Entertainment

WEEKLY PLAYLIST: 10 เพลงสากลเกี่ยวกับ “VALENTINE” หลายสไตล์ ทั้งสุข เศร้า เหงา โสด

By: Synthkid February 8, 2020

กุมภาพันธ์ เดือนที่วันแห่งความรักจะวนมาอีกครั้งหนึ่ง ใครอินก็อาจจะเตรียมเฉลิมฉลองมีแพลนไปร้อยแปดตั้งแต่ปลายเดือนก่อน ส่วนใครไม่แยแสก็ปล่อยให้มันผ่านไปเหมือนวัน ๆ หนึ่ง แต่สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับโลกดนตรีก็คือ “วันวาเลนไทน์” นี้ จัดว่าเป็นวันสำคัญวันหนึ่งที่ถูกนำมาแต่งเพลงมากเป็นอันดับต้น ๆ (ตามประสาอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับความรัก) ศิลปินแต่ละคนก็มีมุมมองที่ต่างกันเกี่ยวกับวัน ๆ นี้ ทั้งชอบ ทั้งเกลียด ทั้งสุข ทั้งเศร้า แตกต่างกันไป

วันนี้ UNLOCKMEN เลยจะชวนคอเพลงทุกคนมาฟังเพลง Valentine หลากหลายฉบับจากศิลปินแต่ละคน มาดูกันว่าพวกเขาจะตีความวัน ๆ นี้ไปในเชิงไหนกันบ้าง

Valentine’s Day – Lany

ถ้าคุณเป็นหนึ่งคนที่เกลียดกลัววันวาเลนไทน์ Valentine’s Day ของ Lany อาจทำให้ดวงใจของคุณแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ เท้าความก่อนว่าเพลงในอัลบั้ม Malibu Night นี้ Paul Klein ฟรอนต์แมนได้รับแรงบันดาลใจทั้งหมดมาจากการอกหักครั้งยิ่งใหญ่

โดยเขาเริ่มต้นทำมันหลังจากเลิกรากับอดีตแฟนสาว Dua Lipa พวกเขาทะเลาะกันครั้งใหญ่ตอน 6 โมงเช้าของวันปีใหม่ ปี 2019 ก่อนจะตัดสินใจจบความสัมพันธ์ลง ทำให้ตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม ถึง 14 กุมภาพันธ์ Paul ตั้งหน้าตั้งตาทำเพลงอัลบั้มนี้แบบไม่สนอะไรทั้งนั้น และ Valentine’s Day ก็เป็นเพลงสุดท้ายที่เขาเขียนสำหรับอัลบั้มนี้ แค่เปิดมาท่อนแรก “Counted up the days Since it went to hell and I watched you walk out” (นับตั้งแต่วันที่ผมเหมือนตกนรก และเฝ้ามองคุณเดินจากไป) ก็กรีดหัวใจแล้วครับ

Valentine – 5 Seconds Of Summer

Valentine ของ 5 Seconds Of Summer เป็นเพลงป๊อปร็อก (ผสมอิเล็กทรอนิกส์) ซาวด์เท่ ๆ ที่เกี่ยวกับการอยากใช้เวลากับคนที่เรารัก ถึงทำนองจะค่อนไปทางลึกลับ แต่เนื้อเพลงโรแมนติกมากนะครับ ส่งให้แฟนได้ไม่เคอะเขิน “Got nothing but love for you, fall more in love every day Valentine” (มีแต่ความรักเท่านั้น ตกหลุมรักมากขึ้นทุกวัน วาเลนไทน์) เพลงนี้จริง ๆ ไม่เกี่ยวกับวาเลนไทน์หรอกครับ แต่เปรียบว่าการมีผู้หญิงคนนี้อยู่ด้วยก็เหมือนทุกวันเป็นวันวาเลนไทน์ต่างหาก! ปล. ถ้าทำนองมันคุ้น ๆ เหมือนเพลง Stressed Out ของ Twenty One Pilots ก็ไม่ต้องตกใจนะครับ เพราะเป็นผลงานของ Mike Elizondo โปรดิวเซอร์คนเดียวกัน

Valentine’s Day – Linkin Park

เชื่อว่าแฟนเพลง Linkin Park น่าจะเคยฟังเพลงนี้กันอยู่แล้ว แต่ใครที่ไม่ค่อยสันทัดวงนี้ก็อยากให้ลองฟังกันดูครับ เพราะ Valentine’s Day ฉบับพวกเขาเศร้าสร้อยเสียเหลือเกิน เพราะมันเกี่ยวกับการต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวในวันวาเลนไทน์ เพราะต้องแยกจากคนที่เรารักจนสุดหัวใจไป (ขอโทษที่ต้องพูดแบบนี้นะครับ แต่มันค่อนข้างสื่อไปถึงการถูกแยกจากเพราะความตาย)

“So now, you’re gone and I was wrong I never knew what it was like to be alone” (ตอนนี้คุณจากไป และทุกสิ่งไม่เป็นดังใจ ผมไม่เคยรู้มาก่อนว่าความเหงานั้นเป็นเช่นไร) เพราะบางครั้งวันแห่งความรัก อาจกลายเป็นวันที่ทิ่มแทงหัวใจใครบางคนมากที่สุด แค่คิดก็ปวดหนึบในหัวใจแล้วครับ

My Funny Valentine – Chet Baker

หากจะกล่าวถึงแนวเพลงที่มีความ ‘หลงไหลคลั่งไคล้ในห้วงรัก’ ที่สุด เราคงต้องยกให้ดนตรีแนวแจ๊ส My Funny Valentine เป็นเพลงแจ๊สสุดคลาสสิกที่มีคนร้องไว้หลายเวอร์ชันมาก (ถูกประพันธ์ไว้ตั้งแต่ปี 1937) แต่เราขออนุญาตแนะนำเวอร์ชันของ Chet Baker ละกันครับ เพราะดูมีความร่วมสมัยที่สุด เหมาะสำหรับหนุ่ม ๆ ที่กำลังรักผู้หญิงสักคนแบบหัวปักหัวปำเพราะเพลงนี้คือการชมความน่ารักอ่อนหวานของผู้หญิงที่ทำให้เรายิ้ม ทำให้เราหัวเราะออกมา เอาง่าย ๆ ว่าเขาจะทำอะไรเราก็มองเขาด้วยแววตารูปหัวใจ ประมาณนั้นเลย

“My funny valentine Sweet comic valentine You make me smile with my heart” (วาเลนไทน์ ยอดยาหยีสุดชวนหัว ทั้งขบขันและอ่อนหวาน คุณทำให้ผมยิ้มออกมาจากหัวใจ) คนโบราณนี่เขาโรแมนติกกันจริง ๆ นะครับว่าไหม?

Valentines’s Day – David Bowie

อันที่จริงเพลงนี้เกี่ยวกับเด็กชายที่ชื่อ “Valentine” แต่ไม่มีอะไรเกี่ยวกับวันวาเลนไทน์เลยครับ  หลายคนเข้าใจผิดไปไกลตอนเห็นชื่อเพลง Valentine’s Day เป็นเพลงที่ถูกยืนยันแล้วว่าอ้างอิงมาจากเหตุการณ์กราดยิงในสถานศึกษา ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ในอเมริกา เรื่องราวของเด็กชายใสสะอาดคนหนึ่งที่ภายหลังได้แปรเปลี่ยนเป็นคนเลือดเย็น ทว่า David Bowie ไม่ได้เน้นไปที่ความโหดร้ายของปืน แต่เป็นปัญหาภายในจิตใจของเด็กชายผู้นั้นแทน

นอกจากนั้นชื่อวาเลนไทน์ยังได้แรงบันดาลใจมาจาก ‘การสังหารหมู่วันวาเลนไทน์’ (St. Valentine’s Day Massacre) เหตุการณ์นองเลือดครั้งสำคัญของอเมริกาที่สมาชิก 7 คน ของแก๊งบั๊กส์ ถูกสมาชิกแก๊งอาชญากรรมของ อัล คาโปน สังหารหมู่ ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 1929 เนื่องด้วยปัญหาแย่งอำนาจทางธุรกิจเหล้าเถื่อน ในช่วงที่มีการห้ามผลิตและจำหน่ายสุราครั้งใหญ่ในสหรัฐฯ นั่นเอง

Sad Valentine – No Vacation

ชื่อเพลงว่าวาเลนไทน์แสนเศร้า แต่จริง ๆ ไม่ได้เศร้าขนาดนั้นครับ ค่อนไปทางอ้อนด้วยซ้ำ เพราะนี่คือเพลงของหญิงสาวคนหนึ่งที่อยากเป็นแฟนใครสักคน แต่เอาวันวาเลนไทน์มาอ้าง! “Ain’t got nobody to lie next to in the February cold Replaying the dial tone” (ไม่มีใครเคียงข้างในกุมภาพันธ์ที่แสนหนาวเหน็บ เสียงชุมสายดังซ้ำไปมา) “And I’m alone And I don’t wanna feel so sad” (ฉันเหงา และไม่อยากจะเศร้าอยู่อย่างนี้) จะอ้อนทั้งทีแต่ก็ดันปากแข็ง หนุ่ม ๆ เองก็สามารถเอาไปแชร์แสดงความในใจบอกใครสักคนได้เช่นกันครับ

My Valentine – Paul McCartneys

My Valentine เพลงรักหวานซึ้งจากอัลบั้ม Kisses on the Bottom ของท่านเซอร์ Paul Mccartney หนึ่งในสมาชิกวงระดับตำนานอย่าง The Beatles อีกหนึ่งดนตรีแจ๊สหวาน ๆ ที่มาพร้อมเนื้อเพลงสุดโรแมนติก “The sun is gonna shine and she’ll be there This love of mine, My valentine” (ดวงตะวันสาดแสง และเธอจะอยู่ตรงนี้ ความรักของผม วาเลนไทน์ของผม) หนุ่ม ๆ คนไหนมีนัดดินเนอร์ เปิดเพลงนี้เติมความหวานได้เลยครับ เพราะต่อให้ไม่รู้ความหมาย ทำนองและความไพเราะของมันก็ยังสามารถสร้างบรรยากาศที่ดีได้อย่างแน่นอน

Valentine – Jonathan Bree

หากคุณกำลังตกหลุมรักใครสักคน แต่ก็ไม่ได้ต้องการครอบครองเขา ไม่ได้ต้องการวันวาเลนไทน์หวานซึ้ง เพียงแค่อยากจะทำความรู้จักเขาก็เพียงเท่านั้น เพลง Valentine ของ Jonathan Bree แต่แอบพิลึกนิดหน่อยเพราะเพลงมันร้องว่า “Don’t need no precious Valentine or hear you will be mine all mine Just want to know you are still lonely and blue” (ไม่ต้องการวาเลนไทน์แสนพิเศษ หรือหวังให้คุณมาบอกว่าจะเป็นของผม ผมแค่อยากรู้จักคุณ และได้รู้ว่าคุณยังเหงาและเศร้าสร้อย) ถ้าตีความง่าย ๆ ก็คือเราไม่จีบเขา แต่รู้ว่าเขายังโสดอยู่ก็โอเคแล้ว แอบเห็นแก่ตัวหน่อย ๆ แต่เชื่อว่าความรู้สึกนี้แอบเกิดขึ้นกับหลายคนทีเดียว

Blue Valentines – Tom Waits

สำหรับคนที่เลิกรากันไปแล้ว แต่ยังโดนแฟนเก่า “สุขสันต์วาเลนไทน์” ให้เราเจ็บปวดใจและคิดถึงวันวานที่เคยมีกันเล่น ๆ Blue Valentine ของ Tom Waits คือเพลงสำหรับคุณโดยเฉาพะ ใครเคยดูภาพยนตร์เรื่อง Blue Valentine ที่ Ryan Glossing เป็นพระเอกก็น่าจะคุ้นเคยครับ เพราะมันคือเพลงประกอบหนังเรื่องนั้นนั่นแหละ

จากท่อน “Instead these blue valentines to remind me of my cardinal sin” (แทนที่วาเลนไทน์แสนเศร้านี้ ด้วยการระลึกถึงบาปทั้งปวงของผม) เราจะเห็นได้เลยว่า ไม่ใช่เธอที่จงใจจากไป แต่อาจเป็นผู้ชายในเพลงเองที่ทำให้รักครั้งนั้นพังลง คาดว่าน่าจะโดนใจชายหนุ่มที่เคยทำพลาดไปหลายคนครับ

Be My Valentine – Tim McMorris

หากคุณกำลังหาเพลงดี ๆ สักเพลงในการบอกใครสักคนว่าอยากให้เขามาเป็นวาเลนไทน์ของคุณ Be My Valentine ของ Tim Mcmorris นี่แหละครับเหมาะเหม็ง โรแมนติกตั้งแต่ท่อน “And now I’ll shout to the world my love for you The irresistible love that I’ve fallen into” (ตอนนี้ผมจะประกาศให้โลกรู้ว่าความรักของผมนั้นมอบให้คุณ ตกหลุมรักอย่างไม่อาจต้านทาน) ก่อนจะไปจบแบบซึ้ง ๆ ด้วยประโยค “Won’t you be my sweet valentine” (คุณอยากเป็นวาเลนไทน์แสนหวานของผมไหม?) ถ้าเป็นวันอื่น ๆ อาจจะโดนบ่นว่าเลี่ยนก็ได้ แต่ช่วงเทศกาลแบบนี้โอกาสกำลังมาครับต้องรีบคว้าไว้

สุดท้ายแล้ววันวาเลนไทน์ก็เป็นแค่วัน ๆ หนึ่ง อย่าไปซีเรียสกับมันมากครับ เพราะตราบใดที่ชีวิตก้าวเดินต่อไป วัน ๆ นี้ก็ยังคงต้องเวียนมาทุกปี คนโสดทั้งหลายก็อย่าอินเกินไปจนบั่นทอนส่วนคนมีแฟนก็รักษาความรักให้เต็มที่ในทุก ๆ วัน อย่าแจกโปรโมชันแค่ช่วงวาเลนไทน์ แต่ท้ายที่สุด UNLOCKMEN ขอให้หนุ่ม ๆ ทุกคนและคู่รักทุกคู่ มีเพลงเพราะ ๆ ฟังในทุกวันนะครับ

 

 

Synthkid
WRITER: Synthkid
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line