MUSIC

“WHATEVER PEOPLE SAY I AM…” – ARCTIC MONKEYS กับเบื้องหลังการถ่ายปกอัลบั้มที่ใช้ “ความเมา” ในการสร้างผลงาน

By: JEDDY August 22, 2022

Arctic Monkeys คือวงดนตรีแห่งยุคโพสต์พังก์รีไววัล ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากมาย ด้วยเสน่ห์ทางดนตรีที่ชวนดึงดูด บวกกับภาพลักษณ์สุดเท่ของวง นั่นทำให้พวกเขาสามารถสร้างฐานแฟนเพลงได้อย่างรวดเร็วนับตั้งแต่ออกผลงานอัลบั้มแรกที่มีชื่อว่ายาว ๆ ว่า “Whatever People Say I Am, That’s What I’m Not” ที่ออกวางจำหน่ายเมื่อวันที่ 23 มกราคม ปี 2006 กับสังกัด Domino Recording Company


ผลงานชุดนี้ทางวงได้ Jim Abbiss มารับหน้าที่โปรดิวซ์เซอร์ ซึ่งเขาเคยร่วมงานกับ Bjork และ Massive Attack มาแล้ว รวมไปถึงได้ยกพลกันไปอัดเพลงที่ The Chapel ในเมืองเชฟฟิลด์ บ้านเกิดของพวกเขาเอง ส่วนชื่ออัลบั้มก็ได้มาจากประโยคหนึ่งจากนวนิยายเรื่อง “Saturday Night and Sunday Morning” ประพันธ์โดย Alan Sillitoe

“Whatever People Say I Am, That’s What I’m Not” เต็มไปด้วยความสดใหม่บ่งบอกอารมณ์ของวัยรุ่นช่วงอายุ 20 ปีได้เป็นอย่างดี ท่วงทำนองดังกล่าวสะท้อนออกมาจากผลงานเพลงฮิตอย่าง “I Bet You Look Good on the Dancefloor”, “When the Sun Goes Down” และ “Fake Tales Of San Francisco”เป็นต้น


แต่นอกจากผลงานเพลงที่โดดเด่นแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมากนั่นคือปกอัลบั้ม มันมาพร้อมกับรูปของชายหนุ่มทรงสกินเฮดเพิ่งยาว สายตาดูมึน ๆ แถมยังใช้มือคีบบุหรี่ขึ้นมาสูบอีกต่างหาก ซึ่งบุคคลนี้มีนามว่า “Chris McClure” เขาเป็นพี่น้องกับ Jon McClure ผู้ซึ่งเคยทำวง Judan Suki ร่วมกับ Alex Turner และ Matt Heldes สองสมาชิกจากวง Arctic Monkeys มาก่อนนั่นเอง 


Alexandra Wolkowicz

รูปดังกล่าวถูกลั่นชัตเตอร์โดย Alexandra Wolkowicz ซึ่งถ่ายกันที่ Korova Bar ในเมืองลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ โดยการที่ทำให้ภาพมันออกมาเป็น Mood&Tone ลักษณะนั้นก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร เพราะพวกเขาแค่ให้ Jon ออกไปเมาให้เต็มที่แล้วกลับมาถ่ายเท่านั้นเอง ซึ่งเรื่องดังกล่าวเจ้าของใบหน้าบนหน้าปก “Whatever People Say I Am, That’s What I’m Not” ได้เคยเล่าเหตุการณ์วันถ่ายทำให้กับทาง The Guardian ไว้ดังนี้

“พวกเขาบอกผมว่า ออกไปดื่มเถอะเพื่อน แล้วค่อยกลับมาหลังจากเที่ยงคืน พวกเขาได้ให้เงินกับเรามาจำนวนหนึ่ง จริง ๆ มันคือจำนวน 100 ปอนด์ ตอนนั้นพวกเรายังเด็ก และได้จัดเต็มกับเงินจำนวนนั้น

แล้วตอนที่ผมกลับมามันก็ช่วงตี 2 เข้าไปแล้ว ตรงนั้นมันเป็นสถานที่ที่อยู่ด้านล่างของบาร์ แล้วพวกเราก็ถ่ายรูปกันตรงนั้นแหล่ะ มันมีแค่ผมที่นั่งตรงเก้าอี้ พวกเขายังให้ผมดื่มวิสกี้เพิ่มอีก ผมก็ดื่มไปได้ครึ่งหนึ่ง แล้วทุก ๆ อย่างก็เบลอไปหมดเลย”


ณ เวลานั้นทาง Jon คงยังไม่ทราบว่าอัลบั้มดังกล่าวจะโด่งดังได้มากขนาดไหน จนกระทั่งวันแรกที่มันได้ถูกวางขาย ชีวิตของเขาก็ต้องถูกตัดขาดออกจากความสงบ

“วันนั้นมันเป็นวันจันทร์ โทรศัพท์ผมดังไม่หยุดไม่หย่อนเลย มันบ้ามาก ๆ เหมือนกับผมกลายเป็นคนมีชื่อเสียง ทุก ๆ คนในโลกนี้ต่างยากรู้ว่าผมคือใครกันแน่”


สิ่งที่ Jon ต้องเผชิญก็ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด เพราะอัลบั้ม “Whatever People Say I Am, That’s What I’m Not” ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เพระมันสามารถทะยานขึ้นชาร์ตอันดับ 1 ในอังกฤษ และยังติดท็อปชาร์ตอีกหลายประเทศทั่วโลก แถมยังทำยอดขายได้มากกว่า 2 ล้านก็อปปี้เลยทีเดียว

JEDDY
WRITER: JEDDY
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line