เราเคยนำเสนอรถ Iconic Cars ไปหลายคัน ทุกคันล้วนมีความพิเศษของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นรถที่ผลิตจำนวนน้อย หายาก แต่ไม่มีคันไหนจะพิเศษเท่ากับ Original 1964 Ford GT40 Prototype chassis number GT/105 ซึ่งถือเป็นรถที่ทำให้รถสัญชาติอเมริกันของ Ford สามารถเอาชนะ Ferrari ได้ในการแข่งขันระดับโลก 1966 24 Hours Le Mans Manufacturers’ Championship ใครเคยดูภาพยนตร์ Ford v Ferrari จะเห็นรถ Ford GT40 Prototype ที่ Ford ร่วมมือกับ Shelby สร้างขึ้นมาจากความขัดแย้งของ Henry Ford II และ Enzo Ferrari จุดเริ่มต้นของสงคราม 24 Hrs Le Mans GT40 Prototype ถูกสร้างขึ้นมาทั้งหมด
Land Rover Defender 90 เป็นหนึ่งในรถที่หลายคนต้องการครอบครอง ด้วยรูปลักษณ์ที่ดูดีมีเสน่ห์เข้าขั้นคลาสสิกเหนือกาลเวลา แต่ที่หลายคนไม่กล้าตัดสินใจเพราะความไม่เสถียรของระบบที่อายุค่อนข้างมาก (ผลิตครั้งแรกในปี 1948) และความอืดอาดที่ไม่เหมาะจะใช้งานในชีวิตประจำวันมากนัก ล่าสุด Twisted Automotive ผู้เชี่ยวชาญด้านการแต่งรถค่ายนี้โดยเฉพาะ คงรู้ดีว่า Defender 90 มีจุดอ่อนตรงไหน จึงสร้าง ‘NAS-E’ โปรเจคสุดคูลแบบ all-electric makeover จับ soft-top Defender 90 มาชุบชีวิตใหม่ด้วยการเปลี่ยนระบบขับเคลื่อนข้างในให้เป็น EV Offroader ที่ทั้งแรงและทันสมัย พละกำลังจากแบตเตอรี่ขนาด 60kWh และมอเตอร์ไฟฟ้า ส่งกำลังแบบ direct drive power system ขับเคลื่อน 4 ล้อ all-wheel-drive ให้พลัง 214 แรงม้า แรงบิดเกือบ 400 นิวตันเมตร เป็นตัวเลขที่ Defender 90 เดิม ๆ อยู่ห่างไกลชนิดไม่มีวันทำได้
ค่อย ๆ เผยสเปคออกมาเรื่อย ๆ สำหรับ varients ย่อยของ Porsche 911 992 และล่าสุดก็เป็นคิวของตัวแรงสุดประจำรุ่น 911 Turbo และ Turbo S ทั้งในรูปแบบของ Coupe และ Cabriolet อัพเกรดความแรงให้สะใจยิ่งขึ้น 2021 Porsche 911 (992) Turbo ใช้เครื่องยนต์ 3.8-liter twin-turbo flat-six ให้พละกำลัง 572 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 750 นิวตันเมตร ทำเวลา 0-100 km/h ใน 2.7 วินาทีสำหรับรุ่น Coupe และ 2.8 วินาทีสำหรับรุ่น Cabriolet เทียบเท่ากับ 911 Turbo S ในรุ่นก่อนพอดิบพอดี ส่วนใน 2021 Porsche
ช่วงนี้น่าจะเป็นช่วงเดือนที่แบรนด์กล้องเปิดตัวโมเดลทอป ๆ ออกมาแข่งกันมันส์ที่สุดในรอบปี หลังจาก Canon เปิดตัว R5 และ R6 ทางฝั่ง Sony ประกาศเตรียมเปิดตัว A7S iii (ไม่นับ Olympus ที่ประกาศเลิกทำธุรกิจกล้องถ่ายรูป แต่ก็ไม่น่าแปลกใจ ถ้าตลาดจะแข่งกันดุเดือนขนาดนี้) ล่าสุด Leica ก็ได้เปิดตัว M10-R ซึ่งเป็น Top-of-the-line ของโมเดล M10 ซึ่งเราจะเรียงลำดับให้ก่อนเพื่อไม่ให้งง เพราะเป็นธรรมดาของ Leica ที่จะมีรุ่นย่อยออกมาค่อนข้างเยอะ โดยสรุป ณ ตอนนี้ M10 ถือเป็นกล้องรุ่นล่าสุดของ Leica ที่เรียงลำดับมาตั้งแต่ M10 ที่มี sensor 24 Megapixels M10-P ที่มีจุดเด่นเรื่องลดเสียง shutter M10-D ที่ไม่มีจอ LCD ให้ดู M10 Monochrome กล้อง Black and
นี่ไม่ใช่แค่รถที่ถูกปรับจูนให้แรงขึ้น หรือตกแต่งหน้าตาให้ดูสปอร์ตขึ้น แต่นี่คือ Black Series ซึ่งเป็นดีกรีระดับสูงสุดของ Mercedes-AMG ซึ่งไม่ใช่รหัสที่ถูกผลิตกันออกมาบ่อย ๆ โดยโมเดลก่อนหน้าก็คือ 2013 SLS Black Series เมื่อ 7 ปีที่แล้ว และเราก็รู้ดีว่ามันพิเศษแค่ไหน หลังจากมีภาพหลุดและ Spy shots ออกมามากมาย ก็ถึงเวลาที่มันจะถูกเปิดผ้าคลุมพร้อมเผยสเปคทั้งหมดของ Mercedes-AMG GT Black Series สมาชิกลำดับที่ 6 ของตระกูล Black Series กันสักที Mercedes-AMG GT Black Series มากับเครื่องยนต์ M178 LS2. twin-turbo 4.0-liter V8 ส่งกำลังผ่านเกียร์ 7-speed DCT ที่ไม่ใช่แค่ปรับจูนและอัพเกรดเทอร์โบให้ใหญ่ขึ้น เพิ่มความแรงให้เป็น 720 แรงม้า (143 แรงม้ามากกว่า AMG GT R,
นิสสัน นำเสนอ นิสสัน อริยะ ใหม่ (all-new Nissan Ariya) รถยนต์เอสยูวีครอสโอเวอร์ไฟฟ้า ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า 100% มอบอัตราเร่งที่ทรงพลัง การขับขี่ที่ราบรื่นและสงบเงียบในขณะขับเคลื่อน ผู้ขับขี่และผู้ร่วมเดินทางสามารถผ่อนคลายและเพลิดเพลินกับการขับขี่ด้วยเทคโนโลยีระบบการขับขี่อัตโนมัติ ระบบผู้ช่วยเหลือเสมือนจริง การเชื่อมโยงข้อมูลอย่างไร้รอยต่อ และการออกแบบภายในที่กว้างขวางสร้างบรรยากาศเสมือนห้องรับรองอันหรูหรา ด้วยระยะทางการขับขี่ถึง 610 กิโลเมตร (ภายใต้มาตรฐานการทดสอบรถยนต์ WLTP ของประเทศญี่ปุ่น) “นิสสัน อริยะ เป็นรถที่สวยงามและน่าทึ่งอย่างแท้จริง ช่วยให้คุณเดินทางได้ไกลขึ้น ง่ายขึ้น และสะดวกสบายยิ่งขึ้น นิสสัน อริยะ ออกแบบมาเพื่อสร้างความประทับใจ และแสดงให้เห็นถึงสิ่งที่นิสสันมุ่งมั่นเพื่อทำให้ลูกค้าของเรามีชีวิตที่ดียิ่งขึ้น” – อัชวานี กุปตา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของนิสสัน (Ashwani Gupta, Nissan’s chief operating officer) ด้วยการผลิตของนิสสันในฐานะผู้บุกเบิกรถยนต์ไฟฟ้า นิสสัน อริยะ ยกระดับประสิทธิภาพและขีดความสามารถของยานยนต์ไร้มลพิษไปอีกขั้น ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าของนิสสัน อริยะ ได้ผสานการถ่ายทอดกำลังขับเคลื่อน และประสิทธิภาพการชาร์จที่ดีเยี่ยม พร้อมระยะทางในการขับขี่ที่ไกลกว่าเดิมเข้าด้วยกัน ลูกค้าสามารถเลือกกำหนดค่าต่าง ๆ ตามความต้องการในการขับขี่ของลูกค้าที่หลากหลาย
เคยรู้สึกว่าอยากมีความแข็งแกร่งสามารถยกของหนักๆ ได้ นานๆ แต่ขี้เกียจออกกำลังกายรึเปล่า? บริษัทผู้นำด้านเทคโนโลยีจากเยอรมัน อาจทำให้ฝันของเราเป็นจริงได้ เมื่อเร็วๆ นี้ ทางบริษัทได้เริ่มจำหน่ายชุดพาวเวอร์สูทตัวใหม่ ที่ช่วยพัฒนาการเคลื่อนไหว และเสริมพลังของผู้สวมใส่ให้สามารถยกของหนักได้มากขึ้นและนานขึ้นกว่าปกติ The 4th generation cray x ชุดสมาร์ทพาวเวอร์สูทรุ่นใหม่ของบริษัท german bionic ที่ผสมผสานสติปัญญาของมนุษย์กับพลังงานจักรกล ถูกผลิตขึ้นมาด้วยความตั้งใจที่ว่า จะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุในที่ทำงาน สมาร์ทพาวเวอร์สูทชุดนี้มาพร้อมกับ servo motors ประสิทธิภาพสูงที่จะช่วยเพิ่มความสามารถของผู้สวมใส่ให้สามารถยกของหนักสูงสุด 28 กก. พร้อมแบตเตอร์รี่ที่ใช้งานได้ยาวนานถึง 8 ชม. แต่ชุดนี้ก็ไม่ได้มีดีแค่ทำให้เรายกของหนักได้มากขึ้นเพียงอย่างเดียว มันยังมาพร้อมกับระบบอัพเดทซอฟแวร์อัตโนมัติ และระบบ Predictive Maintanance ที่จะช่วยให้เราแน่ใจได้ว่าสมาร์ทเวอร์สูทจะทำงานได้อย่างยาวนานที่สุด แถมผู้ใช้ยังสามารถเชื่อมต่อสมาร์ทพาวเวอร์สูทกับระบบของโรงงานอัจฉริยะ (smart factory) เพื่อกระตุ้น productivity สุขภาพ รวมถึงความปลอดภัยของคนงานได้อีกด้วย ความโดดเด่นอีกอย่างหนึ่งของสมาร์ทพาวเวอร์สูทชุดนี้ คือ มันมีส่วนประกอบของคาร์บอนไฟเบอร์ ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแกร่งที่มากกว่าเหล็ก แต่มีน้ำหนักเบา มันจึงเป็นวัสดุที่ได้รับความนิยมในอุตสาหกรรมการบินและอวกาศ (aerospace) รวมถึง การแข่งขัน Formula 1
Lotus Evija (อ่านว่า E-Vi-Ya) รถยนต์บ้าพลังคันล่าสุดจากอังกฤษ ที่แม้จะยังไม่ได้เริ่มลงมือผลิต แต่ก็ลั่นวาจาไว้แล้วว่า Evija จะเป็นรถ Battery-Electric Hypercar พลังงานไฟฟ้าที่ทำเวลา 0-300 km/h ได้เร็วที่สุดในโลก ทุกวันนี้อาจจะยากที่จะทำเวลา 0-100 km/h ให้เร็วเกินขีดจำกัดของรถยนต์ 4 ล้อได้ เพราะปัจจุบันรถยนต์หลายรุ่นสามารถทำลายขีดจำกัดต่ำกว่า 2 วินาทีกันไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Rimac C_Two 1.85 วินาที, Aspark Owl 1.69 วินาที ซึ่งสำหรับ Lotus Evija ที่ทำเวลา 0-100 km/h ภายในไม่เกิน 3 วินาที จึงอยู่ห่างไกลจากการสร้างสถิติใหม่ได้ หรือแม้แต่จะขยับขึ้นมาเป็น 0-200 km/h ที่ตัวเลข 6 วินาทีนิด ๆ ก็ยังไม่ได้เร็วไปกว่า Bugatti Chiron Pur Sport
บนถนน คงไม่มีใครกล้าหาเรื่อง Godzilla จากแดนญี่ปุ่น Nissan GT-R จรวดทางเรียกนักฆ่า Supercars แต่สำนักแต่งอย่าง Classic Youngtimers Consultancy คิดว่าถนนยางมะตอยยังไม่เพียงพอ GT-R ต้องเป็นหนึ่งในทางฝุ่นด้วย จึงเป็นที่มาของโปรเจค Nissan GT-R Offroad ‘Godzilla 2.0’ ภายนอกยังคงมีความดุดันของ Nissan GT-R อยู่เต็มเปี่ยม แต่ที่เพิ่มขึ้นคือลวดลาย Camoflage wrap และช่วงล่างแบบ Offroad ซึ่งยก GT-R ให้มี clearance ใต้รถเพิ่มเป็น 12 cm. เพียงพอที่จะเข้าไปลุยทางป่าเขาแบบ Rally Racing พร้อมซุ้มล้อแปลกตาที่สร้างพื้นที่สำหรับช่วงล่างและยาง Offroad ที่โหดสำหรับสายลุยมากขึ้น ด้านหน้ามีการติดตั้ง LED spotlight 2 ดวง ด้านบนติดตั้ง Roof rack, light bar และล้ออะไรขนาดใหญ่เพื่อใช้เปลี่ยนในยามไม่คาดฝัน และมันใหญ่เกินกว่าจะเก็บไว้ในช่องยางอะไหล่ปกติ
หลังจากชาวหนอนต้องเงียบกริบอยู่หลายปี บางคนก็ปันใจไปหา Nikon บ้างก็ปันใจไปหา Sony แต่แล้วอยู่ ๆ Canon ก็เปิดตัวฮีโร่ที่จะเรียกศรัทธาจากมิตรรักแฟนเพลงให้กลับมายืดอกพกกล้องกันอีกครั้งอย่างภาคภูมิใจ กับกล้อง flagship ตัวใหม่ของค่าย Canon EOS R5 ที่มีดีทั้งวีดีโอและภาพนิ่งชนิดค่ายอื่นต้องรีบกลับไปทำการบ้านมาใหม่เลยทีเดียว Canon EOS R5 ถือเป็นกล้องโปรแบบ full-frame mirrorless ที่จัดสเปกมาอย่างโหดเหมือนโกรธและอั้นมานาน ใช้เซนเซอร์ Full-frame CMOS 45-megapixel native ISO 100-51,200 (extension สูงสุด 102,400) ตัวประมวลผล DIGIC X Image Processor ถ่ายภาพนิ่งได้เร็วต่อเนื่องสูงสุด 20 ภาพต่อวินาทีด้วย Electronic shutter และ 12 ภาพต่อวินาทีด้วย Mechanical shutter พร้อม in-body five-axis sensor-shift image stabilization 8