Entertainment

5 สุดยอดเพลงของ AVENGED SEVENFOLD โมเดิร์น เฮฟวี่เมทัลที่มียอดวิวทะลุร้อยล้านบน YouTube

By: JEDDY July 29, 2022

Avenged Sevenfold วงดนตรีแนวโมเดิร์น เฮฟวี่เมทัล ที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามในวงการอุตสาหกรรมดนตรี พวกเขาก้าวมาจากวงในระดับอันเดอร์กราวน์ โดยมีผลงานในยุคแรกเป็นสไตล์เมทัลคอร์ที่ดุดัน ได้แก่อัลบั้ม “Sounding the Seventh Trumpet “ (2001) และ “Waking The Fallen” (2003) 

พวกเขาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมจนสามารถสร้างฐานแฟนเพลงได้อย่างมากมาย ทำให้ออร่าส่องแสงไปเข้าตา Warner Bros. ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ระดับโลก จนสุดท้าย A7X (ชื่อย่อของวง) ได้เซ็นสัญญาสู่โลกของเมนสตรีมในที่สุด หลังจากนั้นพวกเขาก็ยกระดับวงขึ้นสู่วงเมทัลระดับโลกด้วยผลงานอัลบั้ม “City Of Evil” (2005) และอัลบั้มชื่อเดียวกับวงในปี (2007)


เส้นทางกำลังไปได้สวย แต่แล้วพวกเขาก็ต้องมาเจอเรื่องไม่คาดฝัน เมื่อ The Rev หรือ “James Owen Sullivan” มือกลองมากฝีมือของวงต้องเสียชีวิตจากอาการโอเวอร์โดสเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2009 

ทำให้ทางวงต้องไปดึงตัว Mike Portnoy มือกลองของวง Dream Theater มาช่วยทำหน้าที่แทนชั่วคราว และมีส่วนร่วมในการอัดเพลงในอัลบั้มถัดไปที่มีชื่อว่า “Nightmare” (2010) แม้จะต้องสูญเสียสมาชิกคนสำคัญไป แต่ความนิยมในวงไม่ได้ตกลงไปแต่อย่างใด แถมยังทำยอดขายได้ร้อนแรงจนติดชาร์ตบิลบอร์ด 200 ในอันดับที่ 1 ได้อีกด้วย

THE REV

หลังจากที่ปล่อยอัลบั้ม “Nightmare” ไปเกือบหนึ่งปีทางวงก็ได้ประกาศออดิชั่นหามือกลองใหม่ จนได้ Arin Ilejay มือกลองของวง Confide เข้ามารับหน้าที่แทนและมีส่วนร่วมกับอัลบั้ม “Hail To The King” (2013) แต่ก็อยู่กับทางวงได้ไม่นาน จนกระทั่งในปี 2015 ทาง Arin ก็ต้องแยกทางกับวง เนื่องจากมีมุมมองการสร้างสรรค์เพลงที่แตกต่างกัน สุดท้ายพวกเขาก็ได้ตัวของ Brooks Wackerman อดีตมือกลอง Bad Religion ซึ่งเป็นวงดนตรีแนวพังก์มารับหน้าที่แทน ก่อนจะมีส่วนร่วมในการบันทึกเสียงอัลบั้ม “The Stage” (2016) และร่วมหัวจมท้ายกับ A7X มาจนถึงปัจจุบัน

ตลอดระยะเวลา 23 ปี ที่ Avenged Sevenfold เดินทาง ก็มีผลงานเพลงระดับเมก้าฮิตไว้มากมาย ซึ่งวัดได้จากยอดวิวเข้าชมบนยูทูปจากบรรดาแฟนเพลง และนี่คือ “5 สุดยอดเพลงของ Avenged Sevenfold ที่มียอดวิวสูงสุดบน YouTube” ที่เราไปคัดเลือกมาให้เป็นที่เรียบร้อย


1. SO FAR AWAY = 296 ล้านวิว

อันดับแรกคงเดากันไม่ยาก สำหรับบทเพลงช้าอารมณ์สุดเศร้าอย่าง “So Far Away” ผลงานจากอัลบั้ม “Nightmare” คือใครที่เป็นแฟนเพลงของพวกเขาน่าจะรู้ดีว่าในทุก ๆ อัลบั้มจะต้องมีเพลงช้าสไตล์บัลลาดอย่างน้อยหนึ่งเพลงรวมอยู่ด้วย ซึ่งมันก็ได้รับการตอบรับที่ดีอยู่เสมอ

แต่สำหรับเพลงนี้มันแตกต่างกันออกไป เพราะเนื้อหามันถูกเชื่อมโยงไปถึง The Rev มือกลองของวงที่จากโลกนี้ไปนั่นเอง นอกจากเนื้อหาของเพลงที่แสดงออกถึงความรู้สึกต่อการสูญเสียแล้ว ในส่วนของ MV ก็ยังเป็นการบอกเล่าความผูกพันของสมาชิกวงทั้ง 5 คนตั้งแต่วัยเด็ก รวมไปถึงมีภาพฟุตเทจต่าง ๆ ของ The Rev ที่บ่งบอกได้เลยว่าตอนที่เขามีชีวิตอยู่ได้สร้างรอยยิ้มให้กับเพื่อนร่วมวงมากขนาดไหน 

สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ไม่ใช่เฉพาะทางวงที่สัมผัสได้ แต่บรรดาแฟนเพลงก็สัมผัสได้ไม่ต่างกันออกไป และมันก็คือเหตุผลว่าทำไม “So Far Away” ถึงได้รับความนิยมมาเป็นอันดับ 1


2. HAIL TO THE KING = 222 ล้านวิว

ตามมาห่าง ๆ สำหรับไตเติ้ลแทร็กจากอัลบั้ม “Hail To The King” แม้ผลงานเพลงในชุดนี้จะโดนค่อนขอดว่าไปลอกซาวด์ “Black Album” ของ Metallica มา แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ความร้อนแรงของวงสะเทือนแต่อย่างใด แถมมันยังสามารถทำยอดขายซิงเกิ้ลได้มากถึง 2,000,000 ยูนิต จากทุกแพลตฟอร์ม 

“Hail To The King” มาพร้อมกับซาวด์ที่เน้นจังหวะโยก โดดเด่นไปด้วยท่อนกรูฟแน่น ๆ ตลอดทั้งเพลง มีท่อนริฟฟ์กีตาร์และท่อนโซโล่ที่เฉียบขาดบาดใจชาวเฮฟวี่ มีเสียงร้องที่ทรงพลังพ่วงด้วยท่วงทำนองสุดติดหู ภาพรวมของเพลงนี้มันอยู่ในความหนักหน่วงที่ใคร ๆ ก็ฟังได้ จึงไม่แปลกใจที่มันจะสามารถเข้าหูคนทั่ว ๆ ไปได้ง่ายกว่าเพลงอื่น ๆ 

นอกจากนั้น “Hail To The King” ยังถูกนำไปใช้ในเกม Rock Band 4 และถูกใช้เป็นเพลงธีมใน WrestleMania 32 ศึกมวยปล้ำใหญ่ของค่าย WWE ในปี 2016 ด้วยเช่นกัน


3. NIGHTMARE = 189 ล้านวิว

อีกหนึ่งผลงานจากอัลบั้ม “Nightmare” กับไตเติ้ลแทร็ก ที๋โดดเด่นด้วยความหนักแน่นทางดนตรีที่ซ่อนไว้ด้วยรายละเอียดอันซับซ้อน เป็นการตกผลึกผลงานจากทุก ๆ อัลบั้มและคลอดออกมาในสไตล์ตัวเองที่ลงตัวในทุกมิติ ไลน์กลองของเพลงนี้อัดโดย Mike Portnoy เพราะฉะนั้นเราจะได้ยินเทคนิคที่หลาย ๆ คนน่าจะคุ้นหูมาจากวง Dream Theater 

“Nightmare” ในช่วงที่ถูกปล่อยให้ฟังเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2010 มันได้ส่งอิทธิพลไปยังชาวเมทัลทั่วโลก โดยเฉพาะในระดับเยาวชนที่จะบูชาผลงานเพลงนี้เป็นพิเศษ สังเกตได้จากการที่มีวงดนตรีเด็ก ๆ วัยรุ่นหลายวงเลือกจะหยิบเพลงนี้มาแกะเพื่อไว้ใช้ในการประกวดกัน ซึ่งไม่น่าจะใช่เฉพาะในไทย เพราะในสหรัฐอเมริกาเพลงนี้ถูกเปิดในคลื่นวิทยุไปมากกว่า 35,000 ครั้ง (ในปี 2010) ซึ่งมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของเพลงร็อกในปีนั้นเลยทีเดียว


4. DEAR GOD = 155 ล้านวิว

ผลงานจากอัลบั้มชื่อเดียวกับวง หรือที่ใครหลายคนเรียกกันว่าอัลบั้มปกขาว จริง ๆ แล้วผลงานชุดนี้มีบทเพลงที่โดดเด่นอยู่หลายเพลง ไม่ว่าจะเป็น “Almost Easy”, “Scream”, “Critical Acclaim” และ “A Little Piece Of Heaven” ซึ่งรวมไปถึงแทร็กปิดอัลบั้มนามว่า “Dear God” ด้วยเช่นกัน

บทเพลงนี้คืออีกหนึ่งเพลงสไตล์บัลลาดที่ต้องมีติดไว้ในทุกอัลบั้ม แต่กลิ่นอายดนตรีจะมีความแตกต่างจาก “Seize The Day” จากอัลบั้ม “City Of Evil” เพราะมันฉาบไปด้วยดนตรีสไตล์คันทรี อีกหนึ่งแนวดนตรีที่ได้รับความนิยมตลอดกาลของชาวอเมริกัน ซึ่งบรรยากาศของแนวเพลงมันก็เข้ากับตัวดนตรีและเนื้อร้องที่แสดงถึงความเหงาอ้างว้างได้เป็นอย่างดี

“Dear God” เป็นอีกหนึ่งเพลงที่ไพเราะเอามาก ๆ แม้คนที่ไม่ใช่แฟนเพลงเมทัลหรือสาวก A7X ก็น่าจะตกหลุมรักมันได้ไม่ยากเลย


5. AFTER LIFE = 115 ล้านวิว

อันดับสุดท้ายก็ยังคงอยู่กับอัลบั้มปกขาวเช่นเคย “Afterlife” เป็นซิงเกิ้ลที่ 3 ที่ถูกนำมาโปรโมตอัลบั้ม ความโดดเด่นของเพลงนี้คือพวกเขาสามารถบาลานซ์ความนุ่มนวลและความหนักหน่วงได้อย่างลงตัว สามารถต่อแต่ละพาร์ตดนตรีได้อย่างไหลลื่นโดยใช้ไดนามิกการเล่นเป็นตัวกำหนด 

ส่วนเนื้อหาของเพลงนี้ทาง Zacky Vengeance มือกีตาร์ของวงได้เผยว่ามันเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับคน ๆ หนึ่งที่ตายไปก่อนกำหนด ก่อนจะพบว่าตัวเองได้มาอยู่บนสวรรค์แล้ว อย่างไรก็ตามเขากลับนึกขึ้นมาได้ว่ายังมีอีกหลายสิ่งมากมายที่ต้องทำบนโลก ซึ่งมันต้องได้รับการแก้ไขให้ถูกต้อง ทำให้เขาต้องหาวิธีหนีออกมาจากความตายให้ได้

 

และทั้งหมดนี้คือ  “5 สุดยอดเพลงของ Avenged Sevenfold ที่มียอดวิวสูงสุด” ส่วนอันดับรองลงมาอีก 5 อันดับ ได้แก่ “Hail To The King”  (Audio) = 104 ล้านวิว,  “A Little Piece Of Heaven” = 92 ล้านวิว, “Buried Alive” = 92 ล้านวิว, “Shepherd By Fire” = 69 ล้านวิว และ “Seize The Day” = 63 ล้านวิว ซึ่งถือว่าเป็นวงที่ได้รับความนิยมโดยรวมค่อนข้างสูงมากเลยทีเดียวครับ

JEDDY
WRITER: JEDDY
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line