ฮิปฮอปแนวดนตรีที่ก่อร่างสร้างตัวมาตั้งแต่ในช่วงปี 1970’s นอกจากจะมีจังหวะดนตรีที่โดดเด่น อีกสิ่งที่มาคู่กันคือการร้องแร็ป ซึ่งในปัจจุบันมันก็ได้แตกแขนงออกมามากมาย แพร่กระจายไปทั่วโลกไม่เว้นในประเทศไทย ซึ่งในบ้านเรากระแสดนตรีฮิปฮอปก้าวขึ้นมาเป็นที่นิยมในคนหมู่มากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทำให้เราได้เห็นแร็ปเปอร์หน้าใหม่เกิดขึ้นมามากมาย แต่ถ้าหากให้พูดถึงกลุ่มศิลปินฮิปฮอปไทย ที่สร้างอิทธิพลอย่างใหญ่หลวงให้กับศิลปินรุ่นหลังคงหนีไม่พ้น Thaitanium โดยเฉพาะอัลบั้ม “Thai Rider” ที่สร้างปรากฏการณ์ต่อวงการเพลงไทยได้มากมาย ด้วยสไตล์ที่เรียลและเท่ จึงไม่น่าแปลกใจที่อัลบั้มนี้จะถูกยกย่องให้เป็น “Pioneer” ของวงการฮิปฮอปในบ้านเรา และมันก็เพิ่งมีอายุครบรอบ 20 ปีไปหมาด ๆ ด้วยเหตุนี้ทาง Unlockmen จึงขอพาทุกคนไปเจาะลึกถึงแบ็คกราวน์ของ “Thai Rider” จากปากของสมาชิกทั้ง 4 คน ได้แก่ KH, SDthaitay, DABOYWAY และ BIG CALO มาฟังประสบการณ์ของการต่อสู้จากนิวยอร์กสู่กรุงเทพกันครับ AA CREW ก่อนจะมาสู่ Thaitanium หลาย ๆ คนอาจจะทราบกันดีว่าสมาชิกบางคนเคยมีผลงานเพลงกันมาก่อนแล้ว ได้แก่ ขันที่เคยทำฮิปฮอปดูโอ้ในชื่อ “ขันที” ส่วนเวย์ก็เคยอยู่กับ “Teen 8 Grade A” และนั่นมันไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงแต่อย่างใด
ในยุคนี้คงไม่มีใครสามารถหลบกระแสของ Hiphop ที่มาแรงได้ เพราะไม่ว่าจะกดโทรทัศน์ไปช่องไหน หรือฟังวิทยุคลื่นอะไรก็จะต้องได้ยินเพลงแรปหรือเพลง Hiphop ผ่านหูผ่านตาไปสักเพลงอย่างแน่นอน UNLOCKMEN มีโอกาสได้พูดคุยกับแรปเปอร์รุ่นเก๋าคนหนึ่งคือ “เวย์-ไทเทเนียม” หรือในอีกชื่อคือ “DABOYWAY” และทำให้เราได้เห็นแง่มุมของคนที่อยู่ในวงการ Hiphop มาอย่างยาวนาน ได้รู้ว่าพวกเขาคิดอะไร และรู้สึกดีแค่ไหนที่ได้เห็นเหล่าแรปเปอร์รุ่นใหม่กำลังพยายามก้าวตามความชอบและความฝันบนเส้นทางสาย Hiphop อย่างที่เวย์ได้เคยผ่านมาแล้ว เมื่อไม่สามารถหนีกระแส HIPHOP ให้พ้นได้ จึงนำมาสู่การกลายเป็นคนทำเพลง HIPHOP จุดเริ่มต้นที่ทำให้เวย์สนใจเพลง Hiphop มันเริ่มมาจากตรงไหน ? ตอนอยู่ที่อเมริกา เพื่อน ๆ ทุกคนในโรงเรียนฟังครับ ตั้งแต่ผมอายุ 6-7 ขวบ ฟังพวก MC Ren, Kris Kross, Dr. Dre, Snoop Dogg, Wu-Tang Clan, Nas และ Jay-Z ไล่มาเลย ช่วงนั้น Hiphop เป็นของใหม่ ดังแค่ในกลุ่ม underground แต่เวลาผ่านไปช่วงต้นยุค
ต้องยอมรับเลยว่าการเปลี่ยนผ่านในวงการเพลงเป็นสิ่งที่มาแล้วไปอย่างรวดเร็ว บางคนอาจอยู่ในช่วงที่เพลงดิสโก้มาแรง หรือเพลงร็อกล้านตลับ มาจนถึงการเปลี่ยนผ่านเป็นยุคที่เกิร์ลกรุ๊ปดังจนพลุแตก และแนวดนตรีที่มาแรงมากที่สุดในประเทศไทยตอนนี้คงหนีไม่พ้นดนตรี Hiphop ที่โดดเด่นด้วยการแรปเพื่อบอกเล่าเรื่องราวแทนใจ เพราะบางครั้งเราก็ไม่กล้าที่จะพูดมันออกมาจึงทำให้ใครหลายคนก็เลือกใช้การแรปถ่ายทอดความรู้สึก วันนี้เราได้สนทนากับ “ขันเงิน ไทเท” หนึ่งในสมาชิก Thaitanium วงดนตรี Hiphop ที่โด่งดังที่สุดในประเทศไทย พูดคุยเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับแนวเพลง Hiphop เพื่อตอบคำถามคาใจว่าในยุคที่ไม่มีใครเข้าใจสไตล์หรือแนวดนตรีนี้ ทำไมขันเงินถึงเลือกจะทำต่อ ความฝันที่พยายามทำให้เป็นจริงมันยากแต่อะไรที่ทำให้ตัดสินใจก้าวผ่านความยากและอยู่มาจนถึงทุกวันนี้ จุดเริ่มต้นในทางเดินสาย HIPHOP ของ “ขันเงิน” และ “THAITANIUM” “ผมโดนส่งไปอยู่แคนซัสตั้งแต่อายุ 12-13 ปี ในช่วงที่การเหยียดสีผิวกำลังเข้มข้น เราออกไปเล่นสเก็ตหรือไปซักผ้า ก็โดนคนขาวเขวี้ยงก้อนหิน เขวี้ยงกระป๋องเบียร์ใส่เพราะแค่เราเป็นเอเชีย” อะไรที่ทำให้ “ขันเงิน” หลงรักสไตล์เพลง Hiphop ? ผมโดนส่งไปเรียนประมาณปี 89-90 เพราะพ่อแม่อยากให้เป็นเห็นโลกแห่งความจริงครับว่ามันไม่ได้สวยงาม มันยังมีการเหยียดสีผิวที่เข้มข้นอยู่ แล้วตัวเราก็โดนเหยียด เราเลยตั้งคำถามว่าทำไมฝรั่งมาไทยเราดูแลเขาดีอย่างกับพระเจ้า แล้วทำไมเวลาไปอยู่ที่โน่นเราถึงได้รับอะไรแบบนี้ เมื่อโดนคนขาวเหยียดเราเลยถูกรวมเข้าไปอยู่ในชนกลุ่มน้อย คือคนผิวสีกับชาวละติน แล้ว soundtrack ของพวกเขาคือเพลง Hiphop ที่เป็นเหมือนความหวัง เป็นพลังเสียงของคนผิวสีเพื่อเป็นตัวแทนพูดในสิ่งที่เขาอึดอัด