Tōge Racing การแข่งขันรถบนเส้นทางแสนอันตรายของธรรมชาติ ที่เป็นแรงบันดาลใจให้ Initial D

ความเป็นเกาะของประเทศญี่ปุ่นมีภูมิประเทศที่เป็นภูเขาครอบคลุมพื้นที่มากถึง 73% และป่าปกคลุม 69% ของประเทศ (อ้างอิงจากข้อมูลจากปี 2017) และเป็นที่รู้กันดีว่าแดนอาทิศอุทัยอุดมด้วยเหล่าผู้คนที่หลงใหลในความเร็วแทบจะทุกพื้นที่ เมื่อสมการของสถานที่อันแสนท้าทาย ผสมกับการเกิดของนักแข่งรถที่รักในความเร็ว เราจึงได้ Tōge สนามแข่งรถที่โอบล้อมด้วยความสวยงามแฝงอันตรายของธรรมชาติขึ้นมา

UNLOCKMEN ขอพาทุกคนไปรู้จักกับสถานที่แข่งรถในตำนานของญี่ปุ่น ที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับมังงะชื่อ Initial D และเป็นจุดกำเนิดของการ ‘ดริฟต์’ ของโลก พร้อมกับการสร้าง Drift King ขึ้นมา   

ที่มาของ Tōge หรือ Touge ในภาษาญี่ปุ่นมีความหมายว่า ‘ผ่าน’ ซึ่งใช้เรียกถนนที่สร้างเป็นทางโค้งรูปตัว S ที่ตัดอยู่บนรอบภูเขาที่มีอยู่ทั่วประเทศญี่ปุ่น สร้างขึ้นเพื่อลดการขึ้นของทางอันลาดชัน จนสามารถทำให้รถวิ่งเต็มที่ 2 เลนได้อย่างสะดวก ในอดีตแรกเริ่มเดิมทีมีเพื่อใช้สำรวจภูเขา ต่อมาจึงตัดถนนเพิ่มจนสามารถใช้สัญจรทั้งในการเดินทาง และเชิงพาณิชย์ได้ และเมื่อเข้าสู่ช่วงปี 80s – 90s เหล่านักแข่งรถก็เริ่มมองเห็นเส้นทางใหม่ ที่ท้าทายยิ่งกว่าสนามแข่งไหน ๆ ที่เคยมีมา

การใช้เส้นทาง Tōge เป็นสนามแข่งรถนั้น ผิดกฎหมายมาก ๆ ในญี่ปุ่น เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายจนถึงชีวิตทั้งต่อตัวคนแข่งและผู้ใช้เส้นทางได้ทุกเมื่อ จึงต้องแอบแข่งกันในเฉพาะช่วงเวลากลางคืนเท่านั้น และของจริงก็ไม่ได้มีภาพลักษณ์เหมือนการแข่งแบบใน Fast & Furious หรือการแข่งขันแบบอื่น ๆ ที่มีพริตตี้ให้สัญญาณปล่อยจุดสตาร์ทให้เรา มันเป็นเพียงแค่เหล่านักแข่งที่มารวมตัวกันแอบแข่งในความมืดเท่านั้นเอง

รูปแบบการแข่งขันแบบ Tōge จะแบ่งการแข่งขันออกเป็น 3 แบบ

1.Cat and Mouse / Sudden Death : การแข่งขันแบบแมวไล่หนูบนถนนที่แคบเกินกว่ารถจะวิ่ง 2 เลนได้ตลอดเส้นทาง ใครแซงอีกคนเข้าเส้นชัยก่อนชนะ

2.Time attack / Ghost battles : การแข่งแบบจับเวลาใครขับเร็วที่สุดชนะ

3.Grip Gambler : การแข่งบนสนามที่กว้างพอสำหรับรถวิ่ง 2 เลน ใครเข้าเส้นชัยก่อนชนะ  

Kunimitsu Takahashi

ว่ากันว่าประวัติศาสตร์ของการดริฟต์ครั้งแรก ๆ เริ่มต้นช่วงประมาณ 1970 บนเส้นทางการแข่งแบบ Tōge ด้วยกลุ่มนักแข่งที่เรียกตัวเองว่า Rolling Zoku แต่อีกสิ่งที่ทำให้สนามแห่งนี้พิเศษ คือการถือกำเนิดของการแข่งขันดริฟต์ซึ่งจัดขึ้นโดย Kunimitsu Takahashi สิงห์นักบิดมอเตอร์ไซต์ผู้ผันตัวมาเป็นนักแข่งรถตำนานแห่งยุค 70s ของญี่ปุ่น หนึ่งในผู้สร้างเทคนิคการ ‘ดริฟต์’ ขึ้นมา 

Initial D มังงะซึ่งประกอบด้วยฉากของการดริฟต์บนยอดเขา ‘อากินะ’ ที่ทุกคนคุ้นเคยกัน และรู้โดยทั่วกันว่าได้แรงบันดาลใจมาจาก Keiichi Tsuchiya ผู้มีฉายาว่า Drift King ของญี่ปุ่น และราชาคนนี้ก็ดังมาจากเส้นทางแข่งแบบ Tōge ที่ตัวมังงะก็ได้แรงบันดาลใจมาเหมือนกัน แต่ต้องพูดให้ละเอียดไปมากกว่านั้นเพื่อให้ประวัติศาสตร์ครบถ้วน จริง ๆ แล้ว Keiichi Tsuchiya ได้รับแรงบันดาลใจที่จะดริฟต์มาจาก Kunimitsu Takahashi และเริ่มฝึกฝนอย่างหนักบนเส้นทางบนภูเขา จนทำให้ตัวเองกลายเป็นราชาของวงการดริฟต์ในช่วงปี 1987 ได้สำเร็จ

Keiichi Tsuchiya

Nordschleife

ถึงจะเป็นกีฬาที่ผิดกฎหมาย แต่ Tōge ก็มีอิทธิพลจนแผ่ขยายแรงบันดาลใจไปทั่วโลกเลยทีเดียว อย่าง Nordschleife สนามแข่งที่ท้าทาย ขับยาก และอันตรายที่สุดในโลกจากประเทศเยอรมันนี ด้วยสภาพที่เป็นหุบเขา จนได้รับฉายาว่า The Green Hell ใช้เป็นสนามแข่งรถสูตรหนึ่งรายการ German Grand Prix ตั้งแต่ปี 1947 

ส่วนผู้ได้รับแรงบันดาลใจสำคัญอย่าง Initial D เอง ก็มีสถานที่จริงในจังหวัดกุนมะ บนภูเขาหลายแห่งในภูมิภาคคันโตเป็นต้นแบบ ด้วยภาพของภูเขาที่มีความอันตรายและเสี่ยงชีวิตได้ทุกเมื่อไม่ต่างกัน และเพราะความอันตรายนี้เองที่ทำให้วัฒนธรรมการแข่งแบบ Tōge เต็มไปด้วย ‘ความเคารพ’ ทั้งต่อสถานที่และนักแข่งด้วยกัน จนไปถึงการเคารพสถานที่ที่คนรุ่นก่อนปูทางมาให้จนพวกเขาสามารถมีการแข่งขันแบบของตัวเองด้วย โดยรุ่นพี่เหล่านี้ถูกเรียกว่า Sempai 

Initial D

ในหลาย ๆ ครั้ง เหล่ารุ่นพี่ Sempai ก็จะมาร่วมชมการแข่ง Tōge เพื่อดูว่าเด็กรุ่นใหม่ขับได้เร็วขนาดไหน พร้อมกับชื่นชม แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และให้กำลังใจกันและกัน เกิดเป็นอีกจุดเด่นดี ๆ ของการแข่งรถ Tōge ที่เรียกว่า ‘ความสัมพันธ์’ ของผู้คนนั่นเอง

จุดประสงค์หลักของนักแข่งใน Tōge ล้วนแล้วแต่เป็นการทำเพื่อพัฒนาทักษะของตัวเองทั้งนั้น ไม่ใช่เพื่อการเอาชนะคนอื่น ตรงนี้เองทำให้เห็นว่าภายใต้ภาพของกีฬาซึ่งท้าทายความถูกต้องของกฎหมายตลอดเวลา ก็มีภาพของความสามัคคีของผู้คน ซึ่งจับมือก้าวผ่านขีดจำกัดในตัวเอง เพื่อเติบโตไปพร้อมกัน

สามารถอ่านเรื่องราวฉบับเต็มของ Keiichi Tsuchiya ฉายา Drift King ได้ที่บทความ NIHON STORIES

Source : 1/2/3