CARS

Vittorio Tessera แห่ง Casa Lambretta ร้าน Restoration Scooter ที่ดีที่สุดในโลกสำหรับ Lambretta

By: GEESUCH May 13, 2025

มีคนเคยบอกเอาไว้ว่า การที่เราเลือก Lambretta สักคันมาเป็นของตัวเอง เราไม่ได้เลือกมันหรอก แต่เจ้าสกู๊ตเตอร์คันนี้ต่างหากที่เป็นคนเลือกเจ้าของ-คนที่มีคุณสมบัติความเป็นคนรัก Lamstory ประวัติศาสตร์สองล้อเข้าเส้น #เลือดกรุ๊ปแลม อินกับวัฒนธรรมและเรื่องราวที่สร้าง #แลมบันดาลใจ เกิดเป็นประสบการณ์ขับขี่แบบที่หาจากที่ไหนไม่ได้

UNLOCKMEN เคยเล่า Subculture History วัยรุ่มกลุ่ม Mods กับภาพยนตร์ Quadrophenia หนึ่งในไบเบิลประจำกลุ่มคนรักแลม / เรื่องราวของบาทหลวง Gabriele Amorth มือปราบผีที่ขี่แลมเดินทางในอิตาลี แต่ ! เหล่านั้นล้วนเป็นเรื่องราวในมุม ‘คนขี่แลม’ ทั้งนั้น โพสต์นี้เราจะกลับไปที่ ‘กรุงมิลาน’ (Milan) บ้านเกิดตั้งแต่เริ่มต้นในปี 1947 ของ Lambretta เล่าเรื่องในฝั่งของ ‘คนซ่อมแลม’ กันบ้าง

ไม่มีคนรักแลมคนไหนไม่รู้จัก ‘Casa Lambretta’ ร้าน Restoration Scooter ที่ดีที่สุดในโลกสำหรับ Lambretta และเป็นมากกว่านั้น ของ Vittorio Tessera ผู้ที่ช่วยให้แลมทุกคันไม่ว่าจะใหม่หรือเก่าได้วิ่งด้วยความมั่นใจ ชายผู้มีจุดสตาร์ทไมล์แรกที่เดียวกันคนรักแลมคนอื่น นั่นคือการเป็น ‘คนรักแลม’ ก่อนจะกลายเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนวัฒนธรรม Lambretta ที่สำคัญที่สุดกลุ่มหนึ่งของโลก ถ้าถามว่ายังไง ? กดอ่านเรื่องราวผ่านรูปแต่ละรูปในโพสต์ไปพร้อมกันเลย

 

1976 เป็นช่วงเวลาที่ Lambretta มีสกู๊ตเตอร์ชูโรงให้แบรนด์อย่าง GP150 กับ GP200 แต่ทว่าเด็กหนุ่ม Vittorio Tessera แทนที่จะเลือกรถโมเดลดีไซน์สุดยูนีกของแบรนด์ เขากลับเลือกมอเตอร์ไซต์คันแรกให้ตัวเองในวัย 16 ปี ด้วยการซื้อ 1953 Lambretta LD 125 จากคุณยายคนหนึ่งในเมือง Bormio แทน

สิ่งที่ตามมา เขาติดโรค ! แต่เป็นโรคดีที่ในปัจจุบันเราใช้คำเรียกกันว่า ‘LAMBRETTISTA’ หรือ “คนบ้าแลม” นั่นเอง และเราสามารถใช้คำว่า Vittorio เป็นคนบ้าแลมอย่างสุดหัวใจด้วยตัวเองแบบที่ไม่ใช่ตามสกู๊ตเตอร์นิยม เพราะว่าในช่วงปลายของปี 1970s เป็นปีที่ทั่วโลกรวมถึงอิตาลีเอง ไม่ได้ส่องสปอตไลท์ไปที่แลมนัก

จากเหตุการณ์รักแลมพบ ทำให้ Vittorio ตัดสินใจแน่วแน่ว่าเขาจะกลายเป็นคนใน Supporter Role ทำให้ Lambretta ทุกคันของคนที่มีความรักในแบบเดียวกับเขา สามารถขี่ได้อย่างมั่นใจในทุกจุดมุ่งหมายที่ต้องการ

** Little Lambretta Fact ! : Lambretta LD 125 เป็นรถที่ต่อยอดมาจากความสำเร็จของ Model LC (1950-1951) ที่ Re-Design ทั้งเครื่องยนต์และหน้าตา ไฟหน้าทรงกลมติดกับ Leg Shields จนกลายเป็นหนึ่งในคันไอคอนิกของชาว Mods **

 

Vittorio ตัดสินใจเรียนด้านช่างเครื่องกลทันทีนับตั้งแต่เหตุการณ์ตอนอายุ 16 และเมื่อตัวเขาในวัย 18 สำเร็จการศึกษาในปี 1979 ก็ทำการเปิดอู่บูรณะสกู๊ตเตอร์คลาสสิก ‘Restoration Scooter’ โดยในตอนนั้นยังไม่ได้ใช้ชื่อ Casa Lambretta เพราะว่า Vittorio ซ่อมทั้งแลมควบคู่ไปกับเวส ด้วยความที่ตัวเองหลงใหลสกู๊ตเตอร์ทุกรูปแบบ เป็นระยะเวลา 10 ปีแรก ก่อนที่ในภายหลังจะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน Lambretta เละเลือกดูแลเพียงแบรนด์เดียวเท่านั้น

แต่การเปิดอู่ด้วยแพชชั่นดูแลพาร์ทของสกู๊ตเตอร์คลาสสิกเฉพาะทาง ก็ไม่ได้เต็มไปด้วยความคล่องตัวทางธุรกิจขนาดนั้น และสิ่งที่ทำให้ Casa Lambretta เติบโตมาถึงปัจจุบัน เป็นเพราะว่าตัวของ Vittorio เคยผ่านอุปสรรคสำคัญเปลี่ยนชีวิตด้วยกันทั้งหมด 2 ครั้ง !

Pain Point (1) : อย่างที่เล่าไปก่อนหน้า ช่วงปลายของปี 1970s แลมไม่ได้รับความนิยมนัก จึงเกิดเหตุการณ์ที่ Vittorio บ่นอย่างเซ็ง ๆ ว่า “ณ ตอนนั้น เมื่อผมเปิดอู่ไม่มีลูกค้าคนไหนต้องการนำ Lambretta มาทำด้วยเลย!” โอเค เมื่อมองเห็นปัญหา Vittorio ก็เลือกไปแก้ที่ต้นตอ ด้วยการทำให้วัฒนธรรมของ Lambretta เป็น Pop Culture เข้าถึงกลุ่มผู้คนซะก่อน เขากับน้องชาย Gaetano และเพื่อน ๆ ก็เลยก่อตั้งคลับสกู๊ตเตอร์คลาสสิกกลุ่มแรกของอิตาลีที่ชื่อว่า ‘Club Amici del Vecchio Scooter’ ขึ้นมา โดยมี Meeting กันเป็นประจำที่ตลาดขายผลไม้ในเมือง Imola ก็เอาสกู๊ตเตอร์ออกมาโชว์ แล้วในช่วงต้นของปี 1980s กระแสความนิยมของ Lambretta ก็เริ่มแพร่กระจายไปทั่วอิตาลีเป็นครั้งแรก

Pain Point (2) : ปัญหาเรื่องผู้คนกับการรับรู้ถึงความเจ๋งของ Lambretta อาจจะแก้ไขได้ไม่ยากนัก เท่ากับปัญหาที่ 2 คือการที่อู่ของ Vittorio หาอะไหล่ในการบูรณะสกู๊ตเตอร์รุ่นคลาสสิกของแลมได้ยากเหลือเกิน ! ในตอนนั้นถ้าจะหาอะไหล่ของ Lambretta คลาสสิก ก็ต้องไปคุ้ยที่ตลาดของเก่าซึ่งเป็นแหล่งหาอะไหล่ที่เดียวของอิตาลี ถ้างั้น เมื่อหาไม่ได้ก็สร้างมันขึ้นเองเลยละกัน

สิ่งนี้คือเหตุผลหลักที่ทำให้ Vittorio เริ่มต้นทำอู่แบบ Remanufacture For Spare Parts ไม่ใช่เพื่อจำหน่ายให้ใคร แต่เพื่อหาอะไหล่มาใช้กับอู่ของตัวเอง ก่อนที่เวลาต่อมาไม่นานเขาจะขายอะไหล่เพื่อช่วยคนที่ประสบปัญหาแบบเดียวกัน บางครั้งอะไหล่ Original ก็หาได้ยากมาก การใช้อะไหล่ที่ Restoration ขึ้นใหม่ก็ช่วยให้แลมคันโปรดกลับมาวิ่งได้อีกครั้งหนึ่ง

“ช่วงเวลากว่า 15 ปีที่เปิดอู่ ผมเป็นช่างบูรณะ Lambretta เพียงคนเดียวในอิตาลีที่มีอู่ซ่อม และด้วยความเชี่ยวชาญ ทำให้ได้รับการยอมรับจาก Automotoclub Storico Italiano (ASI) สมาคมอนุรักษ์ยานพาหนะเก่าแก่ของอิตาลีด้วย”

 

วันสำคัญในฐานะช่างและคนรักแลมของ Vittorio คือวันที่เขาย้ำกับตัวเองพร้อมกับตะโกนให้โลกรู้ว่า ถ้าคุณรัก Lambretta เหมือนกัน เราคือหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญที่สุดในโลกของสกู๊ตเตอร์แบรนด์นี้ … ในปี 1985 Vittorio ตัดสินใจติดต่อครอบครัว Innocenti ผู้ให้กำเนิด Lambretta เพื่อขอเอาสกู๊ตเตอร์รวมถึงอะไหล่ที่หายากเข้ามาขาย ด้วยความมุ่งมั่นทำให้ Innocenti เปิดใจและเป็นพาร์ตเนอร์คนสำคัญในการทำธุรกิจกับเขา

ต่อมาในปี 1996 เขากับเพื่อนชื่อ Aldo Bazzi เปลี่ยนชื่ออู่เป็น ‘Casa Lambretta’ ตั้งมั่นสาขาหลักในกรุงมิลาน ประเทศอิตาลี และกลายเป็นพื้นที่ขายสิ่งที่เกี่ยวกับ Lambretta ที่ใหญ่ที่สุด โดยมีเนื้อที่รองรับผู้คนกว่า 1,600 ตารางเมตร ! (ในปี 2010 สาขาหลักย้ายไปอยู่ใน โรดาโน (Rodano) เมืองที่เป็นส่วนหนึ่งของมิลาน)

Casa Lambretta เป็นทั้ง Warehouse (โกดัง) สถานที่เดียวในโลกที่คนรักแลมจะสามารถหาอะไหล่ทุกชิ้นของแลมได้ (Vittorio ใช้คำว่ามีอะไหล่ทุกอย่างหาเจอแน่นอน 99%), Museum (พิพิธภัณฑ์) ที่ Vittorio สะสมแลมเป็นเวลาเกินกว่า 40 ปี เพื่อค่อย ๆ สร้างขึ้น รวมถึงได้แลมหายากบางคันจากครอบครัว Innocenti, Workshop (ห้องเครื่อง) และเป็น Shop ที่จำหน่ายแต่ของ Lambretta เท่านั้น

Vittorio ตั้งเป้าหมายว่าเขาจะทำให้แบรนด์ของตัวเองเป็น Restoration Scooter ซึ่งจะทำให้แลมทุกคันกลับมาวิ่งได้อีกครั้ง พร้อมกับทำให้โปรดักส์ของตัวเองรู้จักไปทั่วโลก โดยปัจจุบันมีตัวแทนจำหน่าย Casa Lambretta เกินกว่า 40 แห่งทั่วโลก (รวมถึงประเทศไทยเองด้วย) ทุกสิ่งที่ Vittorio ทำเพื่อแลม ทำให้เขาถูกแต่งตั้งเป็นกรรมาธิการแห่งชาติด้านสกู๊ตเตอร์ (Commissario Nazionale Scooter) ที่อายุน้อยที่สุด เกิดเป็นแรงผลักดันที่ทำให้เขาอยากเห็นคนรักแลมได้รวมตัวกันเยอะ ๆ ก็เลย ก่อตั้ง Lambretta Club Italia ขึ้นใหม่ / เปิดตัว นิตยสาร Notiziario Lambretta เพื่อเผยแพร่เรื่องราวเกี่ยวกับแบรนด์ Lambretta และวัฒนธรรมของมัน / รวมถึงเขียนหนังสือเล่มแรก Scooter Made in Italy เพื่อเป็นไบเบิลทางเทคนิคและประวัติศาสตร์ให้คนรักแลมรุ่นถัด ๆ ไป

ปี 2025 เข้าสู่ปีที่ 45 นับตั้งแต่ก่อตั้งแบรนด์ขึ้นมา Vittorio ยังคงง่วนอยู่กับ Lambretta แบรนด์เดียวกันกับที่เขาหลงรักมาตลอดตั้งแต่อายุ 16 “เหมือนทุกอย่างเพิ่งจะผ่านมาเมื่อวานนี้เอง” คือสิ่งที่เขาเคยให้สัมภาษณ์เอาไว้เมื่อถูกถามถึงเรื่องราวที่ผ่านมา Vittorio ไม่ได้แค่ทำตามความฝันที่แลมได้บันดาลใจให้ แต่เขายังใช้ชีวิตในความฝันนั้นอยู่ตลอดเวลา

ในครั้งหน้าเราจะมาเล่าเรื่องอะไร คอยติดตามที่เพจ UNLOCKMEN ให้ดี

GEESUCH
WRITER: GEESUCH
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line