World

UNLOCKMEN วิเคราะห์ ทำนายผล WORLD CUP 2018 รอบแบ่งกลุ่ม PART 3

By: PERLE June 18, 2018

มาว่ากันต่อที่กลุ่ม E, F ส่วนใครที่ยังไม่ได้อ่านที่วิเคราะห์ถึงกลุ่ม A, B, C, D กดเข้าไปอ่านตามลิงก์นี้ได้เลย

Part 1

Part 2

เอาล่ะไม่พูดพร่ำทำเพลงไปอ่านบทวิเคราะห์จากกูรู UNLOCKMEN กันเถอะ

 

Group E

ทีมในกลุ่ม

– ‘แซมบ้า’ ทีมชาติบราซิล ทีมเต็งอันดับ 1 ของรายการ เจ้าของแชมป์ฟุตบอลโลก 5 สมัย ในครั้งนี้พวกเขากลับมาอีกครั้งพร้อมขุมกำลังนักเตะอันแข็งแกร่ง เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งยุคทองก็ว่าได้ (อาจจะไม่เท่าทีมชุดปี 1970, 2002 แต่ก็ถือว่าเป็นทีมที่ดี) พร้อมที่จะล้างอายหลังจากเมื่อ 4 ปีที่แล้วโดนทีมชาติเยอรมันถล่มคาบ้านแบบเละเทะถึง 7-1 ในครั้งนี้พวกเขาจึงคาดหวังอย่างเต็มที่ และเป้าหมายจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากการคว้าแชมป์เท่านั้น!

3 นักเตะน่าจับตามอง

Neymar – ถ้ายุค 1970 มี Pele ยุค 2002 มี Ronaldo ยุคปัจจุบันก็มี Neymar เพราะในตอนนี้ถ้าไม่นับ 2 เทพเจ้าอย่าง Lionel Messi และ Cristiano Ronaldo เขาคือนักเตะที่ดีที่สุดในโลกก็ว่าได้ แต่ในทีมชาติบราซิลชุดนี้เขาเปรียบเสมือนจุดศูนย์กลางของทีม การขับเคลื่อนเกมรุกขึ้นอยู่กับดาวยิงจากสโมสร Paris Saint-Germain เป็นสำคัญ

Philippe Coutinho – มิดฟิลด์เชิงรุกพรสวรรค์สูงเจ้าของค่าตัว 142 ล้านปอนด์ จากสโมสร Barcelona เขาเป็นนักเตะที่มีอันตรายรอบด้าน สามารถเลี้ยงกินตัวได้ จ่ายบอลได้ดี และทีเด็ดที่สุดคือลูกยิงไกลจากแถวสองที่ไม่เป็นรองใคร ยิ่งได้มาผสานพลังกับ Neymar นี่คือฝันร้ายของกองหลังฝั่งตรงข้ามชัด ๆ

Marcelo – เมื่อก่อนอาจจะยังกังขากันอยู่ว่าเขา Jordi Alba หรือ David Alaba ใครคือแบ็กซ้ายที่ดีที่สุดในโลกกันแน่ แต่หลังจากที่เขามีส่วนสำคัญในการพา Real Madrid ต้นสังกัดคว้าแชมป์ UEFA Champions League 3 สมัยซ้อน น่าจะเป็นที่ชัดเจนแล้วว่าเขาคือผู้ชนะในการแข่งขันครั้งนี้ จุดเด่นของ Marcelo คือการเล่นเกมรุกที่ทำได้ดีไม่แพ้ปีกอาชีพเลย ในขณะเดียวกันเกมรับก็ไม่ได้หลวม

 

– ‘แดนนาฬิกา’ ทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ อีกหนึ่งขาประจำฟุตบอลโลกจากโซนยุโรป ครั้งนี้พวกเขาก็ผ่านรอบคัดเลือกมาได้อีกครั้งแบบสบาย ๆ ขุนพลแดนนาฬิกามีสไตล์การเล่นที่ชัดเจนและเป็นเอกลักษณ์คือเกมรับที่ดีและเหนียวแน่นไว้ก่อน มาดูกันว่าฟุตบอลโลกครั้งนี้สไตล์การเล่นแบบนี้จะพาพวกเขาไปได้ไกลแค่ไหน

3 นักเตะน่าจับตามอง

Xherdan Shaqiri – ถึงแม้ว่าฤดูกาลที่ผ่านมาเขาจะไม่สามารถช่วยต้นสังกัดอย่าง Stoke City ให้รอดพ้นการตกชั้นได้ แต่ถ้านับเฉพาะฟอร์มส่วนตัวของเขาถือว่าโดดเด่นตามมาตรฐาน เขาเป็นนักเตะทักษะความสามารถเฉพาะตัวยอดเยี่ยม กระชากลากเลื้อยจนผู้เล่นฝั่งตรงข้ามงงอยู่บ่อย ๆ และในฟุตบอลโลกครั้งนี้เขาคือตัวความหวังของทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ในแนวรุก

Granit Xhaka – จอมทัพจากสโมสร Arsenal ถึงแม้ว่าฟอร์มเขากับต้นสังกัดจะไม่ดีเท่าไรนัก แต่ Granit Xhaka ในนามทีมชาติเหมือนเปลี่ยนร่างเป็นอีกคน เขาคือคนควบคุมเกมในสนามจากแดนกลาง พร้อมด้วยทีเด็ดจากการวางบอลยาวและลูกยิงไกล

Yann Sommer – หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์เสียประตูน้อยคือเขาคนนี้นี่แหละ แม้ว่าเขาจะสูงแค่ 183 ซม. ซึ่งถือว่าตัวเล็กในตำแหน่งผู้รักษาประตู แต่ Yann Sommer ก็แทนที่จุดด้อยนั้นด้วยการยืนตำแหน่ง การอ่านเกม และการเปิดบอลอันยอดเยี่ยม

 

– ‘กล้วยหอม’ ทีมชาติคอสตาริก้า หลังจากสร้างปาฏิหาริย์ด้วยการทะลุไปถึงรอบก่อนรองชนะเลิศเมื่อ 4 ปีที่แล้วทั้งที่เป็นทีมรองบ่อน ครั้งนี้พวกเขากลับมาอีกครั้งเพื่อพิสูจน์ว่านั่นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่อาจจะเหนื่อยหน่อยเนื่องจากคู่ต่อสู้ร่วมกลุ่มมีแต่ทีมสุดโหดทั้งนั้น และขุมกำลังนักเตะคอสตาริก้าก็ดูจะเป็นรองทีมอื่นอย่างชัดเจน

3 นักเตะน่าจับตามอง

Keylor Navas – นี่คือทีมเดียวในฟุตบอลโลกรอบนี้ที่ดาวเด่นที่สุดอยู่ในตำแหน่งผู้รักษาประตู Keylor Navas นายทวารจอมหนึบจากสโมสร Real Madrid ผู้มีส่วนสำคัญในการพาต้นสังกัดคว้าแชมป์ UEFA Champions League 3 สมัยซ้อน แต่ต้องยอมรับว่าเขาเป็นนักเตะที่ขาดออร่าความเป็นสตาร์ ชื่อเสียงของเขาจึงน้อยกว่าที่ควรจะเป็น ทั้ง ๆ ที่ในแง่ฝีมือเขาไม่เป็นสองรองใครแน่นอน

Bryan Ruiz – แนวรุกทักษะแพรวพราว ครบเครื่องทั้งยิงทั้งจ่าย ตลอด 10 ปีที่ผ่านมาเขาคือตัวความหวังในเกมรุกทีมกล้วยหอมมาตลอด และครั้งนี้ก็เช่นกัน ถ้าทีมชาติคอสตาริก้าขาดเขาไปก็ไม่ต่างจากการมีลูกกระสุนแต่ไม่มีกระบอกปืน

Joel Campbell – ถึงแม้ในระดับสโมสรเขาจะเป็นนักเตะจอมพเนจร โดนปล่อยตัวให้ยืมไปไม่ซ้ำทีมในแต่ละปี แต่ในระดับทีมชาติทักษะการกระชากลากเลื้อยและการยิงประตูของเขายังเป็นสิ่งสำคัญเสมอ

 

– ‘เซิร์บ’ ทีมชาติเซอร์เบีย ทีมจอมแกร่งจากยุโรปตะวันออก หลังจากเมื่อ 4 ปีที่แล้วไม่สามารถผ่านรอบคัดเลือกมาได้ แต่คราวนี้พวกเขากลับมาแล้วพร้อมขุมกำลังที่ถือว่าแข็งแกร่งเลยทีเดียว ทีมเซิร์บมีสไตล์การเล่นที่ดุดัน เน้นลูกหนักลูกปะทะ ถ้าอีกทีมจิตใจไม่แข็งแกร่งพอมีแหยงแน่นอน

3 นักเตะน่าจับตามอง

Sergej Milinković-Savić – นักเตะที่กำลังเนื้อหอมที่สุดในยุโรปตอนนี้คงจะเป็นใครไม่ได้นอกจากจอมทัพจากสโมสร Lazio ผู้นี้ ด้วยรูปร่างสูงใหญ่ หน่วยก้านดี จ่ายบอลฉลาด ยิงไกลดี เล่นเกมรับพอได้ นี่คือกองกลางตัวรุกในฝัน เหล่าสโมสรยักษ์ใหญ่เลยยกขันหมากมาสู่ขอไม่เว้นแต่ละวัน ส่วนในนามทีมชาติถึงแม้ว่าจะเพิ่งติดทีมแค่ 5 นัด (เนื่องจากอายุแค่ 23 ปี) แต่เชื่อได้เลยว่าในฟุตบอลโลกครั้งนี้เขาจะเป็นนักเตะที่เซอร์เบียจะขาดไม่ได้

Nemanja Matić – กองกลางวัย 29 ปีจากสโมสร Manchester United ถ้าเปรียบ Sergej Milinković-Savić คือศูนย์กลางในแนวรุก Nemanja Matić ก็เป็นศูนย์กลางของแดนกลาง หน้าที่ของเขาในสนามอาจจะดูไม่โดดเด่นแต่ก็เป็นสิ่งที่ทีมจะขาดไม่ได้ เขาจะคอยควบคุมจังหวะเกม จ่ายบอลให้เพื่อนร่วมทีมเล่นง่าย และคอยตัดเกมเมื่อทีมกำลังโดนบุก

Aleksandar Mitrović – ความหวังสูงสุดในการทำประตูของขุนพลเซิร์บต้องฝากไว้ที่เขาคนนี้แหละ หลังจากโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมพาสโมสร Fulham เลื่อนชั้นสู่ Premier League ได้สำเร็จ มาในเวทีฟุตบอลโลกศูนย์หน้าวัย 23 ปี คงต้องรีดฟอร์มเช่นนั้นออกมาอีกครั้ง

บทวิเคราะห์

บราซิลกลับมาเป็นทีมที่น่ากลัวสมราคาแชมป์โลก 5 สมัยอีกครั้งหลังจากช่วงหลายปีหลังตกต่ำลงไปพอสมควร เชื่อว่าฟุตบอลโลกครั้งนี้บราซิลตั้งใจจะกลับมาทวงความยิ่งใหญ่ และคงจะไม่พลาดตกม้าตายแค่รอบแบ่งกลุ่มแน่นอน ส่วนคอสตาริกาอาจจะต้องผิดหวังเก็บกระเป๋ากลับบ้านแค่รอบแบ่งกลุ่ม การที่พวกเขาจะสร้างเซอร์ไพรส์แบบเมื่อ 4 ปีก่อนนั้นดูเป็นไปได้ยากเหลือเกิน เนื่องจากขุมกำลังนักเตะที่ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็เป็รองอีก 3 ทีมแบบชัดเจน
ศึกชิงรองแชมป์กลุ่มคงเป็นศึกระหว่างสวิตเซอร์แลนด์และเซอร์เบียซึ่งสูสีกันมาก แต่ถ้าต้องตัดสินใจเลือก 1 ทีม คิดว่าเซอร์เบียจะใช้ความดุดันแข็งแกร่งเอาชนะความเหนียวแน่นของสวิตเซอร์แลนด์ไปได้

ทีมที่คาดว่าจะเข้ารอบ: บราซิล, เซอร์เบีย

 

Group F

ทีมในกลุ่ม

– ‘อินทรีเหล็ก’ ทีมชาติเยอรมันแชมป์เก่าเมื่อฟุตบอลโลกครั้งที่แล้ว พวกเขากลับมาอีกครั้งพร้อมขุมกำลังแกร่งทั่วแผ่น และกุนซือยังเป็น Joachim Löw คนเดิม การเป็นแชมป์ว่ายากแล้วการป้องกันแชมป์นั้นยากกว่า ทัพอินทรีย์เหล็กจะทำได้หรือไม่ต้องติดตามกัน

3 นักเตะน่าจับตามอง

Manuel Neuer – ผู้รักษาประตูอันดับหนึ่งของโลก ณ ปัจจุบัน ก่อนทัวร์นาเมนท์จะเริ่มหลายฝ่ายกังวลกันว่าเขาจะหายจากอาการบาดเจ็บทันหรือไม่ แต่ตอนนี้เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าเขาพร้อมลงเฝ้าเสาให้ทีมบ้านเกิด และเยอรมันคงเสียประตูยากขึ้นไปอีกเท่าตัว

Mesut Özil – จอมทัพจากสโมสร Arsenal เขาคือคนบัญชาการแนวรุกของทัพอินทรีเหล็ก ทักษะการจ่ายบอลรวมไปถึง Vision เขาไม่เป็นสองรองใครในโลกอย่างแน่นอน

Toni Kroos – กองกลางคนสำคัญจากทีมแชมป์ยุโรป 3 สมัยซ้อน Real Madrid ในทีมชาติเขาจะยืนตำแหน่งต่ำกว่า Mesut Özil คอยควบคุมจังหวะของเกม และบางครั้งอาจจะสอดไปทำประตูด้วยการยิงไกลซึ่งเป็นทีเด็ดของเขา

 

– ‘จังโก้’ ทีมชาติเม็กซิโก ขาประจำฟุตบอลโลกจากโซนคอนคาเคฟ ถึงแม้ที่ผ่านมาอาจจะยังไม่เคยผ่านไปถึงรอบลึก ๆ แต่มาตรฐานทีมและขุมกำลังของพวกเขาแข็งแกร่งขึ้นทุกปี ‘บราซิลแห่งอเมริกากลาง’ คืออีกหนึ่งฉายาของพวกเขา เนื่องจากสไตล์การเล่นที่เน้นความสามารถเฉพาะตัว ความว่องไว และดูสนุก เม็กซิโกจึงเป็นอีกทีมที่น่าจับตามอง

3 นักเตะน่าจับตามอง

Javier Hernández – เจ้าถั่วน้อย Chicharito ที่เหล่าแฟนบอลคงรู้จักเป็นอย่างดี เขาคือดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของทีมจังโก้ และในฟุตบอลโลกครั้งนี้ความหวังการทำประตูก็คงอยู่ที่เขาเป็นหลัก Chicharito ไม่ใช่นักเตะประเภทกระชากลากเลื้อยชงเองกินเองได้ จุดเด่นของเขาอยู่ที่การอยู่ถูกที่ถูกเวลา มีสัญชาตญาณกองหน้าสูง และจบสกอร์ได้เฉียบคม

Hirving Lozano – อีกหนึ่งนักเตะเนื้อหอมในฟุตโลก 2018 เพราะฤดูกาลที่ผ่านมาเขาโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมกับ PSV ต้นสังกัดจนมีชื่อติดทีมยอดเยี่ยมลีกฮอลแลนด์ เขามีความเร็วชนิดหาตัวจับยาก กระชากลากเลื้อยผ่านแนวรับคู่แข่งเป็นประจำ และการจบสกอร์ก็ทำได้ดี

Guillermo Ochoa – นี่คือนักเตะที่น่าศึกษาอย่างมาก เพราะในระดับสโมสรเขาเป็นเพียงแค่ผู้รักษาประตูธรรมดา ๆ ออกแนวเป็นตัวสำรองเสียด้วยซ้ำ แต่ในนามทีมชาติเหมือนเขาอัปพลังตีบวก 10 มา และมักจะโชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมเสมอ โดยเฉพาะในเกมใหญ่ ๆ ถ้าเม็กซิโกอยากเสียประตูน้อย ๆ แล้วล่ะก็คงต้องลุ้นว่าครั้งนี้ Guillermo Ochoa จะรีดพลังแฝงของเขาออกมาได้หรือไม่

 

‘ไวกิ้ง’ ทีมชาติสวีเดน ทีมที่เขี่ยอิตาลีตกรอบคัดเลือกมาอย่างเจ็บแสบ และที่น่าสนใจอีกอย่างคือนี่คือทีมชาติสวีเดนที่ไร้ซึ่งพระเจ้านามว่า ‘Zlatan Ibrahimović’ ดาวยิงสูงสุดตลอดกาลที่ประกาศเลิกเล่นทีมชาติไปแล้ว จึงน่าติดตามว่าไวกิ้งเลือดใหม่ทีมนี้จะทำได้ดีแค่ไหนในฟุตบอลโลก 2018

3 นักเตะน่าจับตามอง

Emil Forsberg – เมื่อไม่มี Zlatan Ibrahimović แล้ว ความหวังสูงสุดในเกมรุกก็คงต้องฝากไว้ที่เขาคนนี้แหละ ปีกวัย 26 ปีจากสโมสร RB Leipzig ที่ถึงแม้ว่าฤดูกาลที่แล้วฟอร์มจะดรอปลงพอสมควร แต่ถ้ากองหลังฝั่งตรงข้ามประมาทเขาแล้วล่ะก็รับรองว่าเจอกับฝันร้ายแน่นอน

Marcus Berg – กองหน้าตัวเก๋าซึ่งที่ผ่านมาเขาตกอยู่ใต้ร่มเงา Zlatan Ibrahimović มาโดยตลอด แต่ในตอนนี้เขาต้องขึ้นมาเป็นตัวความหวังในการทำประตูแทนแล้ว และขอบอกว่าสถิติการทำประตูของเขาในระดับสโมสรนั้นไม่ธรรมดา เพราะถ้านับเฉพาะสโมสร Al Ain ที่เขาสังกัดอยู่ในปัจจุบัน เขายิงประตูได้มากกว่าจำนวนนัดที่เขาลงสนามเสียอีก!

Victor Lindelöf – อย่าเพิ่งขำที่ผมบอกว่านักเตะคนนี้น่าจับตามอง ถึงแม้ว่าฟอร์มของเขากับสโมสร Manchester United จะไม่เอาอ่าวแบบสุด ๆ และโดนจับดองเค็มบนม้านั่งสำรองก็ตาม แต่ในระดับทีมชาติ Victor Lindelöf คือผู้เล่นคนสำคัญในแนวรับ โชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมราวกับเป็นคนละคนกับในสโมสร ไม่แน่ว่าฟตุบอลโลก 2018 อาจเป็นทัวร์นาเมนท์เรียกความมั่นใจของเขากลับคืนมาก็ได้

 

– ‘โสมขาว’ ทีมชาติเกาหลีใต้ มหาอำนาจลูกหนังแห่งทวีปเอเชีย เจ้าของตำแหน่งอันดับที่ 4 ในฟุตบอลโลกปี 2002 (ถึงแม้ว่าจะมีข้อกังขามากมายก็ตาม) ครั้งนี้พวกเขาก็กลับมาเช่นเคย แต่ขุมกำลังนักเตะดูจะด้อยกว่าครั้งผ่าน ๆ มา เนื่องจากผู้เล่นส่วนใหญ่เป็นนักเตะที่ค้าแข้งอยู่ในลีกเกาหลีใต้หรือละแวกเอเชีย ส่วนน้อยเท่านั้นที่ค้าแข้งอยู่ในยุโรป ส่วนสไตล์การเล่นของพวกเขาเรารู้กันดีอยู่แล้วว่าเน้นความฟิต วิ่งสู้ฟัดด้วยพลังโสม

3 นักเตะน่าจับตามอง

Son Heung-min – ตั้งแต่หมดยุคของ Park Ji-sung ไป ก็มีเขานี่แหละที่เป็นดวงดาวเจิดจรัสดวงใหม่ และขึ้นมาเป็นนักเตะซูเปอร์สตาร์ประจำชาติได้สำเร็จ ปัจจุบันตัวรุกวัย 25 ปีค้าแข้งอยู่กับสโมสร Tottenham Hotspur ใน Premier League อังกฤษ และถึงแม้จะเล่นอยู่ในลีกที่ขึ้นชื่อว่าแข็งแกร่งอันดับต้น ๆ ของโลก แต่เขาก็ยังโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมจนสามารถเป็นตัวหลักของทีมได้สำเร็จ

Ki Sung-yueng – โอปป้าจอมทัพจากสโมสร  Swansea City แม้โดยธรรมชาติเขาจะเป็นมิดฟิลด์ตัวคุมจังหวะเกม แต่ในเรื่องเกมรับเขาก็ทำได้ดี และนอกจากนั้นเขาก็มีลูกยิงไกลเป็นทีเด็ดอีกด้วย

Park Joo-ho – แนวรับจอมเก๋าวัย 31 ปี ถึงแม้ว่าตอนนี้เขาจะค้าแข้งอยู่กับ Ulsan Hyundai  ในลีกบ้านเกิด แต่ที่ผ่านมาเขาเล่นอยู่ในยุโรปมาตลอด และประสบการณ์ส่วนนี้น่าจะช่วยขันแนวรับทีมโสมขาวให้แน่นหนา

บทวิเคราะห์

การที่ทีมอย่างเยอรมันจะพลิกล็อกตกรอบแรกนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้ เพราะนอกจากมาตรฐานทีมที่ดีกว่าทีมอื่นในกลุ่มอย่างชัดเจนแล้ว ทัพอินทรีย์เหล็กยังขึ้นชื่อเรื่องความเขี้ยวและแน่นอน มั่นใจได้เลยว่าเยอรมันจะลอยลำเข้ารอบอย่างแน่นอน แม้ว่าอาจจะหืดจับสักหน่อยในแต่ละนัด อีก 3 ทีมที่เหลือมาจาก 3 ทวีป เป็นฟุตบอลคนละสไตล์กันทั้งหมด เกาหลีใต้ถึงแม้จะเป็นยักษ์ใหญ่ในเอเชีย แต่ถ้าเทียบกับอีก 2 ทีมก็ยังดูเป็นรอง ฟุตบอลโลกครั้งนี้คงไม่ใช่ครั้งที่ดีของทีมโสมขาว สวีเดนกับเม็กซิโก นัดตัดสินสำหรับทั้ง 2 ทีมอาจจะเป็นนัดที่พวกเขาโคจรเจอกันเอง ซึ่งถ้าต้องเลือกทีมชนะคิดว่าคงเป็นทีมชาติเม็กซิโกที่มีความสามารถเฉพาะตัวที่เหนือกว่า และเข้ารอบตามเยอรมันไปได้ในทีสุด

ทีมที่คาดว่าจะเข้ารอบ: เยอรมัน, เม็กซิโก

จบกันไปแล้วสำหรับกลุ่ม E, F UNLOCKMEN จะแม่นหรือมั่วก็เกาะหน้าจอรอชมได้เลย ส่วน Part 4 ซึ่งจะเป็น Part สุดท้ายแล้ว มาในเร็ว ๆ นี้แน่นอน

PERLE
WRITER: PERLE
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line