เชื่อว่าหลายคนฝันที่จะมีโอกาสออกไปสัมผัสความเวิ้งว้างอันไกลโพ้นที่นอกอวกาศสักครั้งในชีวิต เพราะอยากรู้ว่ามันจะมีความรู้สึกอย่างไร แต่ถึงอย่างไรก็ตามห้วงอวกาศนั้นมันไม่ได้เดินทางกันไปได้ง่าย ๆ เหมือนกับไปเซเว่น และนอกจากนั้นแล้ว สถานที่นอกโลกอย่างอวกาศยังเป็นอะไรที่กว้างใหญ่ และเต็มไปด้วยสิ่งเร้นลับเกิดกว่ามนุษย์อย่างเราจะคาดเดาได้ จึงทำให้คนส่วนใหญ่ไม่มีโอกาสที่จะได้สัมผัสกับมัน ได้เพียงแต่นั่งดูรายการสารคดีที่ถ่ายทอดเรื่องราว และความรู้ต่าง ๆ ผ่านทางทีวีเท่านั้นเอง แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีมนุษย์คนใดเคยขึ้นไปบนอวกาศมาก่อน เพราะอย่างน้อย ๆ ก็มีนักบินอวกาศจากหลายประเทศที่เคยขึ้นไป และกลับลงมาได้สำเร็จ อีกทั้งยังมาเล่าถึงสิ่งต่าง ๆ ที่เขาได้พบเจอมาเพื่อเป็นประโยชน์ และความรู้ใหม่ให้กับมวลมนุษย์ชาติอีกด้วย แต่ในตอนนี้ หลายคนที่ฝันอยากจะมีโอกาสได้สัมผัสกับ อวกาศ แต่ไม่สามารถจะบินทะลุนอกโลกไปได้อย่างพวกเราส่วนใหญ่นั้น ฝันของท่านกำลังจะเป็นจริง เมื่อล่าสุดได้มีผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาในรูปแบบของเทียนหอมที่สามารถสร้างบรรยากาศ และถ่ายทอดความเป็นอวกาศให้กับคุณแม้อยู่ที่บ้าน ด้วยการส้างกลิ่น ที่ทางผู้ผลิตบอกว่า เป็นกลิ่นของอวกาศ ให้เราได้สูดดมดื่มด่ำบรรยากาศกันง่าย ๆ บนโลก เทียนกลิ่นอวกาศที่ว่านี้ ไม่ได้นั่งเทียนมโนกลิ่มขึ้นมาแต่อย่างใด แต่พวกเขาได้นำกลิ่นอวกาศมาจากตัวของนักบินอวกาศที่เพิ่งกลับลงมาสู่โลก หลังจากที่ออกไปปฎิบัติภารกิจที่ดินแดนอันไกลโพ้นมา ซึ่งพอหลังจากที่นักบินกลับลงมาถึงโลก และถอดหมวกออก ทุกคนต่างรู้สึกได้ถึงกลิ่นที่แตกต่างออกไป และไม่เคยได้กลิ่นแบบนี้บนโลกมาก่อน พวกเขาจึงได้เอากลิ่นนี้ มาวิเคราะห์แล้วสร้างมันขึ้นมาให้ได้ใกล้เคียงที่สุด และเรียกมันว่า เทียนกลิ่นอวกาศ โดยกลิ่นอวกาศที่อยู่ในเทียนนี้ นอกจากจะให้ความหอมแล้ว มันยังเป็นกลิ่นที่แปลกใหม่ ผ่อนคลาย และทำให้มีสมาธิได้ชนิดอย่างน่าอัศจรรย์อีกด้วย หากใครที่สนอยากได้เทียนหอมไว้จุดที่บ้าน เราขอแนะนำให้คุณลองหา “เทียนหอมอวกาศ”
รถ SUV ถือว่าเป็นรถประเภทหนึ่งที่ได้รับความนิยมมากในบ้านเรา ด้วยเหตุผลมากมายไม่ว่าจะทนต่อถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่อ หรือแม้กระทั่งน้ำที่ท่วมสูงถึงหัวเข่าเป็นประจำทุกปี จึงทำให้หลาย ๆ คน เริ่มที่จะทิ้งรถ Sedan และหันไปหารถไซส์ใหญ่ใจถึงประเภทนี้กัน SUV ได้รับความนิยมมากขึ้นไม่ใช่แค่ในหมู่คนรักการผจญภัยเท่านั้น แต่ยังได้รับความนิยมไปถึงเหล่าเฮีย ๆ ไฮโซ ไฮซ้อทั้งหลายด้วย สังเกตได้จากการที่แบรนด์รถ Sport หรือ Supercar ราคาแพงหลายต่อหลายแบรนด์ก็เริ่มมาเอาดีสร้างรถสไตล์ SUV ออกมาเป็นอีกทางเลือกของคนมีสตางค์กัน เช่นเดียวกันกับรถ SUV ที่เราได้นำมาให้ทุกคนได้ดูกันในวันนี้ ที่ต้องบอกเลยว่า เป็น SUV ที่ไม่ธรรมดา เพราะมันเกิดมาจากแบรนด์รถ Sport อีกทั้งยังดีไซน์ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม และถ้าหากใครอยากได้รถ SUV ที่ทันสมัย ดูรุ่นใหญ่ และยังปลอดภัยสุด ๆ แล้วล่ะก็ คุณจะพลาดไม่ได้กับ THE Tank จาก Rezvani คันนี้ Rezvani คือ แบรนด์ที่เรารู้จักกันดี ขึ้นชื่อในเรื่องการสร้างรถสปอร์ตที่ผนวกแชสซีที่แข็งแกร่ง และบอดี้ที่มีการออกแบบได้โหดระห่ำเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งในครั้งนี้ การออกแบบของ Rezvani
หากพูดถึงสำนักแต่งคู่บุญของ BMW แล้วล่ะก็ ทุกคนคงต้องนึกถึง M-Power ขึ้นมาเป็นชื่อแรกอย่างแน่นอน เพราะตั้งแต่ไหนแต่ไรเราก็จะเห็น BMW ตัวแรงทั้งหลายออกมาพร้อมกับสัญลักษณ์นี้อยู่ตลอด แต่นอกจาก M แล้ว อันที่จริงยังมีสำนักแต่งอีกสำนักหนึ่งที่คู่กับ BMW ได้เร็วแรงแซงกระจายได้ไม่แพ้กันมาให้ชมกันด้วยในวันนี้ และนั่นก็คือ สำนักแต่งที่เรียกได้ว่าแรงสุดคลั่งอย่าง G-Power ที่มีประวัติศาสตร์คู่กับ BMW มาอย่างยาวนานกว่า 30 ปี โดยเฉพาะขาโมดิฟายทั้งหลาย ที่ชอบติดเติมเพิ่มเสริมอาวุธหนักอย่างระบบ Super Charger ลงใน BMW แล้วล่ะก็ ห้ามพลาดเด็ดขาด เพราะเราขอรับรองว่าคุณจะน้ำลายไหล อยากได้ของหล่อตรงสเป็ครถ BMW ของ G-Power มาติดอยู่ในรถคุณอย่างแน่นอน ถ้าหากคุณได้อ่านบทความนี้ ไปแล้ว FIRST STEPS 1971 รากฐานของ G-Power นั้น เกิดขึ้นที่ Neu-Isenburg ประเทศ German โดยเริ่มต้นจากการเปิดสถานีน้ำมันเป็นของตัวเอง โดยมีผู้ก่อตั้งก็คือ พ่อลูกตระกูล Grommisch ซึ่งทั้งตัวพ่อ และลูกชายเองนั้น
อ้าปากค้างไปตาม ๆ กัน หลังจากได้เห็นร่าง Camo ของ ALL NEW 2018 MERCEDES-BENZ CLS ที่สื่อทั่วโลกต่างนำภาพขณะพรางตัวทดสอบ กับดีไซน์การออกแบบที่แตกต่างจากเดิมอย่างชัดเจน แม้จะใกล้เปิดตัวอย่างเป็นทางการอยู่วันสองวันนี้แล้วก็ตาม แต่ดูเหมือน Mercedes-Benz จะอดใจรอไม่ไหว ชิงปล่อยภาพหลุดทั้งหน้า หลัง และข้างในแบบชัดเจนเหมือนตั้งใจปล่อยให้เห็นกันแบบเต็มแล้วเรียบร้อย หน้าตาของ ALL NEW CLS นั้น ทำให้เสียงแตกเป็นสองฝั่งอย่างแรง ฝั่งนึงบอกว่าแบบเดิมยังดีกว่า ดูแพงและคลาสสิค มีรสนิยม ส่วนอีกฝั่งบอกว่า ด้านหน้าแบบนี้ก็เฟี้ยวดี ได้กลิ่นอายของ Mercedes-AMG GT R อย่างชัดเจน โดยเฉพาะกระจังหน้า กันชนหน้า และแนวโคมไฟหน้า ดูสปอร์ตและทะมัดทะแมงขึ้นกว่าเดิมเยอะ ไฟท้ายด้านหลังที่ถูกปรับให้มีสันเหลี่ยมมากขึ้น ดูกลมกลืนกับแนวโค้งของฝากระโปรงหลัง ทำให้ชวนย้อนอดีตไปถึง 1st generation CLS W219 มากกว่ารุ่นที่ผ่านมา ไม่ใช่แค่ด้านท้าย แต่หมายถึงลายเส้นภายนอกโดยรวมทั้งคัน ภายในเป็นสไตล์เดียวกับ Mercedes-Benz e-class coupe และ
คุณอาจจะคิดว่า รถพลังงานไฟฟ้าจะต้องมีหน้าตาล้ำหลุดโลกเท่านั้น แต่ 2 นักออกแบบ Pablo Baranoff Dorn และ Alex Guliyants ไม่คิดแบบนั้น ด้วยความหลงใหลในความ Vintage แต่ก็อยากชุบชีวิตให้มันกลับมาทันโลกทันสมัย จึงเป็นที่มาของ MODEL ELECTRIC CAFE RACER 1 CONCEPT โปรเจคสุดเท่ที่นำสองยุคสมัยมาบรรจบกันได้อย่างงดงามชิ้นนี้ ใครเป็นตัวจริงสิงห์สองล้อ อาจจะรู้สึกคุ้นตา คลับคล้ายคลับคลาเหมือนจะเคยเห็นมันมาก่อน เก่งมากครับ เพราะ MODEL ELECTRIC CAFE RACER 1 CONCEPT คันนี้คือร่างเวอร์ชันพลังไฟฟ้าของ Honda 125cc Cafe Racer รุ่นคลาสสิคสุดเก๋า ที่ถูกนำเครื่องยนต์สันดาปภายในออกไป หันมาใส่มอเตอร์ไฟฟ้าเข้าไป ปกปิดเก็บงานได้อย่างแนบเนียน แม้จะไม่ได้เปลือยโชว์เครื่องตามสไตล์ Naked เหมือนต้นแบบ แต่ก็ให้อารมณ์ความเนี้ยบที่ดูสวยงามแบบ minimal ล้ำสมัยได้ฟีลไปอีกแบบ แม้จะเป็นตัวต้นแบบ แต่ก็มีระบุสเปคมาแล้วพอสมควร ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 7500W ส่งพลังงานไฟฟ้าไปเก็บไว้ที่แบตเตอรี่ขนาดความจุ 2100 Wh ชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้ง สามารถวิ่งได้ไกล
“กูเนี่ยนะนอนกรน มึงอย่ามาอำ” เสียงประสานจากกลุ่มคนนอนกรน ที่มักไม่รู้ว่าตัวเองนอนกรน นอนคนเดียวก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่เมื่อต้องแชร์ห้องนอนกับใครที่กรนแรงพอกัน ถึงเริ่มตระหนักว่ามันเป็นอุปสรรคในการนอนสำหรับคนอื่นมากแค่ไหน ถ้าคุณกำลังเป็นห่วงเพื่อนร่วมห้อง ห่วงแฟนสาว หรือภรรยา ที่แชร์เตียงนอนร่วมกันว่าจะต้องทนรับเสียงกรนของคุณทุกค่ำคืน โอกาสทำความดีมาถึงแล้ว รีบเข้าไปกดสั่งซื้อ BOSE SLEEPBUDS อุปกรณ์สกัดเสียงกรน สำหรับคนนอนหลับยากคู่นี้อย่างเร็วไว บางคนอาจจะคุ้นกับเทคโนโลยีคล้าย ๆ กัน ภายใต้ชื่อบริษัท HUSH ที่เคยเปิดตัวในงาน CES2016 แล้วเงียบหายไป ที่จริงแล้วไม่ได้หายไปไหน แต่ถูก BOSE ซื้อไปนั่นเอง ก่อน BOSE จะนำสินค้าไปออกแบบใหม่ให้สวยกว่าเดิม และเปิดตัวให้ตื่นเต้นกว่าตามประสาสินค้า category ใหม่ ด้วยการให้คนที่สนใจเข้าไประดมทุนสั่งซื้อ BOSE SLEEPBUDS ผ่านทาง Indiegogo BOSE SLEEPBUDS คือ gadget สำหรับคนนอนหลับยาก ซึ่งโดยธรรมชาติของคนกลุ่มนี้ แค่เสียงหมาเห่า เสียงลมพัด ก็ยากจะหลับแล้ว ยิ่งถ้าบ้านอยู่ริมถนนใหญ่ อยู่ใกล้ BTS หรือสนามบิน ยิ่งไม่ต้องพูดถึง และที่หนักสุดคือคนนอนร่วมเตียงกรนดังสนั่น กว่าจะหลับแต่ละทีนี่ทรมานสุดชีวิต
การรวมตัวของ Segway และ Skateboard เมื่อข้อดีจากทั้งสองสิ่งถูกรวมเข้าไว้ด้วยกัน ความมันส์ของ Skateboarding ที่ติดตรงต้องออกแรงไถไปตลอดทาง เจอทางลาดชันเมื่อไหร่ก็จบข่าว กับความง่ายจากเทคโนโลยีที่ทันสมัยของ Segway ที่แค่เอียงตัว ก็เคลื่อนไหวไปตามทิศทางที่ต้องการได้อย่างสบาย ไม่ต้องออกแรงแม้แต่หยดเดียว เราคิดไว้ไม่ผิดว่าต้องมีคนเอา 2 สิ่งนี้มารวมกันเข้าสักวัน และมันก็เกิดขึ้นจริงแล้วในชื่อ ‘StarkBoard’ เหมือนได้แรงบันดาลใจมาจากความไฮเทคของ Tony Stark เราจะเรียก StarkBoard ว่าเป็น Skateboard อัจฉริยะก็ไม่ผิด เพราะรูปทรงของมันยังคงเป็น Skateboard อย่างชัดเจน แต่มีการเพิ่ม weight sensor และ motion sensor เข้าไป ทำให้สามารถเคลื่อนที่ได้จากการโน้มตัวเช่นเดียวกับที่ใช้ใน Segway ดังนั้นต่อให้เล่น Skateboard ไม่เป็นเลย ก็ไม่มีปัญหา เรียนรู้แค่ไม่กี่นาทีก็เพียงพอที่จะออกไปผจญภัยบนถนนได้ทันที StarkBoard เคลื่อนไหวด้วยพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ ชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้ง สามารถเดินทางได้ 20 km ซึ่งเหลือเฟือสำหรับการเดินทางไปมาในเมือง ด้วยความเร็วสูงสุด 32 km/h มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังสามารถส่งกำลังพาเราขึ้นทางลาดชันได้ถึง
หลังจากที่ครั้งก่อนทางค่ายรถจักรยานยนต์ยักษ์ใหญ่อย่าง BMW Motorrad ได้เปิดตัว Concept Bike ที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยมากมายโดยใช้ชื่อว่า BMW’s Vision Motorrad Next 100 Motorcycle ไปเป็นที่เรียบร้อย แถมดูเหมือนว่า แฟน ๆ ของ BMW Motorrad ทั่วโลกจะถูกอกถูกใจกันเป็นอย่างมากอีกด้วย และอาจจะด้วยคำชื่นชมจากมวลประชาที่แห่กันแซ่ซ้องทุกครั้งที่มีรูป Concept Bike ของ BMW หลุดออกมา จึงทำให้มี Designer มากมาย พยายามที่จะขายไอเดียของตัวเองออกมาเป็นชิ้นงานภายใต้ภาพลักษณ์ของ BMW Motorrad ซึ่งเมื่อเร็ว ๆ นี้ก็ได้มีรูป Concept Bike ที่น่าตื่นตาตื่นใจถูกเผยโฉมออกมา โดยมีการพาดหัวรถคันนี้ว่า ‘รถจักรยานยนต์ที่ถูกส่งตรงมาจากโลกอนาคต’ เพราะมันทั้งเจ๋ง ทั้งล้ำสมัย แถมยังดูเท่ถูกใจผู้ชายที่ฝันอยากจะมีรถหน้าตาโหด ๆ ล้ำ ๆ ในสไตล์เดียวกับรถ Batmobile ของ Batman เลยทีเดียว พูดมาขนาดนี้แล้ว เชื่อว่าทุกคนคงอยากจะเห็นโฉมหน้าของมันจนแทบทนไม่ไหวแน่ ๆ ดังนั้น ตอนนี้เราไปดู
การเลือกหูฟังให้กับตัวเองสักอันหนึ่งนั้น ไม่ต่างจากการเลือกคนที่ใช่มาเป็นแฟนเลยแม้แต่น้อย เพราะเวลาเราเลือกหูฟังนั้น นอกจากหน้าตารูปลักษณ์ของมันแล้ว เรายังต้องมองหาคุณภาพรวมไปถึงคาแรคเตอร์ของหูฟังแต่ละอันว่าเข้ากับการใช้ชีวิตของเราได้หรือไม่อีกด้วย หูฟังได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคนเราไปโดยที่เราไม่รู้สึกตัว เราใช้มันฟังเพลงตอนทำงาน ตอนเดินทาง หรือแม้แต่ตอนก่อนนอน ดังนั้น การที่คนเราจะเลือกหูฟังดี ๆ ที่เข้ากับเราจริงนั้น มันจึงเป็นอะไรที่พวกเราไม่ควรมองข้ามอย่างเด็ดขาด เราชื่อว่าบางคนคงเคยเจอกับความรู้สึกน่าหงุดหงิดใจหลาย ๆ อย่างเมื่อซื้อหูฟังมาแล้วใช้งานมันจริง ๆ ยกตัวอย่างเช่น คุณอาจจะชอบเสียงของมัน แต่มันก็ดันมีสายน่ารำคาญคอยเกะกะกวนใจ หรือคุณอาจจะชอบหูฟังรุ่นใหม่ Bluetooth อันใหม่นี้มาก แต่พอใส่ทีไรมันชอบหลุดหล่นหายทุกที แต่วันนี้ ปัญหาทุกอย่างเกี่ยวกับหูฟังของคุณจะหมดไป ด้วยวิธีการเลือกซื้อหูฟังที่ใช่ และเข้ากับไลฟ์สไตล์ของตัวคุณมากที่สุดที่เรานำมาให้ทุกคนได้อ่านกันในวันนี้ Step 1 : Decide What You Want การตัดสินใจเลือกหูฟังที่ชอบ! ฟังดูเหมือนง่าย ซึ่งก็จริงตามนั้น เพราะคุณไม่จำเป็นต้องดูระบบการทำงานรวมไปถึงฟังก์ชั่นต่าง ๆ เหมือนตอนเลือกซื้อ Laptop เพียงแต่เราอยากให้คุณคำนึงอยู่ 3 สิ่งต่อไปนี้ เพราะมันจะทำให้คุณได้หูฟังที่ยอดเยี่ยมสำหรับตัวเองอย่างแน่นอน สิ่งแรกคือ คุณภาพเสียง สิ่งต่อมาก็คือ การพกพา และสุดท้ายก็คือ ราคาที่คุณสามารถจ่ายได้โดยไม่เดือดร้อน แล้วนำสิ่งเหล่านี้มาใช้เป็นหลักในการพินิจพิจารณาหาหูฟังตัวโปรดในอนาคตของคุณอีกทีหนึ่ง ยกตัวอย่างเช่น
ว่ากันว่า ผู้ชายอย่างเราต่อให้โตแค่ไหนก็ยังคงมีความเป็นเด็กผู้ชายในอดีตติดตัวอยู่เสมอ อย่างตอนเป็นเด็ก ของเล่นที่เด็กผู้ชายโปรดปรานก็มีอยู่ไม่กี่อย่าง อาจจะเป็นรถของเล่น หรือปืนของเด็กเล่น ที่ดูเหมือนว่าจะฝังอยู่ในจิตใจ ส่งผลให้ผู้ชายอย่างเราสนใจในของสองสิ่งนี้อยู่ตลอดเวลา ถึงแม้ว่าในชีวิตประจำวันจะไม่จำเป็นต้องมีมันไว้ในครอบครองก็ตาม วันนี้เราจะพาผู้ชายทุกคนย้อนวัยไปในเรื่องของอาวุธอย่าง ปืนพก แถมยังไม่ใช่ปืนพกธรรมดา ๆ ทั่วไป แต่มันเป็นปืนพกที่มาจากภาพยนตร์ชื่อดังที่ถ้าหากใครเคยดูก็คงจะมีความรู้สึกคล้าย ๆ กันว่า “เชร้ดด..ปืนอะไรทำไมโคตรเท่!?” นั่นก็คือ Romeo+Juliet นั่นเอง เนื้อหาของภาพยนตร์เรื่องนี้นั้น เป็นเรื่องของความรักที่เกิดขึ้นระหว่างสงคราม และความบาดหมางของ 2 ตระกูลดังอย่าง Capulet และ Montague โดยหลังจากที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉาย ก็มีคนมากมายที่มีอาวุธปืนเป็นของตัวเองอยู่แล้ว ได้นำเอาอาวุธคู่ใจตรงดิ่งไปที่ร้านแต่งปืนเพื่อทำการ Custom ให้ปืนของพวกเขามีสภาพเหมือนในหนังกันมากมาย นั่นก็เพราะความสวยของปืนแต่ละกระบอกนั้น มันยากจะบรรยายจริง ๆ วันนี้เราจึงได้นำเอาปืนพกเจ๋ง ๆ ที่ปรากฎอยู่ในหนังมาให้ได้ดู และรู้จักกันว่า จริง ๆ มันมีชื่อมีหน้าตา รวมไปถึงมีความเป็นมาอย่างไร ก่อนที่มันจะถูกโมดิฟายจนสวยเฉียบขาดบาดตาอยู่ในหนัง ก่อนอื่นต้องขอบอกให้รู้เอาไว้ก่อนว่า Romeo+Juliet ในเวอร์ชั่นนี้นั้น ถูกดัดแปลงมาจากบทประพันธ์อมตะของ William Shakespeare และเข้าโรงภาพยนตร์มาตั้งแต่ปี 1996 ดังนั้น มันจึงถูกประยุกต์ให้ทันสมัยใกล้เคียงโลกความจริงในปัจจุบัน