Entertainment

WEEKLY’S PLAYLIST: เพลงที่ไม่ควรมองข้ามจาก BLUR หนึ่งในตำนาน BRITPOP ยุค 90

By: Synthkid June 15, 2019

หากพูดถึงคำว่า Britpop เชื่อว่าแฟนเพลงหลายคนจะต้องคิดถึงชื่อของ Oasis หรือ Blur ขึ้นมาทันทีแบบไม่ต้องคิด ในช่วงกลางปี 1990 เพลง Alternative Rock จากอังกฤษกลายเป็นคลื่นวัฒนธรรมลูกใหญ่ที่สาดซัดไปทั่วโลก มี 4 วงดนตรีแถวหน้าที่ผงาดง้ำกว่าใคร นั่นก็คือ Oasis, Blur, Suede และ Pulp พวกเขาถูกผู้คนเรียกว่า Big Four แห่งยุค 90

เกิดการช่วงชิงตำแหน่งบนชาร์ตและพื้นที่สื่อกันไปมาอย่างไม่มีใครยอมใคร แต่ Oasis และ Blur ดูจะเป็นที่นิยมมากกว่าในบ้านเรา ซึ่งวันนี้เราจะมาพูดถึงวง Blur กัน พวกเขามีเพลงฮิตเหนือกาลเวลามากมาย ไม่ว่าจะเป็น Song2, Girls and Boys, Tender หรือ Parklife แต่เราจะไม่พูดถึงเพลงเหล่านั้น เพราะนี่คือเพลย์ลิสต์รวมเพลงอื่น ๆ ที่ไม่ดังแต่ฟังดีของ Blur สำหรับสาวกก็อาจจะฟังกันเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ใครที่ไม่ได้ฟังวงนี้บ่อยนัก บอกตรง ๆ ว่าเราไม่อยากให้พวกคุณพลาดของดีที่กำลังจะกล่าวถึงในต่อไปนี้…

1. Fool (จากอัลบั้ม Leisure)

อัลบั้ม Leisure เป็นอัลบั้มแรกของ Blur ปล่อยออกมาตั้งแต่ปี 1991 มีซิงเกิลฮิตอย่าง She’s So High, There’s No Other Way และ Bang แต่เพลง Fool ที่มีซาวด์แตก ๆ เหมาะสำหรับคนชอบ Noise แถมวงยังใช้ลูกส่งกลองนัว ๆ ซึ่งไอ้ความสะดุดหูนี้แหละที่มันเท่อย่าบอกใคร

2. High Cool (จากอัลบั้ม Leisure)

อีกเพลงที่น่าสนใจสำหรับเราก็คือ High Cool เพราะเสียงเบสของ Alex James โดดเด่นมาก ถึงคนจะบอกว่าไม่ค่อยติดหู แต่เพราะไลน์เบสสะดุดหูดี เลยขอยกให้เป็นอีกหนึ่งเพลงที่ไม่ควรมองข้ามจากอัลบั้มนี้ไปละกัน ส่วนเพลงอื่น ๆ ที่น่าสนใจคือเพลง Sing ที่มีความยาวถึง 6:01 นาที ใครฟังแล้วชอบก็จะชอบ แต่ถ้าไม่ใช่แนวก็อาจไม่ชอบเลย ความพิเศษคือสตอรี่ของเพลง เนื่องจากเดิม Sing เป็น Demo ตั้งแต่ปี 1989 สมัยวงยังใช้ชื่อเก่าว่า Seymour อยู่เลย

3. Blue Jeans (จากอัลบั้ม Modern Life Is Rubbish)

อัลบั้มนี้เป็นอัลบั้มที่ 2 ของวง ถูกปล่อยออกมาในปี 1993 มีซิงเกิลฮิตอย่าง For Tomorrow, Chemical World และ Sunday Sunday แต่เพลง Blue Jeans นี้จัดเป็นหนึ่งในลูกรักของแฟนเพลงวง Blur เลยทีเดียว ดนตรีดี คอรัสติดหู มีเสียงเครื่องเป่าต่าง ๆ เข้ามาช่วยเพิ่มความกลมกล่อม แถมเนื้อเพลงอย่าง “Baby can you see through the tears? Love you more than those bitches before” ก็กวนโอ๊ยถูกใจไม่ใช่น้อย

4. This is a Low (จากอัลบั้ม Parklife)

Parklife (1994) เรียกได้ว่าเป็นอัลบั้มที่โด่งดังและประสบความสำเร็จที่สุดของ Blur ก็ว่าได้ อุดมด้วยซิงเกิลฮิตถึง 4 แทร็ก Girls & Boys, End of a Century, Parklife และ To the End (จริง ๆ มี Tracy Jacks ที่ถูกตัดเป็นซิงเกิลในฝั่งอเมริกาด้วย) แต่เพลงช้าที่มีลูกเล่นแพรวพราวอย่าง This is a low ก็เป็นอีกหนึ่งผลงานที่ควรค่าแก่การชื่นชม เหมาะกับการฟังปลอบใจตัวเองในวันที่รู้สึกโดดเดี่ยวอยู่ไม่น้อย

5. He Thought of Cars (จากอัลบั้ม The Great Escape)

อัลบั้ม The Great Escape ถูกปล่อยออกมาในปี 1995 มีซิงเกิลฮิตอย่าง Country House, The Universal,  Stereotypes และ Charmless Man (อันนี้ชอบมากใครยังไม่เคยฟังต้องลองนะ) แถมเจ้าเพลง Country House ยังไปขึ้นอันดับ 1 ในอังกฤษ เบียด Roll with It ของ Oasis ให้ตกลงไปอีก สื่อใหญ่ ๆ จึงจัดการเสี้ยมให้ตีกันสนุกสนาน แม้อัลบั้มนี้จะจัดเต็มด้วยหลายเพลงฮิต แต่อีกหนึ่งเพลงอย่าง He Thought of Cars ก็น่าสนใจใช่ย่อย เพราะมีซาวด์แบบ Psychedelic เข้ามาผสม ทำให้เพลงนี้จัดว่าโดดเด่น มีเสน่ห์ไม่เหมือนแทร็กอื่น ๆ

6. Yuko and Hiro (จากอัลบั้ม The Great Escape)

เพลงนี้วงเลือกจะใช้กลองไฟฟ้าและเครื่องซินธิไซเซอร์เป็นตัวชูโรง จึงทำให้โดดเด่น (จนอาจจะขัดหูบางคน) ออกมาจากเพลงอื่น ๆ เลยทีเดียว แต่ที่น่าสนใจมาก ๆ คือเนื้อเพลง เพราะในทำนองฟังสบาย เนื้อหาของเพลงดันเสียดสีการทำงานหนักของมนุษย์เงินเดือนศตวรรษที่ 20 ได้อย่างเจ็บแสบ แถมมีท่อนคอรัสภาษาญี่ปุ่นเข้ามาช่วยเสริมอารมณ์ความเป็นญี่ปุ่น เป็นอีกหนึ่งผลงานที่สร้างสรรค์และน่าสนใจในอัลบั้มนี้ โดยเฉพาะท่อน Outro ที่เหมือนไม่จบสักทีเนี่ย!

7. You’re So Great (จากอัลบั้ม Blur)

ถึงจะย่างเข้าสู่อัลบั้มที่ 5 (1997) แล้ว แต่ Blur ก็ยังดังดีไม่มีตก แถมเพลงฮิตตลอดกาลอย่าง Song 2 ก็ยังอยู่ในอัลบั้มนี้อีกด้วย ส่วนซิงเกิลฮิตอื่น ๆ ก็มี Beetlebum, M.O.R. และ On Your Own แต่เพลง You’re So Great ที่เราจะกล่าวถึงนี้ก็เป็นหนึ่งในเพลงลูกรักของสาวก Blur อีกเช่นกัน เป็นเพลงเบา ๆ ที่ใช้กีตาร์โปร่งตีคอร์ดเป็นหลัก แถมเพลงนี้ได้เสียงร้องของ Graham Coxon มือกีตาร์ของวงมาร้องให้ ซาวด์กีตาร์ที่ฟังธรรมชาติผสมรวมกับเสียงร้องที่ปรับให้ฟังอู้อี้ รวมๆ กันออกมาแล้วมีเสน่ห์ ฟังแล้วสบายใจ เปิดคลอได้แม้ยามพักผ่อน

8. Death Of A Party (จากอัลบั้ม Blur)

หลายคนก็บอกว่าเพลงนี้แปลก (แต่ Blur ก็ทำเพลงแปลก ๆ ตั้งเยอะ) มันคือการผสมผสานระหว่างเมโลดี้เพราะ ๆ กับ Sound Effect พิลึกพิลั่น ที่ดันเทรวมกันแล้วอร่อยลงตัว แถมทำนองก็ติดหู ให้อารมณ์ลึกลับอย่างน่าประหลาด เรื่องความคิดสร้างสรรค์ต้องยกให้ Blur เขาจริง ๆ 

9. Mellow Song (จากอัลบั้ม 13)

พอย่างเข้าปี 1999 เป็นช่วงที่ใกล้จะเปลี่ยนผ่านยุค Blur ก็ปล่อยอัลบั้มที่ 6 ที่มีชื่อว่า 13 ออกมา ถึงจะมีเพลงฮิตอย่าง Tender, No Distance Left To Run หรือ Coffee & TV แต่เป็นเพราะช่วงนี้วงกำลังเดินหน้าทดลองอะไรใหม่ ๆ ผสมซาวด์ Experimental และ Psychedelic เข้าไปเต็มตัว ก็ทำเอาแฟนเพลงฮือฮาในความฟังยากอยู่เหมือนกัน แต่เพลง Mellow Song ที่เรากล่าวถึงนี้ ถึงจะมีความขึ้น ๆ ลง ๆ อยู่พอตัว แต่โดยรวมยังจัดเป็นเพลงฟังสบายเพลงหนึ่งได้อยู่ จริง ๆ การไต่ระดับช่วงท้าย ๆ มันทำให้เพลงมีเสน่ห์ ไม่เรียบง่ายจนเกินไปก็ว่าได้ ใครชอบ Psychedelic  ก็น่าจะชอบอัลบั้มนี้ได้ไม่ยาก

10. Jets (จากอัลบั้ม Think Thank)

แล้วเราก็เดินทางมาถึงปี 2003 Think Tank อัลบั้มที่ 7 ของ Blur คือการระเบิดไอเดียครั้งยิ่งใหญ่ของ Damon Albarn เขานำเอาดนตรีหลากหลายประเภททั้ง Hip-hop, Dub, Jazz จนไปถึงซาวด์เพลง African มาปั่นรวมกันอย่างชาญฉลาดในอัลบั้มนี้ Jets เป็นเพลงยาว 06:25 นาที ที่มีท่อนซ้ำไปซ้ำมา แต่ในระหว่างที่เพลงดำเนินไปเรื่อย ๆ ก็มีเครื่องดนตรีหลากหลายชนิดโผล่เข้ามาโชว์ลวดลายให้เราไม่เบื่อ ฟังเพลินอย่างน่าประหลาด แปลก แต่ก็สร้างสรรค์ ใครชอบเสียงเบสน่าจะถูกใจเพราะ Alex James เขาจัดให้หนึบ ๆ เลย

11. My Terracotta Heart (จากอัลบั้ม Magic Whip)

Blur หายไปกว่า 12 ปี (สมาชิกแยกย้ายไปทำวงอื่น ๆ ไม่ก็ทำงานอื่นเช่น Alex James มือเบส ไปเปิดฟาร์มชีส) พวกเขากลับมาอีกครั้งพร้อมอัลบั้มชื่อ Magic Whip ในปี 2015 มีเพลงอย่าง Lonsesome Street, Go Out, I Broadcast, There Are Too Many of Us และ Ong Ong  เป็นซิงเกิลโปรโมต

แต่เพลงในอัลบั้มอย่าง My Terracotta Heart สามารถเรียกความประทับใจให้แฟนเพลงหลายคนได้ไม่แพ้กัน เมโลดี้เหมือนเพลง Pop เก่า ๆ มีทั้งไลน์กีตาร์และจังหวะกลองที่ติดหู บวกกับลูกเล่นต่าง ๆ จากซาวด์ Electronic ทำให้ My Terracotta Heart กลายเป็นเพลงทำนองเก่าแต่ซาวด์ใหม่ที่ Creative มาก ๆ อัลบั้มนี้คือเครื่องพิสูจน์กับแฟนเพลงทุกคนว่า Blur ไม่เคยหยุดนิ่ง พวกเขาพร้อมจะทดลองอะไรใหม่ ๆ และนำผลงานดีที่เยี่ยมยอดกลับมาฝากโลกใบนี้อยู่เสมอ

หากเพลงที่เราแนะนำไป ไม่ตรงใจใครก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย เพราะเชื่อว่าความชอบของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่ด้วยความรักที่มีต่อ Blur ทำให้เราอยากหยิบยกบทเพลงเหล่านี้มาพูดถึงซ้ำอีกครั้ง เผื่อใครยังไม่เคยฟังหรือเคยฟังผ่าน ๆ จะได้กลับไปให้ความสนใจมันอีกครั้ง ปล่อยให้เพลงดี ๆ ถูกแช่เอาไว้เฉย ๆ มันน่าเสียดาย! และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าพวกเขาจะกลับมารวมตัวกันในอนาคต เพราะแฟนเพลงและโลกใบนี้ยังรองานเพลงดี ๆ จากพวกเขาอยู่เสมอ

Synthkid
WRITER: Synthkid
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line