News | Video
UNLOCKMEN Logo
News | Video
Unlockmen Facebook Page Unlockmen Twitter Unlockmen YouTube channel
  • World
  • Entertainment
    :
    Films
    |
    Music
  • Guide
    :
    EVENT
    |
    MENU
    |
    TRAVEL
  • TECH
    :
    APPS
    |
    CARS
    |
    GADGETs
  • Style
    :
    DESIGN
    |
    FASHION
    |
    GROOMING
  • Business
  • Girls
  • Life
  • Work
  • Play
  • Survival
UNLOCKMEN Logo

News

World Entertainment Guide TECH Style Business Girls Life
Work Play Survival

Videos

Tag "world"

  • World
    By: unlockmen May 28, 2019
    RUBEN LOFTUS-CHEEK โชคชะตาที่เล่นตลกบนเส้นทางความอดทนสู่การเป็นตัวหลักของเชลซี

    ในโลกแห่งวงการฟุตบอลยุคปัจจุบันนั้น การจะไต่เต้าขึ้นมาจากเด็กฝึกหัดใน Academy เพื่อมาเป็นกำลังหลักของทีมนั้นไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดายนัก โดยเฉพาะกับสโมสรใหญ่ ๆ ที่ต่างต้องการเสริมทัพนำผู้เล่นที่ดีที่สุดเข้ามาในทีมอยู่ตลอดเวลา Ruben Loftus-Cheek คือหนึ่งในคนที่ไขว่คว้าหาโอกาสนั้น นับตั้งแต่ที่เขาก้าวเท้าเข้าสู่ Academy ของสโมสรตั้งแต่วัยเพียง 8 ขวบ และแม้ว่าน้อยคนจะรู้จักชื่อของเขา แต่ด้วยฟอร์มการเล่นที่น่าประทับใจในฤดูกาลนี้ ถึงขั้นที่แฟนบอลไม่พอใจและโห่ด้วยความไม่เห็นด้วย ตอนที่เห็น Loftus-Cheek ถูกเปลี่ยนตัวออกในนัดที่เชลซีเปิดบ้านชนะแฟรงก์เฟิร์ต รอบรองชนะเลิศยูโรปาลีคเลยทีเดียว เชื่อได้เลยว่าแฟนเชลซีมีความหวังที่จะเห็นเขาก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักของสโมสร และตัวหลักของทีมชาติอังกฤษ ทว่าโชคชะตากลับไม่เป็นใจ เพราะในขณะที่เชลซีต้องออกไปเตะนัดเพื่อการกุศลที่สหรัฐอเมริกา สิ่งที่แฟนบอลหวาดกลัวที่สุดก็ได้เกิดขึ้น Loftus-Cheek ล้มลงผิดท่า และลงไปนอนด้วยความเจ็บปวด ก่อนที่ทีมแพทย์จะต้องมาช่วยพยุงออกนอกสนามไป และต้องออกจากสนามพร้อมกับใส่เฝือกป้องกันไว้ที่เท้าซ้ายของเขา ซึ่งผลจากการพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ยืนยันแล้วว่า Loftus-Cheek บาดเจ็บจากอาการเอ็นร้อยหวายฉีกขาด และแม้จะไม่มีกำหนดพักที่แน่นอนออกมาจากสโมสร แต่คาดว่าน่าจะต้องใช้เวลาถึง 1 ปี ก่อนที่เขาจะกลับมาคืนสนามได้อีกหน นอกจากจะพลาดโอกาสลุ้นชูถ้วยยูฟ่า ยูโรปาลีค กับเชลซี และถ้วยยูฟ่า เนชั่นส์ลีคกับทีมชาติอังกฤษแล้ว เขาอาจต้องพลาดลงเล่นทั้งฤดูกาลหน้าไปโดยปริยาย และทุกอย่างที่เขาได้ทำมานั้นดูเหมือนจะจบลงไปต่อหน้าต่อตาแล้ว Loftus-Cheek เป็นผู้เล่นที่โดดเด่นตั้งแต่อยู่ใน Academy แล้ว และได้รับโอกาสลงเล่นกับทีมชุดใหญ่ครั้งแรกในวัยเพียง 18 ปีที่แล้ว โดยเป็นตัวสำรองในนัดที่พบกับสปอร์ตติง

  • World
    By: unlockmen May 28, 2019
    ฐานปล่อยจรวดบน NOTRE-DAME เมื่อดีไซน์เนอร์อยากให้ทุกคนหยุดออกแบบหลังคาใหม่เสียที

    เหตุการณ์เพลิงไหม้ Notre-Dame เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ได้ทำให้หลังคาและยอดของอาสนวิหารแห่งนี้พังถล่มลงมา ซึ่งทำให้ดีไซน์เนอร์และสถาปนิคจากทั่วทุกมุมโลกต่างเสนอให้ดีไซน์หลังคาขึ้นมาใหม่ ไล่ตั้งแต่เป็น Greenhouse ลอยฟ้า ไปจนถึงสระว่ายน้ำ แต่ไม่ว่าดีไซน์ไหนก็คงไม่เทียบเท่ากับฐานปล่อยจรวดของคุณ Sebastian Errazuriz ที่แหวกทุกข้อจำกัดกับดีไซน์ใหม่ของเขา ดีไซน์เนอร์ชาวชิลีได้โพสต์ภาพหลังคาแบบฐานปล่อยจรวดลงใน Instagram ส่วนตัวของเขา พร้อมกับจดหมายที่ขอร้องให้เหล่าดีไซน์เนอร์และสถาปนิคทั้งหลายหยุดออกแบบหลังคาแบบใหม่ให้กับ Notre-Dame เสียที Errazuriz ได้เขียนว่าดีไซน์ที่เขาออกแบบนั้นไม่ได้กะไว้ให้สร้างจริง ๆ หรอก แต่เขาต้องการจะออกแบบอะไรที่มันแหวก (และประชด) บรรดาดีไซน์เนอร์กับสถาปนิคหน้าเงินทั้งหลาย ที่กำลังหากินกับซากประหักพังของ Notre-Dame อยู่ ตัวของ Errazuriz เองก็ได้ถูกเชื้อเชิญให้ร่วมออกแบบหลังคาใหม่แบบจริงจังเหมือนกัน ทว่าเขาได้ตัดสินใจและลงความเห็นว่าหลังคาของอาสนวิหาร Notre-Dame ควรจะถูกปล่อยไว้แบบนี้โดยไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวกับการก่อสร้างใหม่ ให้หลังคาจะเปิดโล่งมองเห็นท้องฟ้าและรับฝนที่พรำลงมา ฝรั่งเศสเองก็จะสามารถยืดอกด้วยความภูมิใจกับรอยแผลใหม่ที่เกิดขึ้นกับสถานที่ประวัติศาสตร์ เฉกเช่นเดียวกับที่กรีซและกรุงโรมเผชิญมา เขายังเสริมอีกว่า ฝรั่งเศสควรนำงบที่ได้รับบริจาคสำหรับการซ่อมบำรุง มาใช้เพื่อส่งเสริมและพัฒนาเยาวชนในชาติตัวเอง ซึ่งนั่นจะเป็นสัญญาณแห่งความกล้าที่จะจูบลาอดีต และเริ่มสร้างอนาคตขึ้นมาของพวกเขา แม้จะออกแบบมาเพื่อประชด แต่ Errazuriz ก็ยังใส่ใจในรายละเอียดอยู่เช่นกัน โดยยอดของจรวดนั้นมีขนาดเท่ากับยอดของอาสนวิหาร ที่ถล่มพังลงมา และมีรูปร่างที่คล้ายคลึงกับจรวด Saturn V ลำที่ส่งมนุษย์ออกเดินทางไปสู่ดวงจันทร์อีกด้วย Errazuriz ได้ทิ้งท้ายถึงบรรดาดีไซน์เนอร์เอาไว้ว่า

  • World
    By: unlockmen May 23, 2019
    “ชีวิต ความจน ยาเสพติด” สำรวจไลฟ์สไตล์แสนสิ้นหวังในแต่ละวันของคนแดนเถื่อน

    หากพูดถึงประเทศทางตอนใต้ของทวีปยุโรปอย่างโปรตุเกสสิ่งแรก ๆ ที่เราจะนึกถึงคือนักฟุตบอลชื่อดัง สถาปัตยกรรมเก่าแก่ เมืองลิสบอน และชื่อเสียงเรื่องเมืองที่ปลอดภัยติดอันดับโลก แต่ใครจะรู้ว่าไม่ใกล้ไม่ไกลจากสิ่งสวยงามใจกลางเมืองลิสบอนกลับมีย่านที่เต็มไปด้วยความหดหู่ สิ้นหวัง และดิบเถื่อนเหมือนโลกใต้ดินในเกม GTA  บทความนี้อาจมีภาพหรือเนื้อหาที่มีความรุนแรง โปรดใช้วิจารณญาณ ในการรับชม หลายทศวรรษแล้วที่เมืองนี้ถูกเล่าต่อ ๆ มาว่าเป็นสถานที่สุดอันตราย ไร้กฎ ทุกคนปกครองกันเอง บางคนก็เล่าว่าเป็นเมืองที่ตำรวจเองยังไม่กล้าย่างกรายเข้าไป และไม่ได้รับการแก้ปัญหาอย่างถูกจุด ซึ่งเป็นเรื่องสืบเนื่องมาจากเหตุการณ์ที่รัฐบาลท้องถิ่นพยายามยุบย่านนี้ทิ้ง ผู้มีอำนาจบังคับไล่คนที่อยู่ในพื้นที่มาก่อนเพื่อรื้อถอนบ้านเรือนทำที่ว่างสำหรับโครงการพัฒนาเมืองใหม่ จึงทำให้สภาพของเมืองคล้ายกับว่าอยู่ในช่วงสงครามตลอดเวลา  แล้วเมืองเถื่อนขนาดนี้ทำไมช่างภาพผู้กล้านาม Jose Ferreira ถึงสามารถเอาชีวิตรอด ถ่ายรูปชีวิตประจำวันของคนแดนเถื่อนออกมาให้โลกเห็นได้ นั่นเป็นเพราะเขาตั้งใจเผยเรื่องราวผ่านภาพถ่ายอย่างตรงไปตรงมาให้ผู้คนภายนอกเข้าใจชุมชนนี้ได้ดีขึ้น ชัดเจนผ่านหลังเลนส์ของตัวเอง โดยเวลากว่า 1 ปี กินอยู่ภายในเมืองนี้เพื่อถ่ายทอดราวต่าง ๆ และรวบรวมภาพถ่ายสร้างเป็นคอลเลกชันที่ใช้ชื่อว่า Out of Law ฟังดูเหมือนจะง่ายแต่การอยู่กับเป็นคนแปลกหน้าแล้วเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนที่แน่นแฟ้นกันมาอย่างยาวนาน บ้านทุกหลังรู้จักกันหมดแล้วไม่ง่ายอย่างที่คิด Jose Ferreira เล่าว่า ผู้ชายหลายคนมักพกปืนเดินไปเดินมา พวกเขาอาจมีภาพลักษณ์ที่ไม่เป็นมิตร แต่แท้จริงแล้วพวกเขาก็แค่คนที่ไม่รู้อะไร ถูกกีดกันออกจากโลกภายนอก เจียมเนื้อเจียมตัว เป็นมิตร และช่างสงสัย เมื่อเวลาผ่านไปจากช่างภาพแปลกหน้าก็เริ่มเป็นที่ยอมรับของคนในเมืองและเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน  นอกจากการถ่ายภาพชีวิตของผู้คน Jose Ferreira ยังได้ร่วมงานกับแรปเปอร์ท้องถิ่นเพราะทำปกอัลบั้มร่วมกันอีกด้วย

  • World
    By: unlockmen May 23, 2019
    THE RANGERS IN GARAMBA: เหล่าวีรบุรุษผู้อุทิศชีวิตเพื่อปกป้องสัตว์ป่าแห่งแอฟริกา

    จากทัศนียภาพหนาทึบของเสาไฟและตึกระฟ้าในเมืองหลวง สู่ความเบียดเสียดของแมกไม้สลับกับหนองน้ำในถิ่นทุรกันดาร โอบล้อมไปด้วยทุ่งหญ้าและฝูงสัตว์ป่าที่ธรรมชาติเป็นผู้ครอบครอง หมุนลูกโลกไปทางซ้ายข้ามทวีปเอเชียที่คุ้นเคยมาสู่แอฟริกา ทวีปที่กว้างใหญ่เป็นอันดับสองของโลก เล็กลงไปในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก (DRC) ที่นี่มี GARAMBA NATIONAL PARK อุทยานแห่งชาติที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของแอฟริกา อุทยานแห่งนี้ตั้งอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ครอบคลุมพื้นที่กว่า 5,133 ตารางกิโลเมตร แถมยังเป็นบ้านเกิดของสัตว์ป่ากินพืช สัตว์นักล่าที่รวดเร็ว หรือแม้แต่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ใหญ่ที่สุดในโลก หากลองแหวกดูตามสุมทุมพุ่มไม้ก็จะพบว่ามีสัตว์ป่าแอฟริกาหลากชนิดรวมตัวกันอยู่ที่นี่ ตั้งแต่แอนทิโลป ควายป่า ไฮยีน่า สิงโต ยีราฟ ฮิปโปโปเตมัส ลิงชิมแปนซี ไปจนถึงหมูป่ายักษ์ ทั้งยังมีสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมกว่า 138 สายพันธุ์ นกอีก 286 สายพันธุ์ และช้างป่าลูกผสมของป่าสะวันนาและป่าแอฟริกาก็อาศัยอยู่ที่นี่ด้วย GARAMBA NATIONAL PARK สถานที่ที่รวมความหลากหลายทางชีวภาพสุดน่าทึ่ง กำลังถูกคุมคามโดยกองโจรล่าสัตว์ป่า ผู้ลักลอบขนอาวุธ และกลุ่มผู้ก่อการร้ายที่คร่าชีวิตสิงห์สาราสัตว์บนผืนป่าแห่งนี้ไปนับไม่ถ้วน ตลอดพื้นที่ 1,268,390 เอเคอร์ เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์หลายชนิด แต่น่าเสียดายที่ในช่วง 10 ปีให้หลังจำนวนสัตว์ป่าในอุทยานแห่งนี้ค่อย ๆ ลดลงเรื่อย ๆ อันเนื่องมาจากการรุกล้ำ จำนวนช้างลดลง 90%

  • World
    By: unlockmen May 22, 2019
    RARE EARTH นั้นหายากอย่างไร ทำไมสหรัฐถึงยังต้องยอมจีนเพื่อให้ได้มันมา

    ในช่วงนี้ข่าวการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนนั้นถือว่าค่อนข้างเข้มข้น ตั้งแต่ที่รัฐบาลของโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศแบนอุปกรณ์มือถือของ Huawei ตามมาด้วยการเลิกสนับสนุนซอฟต์แวร์บนเครื่องโดย Google ก่อนที่สถานการณ์การแบนจะผลิกผันไป เมื่อทางสีจิ้นผิง ประธานาธิบดีของจีน ได้เดินทางไปเยี่ยมโรงงานผลิตแร่ชนิด Rare Earth ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณไปยังสหรัฐ จนต้องมีการเลื่อนการแบนออกไป 90 วันเลยทีเดียว แล้วแร่ Rare Earth นั้นคืออะไร สำคัญขนาดไหนจนถึงขั้นที่สหรัฐยังต้องยอม แร่ Rare Earth นั้นมีด้วยกันทั้งสิ้น 17 ชนิดด้วยกัน ได้แก่แร่ Lanthanide ทั้งหมด และ Scandium กับ Yttrium ซึ่งอันที่จริงแล้วแร่ Rare Earth เหล่านี้ไม่ได้หายากตามชื่อของมันเลย ยกตัวอย่างเช่น Thulium ที่หายากที่สุดในตระกูล Rare Earth แล้ว ก็ยังมีมากกว่าทองคำอยู่ถึง 125 เท่าด้วยกัน ที่มาของคำว่า Rare Earth จริงๆ นั้นเป็นเพราะว่าแร่เหล่านี้มีกระจัดกระจายไปทั่วโลก แต่ไม่ได้กระจุกอยู่รวมกันเป็นปริมาณมากในที่ใดที่หนึ่งเลย ซึ่งจีนเป็นประเทศที่มีพื้นที่ใหญ่กว่า

  • World
    By: unlockmen May 22, 2019
    THE PROFILES: ตำนานของ ‘สี จิ้นผิง’ ผู้ปลุกเร้าการต่อสู้อันแสนดุเดือดระหว่างมหาอำนาจโลก

    “สงครามอาจกำลังเกิดขึ้นอีกครั้งเร็ว ๆ นี้” นี่คือประโยคที่คนส่วนใหญ่พูดถึงความขัดแย้งที่เกิดขึ้นระหว่างสองประเทศมหาอำนาจโลกอย่างสหรัฐอเมริกากับจีน บางคนอาจมองว่าประโยคนี้กล่าวเกินจริง แต่หากลองฉุกคิดดูก็จะรู้ว่าสงครามไม่จำเป็นต้องยิงนิวเคลียร์หรือส่งทหารออกไปสู้รบเสมอไป สำหรับใครที่ตามข่าวการเมืองของสหรัฐฯ จะต้องคุ้นเคยกับประโยค “Make American Great Again” ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อย่างแน่นอน เพราะเขามักจะพูดอยู่บ่อย ๆ ว่าจะทำให้อเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งและยังแข่งขันกันทุกด้านกับประเทศขั้วตรงข้ามอย่างจีนซึ่งมีผู้นำที่ไม่ยอมอ่อนข้อให้ใครอย่างสี จิ้นผิง การต่อสู้ที่ร้อนแรงของสองขั้วมหาอำนาจโลกทำให้ UNLOCKMEN นำเรื่องราวโดยย่อรวมถึงประวัติของ สี จิ้นผิง ชายผู้ต่อกรกับโดนัลด์ ทรัมป์อย่างสูสีมาร้อยเรียงให้ทุกคนติดตามกัน ว่าเขาเป็นใครมาจากไหน แล้วทำไมผู้ชายอย่างเรา ๆ ต้องสนใจเรื่องราวการต่อสู้ของสองประเทศนี้   สี จิ้นผิง เป็นใคร ? สี จิ้นผิง เป็นลูกชายของ สี จงชุน ทหารผ่านศึกคอมมิวนิสต์จีน ที่มีบทบาทสำคัญทางการเมืองเพราะดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีซึ่งใกล้ชิดกับ เหมา เจ๋อตง ผู้ก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน เกริ่นมาแบบนี้หลายคนอาจคิดว่าเด็กชายผู้เติบโตท่ามกลางผู้ทรงอิทธิพลและมีพ่ออยู่ในแวดวงการเมืองควรมีชีวิตที่โชคดีและได้เปรียบเด็กคนอื่น ๆ จนน่าจะเป็นเหตุผลที่ทำให้เขากลายเป็นประธานาธิบดีในวันนี้ แต่ความจริงไม่ได้ราบรื่นอย่างนั้น เพราะชีวิตของเขาพลิกผันจากเหตุการณ์ที่พ่อของเขาโดนปลดตำแหน่งอย่างสายฟ้าแลบ เนื่องจากตัดสินใจอนุญาตให้สำนักพิมพ์แห่งหนึ่งตีพิมพ์หนังสือวิจารณ์ เหมา เจ๋อตง ผลจากการตัดสินใจของสี จงชุน

  • World
    By: unlockmen May 22, 2019
    เมื่อ “กิโลกรัม” เปลี่ยนไป จากอิงตามน้ำหนักของก้อนโลหะ สู่น้ำหนักที่คงที่ทั่วทั้งจักรวาล

    กิโลกรัม หน่วยวัดน้ำหนักที่เป็นมาตรฐานมานานแสนนานนั้น พึ่งจะได้รับคำนิยามใหม่ในวันที่ 20 พฤษภาคม โดยจะเปลี่ยนจากการอ้างอิงจาก “Le Grand K” ก้อนโลหะทรงกระบอก ที่ถูกเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดีในปารีส ให้เป็นตามค่าคงตัวของพลังค์ (Planck Constant) แทน ซึ่งนี่จะทำให้ค่าของกิโลกรัมนั้นคงที่ไปตลอดกาลได้ ทว่าการเปลี่ยนแปลงในหนนี้ก็คงไม่ได้ส่งผลต่อชีวิตประจำวันของเรามากนัก เพราะถึงนิยามของกิโลกรัมจะเปลี่ยนแปลงไป แต่น้ำหนักของสรรพสิ่งต่าง ๆ บนโลกที่เราใช้งานอยู่ก็ไม่ได้ลดลงจนน่าใจหาย (อาจเป็นข่าวดีและข่าวแล้วในเวลาเดียวกัน) โดยสิ่งที่การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้จะส่งผลนั้น คือหน่วยกิโลกรัมจะได้เป็นหน่วยวัดที่เพอร์เฟ็กกับเขาเสียที หลังจากที่หน่วยวัดอื่น ๆ เขาอ้างอิงจากค่าคงตัวทางฟิสิกส์กันไปหมดแล้ว Le Grand K หรือ International Prototype Kilogram เป็นก้อนอัลลอยของแพลตินัมกับอิริเดียมทรงกระบอก เป็นนิยามที่ใช้เทียบเท่ากับ 1 กิโลกรัมมานานกว่า 1 ศตวรรษแล้ว และนอกจากก้อนต้นฉบับที่ถูกเก็บรักษาในปารีสแล้วนั้น Le Grand K ยังมีอีกหลายก้อนที่ถูกส่งไปให้กับนานาประเทศ (รวมทั้งประเทศไทยของเราด้วย) เพื่อใช้สำหรับการนำมาเทียบค่าน้ำหนักของกิโลกรัมกับก้อนต้นฉบับ แม้แต่สหรัฐอเมริกา ซึ่งใช้หน่วยวัดแบบ Imperial (ปอนด์, ฟุต, แกลลอน) ก็ยังอ้างอิงค่ามาจากหน่วยกิโลกรัมเช่นกัน ซึ่ง

  • World
    By: unlockmen May 21, 2019
    NIHON STORIES: ส่ง GUNDAM ออกสู่จักรวาลอันไกลโพ้นเพื่องานใหญ่ TOKYO 2020 OLYMPICS

    ความอินดี้ไม่เหมือนใครกับวัฒนธรรมอันโดดเด่นของญี่ปุ่นเป็นสิ่งที่คนทั่วโลกต่างรับรู้และสัมผัสได้ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างสรรค์อนิเมะเหนือจินตนาการ พร้อมกับคาแรคเตอร์ตัวการ์ตูนดังหลายเรื่อง ไปจนถึงแฟชั่นจัดจ้านยากจะเข้าถึง ญี่ปุ่นจึงเป็นประเทศจอมสร้างสีสันและเซอร์ไพร์สใหม่ ๆ ให้กับคนทั่วโลกอยู่เสมอ เช่นเดียวกับการก้าวขึ้นมาเป็นเจ้าภาพจัดงานกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอย่างโอลิมปิกปี 2020 ที่กำลังจะมาถึง เมื่อได้เป็นเจ้าภาพงานใหญ่ขนาดนี้แน่นอนว่าญี่ปุ่นก็ทำให้คนทั่วโลกต้องอึ้งตั้งแต่ยังไม่ถึงวันงานด้วยการส่ง Gundam อันโด่งออกสู่อวกาศ !!! สำนักข่าว NHK รายงานความเล่นใหญ่ของญี่ปุ่นว่า หน่วยงานหลายฝ่ายต่างจับมือกันร่วมทำโปรเจกต์ยักษ์ใหญ่ชื่อว่า ONE TEAM ทั้งหน่วยงานสำรวจอวกาศของญี่ปุ่น (JAXA) นักบินอวกาศ Noguchi Soichi มหาวิทยาลัยโตเกียว บริษัท Sunrise Inc. ผู้ถือครองลิขสิทธิ์ของ Gundam และ Koyama Chuya นักเขียนมังงะเรื่อง Space Brother โปรเจกต์ยักษ์ที่ว่าคือการสร้างดาวเทียมขนาดเล็กชื่อว่า G Satellite กว้าง 10 เซนติเมตร ยาว 30 เซนติเมตร และสูง 30 เซนติเมตร เตรียมส่งออกนอกอวกาศไปยังส่วนของ JEM หรือในชื่อเต็ม ๆ ว่า Japanese Experiment Module โมดุลห้องทดลองของญี่ปุ่นที่เป็นส่วนหนึ่งของสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) ห้องทดลองและสถานอำนวยความสะดวกสำหรับงานค้นคว้าวิจัยในระดับนานาชาติ

  • Life
    By: unlockmen May 17, 2019
    HIJRA ดอกไม้พลาสติกที่เบ่งบานแห่งบังกลาเทศ

    “ฉันรู้สึกเหมือนเป็นนางเงือก ร่างชี้ว่าเป็นชายแต่จิตวิญญาณคือหญิงสาว ฉันเหมือนดอกไม้ ดอกไม้ที่สร้างขึ้นจากกระดาษ แม้รับความรักท่วมท้นจากภายนอกเมื่อมองมา แต่ไม่ได้อาจสัมผัสความรู้สึกนี้จากการแตะต้องและดอมดม” Heena, 51, ธากา, บังกลาเทศ, 2012 Hijra (ฮิจรา) คือกลุ่มคนที่มีเพศสภาพที่แตกต่างจากเพศสถานะภายใน ใช้สำหรับเรียกเพศที่สามที่กายเป็นชายแต่ใจเป็นหญิงและดำเนินชีวิตแบบหญิงสาว คำศัพท์ที่ชี้หน้าและตีตราความรู้สึกของบทบาทความเป็นชายหญิงและความ “เป็นอื่น” ทางสังคม ถ้าพูดในแง่ประวัติศาสตร์แล้ว “ฮิจรา” ปรากฏหลักฐานมายาวนาน นานพอจะเชื่อว่านี่ไม่ใช่เรื่องใหม่ในสังคม แต่ค่านิยมแง่ลบไม่ได้หายไปพร้อมกาลเวลา เหลือเป็นคราบติดแน่นฝังไว้ถึงวันนี้แม้รัฐบาลบังกลาเทศจะออกกฎหมายแสดงการรับรองสิทธิทางเพศมา 5 ปีแล้วก็ตาม การใช้ชีวิตต้องสาปด้วยคำสาป บางคนสงสัยว่าสถานะต้องสาปที่ผู้คนไม่อยากเข้าใกล้นี้จะใช้ชีวิตอย่างไร คงไม่ต้องพูดถึงเรื่องการหางานเพราะไม่มีใครยอมรับ หรือสิทธิพลเมืองอื่น ๆ ที่ถูกริดรอนไป สิ่งที่พิทักษ์ฮิจราไว้คือระบบความเชื่อบางอย่างของสังคมที่ฝังมายาวนาน ว่าเพศที่สามอย่างพวกเธอคือผู้มีอำนาจพิเศษจากการบูชาพระแม่พหุชระหรือมาตากี ซึ่งเป็นปางหนึ่งของพระแม่อุมา ทำให้สามารถสาปแช่งหรือให้พรได้ ดังนั้น วาจาศักดิ์สิทธิ์นี้จึงกลายเป็นเครื่องมือทำกินที่ทำให้ฮิจราสามารถรับเงินมาได้จากการอวยพรเด็กแรกเกิดที่ครอบครัวต่าง ๆ เชิญไป และเป็นอาวุธปกป้องตัวเองจากผู้ไม่ประสงค์ดีด้วยการสาปแช่งผู้คน ซึ่งเชื่อกันว่าใครได้รับคำบริภาษนั้นไปจะต้องโชคร้าย เงือกที่ไม่อาจเป็นมนุษย์ ดอกไม้เทียมที่ไม่อาจเป็นดอกไม้จริง คือความเจ็บปวดที่ฮิจราชาวบังกลาเทศต้องยอมรับ จิตวิญญาณที่ขัดแย้งกับเปลือกที่รับมาทำให้พวกเธอต้องกลายเป็นคนไร้ราก หอบชีวิตออกจากแผ่นดินเกิดคนแล้วคนเล่า ถูกทอดทิ้งจากความสัมพันธ์เบื้องหลังทุกรูปแบบเพื่อย้ายไปยังอินเดีย สถานที่ที่พวกเธอยังคงได้รับการดูหมิ่นดูแคลนไม่แพ้กันแต่ระดับความเลวร้ายต่ำกว่า ทว่าในความมืดมิดอ้างว้างก็แทนที่ได้ด้วยความสัมพันธ์เหนียวแน่นระหว่างฮิจราด้วยกัน ดังนั้น ถ้าเราไปพบพวกเธอเป็นกลุ่มใหญ่ นั่นคือครอบครัวใหม่ของพวกเธอ Sharhia Sharmin

  • World
    By: unlockmen May 17, 2019
    มนุษย์เราจำตัวเลขได้สูงสุดกี่หลัก? 2 ปีข้างหน้าญี่ปุ่นปรับเพิ่มเบอร์โทรศัพท์จาก 11 หลักเป็น 14 หลัก

    ก่อนจะมีตัวเลข 08 หรือ 09 นำหน้าเลขหมายโทรศัพท์มือถือในปัจจุบัน เท่าที่จำความได้และเกิดทัน เราเคยใช้เลขหมายโทรศัพท์บ้านเริ่มต้นด้วย  02, 03, 05 และ 07 และใช้หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่หรือมือถือด้วย 01 นับแล้วตอนนั้นจำทั้งหมด 9 หลัก แต่พอมาวันนึง จำนวนคนมากขึ้นเลยทำให้เลขหมายที่มีอยู่ไม่พอและเพิ่มเลขแทรกเข้ามาอีกหนึ่งหลักของมือถือ จนวันนี้เราต้องจำ 10 หลักเพื่อโทรศัพท์หากัน ญี่ปุ่นเป็นอีกประเทศหนึ่งที่กำลังเจอกับเหตุการณ์เลขกำลังจะหมดเกลี้ยง ไม่เหลือให้ใช้แล้วเหมือนกัน ดังนั้น เพื่อป้องกันเหตุการณ์นั้น กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารจึงวางแผนเพิ่มเลขหมายจากเดิม 11 หลักเป็น 14 หลัก ซึ่งจะทำให้ตัวเลขใหม่ทั้งหมดเพิ่มขึ้นจำนวนกว่าหนึ่งหมื่นล้านเลขหมายภายในปี 2021 โดยนโยบายนี้ได้รับการยอมรับจากผู้ให้บริการมือถือ 3 รายหลัก ได้แก่ NTT Docomo Inc., KDDI Corp. และ SoftBank Corp. เหตุผลของการเพิ่มครั้งนี้ ไม่ใช่แค่เรื่องการขยายตัวของประชากร แต่อีกแง่หนึ่งมันเกิดจากการใช้อุปกรณ์ประเภท IoT ที่เพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งในญี่ปุ่นอุปกรณ์เหล่านี้มันจำเป็นต้องผูกกับหมายเลขโทรศัพท์ จึงทำให้เลขหมายหมดไว ยิ่งปีหน้าเมื่อญี่ปุ่นเตรียมเปิดใช้ 5G ยิ่งมีความเป็นไปได้สูงที่จำเป็นจะต้องใช้เลขหมายมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่

« Previous 1 … 33 34 35 36 37 … 102 Next »

HOT THIS WEEK

#7daysinarow

  • 1
    CARS
    JDM: CODE RARE – Skyline GT-R Autech Version 40th Anniversary (1998: BCNR33)
  • 2
    CARS
    Porsche 911 Carrera Coupe Reimagined by Singer แรงบันดาลใจจากตำนานสุดแรร์​ 911 SSE
  • 3
    Business
    Betterment Series: Hyperdrive Mind – อาการ ADHD มีดีมากกว่าแค่สมาธิสั้นถ้ารู้วิธีรับมือ
  • 4
    CARS
    JDM: CODE RARE — SKYLINE AUTECH VERSION (1993: HNR32) สปอร์ตซีดานที่เน้นการใช้งานแบบ work-use vehicles
  • 5
    DESIGN
    LOST WATCHES OF REBELS : FIDEL CASTRO & HIS FOUR ROLEXES
  • 6
    CARS
    Vittorio Tessera แห่ง Casa Lambretta ร้าน Restoration Scooter ที่ดีที่สุดในโลกสำหรับ Lambretta
  • 7
    FASHION
    LOST WATCHES OF REBELS : EP01 – FIDEL CASTRO: THE GUY WHO WORE TWO ROLEXES ON ONE WRIST
  • 8
    CARS
    JDM: CODE RARE – 1997 TOYOTA CENTURY V12 รถบ้าน V12 หนึ่งดียวในประวัติศาสตร์ชาติญี่ปุ่น
< Prev Next >

most popular video of the week

#7daysinarow

THE REAL EP 1 : Tamaryn Cooper
Unlockmen Channel
18,301

EVERYTHING GUYS NEED
TO UNLOCK YOUR TRUE
POTENTIAL EVERYDAY

Unlockmen

Subscribe now

Unlockmen
  • About Us
  • Our team
  • Jobs
  • Contact Us
  • Terms of Use
  • Privacy Policy
© 2016 whiteline thaithayan. All rights reserved.
Use of this site constitutes acceptance of our User Agreement (effective 1/4/2016) and Privacy Policy (effective 1/4/2016).The material on this site may not be reproduced,
distributed, transmitted, cached or otherwise used, except with prior written permission of thaitayan ltd.