ULM PLAYLIST – Rock about Rain โยกหัวไปกับ 10 เพลงร็อคร้อนแรงในวันบรรยากาศฝนพรำ 

ช่วงนี้เหมือนอากาศไม่ค่อยเต็มใจ นอกจากเราอยู่บ้าน WFH กันแทบไม่เห็นแสงเดือนแสงตะวันแล้ว ฝนยังตกแทบทุกวันให้อารมณ์เราขุ่นมัวเข้าไปอีก

UNLOCKMEN ไม่อยากให้คุณเหงาและเดียวดาย จึงจัด Playlist บทเพลงเกี่ยวกับฝนมาให้ฟังกัน โดยเราคัดเลือกเฉพาะวงร็อคเพื่อนำความร้อนแรงมาปะทะกับความชุ่มชื้นของสายฝน พร้อมเกร็ดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของแต่ละเพลงที่น่าสนใจ เรามาฟังกันว่ามีบทเพลงไหนที่ตรงใจคุณกันบ้าง

The Beatles – ‘Rain’ (1966)

I can show you
That when it starts to rain
Everything’s the same
I can show you
I can show you

เริ่มต้นกันด้วยบทเพลงแรกที่เรามักจะนึกถึงเมื่อฝนพรำ เพราะแค่พิมพ์คำว่า Rain เพลง ๆ นี้ก็จะแสดงตัวขึ้นเป็นเพลงแรกของเรา

Rain ของคณะ 4 เต่าทอง The Beatles ได้แรงบันดาลใจมาจาก John Lennon ขณะที่ไปทัวร์คอนเสิร์ตที่ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย แล้วต้องติดอยู่กับฝนที่ตกทั้งวันทั้งคืน บวกกับความมึนเมาจากฤทธิ์ยา LSD ทำให้บรรยากาศขมุกขมัวของฝนส่งผลให้เขาถลำลึกจนต้องเปลี่ยนความรู้สึกนั้นแต่งออกมาเป็นเพลง โดยคุณูปการของบทเพลงนี้มีหลากหลายมาก ทั้งเสียงเบสที่ทรงพลังจากการเล่นของ Paul McCartney การใช้เทคนิค Backwards หรือการกรอเทปย้อนหลังจากความบังเอิญที่ John Lennon ค้นพบตอนที่เขาเผลอกรอเทปตอนอัดเพลงนี้ ทำให้เกิดเสียงอันแตกต่าง ซึ่งก่อให้เกิด Psychedelic Sound ในอัลบั้มของ The Beatles ในกาลต่อมา

The Jimi Hendrix Experience – ‘Rainy Day, Dream Away’ / Still Raining, Still Dreaming (1968)

Rainy day rain all day
Ain’t no use in gettin’ up tight
Just let it groove its own way
Let it drain
Your worries away
Lay back and groove on a rainy day
Lay back and dream on a rainy day

ในอัลบั้ม Electric Ladyland ของปรมาจารย์กีตาร์เทพในตำนานอย่าง Jimi Hendrix มีเพลงเกี่ยวกับฝนอยู่ 2 เพลง 2 อารมณ์ โดยเพลงแรก ‘Rainy Day, Dream Away’ อินโทรสำเนียงแจ๊สจากเครื่องเป่า ไม่ต่างกับช่วงเวลาที่ฝนลงเม็ดพอประปราย มองออกไปนอกหน้าต่างที่เสียงฝนค่อย ๆ หยดลงบนหลังคา ก่อนจะเมามายไปกับ ‘Still Raining, Still Dreaming’ ที่ให้ความรู้สึกไม่ต่างกับช่วงฝนถาโถม ไม่ต่างกับเสียงกีตาร์ที่กำลังเริงร่าอย่างบ้าคลั่ง เคล้าคลอไปด้วยอารมณ์กรึ่ม ๆ ยามร่างกายรับไวน์รสเลิศ ที่ความชื้นสัมพัทธ์ปะทะกับเลือดลมอันเร่าร้อน

Eric Clapton – ‘Let It Rain’ (1970)

The rain is falling through the mist of sorrow that surrounded me
The sun could never thaw away the bliss that lays around me

การตกหลุมรัก คือสิ่งที่ห้ามกันไม่ได้ เหมือนเราอยู่ใต้ฟ้าจะกลัวอะไรกับฝน บทเพลงของ Eric Clapton ในอัลบั้มเดี่ยวอัลบั้มแรกของพระเจ้าแห่ง SlowHand มีสำเนียงกีตาร์ที่แสนคุ้นเคย ขณะเดียวกันก็สัมผัสได้ถึงความชุ่มฉ่ำด้วยเมโลดี้อันสดใส ขับเน้นความงดงามของความรักอันแสนบริสุทธิ์ผุดผ่องแห่งยุค 70s ที่สวยงามและมหัศจรรย์ โดยเฉพาะการโซโล่กีตาร์ในตอนท้ายที่บรรยายความชุ่มฉ่ำของหยาดฝนท่ามกลางทะเลทรายได้อย่างแสนมหัศจรรย์

The Doors – ‘Riders on the Storm’ (1970)

Riders on the storm
Riders on the storm
Into this house we’re born
Into this world we’re thrown
Like a dog without a bone
An actor out on loan
Riders on the storm

เสียงฝนฟ้าคะนองอย่างบ้าคลั่งในตอนต้นของเพลง ไม่ต่างกับหนังฆาตกรรมที่ชายหนุ่มปริศนาโบกรถท่ามกลางฝนฟ้าคะนอง ก่อนชายคนนั้นจะหยิบมีดจ้วงแทงคุณจนเลือดไหลนองเปลี่ยนสายฝนเป็นสีแดงฉาน เพลง Psychedelic อมตะคลาสสิคที่ไลน์เบสโดดเด่นของ The Doors ที่ Jim Morrison ได้แรงบันดาลใจจาก Billy Cook ฆาตกรโรคจิตชื่อดัง สร้างบรรยากาศบนความมืดดำของท้องฟ้าในช่วงวิปริตและไม่น่าไว้วางใจ เพลงนี้นอกจากเป็นเพลงยอดฮิตของ The Doors แล้ว ยังเป็นเพลงสุดท้ายที่  Jim Morrison บันทึกเสียงและเผยแพร่ ก่อนที่เขาจะจากโลกนี้ไปในสัปดาห์ต่อมา

AC/DC – ‘Thunderstruck’ (1990)

Thunderstruck, yeah, yeah, yeah
Thunderstruck, thunderstruck
Thunderstruck, whoa, baby, baby
Thunderstruck, you’ve been thunderstruck
Thunderstruck, thunderstruck
Thunderstruck, you’ve been thunderstruck

การกลับมาอย่างงดงามของวงฮาร์ดร็อคในตำนาน หลังจากล้มลุกคลุกคลานในห้วงเวลาและยุคสมัยที่เปลี่ยนไป AC/DC เปิดศักราชแห่งเพลงร็อคยุค 90s ด้วยบทเพลงที่ให้ความรู้สึกไม่ต่างกับฟ้าที่ผ่าดังเปรี้ยง

เพลง Thunderstruck ถือกำเนิดขึ้นในวันหนึ่งที่ Angus Young และ Malcolm Young มือกีตาร์อยู่บนเครื่องบินที่กำลังมุ่งหน้าฝ่าฝนตกฟ้าคะนอง และเขาได้เห็นฟ้าผ่าโครมใหญ่จนเครื่องบินเกือบตก นำไปสู่การแต่งเพลงที่เหมือนเป็นภาคต่อของเพลงอย่าง ‘Powerage’ เพลง ‘Highway To Hell’ ทำให้เพลงนี้ได้รับความนิยมอย่างสูง จนทำให้สถานะของวง AC/DC ที่เคยตกต่ำช่วงหนึ่งได้ฟื้นคืนกลับมา แน่นอนว่าการอินโทรด้วยการ Lick Guitar ของ Angus คือความคลาสสิคตลอดกาล

Scorpions – ‘Rock You Like a Hurricane’ (1984)

Here I am
Rock you like a hurricane (are you ready, baby?)

หาก Thunderstruck คือตัวแทนแห่งฟ้าผ่าอันแสนกราดเกรี้ยว ‘Rock You Like a Hurricane’ ของคณะแมงป่องผยองเดชก็ไม่ต่างกับเสียงฟ้าร้องที่กึกก้องกัมปนาทไปทั่วท้องฟ้า บทเพลง Rock Anthem ที่สะท้อนความยิ่งใหญ่ของดนตรี Glam Rock นี้ กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งยุครุ่งเรืองของวงร็อค Hair Band ที่มีริฟฟ์กีตาร์อันหยิ่งผยอง บวกกับเสียงร้องอันทรงพลัง ประกาศความร้อนเร่าของดนตรีร็อคที่คลอเคล้าไปด้วย Sex, Drug, Rock & Roll ที่ครบเครื่องเหมือนพายุเฮอร์ริเคนที่พร้อมฉุดกระชากความเบื่อหน่ายให้หมดสิ้นไป รวมไปถึงการกระตุ้นความเร่าร้อนบนเตียงได้อย่างบ้าคลั่งอีกด้วย

Guns N’ Roses – ‘November Rain’ (1992)

Nothin’ lasts forever
And we both know hearts can change
And it’s hard to hold a candle
In the cold November rain

หากเปรียบเพลง ‘November Rain’ เป็นหนังสักเรื่อง แน่นอนว่ามันต้องเป็นหนัง Epic มหากาพย์เรื่องยิ่งใหญ่ที่ทุ่มทุนสร้างอย่างมโหฬาร ไม่ว่าจะเป็นความยาวที่เกินมาตรฐานเพลงฮิตเกือบ 9 นาที หรือมิวสิควิดีโอที่ทุ่มทุนสร้างราวกับหนังบล็อคบัสเตอร์เรื่องหนึ่ง ซึ่งนับเป็นการลงทุนที่แสนคุ้มค่า เพราะเพลงฝนเดือนพฤศจิกายนนี้ข้ามกาลเวลามาอย่างยาวนานเพื่อบอกเล่าถึงตำนานแห่งดนตรี Glam Metal อันยิ่งใหญ่ ด้วยบทเพลงบัลลาดอันทรงพลังจากการร้องของ Axl Rose และแน่นอนว่าเสียงกีตาร์อันเป็นเอกลักษณ์ของ Slash ประกอบกันเป็นบทเพลงยิ่งใหญ่ที่รวมความมหัศจรรย์แห่งเพลงร็อคในยุคที่เรืองรองได้เป็นอย่างดี

Creedence Clearwater Revival – ‘Have You Ever Seen the Rain?’ (1970)

I wanna know
Have you ever seen the rain
Comin’ down a sunny day?

บทเพลงคลาสสิคของ Root Rock ในตำนาน CCR กับช่วงเวลาอันแสนเปราะบางของวง ที่อุปมาหยาดฝนแทนความหดหู่ชอกช้ำที่วงกำลังเผชิญ หลังจากมีปัญหาขัดแย้งของน้องชาย Tom Fogerty ที่ลาออกจากวงไป John Fogerty คนพี่จึงเขียนถึงช่วงเวลาที่วงขาดสมาชิกผู้เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญของวงไปในช่วงเวลาที่วงกำลังมีชื่อเสียงถึงขีดสุด ไม่ต่างกับฝนที่ตกลงมาในวันที่แดดออก แต่นักวิจารณ์ทางดนตรีก็ออกมาตีความว่า เพลง ๆ นี้คือเพลงต่อต้านสงครามเวียดนาม ที่หยาดฝนถูกแทนความหมายของห่ากระสุนและระเบิดที่ร่วงหล่นลงจากฟากฟ้า แต่ไม่ว่าบทเพลงนี้จะสื่อถึงอะไร สำหรับคนไทย เพลง Have You Ever Seen the Rain? คือเพลงดังที่ใช้ในการประกอบโฆษณารถมอเตอร์ไซค์ในยุค 90s ที่โด่งดังมากๆในยุคนั้น

Led Zeppelin – ‘Fool in the Rain’ (1979)

Now I will stand in the rain on the corner
I watch the people go shuffling downtown
Another ten minutes no longer
And then I’m turning around, ’round
And the clock on the wall’s moving slower
Oh, my heart it sinks to the ground
And the storm that I thought would blow over
Clouds the light of the love that I found, found

เพลง Samba Rock ของคณะ Led Zeppelin ที่ Jimmy Page เขียนขึ้นจากแรงบันดาลใจจากการแข่งขันฟุตบอลโลกที่อาร์เจนติน่าในปี 1978 เขาได้ยินท่วงทำนองของดนตรีแซมบ้าที่สนุกเร้าใจ และกลับมาเขียนเพลงน่ารักน่าชัง

เรื่องราวของชายหนุ่มที่นัดเจอสาวคนหนึ่ง แต่รอแล้วรอเล่าสาวเจ้าคนนั้นกลับไม่ปรากฏตัว ฝนก็ตกจนร่างเปียกปอนแต่ก็ไร้ซึ่งวี่แววของเธอ จนมารู้ภายหลังว่าเธอคนนั้นยืนรออยู่อีกมุมตึกด้านหนึ่ง ทำให้ชายคนนั้นรู้สึกว่าตัวเองช่างโง่เง่าท่ามกลางสายฝน แม้ว่าบทเพลงนี้จะน่ารักน่าชังและเล่าเรื่องประหนึ่งหนักรักหักมุม แต่เนื้อหาทางดนตรีกลับตรงกันข้าม อย่างที่กล่าวไว้ว่าเพลงได้รับการผสมผสานดนตรีร็อคเข้ากับจังหวะแซมบ้า แถมยังใช้เสียงเปียโนได้อย่างเกิดประโยชน์สูงสุด ถือว่าเป็นหนึ่งบทเพลงที่แสดงให้เห็นรายละเอียดทางดนตรีที่สุดละเมียดสมกับเป็นวงในตำนานจริงๆ

Blind Melon – No Rain (1993)

And I don’t understand why I sleep all day
And I start to complain that there’s no rain
And all I can do is read a book to stay awake
And it rips my life away but it’s a great escape
Escape, escape, escape

ปิดท้ายกันด้วยเพลงฮิตที่สุดของวง Alternative Rock แต่ก็อายุสั้นที่สุดในยุคนั้นเช่นกัน จากการสูญเสียนักร้องนำ Shannon Hoon แม้บทเพลงจะพูดถึงวันที่แดดจ้าไร้ซึ่งเมฆฝน ในขณะเดียวกันก็รู้สึกได้ถึงฝนที่ส่งอิทธิพลทางจิตใจในยามที่ไม่มีความชุ่มฉ่ำหล่อเลี้ยง โดยมือเบส Brad Smith แต่งขึ้นจากประสบการณ์ตรงในชีวิตช่วงหนึ่งขณะกำลังคบหากับหญิงสาวที่เป็นโรคซึมเศร้า เธอนอนบิดตัวไปมาอย่างเกียจคร้านในวันที่แดดสดใสจนเธอบ่นว่า “ทำไมวันนี้ฝนถึงไม่ตก”

แม้วงจะเป็น Alternative Grunge Rock อันแสนร้อนแรง แต่บทเพลงจังหวะกลาง ๆ นี้กลับเป็นเพลงเดียวที่ยืนยงในใจคนฟังตลอดกาล และข่าวดีคือพวกเขากลับมารวมตัวกันอีกครั้งพร้อมออกซิงเกิลใหม่ที่น่าสนใจ มาดูกันว่าพวกเขาจะเรียกศรัทธาของขาโดดกลับคืนมาอีกครั้งหรือไม่

เป็นอย่างไรบ้าง สำหรับ Playlist อันแสนชุ่มฉ่ำ ชวนรำลึกถึงความหลังสมัยดนตรีร็อคยังร้อนแรง คงช่วยให้คุณคลายความอึดอัดจากการอยู่บ้านให้ได้โยกหัวตามเพลงกันไม่มากก็น้อย ส่วนเดือนหน้า Playlist จะเป็นแนวไหน โปรดติดตามอ่านกัน หรือแนะนำไอเดียเข้ามาได้ตลอดเวลาครับ