไอเทมเด็ดตัวใหม่ ที่เราเลือกมาแนะนำกันอยู่เสมอ ซึ่งวันนี้เราได้มีโอกาสได้ทดลองใช้งานสมาร์ทวอทซ์ Samsung Gear Sport และหูฟังไร้สาย Samsung Gear IconX และจากประสบการณ์ที่ได้สัมผัสมาประมาณ 3 – 4 วัน ต้องบอกว่าความสามารถต่าง ๆ ของมันเหมาะมากกับวิถีชีวิต Urban Men อย่างเรา ๆ ที่ต้องผจญกับความเร่งรีบ การงานที่รุมเร้าในแต่ละวัน ตั้งแต่เช้ายันค่ำ จนหลาย ๆ คนน่าจะรู้สึกเหมือนกับเราว่า แม้จะใช้เวลาหมดไปกับภารกิจมากมาย แต่กลับแทบไม่มีเวลาสำหรับออกกำลังดูแลสุขภาพตัวเองเลย แต่จริง ๆ แล้วถ้าหากสังเกตดี ๆ ตั้งแต่เริ่มก้าวเท้าออกจากบ้าน ทุกการเคลื่อนไหวของเราล้วนเป็นการออกกำลังกายแทบทั้งสิ้น ซึ่ง Samsung Gear Sport ที่สวมใส่ติดข้อมือนั้นเปรียบเสมือนมอนิเตอร์ที่คอยติดตามทุกพฤติกรรม ทุกการขยับเคลื่อนไหวแทบทุกฝีก้าว แล้วแสดงผลออกมาให้เราเห็นเป็นตัวเลข ข้อมูล Info Graphic บนหน้าปัด เพื่อให้เห็นความคืบหน้าในการเผาผลาญไขมัน รวมถึงความฟิตของร่างกาย ซึ่งข้อมูลต่าง
รถรุ่นใหม่ ๆ สมัยนี้ คันไหนไม่มีจอนี่ถือว่าล้าหลังมาก ๆ ชนิดที่หลายคนจะซื้อรถใหม่ที ขอให้มีจอไว้ก่อน ไม่สนว่าจะเป็นแบบทัชสกรีน หรือไม่ทัชสกรีนแต่ต้องมี! กันเลยทีเดียว เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ไอ้คนที่ขับรถรุ่นเก่า ๆ อย่างเราเอง ก็ไม่ใช่จะไม่อยากจะมีจอ แต่จะให้ไปซื้อรถคันใหม่ทั้ง ๆ ที่คันเก่าก็ยังขับได้ดีแค่ไม่มีมันก็ดูจะบานปลายใช่เหตุ บางคนอยากจะมีจอแต่รู้มากหน่อย ก็ไปแสวงหาเอาตามร้านเครื่องเสียง ร้าน Car Audio ทั้งหลายกันแทบพลิกแผ่นดินกะว่า จะเอามาติดเพิ่มเองเข้าไปให้หายอยาก สุดท้ายก็ต้องตีรถเปล่ากลับบ้าน เพราะว่ารถของคุณพี่นั้นเก่าเกินไป ยังไม่มีบริษัทจอไหนย้อนยุคไปถึงก็มีไม่น้อยเช่นกัน แต่วันนี้ ความฝันของคนอยากมีจอในรถ ดูเหมือนจะถูกจุดประกายขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากที่หลายคนช่างแม่งไม่สนใจเรื่องจอ และใช้รถไปตามยถากรรมเป็นที่เรียบร้อย ด้วยนวัตกรรมที่มีชื่อว่า “Vehroot” ที่จะช่วยให้รถของคุณทันสมัย และมีจอเพิ่มขึ้นมาได้ง่าย ๆ เพียงแค่ขอให้คุณมีอุปกรณ์ Smartphone หรือ Tablet ไม่ว่าจะเป็น iOS, Android แม้กระทั่ง Tablet หรือ Smartphone ระบบปฏิบัติการ Windows ก็เป็นใช้ได้อีกด้วย “Vehroot” ที่ว่านี้ เป็นหนึ่งใน
ลมหนาวมาเยือนทั้งที เชื่อว่าหลายคนคงหนีไม่พ้นการที่ตกเย็นเลิกงานก็เตรียมพร้อมไปสนุกสนานกันต่อกันที่ลานเบียร์อย่างแน่นอน เพราะนอกจากการได้นั่งฟังเพลงเพราะ ๆ ท่ามกลางอากาศเย็น ๆ แล้ว การได้ดื่มเบียร์สด ๆ พร้อมกับมีอาหารตาอย่างเหล่าน้อง ๆ เชียร์เบียร์เป็นกับแกล้มนั้นยิ่งทำให้ความเหนื่อยล้าทั้งหมดจากการทำงานหายไปเป็นปลิดทิ้ง แต่ก็อย่างว่า บ้านเราจะหนาวปีหนึ่งก็คงไม่เกิน 10 วัน พออากาศเริ่มไม่ค่อยเย็น ลานเบียร์ที่เคยว่าดีก็ไม่ค่อยจะไปกันสักเท่าไหร่ สู้นั่งตากแอร์อยู่บ้านสบายใจก็ไม่ได้ น่าเสียดายถ้าหากว่าที่บ้านมีตู้เบียร์สดให้กดกินก็คงจะดี ถ้าเป็นเมื่อก่อน คำพูดตัดพ้อว่า อยากได้เบียร์สด ๆ ดี ๆ มากินที่บ้านนั้น อาจจะเป็นอะไรที่เราได้ยินกันบ่อย ๆ แต่ถ้าเป็นตอนนี้ ใครพูดบ่นแบบนี้ ถือว่าเป็นพวกหลังเขามากเลยทีเดียว เพราะล่าสุด Hopsy ได้ทำการเปิดตัว ตู้เบียร์สดขนาดกำลังดีออกมาให้คอเบียร์สดทั้งหลายได้สอยกันไปตั้งโรงเบียร์ขนาดย่อมที่บ้านของตัวเองกันได้แล้ว บอกเลยว่า ถูกใจผู้ชายสายตับแข็งอย่างเรา ๆ แน่นอน ซึ่งที่มาของอุปกรณ์จากสวรรค์ชิ้นนี้ เกิดจากประสบการณ์ตรงที่เข้าใจดีว่าผู้ชายหลายคนขาดเบียร์เหมือนขาดใจ ยิ่งเวลาอยู่บ้านด้วยยิ่งไปกันใหญ่ จึงมีหลายคนที่เคยตัดสินใจคิดจะติดตู้เบียร์สดไว้กดกินมันที่บ้านเอาเองซะเลย แต่นั่นก็อาจจะยุ่งยากเกินไปทำให้ล้มเลิกความตั้งใจกันไปในที่สุด Hopsy จึงได้นำไอเดียที่เคยเป็นหมันของใครหลาย ๆ คนไปสานต่อทอฝันจนกลายมาเป็นความจริงในที่สุด ด้วยการเปิดตัวชุด Kit ขนาดกระทัดรัด พร้อมกับภาชนะบรรจุเบียร์สุดล้ำอย่าง Mini-Kegs ที่มีความจุ
ยุคนี้ใครๆก็อยากจะเป็นเจ้าของธุรกิจเองกันทั้งนั้น คนรุ่นใหม่ที่มีไอเดียกระฉูดหลายคนจึงแห่กันตั้งบริษัทสตาร์ตอัพ (Startup) ขึ้นมา เพื่อนำเสนอไอเดียตัวเองและหวังจะให้ธุรกิจของตัวเองประสบความสำเร็จแบบก้าวกระโดดอย่างรวดเร็ว หลายธุรกิจประสบความสำเร็จอย่างมาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าสตาร์ตอัพทุกบริษัทจะสามารถประสบความสำเร็จได้อย่างที่ตั้งใจด้วยเหตุหลายปัจจัย วันนี้เราจะพาดูตัวอย่างของสตาร์ตอัพ ที่เจ๋ง และสตาร์ตอัพที่เจ๊ง ในปี 2017 ที่ผ่านมากัน Discord เกมเมอร์ตัวยงน้อยคนจะไม่รู้จักโปรแกรมนี้ Discord คือโปรแกรมแชตข้อความและเสียงสำหรับนักเล่นเกมโดยเฉพาะ จุดเด่นของมันคือการที่มันทำงานร่วมกับเกมที่เราเล่นได้เลย โดยที่ไม่ต้องสลับหน้าต่างไปมา ซึ่งแตกต่างจาก Skype หรือโปรแกรมอื่นๆ Discord เปิดตัวเมื่อต้นปี 2017 และปัจจุบันมีผู้ใช้ทั่วโลกกว่า 45 ล้านคน เจ๋ง! Beepi Beepi เป็นเว็บไซต์ตลาดซื้อขายรถมือสองที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 2013 โดยมีทุนเริ่มถึง 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และเคยมีการคำนวณมูลค่าของบริษัทสูงสุดถึง 560 ล้านดอลลาร์ จุดเด่นของ Beepi คือมีการบริการลูกค้า โดยบริษัทจะนำรถที่ตกลงการซื้อขายได้แล้วส่งให้กับผู้ซื้อเองถึงบ้าน บริษัทปิดตัวลงในเดือนกุมภาพันธ์ เนื่องจากเงินทุนหมด เจ๊ง! Segment Segment คือบริษัทที่เก็บและประมวลผลข้อมูลของลูกค้า เพื่อนำมาสร้างเครื่องมือในการบริหารจัดการการตลาดออนไลน์ให้กับบริษัทที่ต้องการสร้างฐานการตลาดดิจิทัล โดยจุดเด่นคือการรวบรวมข้อดีของแอพลิเคชั่นที่ช่วยเหลือเรื่องการเก็บและประมวลผลข้อมูลต่างๆเข้าไว้ในแพลตฟอร์มเดียว ช่วยลดความยุ่งยากลงไปได้มาก บริษัทเปิดตัวตั้งแต่ปี
ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI (Artificial Intelligent) เข้ามามีบทบาทในชีวิตเรามากขึ้นทุกวัน ทุกคนที่ใช้สมาร์ทโฟน คงเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดที่ทำให้รเราได้คุ้นเคยกับระบบอันแสนฉลาด ที่สามารถคาดเดาพฤติกรรมของเราได้ หรือการเกิดขึ้นของรถยนต์ AI ที่ทำให้การใช้งานต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันง่ายขึ้น ดูเหมือน AI จะเกิดขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ชายอย่างเรา ๆ ในอนาคตอันใกล้นี้มากกว่าผู้หญิงซะอีก ผู้ชายจะต้องพึ่งพาผู้หญิงน้อยลง ผู้ชายจะมีความสบาย และความปลอดภัยมากขึ้น เรียกว่าเป็นการเปลี่ยนธรรมชาติที่ทำให้เราไม่จำเป็นต้องใช้ความพยายามอะไรอีกเลย ส่วนจะมีด้านไหนบ้าง ลองมาดูกัน ไม่ต้องเสี่ยงชีวิตเสียเลือดเนื้อ เมื่อหุ่นยนต์จะเข้ามาแทนที่ทหารหาญ มีการคาดการณ์กันว่า ภายในปี 2030 หุ่นยนตร์จะเข้ามาทำหน้าที่ออกรบ รับความเสี่ยงแทนมนุษย์ในกองทัพสหรัฐฯ เกือบทั้งหมด แม้โครงการจะยังคงล้มลุกคลุกคลาน แต่สหรัฐฯ ก็มีความพยายามในการพัฒนาโครงการนี้หลายต่อหลายครั้ง และคงเป็นการยากที่สหรัฐฯ จะละทิ้งความตั้งใจนี้ท่ามกลางการแข่งขันด้านแสนยานุภาพอันดุเดือดที่มีจีนและรัสเซียเป็นคู่แข่งสำคัญ บริษัทเอกชนด้านวิศวกรรมหุ่นยนต์อย่าง Boston Dynamics ก็ได้รับการสนับสนุนจากกองทัพสหรัฐฯ เป็นอย่างดีในการพัฒนาหุ่นยนต์เพื่อใช้ในสนามรบและปฎิบัติการต่างๆ หลายคนคงนึกไปถึงหนังไซไฟสงครามหุ่นยนต์กับมนุษย์อย่างแน่นอน นี่ยังคงเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันอย่างมากในเชิงศีลธรรม เพราะหากมีการใช้หุ่นยนตร์ในทางทหารอย่างเต็มรูปแบบจริง มันก็จะเข้าไปมีบทบาทในการตัดสินความเป็นความตายของชีวิตคน (ในกรณีที่อีกฝ่ายเป็นมนุษย์) ผ่านกระบวนการการคำนวณจากโปรแกรม ซึ่งมันก็จะไม่มีความรู้สึกผิดชอบชั่วดีเหมือนที่มนุษย์คนหนึ่งมี ไม่ต้องเหงาอีกต่อไป เมื่อมี AI