เราไม่ได้เมาอย่างสูญเปล่า ผู้เชี่ยวชาญชี้ ‘เมาด้วยกัน’ สร้างความเชื่อมั่นทางธุรกิจ

เป็นธรรมดาเหลือเกินที่บรรยากาศในการร่วมมือกันทางธุรกิจ หรือการเข้าไปในที่ทำงานใหม่มันจะเต็มไปด้วยความไม่สนิทสนมคุ้นเคย เรามักมีอาการเกร็ง ๆ งง ๆ ไม่รู้ต้องทำตัวยังไงกับคนที่เราร่วมงานหรือต้องร่วมธุรกิจด้วย

จะทำอย่างไรถ้าเราอยากสร้างความเชื่อมั่นในเวลาอันรวดเร็ว? เราอยากสร้างความเชื่อใจระหว่างการเจรจาทางธุรกิจในระยะยาว? มีคนแนะนำว่าการดื่มด้วยกันจนเมาพับไปด้วยกันอาจจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุดอีกคำตอบหนึ่ง

UNLOCKMEN ไม่ได้เอามาพูดเล่น ๆ เพื่อเข้าข้างผู้ชายสายดื่ม แต่เรื่องการดื่มเพื่อเข้าถึงธุรกิจนี้มาจากหนังสือที่ชื่อว่า The Culture Map: Breaking Through the Invisible Boundaries of Global Business โดยภายในหนังสือเล่มนี้ก็รวบรวมวิธีการทำธุรกิจกับคนชาติต่าง ๆ ทั่วโลก ซึ่งในแต่ละประเทศ แต่ละทวีปก็มีพฤติกรรมการทำธุรกิจ พฤติกรรมการร่วมงานกับคนเพิ่งรู้จักกันแตกต่างกันไป หากเราเข้าใจธรรมชาติของผู้คนจะแต่ละที่ทั่วโลก เราก็จะสามารถทำธุรกิจกับพวกเขาได้อย่างราบรื่นมากขึ้น

Erin Meye ศาสตราจารย์ด้านพฤติกรรมผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ พูดถึงการทำธุรกิจร่วมกับชาวเอเชียตะวันออก โดยเฉพาะญี่ปุ่น ไทย เกาหลี และจีนว่าวิธีที่ดีที่สุดอีกวิธีหนึ่งในการสร้างความเชื่อใจระหว่างกันคือการไปดื่มกันให้เมากับพวกเขาหลังเวลางาน!

ข้อมูลนี้สำหรับผู้ชายไทยอย่างเราอาจดูเป็นเรื่องที่ฟังจนคุ้นหู แต่สำหรับชาวตะวันตก พวกเขาแปลกใจมากว่าทำไมเราถึงต้องไปทำตัวเมาแอ๋เพื่อโชว์หุ้นส่วนทางธุรกิจซึ่งสมควรเป็นคนที่เราวางมาดให้สมบูรณ์แบบด้วยมากที่สุด?

Erin Meye อธิบายว่าในวัฒนธรรมของชาวเอเชียตะวันออก เราสามารถแสดงความเมามายได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องห่วงว่าจะดูแย่แต่อย่างใด ยิ่งเมาพับ เมาสนุกสนาน เมาแสดงความเป็นตัวตน จะยิ่งถูกมองว่าเราเป็นคนเปิดเผย ไม่มีอะไรต้องปิดบัง ยิ่งเพิ่มโอกาสที่อีกฝ่ายจะเชื่อใจเรามากขึ้น

แม้ในหมู่ชายไทยเราจะยังเห็นภาพนี้ไม่ค่อยชัดมากนัก คือชอบดื่ม แต่ไม่ได้เมาให้อีกฝ่ายเห็นมากนัก แต่ถ้าใครเป็นคอภาพยนตร์ญี่ปุ่น หรือเคยไปญี่ปุ่นมา จะเห็นว่าหนุ่มออฟฟิศชาวญี่ปุ่นนี่เขาชอบเมาแอ๋เละเทะหลังเลิกงานกันเสียจริง เพราะนั่นคือหนทางแสดงให้ผู้อื่นเห็นว่า “ผมกล้าที่จะเปิดเผยตัวตนตอนที่เมา ซึ่งถือว่าเปราะบางที่สุดให้พวกคุณเห็น” เพื่อแสดงว่าไม่มีอะไรที่จะต้องปิดบังกันอีกต่อไป และความเชื่อใจทางธุรกิจจะเริ่มขึ้นตอนนั้น ในขณะที่การเจรจาทางธุรกิจอย่างจริงจังจะเริ่มต้นในเช้าวันต่อไป (เมาได้ ก็ต้องรับผิดชอบด้วย)

การเมาในวัฒนธรรมแบบตะวันออกนั้น ยังบ่งบอกถึงการแสดงอารมณ์ความรู้สึกที่แท้จริงออกมาด้วย ดังนั้นการไปเมาร่วมกันจึงไม่ได้เหมาะแค่การเจรจาทางธุรกิจระหว่างคู่ค้า แต่ใช้เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นภายในที่ทำงานตัวเองอีกด้วย โดยเฉพาะในสังคมที่ความเกรงใจในที่ทำงานมีมากอย่างญี่ปุ่น (หรือแม้แต่ไทยเรา) ที่ปกติก็จะหงิม ๆ เงียบ ๆ ใส่กัน การไปเมายิ่งเป็นการแสดงออกว่ามา เรามาสนิทกันขึ้นกว่านี้เถอะ

แต่เราจำเป็นต้องเมาหัวทิ่มเพื่อแสดงความจริงใจขนาดนั้นเสมอไปหรือเปล่า? ไม่ต้องห่วงไป เพราะชาวญี่ปุ่นบางคนเขาก็แกล้งเมามากกว่าที่ดื่มเข้าไปจริง ๆ เพื่อเหตุผลทางหน้าที่การงานเช่นกัน (เราจะลองเลียนแบบดูก็ไม่เลว ดื่ม 1 แก้ว แต่แอคติ้งเหมือนเมา 10 แก้ว) เพื่อบอกกับคนอื่นว่าเราเต็มที่กับเขามาก (หลอกซ้อนหลอกเพื่อสร้างความจริงใจ)

อย่างไรก็ตามการดื่มจนเมามายก็อาจไม่ใช่คำตอบเดียวสำหรับการสร้างความเชื่อมั่นทางธุรกิจ เพียงแต่เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่วัฒนธรรมเอื้อให้เราเข้าถึงผู้อื่นได้ง่ายขึ้นสำหรับสายดื่มทั้งหลาย เราสามารถเปิดเผยตัวตนในแบบอื่น ๆ ก็ได้ เช่น ไปออกทริปต่างจังหวัดด้วยกัน การชวนกันไปร้องคาราโอเกะ หรือถ้าเป็นประเทศที่ไม่ดื่มเครื่องดื่มมีแอลกอฮอลล์ เขาก็จะดื่มชาด้วยกัน เป็นต้น

แต่ถ้าใครเป็นสายดื่มตัวยงแล้วล่ะก็เราก็ได้อีกเหตุผลดี ๆ ที่ จะ Work Hard แล้ว Play Harder กันให้สุดเหวี่ยงเพิ่มมาอีกข้อแล้ว ดีใช่ไหมล่ะ

SOURCE1, SOURCE2, SOURCE3