UNLOCKMEN วิเคราะห์ ทำนายผล WORLD CUP 2018 รอบแบ่งกลุ่ม PART 4

มาถึงใน Part 4 ซึ่งจะเป็น Part สุดท้ายแล้ว ใครที่ยังไม่ได้อ่าน Part ก่อนหน้านี้กดอ่านได้ตามลิงก์นี้เลย

Part 1

Part 2

Part 3

ถ้าอ่านเรียบร้อยแล้วล่ะก็ เราไปต่อกันที่กลุ่ม G, H กันเลย

Group G

ทีมในกลุ่ม

– ‘ปีศาจแดงแห่งยุโรป’ ทีมชาติเบลเยียม เป็นทีมที่ในยุคหลังขึ้นมาเป็นชาติมหาอำนาจลูกหนังอีกหนึ่งชาติ เนื่องจากขุมกำลังอุดมไปด้วยเหล่าซูเปอร์สตาร์ที่โชว์ฟอร์มได้ดีในระดับสโมสร แต่ปัญหาสำคัญคือเมื่อมารวมตัวกันเล่นในนามทีมชาติกลับทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร ฟุตบอลโลก 2018 จึงเปรียบเสมือนบททดสอบสำคัญว่าพวกเขาจะลบข้อครหานี้ได้หรือไม่

3 นักเตะน่าจับตามอง 

Eden Hazard – เขาคือตัวชูโรงของทีม เป็นซูเปอร์สตาร์ประจำชาติ ด้วยทักษะอันล้นเหลือ ทั้งเลี้ยง ยิง จ่าย ครบเครื่องในคนเดียว และแน่นอนว่าเขาคือคนที่เบลเยียมจะขาดไม่ได้

Kevin De Bruyne – หนึ่งในกำลังสำคัญที่พา Manchester City เถลิงบัลลังก์ Premier League ด้วยจำนวนแต้ม 100 แต้ม เขาเป็นมิดฟิลด์ที่อันตรายเสมอยามอยู่หน้ากรอบเขตโทษ เป็นจอม Killer Pass และยิงไกลที่กองหลังฝั่งตรงข้ามจะปล่อยให้คลาดสายตาไม่ได้

Jan Vertonghen – ปราการหลังจอมแกร่งจากสโมสร Tottenham Hotspur เขาเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่ทำให้เบลเยียมไม่ได้มีดีแค่เกมรุก แต่เกมรับก็ยากที่ทีมไหนจะเจาะเข้ามาทำประตูได้

-‘นักรบคลอง’ ทีมชาติปานามา ถึงแม้จะเป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เข้ามาเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย แต่การที่พวกเขาเบียดยักษ์ใหญ่แห่งทวีปอย่างทีมชาติสหรัฐอเมริกาเข้ามาได้แปลว่าพวกเขาก็ไม่ธรรมดาเหมือนกัน และเราก็เห็นกันมาบ่อยครั้งแล้วที่ทีมรองบ่อนจะสร้างเซอร์ไพร์สได้ในฟุตบอลโลก

3 นักเตะน่าจับตามอง 

Jaime Penedo  – นายทวารประสบการณ์สูงวัย 36 ปี เป็นนักเตะเพียงไม่กี่คนที่ค้าแข้งอยู่ในลีกยุโรป และด้วยประสบการณ์อันล้นเหลือเพื่อนร่วมทีมน่าจะอุ่นใจที่มีเขาเฝ้าปากประตู

Román Torres  – กองหลังผู้มีทรงผมเป็นเอกลักษณ์ ถ้าใครพอจะติดตามเมเจอร์ลีกอเมริกาอยู่บ้างน่าจะพอคุ้นหน้าคุ้นตาบ้าง เขาเป็นกองหลังพันธุ์ดุ เข้าบอลแบบถึงลูกถึงคน และเป็นผู้บัญชาการแผงแนวรับของทีมชาติปานามา

Blas Pérez – กองหน้าจอมเก๋าวัย 37 กะรัต ดาวยิงสูงสุดตลอดกาลขอทีมชาติปานามา ด้วยวัยขนาดนี้แน่นอนว่าความเร็วอาจจะสู้นักเตะหนุ่ม ๆ ไม่ได้ แต่ทดแทนด้วยความเข้าใจเกมจากประสบการณ์ที่สั่งสมมา

– ‘ดินแดนอารยธรรมคาร์เธจ’ ทีมชาติตูนิเซีย ห่างหายไปจากฟุตโลกรอบสุดท้ายถึง 12 ปีเต็ม ๆ พวกเขากลับมาอีกครั้งด้วยสไตล์การเล่นเหนียวแน่น เน้นผลการแข่งขัน แม้ขุมกำลังนักเตะจะชื่อไม่คุ้นหู แต่ก็ไม่ควรมองข้าม เพราะทีมจากแอฟริกาขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแกร่งและพละกำลัง

3 นักเตะน่าจับตามอง 

Yohan Benalouane – ถึงแม้ในระกับสโมสรกับ Leicester City ตัวสำรอง แต่ในนามทีมชาติเขาคือกุญแจสำคัญในแนวรับ Yohan Benalouane ไม่ใช่นักเตะที่เด่นเรื่องความเร็ว แต่เรื่องการอ่านเกมและลูกกลางอากาศต่างหากที่เขาชำนาญ

Wahbi Khazri – แม้เขาจะเพิ่งร่วงตกชั้นลงสู่ League 1 พร้อมต้นสังกัด Sunderland แต่แท้จริงแล้วเขาไม่ใช่นักเตะที่จะไปเล่นลีกล่างแบบนั้น เขาดีพอที่จะเล่นใน Premier League ด้วยซ้ำ และฟุตบอลโลก 2018 เขาคงมุ่งมั่นเต็มที่เพื่อพิสูจน์ตัวเอง

Bassem Srarfi – กองกลางจอมทัพจากสโมสร Nice ในฝรั่งเศส แม้จะเป็นดาวรุ่งวัยเพียง 20 ปี แต่ก็มีประสบการณ์ในเกมระดับสูงมาพอสมควร และก็น่าจะช่วยคุมแดนกลางให้กับขุนพลดินแดนอารยธรรมคาร์เธจได้ดี

– ‘สิงโตคำราม’ ทีมชาติอังกฤษ ทีมขวัญใจมหาชนชาวไทย ครั้งนี้ก็ผ่านเข้ามาเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้อีกครั้ง พร้อมกับขุมกำลังที่โดนครหาว่า ‘ไร้ซูเปอร์สตาร์’ ซึ่งถ้ายกไปเปรียบเทียบกับยุคก่อนหน้าก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นเช่นนั้นจริง ๆ อีกทั้งกุนซืออย่าง Gareth Southgate ก็เป็นกุนซือที่ไม่ได้มีชื่อเสียงหรือประสบการณ์มากมาย แต่ก็ไม่แน่ว่าด้วยองค์ประกอบแบบนี้อาจทำให้ไร้ความกดดันและไปได้ไกลกว่าครั้งที่ผ่านมาก็เป็นได้

3 นักเตะน่าจับตามอง 

Harry Kane – ในทีมชุดไร้ซูเปอร์สตาร์ทีมนี้ ถ้าจะถามว่าใครพอจะมีราศีซูเปอร์สตาร์ที่สุด ก็คงเป็นกองหน้าจากสโมสร Tottenham Hotspur คนนี้ ผู้มีสถิติการยิงถล่มทลายให้กับต้นสังกัด แต่ในเกมระดับทีมชาติและเป็นฟุตบอลโลกครั้งแรก เขาจะรับมือความกดดันและโชว์ฟอร์มได้ดีขนาดไหนต้องรอลุ้นกัน

Raheem Sterling – กองหน้ากึ่งปีกจากสโมสร Manchester City แชมป์ Premier League สมัยล่าสุด เขาเป็นนักเตะที่มีสปีดเหลือร้าย กระชากลากเลื้อยแต่ละครั้งยากที่กองหลังฝั่งตรงข้ามจะตามได้ทัน และที่สำคัญคือเขามักจะเป็นนักเตะที่สามารถทำประตูได้ในนัดสำคัญเสมอ จึงเป็นนักเตะที่ทีมจะขาดไม่ได้เลย

Dele Alli – สุดยอดดาวรุ่งเลือดใหม่จากสโมสร Tottenham Hotspur ตำแหน่งถนัดคือกองกลางตัวรุกที่เล่นอยู่หลังกองหน้า การจ่ายบอลอาจจะไม่ได้เข้าขั้นดีเยี่ยม เพราะจุดเด่นที่แท้จริงของเขาคือการสอดเข้าไปทำประตู อยู่ถูกที่ถูกเวลาเสมอ มีสัญชาตญาณการทำประตูที่ดี และลูกยิงไกลที่เป็นทีเด็ด

บทวิเคราะห์

ถึงแม้จะเป็นทีมหาอำนาจลูกหนังทั้งคู่ แต่ทั้งอังกฤษและเบลเยียมต่างก็เป็นทีมชาติที่ไม่ค่อยมีเขี้ยวหรือความแน่นอนเวลาเล่นทัวร์นาเมนท์ใหญ่ ๆ การเข้ารอบจึงอาจไม่ง่ายอย่างที่คิด แต่เมื่อเหลือบมาดูอีก 2 ทีมร่วมกลุ่มอย่างตูนิเซียและปานามาบอกเลยว่ามาตรฐานยังห่างจากอังกฤษและเบลเยียมมากจริง ๆ การที่จะเกิดปาฏิหาริย์ช็อกโลกนั้นเป็นไปได้ยากจริง ๆ

ทีมที่คาดว่าจะเข้ารอบ: เบลเยียม, อังกฤษ

Group H

ทีมในกลุ่ม

– ‘อินทรีขาว’ ทีมชาติโปแลนด์ อีกหนึ่งทีมจากโซนยุโรปที่ช่วงหลังพัฒนาขึ้นมาอย่างก้าวกระโดดจนกลายเป็นหนึ่งในชาติชั้นนำเรื่องฟุตบอลอีกหนึ่งชาติ และขุมกำลังชุดลุยศึกฟุตบอลโลก 2018 นี้หลายคนก็เป็นนักเตะที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี เป็นอีกทีมที่น่ากลัวไม่แพ้ทีมใหญ่ทีมอื่น ๆ เลย

3 นักเตะน่าจับตามอง 

Robert Lewandowski – หนึ่งในศูนย์หน้าตัวเป้าที่ดีที่สุดในโลก ณ ขณะนี้ อีกทั้งเขายังเป็นดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของทีมชาติโปแลนด์ และในฟุตบอลโลกครั้งนี้พลพรรคอินทรีขาวจะทำประตูได้มากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับเขาเป็นสำคัญ

Arkadiusz Milik – จุดเด่นของทีมโปแลนด์ชุดนี้อยู่ที่กองหน้า เพราะนอกจากจะมี Robert Lewandowski เป็นตัวความหวังสูงสุดแล้ว ก็ยังมี Arkadiusz Milik ที่ความเฉียบคมในการจบสกอร์ก็ร้ายกาจไม่แพ้กัน ยิ่งถ้าทั้งสองคนผสานพลังกันบอกได้เลยว่าเกมรุกอันตรายสุด ๆ

Wojciech Szczęsny – จากคู่กองหน้าข้ามมาที่ตำแหน่งผู้รักษาประตูเลย เขาคนนี้คือผู้สืบทอดตำแหน่งของ Gianluigi Buffon ที่ Juventus ซึ่งการได้รับความมั่นใจให้ทำหน้าที่นี้แปลว่าระดับฝีมือเขาไม่ใช่ธรรมดาแน่นอน

– ‘สิงโตแห่งกาฬทวีป’ ทีมชาติเซเนกัล หลังจากสร้างปาฏิหาริย์เมื่อฟุตบอลโลก 2002 พวกเขาก็ห่างหายจากฟุตบอลโลกไปถึง 16 ปี แต่ครั้งนี้พวกเขากลับมาอีกครั้งพร้อมขุมกำลังสุดแกร่ง ที่ดูจะแข็งแกร่งยิ่งกว่ายุคทองของพวกเขาเมื่อปี 2002 เสียอีก แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความพวกเขาจะทำผลงานได้ดีเหมือนในอดีต เพราะในฟุตบอลโลกอะไรก็เกิดขึ้นได้

3 นักเตะน่าจับตามอง 

Sadio Mané – ปีกความเร็วสูงจากสโมสร Liverpool เขาโชว์ฟอร์มได้ดีกับทีมหงส์แดง 2 ฤดูกาลติดต่อกันจนก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะแถวหน้าของโลก และแน่นอนว่าในนามทีมชาติเขาคือความหวังสูงสุด เป็นดาวเด่นของทีม ถ้าเซเนกัลอยากไปได้ไกล ฟุตบอลโลกครั้งนี้คงต้องภาวนาให้เขาท็อปฟอร์ม

Idrissa Gueye – ถ้า N’Golo Kanté  คือกองกลางตัวรับอันดับ 1 ของ Premier League เขาคนนี้แหละคืออันดับ 2 ด้วยสไตล์การเล่นอันดุดัน ถึงลูกถึงคน การอ่านเกมและตัดบอลอันยอดเยี่ยม จึงเป็นนักเตะที่ทีมชาติเซเนกัลจะขาดไม่ได้

Cheikhou Kouyaté – กัปตันทีมจอมแกร่ง ตำแหน่งกองกลางสไตล์ Box to Box ครบเครื่องทั้งบู๊ทั้งบุ๋น หนักหน่วง จ่ายบอลแม่นยำ ลูกกลางอากาศก็ทำได้ดี เป็นนักเตะที่ชื่อเสียงน้อยกว่าฝีมือไปมาก แต่เขาคนนี้นี่แหละจะเป็นคนบัญชาการเกมให้สิงโตแห่งกาฬทวีป

– ‘โคเคน’ ทีมชาติโคลอมเบีย ทีมชั้นนำจากโซนอเมริกาใต้ที่ในช่วงหลังเป็นอีกชาติที่พัฒนาขึ้นมาแบบก้าวกระโดด สามารถสู้กับเหล่ามหาอำนาจในทวีปอย่างบราซิลและอาร์เจนตินาได้อย่างสูสี เมื่อ 4 ปีที่แล้วพวกเขาจบเส้นทางที่รอบก่อนรองชนะเลิศ มาติดตามกันว่าในครั้งนี้พวกเขาจะไปได้ไกลกว่าเดิมหรือไม่

3 นักเตะน่าจับตามอง 

James Rodríguez – เพลย์เมคเกอร์ซูเปอร์สตาร์ประจำทีมี่ไม่ได้มีดีแค่หน้าตา แต่ทักษะความสามารถของเขานั้นอยู่ในระดับโลกทั้งการเลี้ยง ยิง จ่าย จบครบในคนเดียว และเขาคือคนที่โชว์ฟอร์มได้โดดเด่นที่สุดในฟุตบอลโลกปี 2014 ก็ว่าได้ ต้องมาดูกันว่าครั้งนี้เขาจะทำแบบนั้นได้อีกหรือไม่

Juan Cuadrado – นักเตะสารพัดประโยชน์ทางริมเส้นฝั่งขวาจากสโมสร Juventus เล่นได้ทั้งปีกและวิงก์แบ็ค จุดเด่นคือความเร็วที่เหมือนขี่มอเตอร์ไซค์มาเตะฟุตบอล ถ้ากองหลังฝั่งตรงข้ามคนไหนไม่มีความเร็วแล้วล่ะก็โดนเขาเผาเครื่องกระจายแน่นอน

Radamel Falcao – ‘ไอ้เสือร้าย’ คือฉายาของเขา ย้อนไปเมื่อ 3-4 ปีก่อนชื่อของ Radamel Falcao คือกองหน้าตัวเป้าที่ดีที่สุดในโลกคนหนึ่ง แต่เมื่อเขาตัดสินใจย้ายไปค้าแข้งในอังกฤษฟอร์มเขาก็หล่นวูบ เหมือนกลายเป็นอีกคน และก็ไม่สามารถกลับไปจุดสูงสุดในอาชีพได้อีกเลย แต่อย่างไรก็ตาม เสือก็คือเสือ เขี้ยวเล็บยังคม และจมูกยังไวเสมอ

– ‘ซามูไรบูล’ ทีมชาติญี่ปุ่น ยักษ์ใหญ่แห่งเอเชีย อีกหนึ่งขาประจำฟุตบอลโลก แต่เมื่อมาในเวทีระดับโลกพวกเขากลับทำได้ดีที่สุดแค่รอบ 16 ทีม ฟุตบอลโลกครั้งนี้จึงเหมือนเป็นบททดสอบอีกบทว่าพวกเขานั้นเป็นทีมระดับโลกแล้วหรือเปล่า

3 นักเตะน่าจับตามอง 

Shinji Okazaki – กองหน้าผู้เคยพาต้นสังกัดอย่าง Leicester City คว้าแชมป์ Premier League แบบช็อกโลกมาแล้ว และในทีมชาติเขาก็เป็นกองหน้าตัวหลัก ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นนักเตะที่ไม่ได้มีทักษะยอดเยี่ยม แต่สิ่งที่ทำให้เขาโดดเด่นขึ้นมาคือความทุ่มเทและวิ่งไม่มีหมดของเขา

Shinji Kagawa – จอมทัพจากสโมสร Borussia Dortmund เขาเป็นนักเตะที่มีชื่อเสียงที่สุดในทีมชาติญี่ปุ่นชุดนี้ก็ว่าได้ และแน่นอนว่าเขาเป็นคีย์แมนคนสำคัญที่ทำหน้าที่บัญชาเกมในแดนกลางของทัพซามูไรบูล

Takashi Inui – ปีกทักษะสูงผู้ค้าแข้งอยู่ในลีกประเทศสเปน ซึ่งทำให้เป็นที่ประจักษ์ว่าความสามารถเขาไม่เป็นรองนักเตะเจ้าถิ่นเลย และเชื่อเหลือเกินว่า Takashi Inui นี่แหละคือนักเตะที่จะสร้างมิติในเกมรุกให้กับทีมชาติญี่ปุ่น

บทวิเคราะห์

Group of Death ที่แท้จริงในฟุตโลกครั้งนี้ ถึงแม้ว่าจะไม่มีทีมระดับท็อปของโลกอยู่ แต่ทุกทีมในกลุ่มสูสีและพร้อมจะแพ้ชนะกันได้ทั้งหมด การพลาดแค่ครั้งเดียวอาจจะหมายความถึงการกลับบ้านได้เลย ฟุตบอลโลกครั้งนี้คงไม่ใช่คราวของทีมจากเอเชียจริง ๆ เพราะถึงแม้มาตรฐานจะพัฒนาขึ้นมามาก แต่ถ้าเทียบกับทีมจากโซนอื่นก็ยังดูเป็นรองอยู่ และถึงแม้ว่าในกลุ่มนี้ญี่ปุ่นจะสู้กับทีมอื่นได้สนุกสูสี แต่ลูกทีเด็ดทีขาดคงสู้ไม่ได้ พวกเขาน่าจะต้องหยุดเส้นทางไว้แค่รอบแบ่งกลุ่มพร้อมคะแนนกลับบ้านไม่เกิน 2 แต้ม ส่วนอีก 3 ทีมน่าจะเบียดกันแบบหายใจรดต้นคอ แต่ถ้าต้องเลือกขอเลือกโคลอมเบียและเซเนกัลที่มีทักษะความแข็งแกร่ง เขี่ยโปแลนด์ตกรอบไปแบบน่าเจ็บใจ

ทีมที่คาดว่าจะเข้ารอบ: โคลอมเบีย, เซเนกัล

จบกันไปแล้วสำหรับบทวิเคราะห์เจาะลึกทำนายผลฟุตบอลโลก 2018 โดย UNLOCKMEN อีกไม่นานเกินรอก็จะได้รู้กันว่าพวกเราแม่นหรือมั่ว และถ้าทุกคนชื่นชอบรับรองว่ารอบ 16 ทีมจะมีบทวิเคราะห์สนุก ๆ แบบนี้มาให้อ่านอีกแน่นอน