Business

“Good Morning Routine” กิจวัตรประจำวันยามเช้าที่ดี “เคล็ดลับ” ของคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต!!

By: HYENA February 20, 2017

มีหนึ่งคำพูดดีๆ จาก Drew Canole ที่ได้กล่าวไว้ว่า  “How you start your day is how you start your life”  และนั่น เป็นคำพูดที่ถูกต้องที่สุด เพราะกิจวัตรที่ทำเป็นประจำในยามเช้าที่ดี มีส่วนสำคัญที่จะช่วยให้คนคนนึงสามารถประสบความสำเร็จในชีวิตได้เลยทีเดียว

ตอนนี้ให้คุณลองจินตนาการดูเล่นๆ ว่า คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต เค้าจะทำอะไรกันบ้าง หลังจากที่ลืมตาตื่นขึ้นมาในตอนเช้า รับประกันได้เลยว่า ภาพในหัวที่พวกคุณคิด คงไม่ใช่ภาพของคนที่กำลังนอนงัวเงีย เอื้อมมือไปกดปุ่ม Snooze อย่างแน่นอน แต่มันคงเป็นภาพคนที่กำลังนั่งสมาธิอยู่บนเตียง วิ่งออกกำลังกายในตอนเช้า หรือไม่ก็อาจจะออกไปยืนสูดอากาศบริสุทธิ์ของเช้าวันใหม่อยู่ที่ระเบียงบ้าน

ประเด็นมันอยู่ที่ว่า จริงๆ แล้ว คุณไม่จำเป็นต้องรู้ ว่าพวกเค้าทำอะไรบ้าง แต่สิ่งที่คุณต้องรู้คือ พวกเค้ามีการจัดเรียงกิจกรรมต่างๆ ในตอนเช้ามาเป็นอย่างดี ดังนั้น วันนี้เราจะมาดูกันว่า กิจวัตรยามเช้าที่ดี ควรเป็นอย่างไร?

 

So how can you make a good morning routine

Drew Canole คือ บุคคลผู้อยู่เบื้องหลัง Fitlift TV เค้าประสบความสำเร็จ และทำให้หลายๆ คนสนใจเป็นอย่างมาก เกี่ยวกับกิจวัตรในยามเช้าของเค้า เช่นเดียวกับคนที่ประสบความสำเร็จคนอื่นๆ อีกมากมาย ที่มักจะมีการเริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วยความรู้สึกที่แตกต่างจากคนทั่วไปอย่างสิ้นเชิง ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องยาก ที่ทุกคนจะทำให้เวลาเช้าของตัวเองเป็นช่วงเวลาที่ดีได้ แต่ก่อนอื่น เราอยากให้คุณลองเห็นความแตกต่าง และเข้าใจในสิ่งที่คุณจะรู้สึก และได้รับจากกิจวัตรในยามเช้าที่ดี และไม่ดีกันก่อน

 

Good Morning Routine

  • ช่วยเพิ่มความผ่อนคลาย และช่วยลดความเครียดในระหว่างวันได้
  • มีสภาพจิตใจที่แจ่มใส มีความนึกคิดที่เฉียบคม ปราศจากความไม่ชัดเจนในหัว
  • ช่วยทำให้สิ่งต่างๆ สำเร็จได้มากขึ้น ในแต่ละวัน
  • มีพลังงานในการใช้ชีวิตมากขึ้น
  • มีสุขภาพที่ดี และมีความสุข
  • ช่วยให้คุณสร้างสมดุลในชีวิต

 

Bad Morning Routine

  • ทำให้คุณรู้สึกว่า เป็นวันที่เครียด และเหนื่อยล้า
  • รู้สึกว่ามีแต่เรื่องไม่ดี เกิดขึ้นตลอดทั้งวัน
  • ส่งผลกระทบต่อร่างกาย และโภชนาการอาหาร
  • รู้สึกว่ามีพลังงานไม่เพียงพอ และง่วงนอนมากขึ้น
  • รู้สึกวิตกกังวลมากขึ้น รวมไปถึงอาจจะรู้สึกซึมเศร้าได้ด้วย
  • ทำให้คุณย่ำอยู่กับที่ ไม่มีแรงกระตุ้นในชีวิต ใช้ชีวิตแบบผ่านไปวันต่อวัน ไร้จุดหมาย

นอกจากนี้ยังมีหลักฐานยืนยัน ความแตกต่างระหว่างคนที่มีกิจวัตรยามเช้าที่ดี กับไม่ดี ด้วยการทดสอบโดยนำเอา Tinké ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมต่อกับ Smartphone เพื่อตรวจสอบความแข็งแรงของสุขภาพด้วยการใช้ปลายนิ้วสัมผัส เพื่อวัดอัตราการเต้นของหัวใจ อัตราการหายใจ ระดับออกซิเจนในเลือด

สำหรับช่วงเวลาเช้าของ Drew Canole ที่ถือได้ว่าเป็น Good Morning Routine นั้น เริ่มต้นด้วยการนั่งสมาธิ 20 นาที ซึ่งได้คะแนนจากเครื่อง Tinké ไปถึง 90 คะแนน ในทางกลับกัน สำหรับคนที่มี Bad Morning Routine ที่เริ่มต้นเช้าวันใหม่ทันที ได้คะแนนจากเครื่อง Tinké เพียง 18 คะแนนเท่านั้น นั่นแสดงให้เห็นว่า การเปลี่ยนแปลงต่างๆ ในร่างกายของเรา มีผลเป็นอย่างมาก ซึ่งฟังแล้วอาจจะดูไม่น่าเชื่อ แต่ความจริงทั้งหมดนี้ ถูกยืนยันมาแล้ว ด้วย เทคโนโลยี และ วิทยาศาสตร์

 

Options for a good morning routine

มีหลายสิ่งหลายอย่าง ที่สามารถสร้างความแตกต่างให้กับชีวิตของคุณได้ ด้วยการเริ่มต้นกิจวัตรที่มีคุณภาพ วันนี้เราจึงนำเอากิจกรรมที่ยอดเยี่ยม สำหรับการสร้าง  “Good Morning Routine”  ที่สมบูรณ์แบบ มาให้ทุกคนได้เลือกนำสิ่งที่ตัวเองชอบไปใช้กัน โดยที่คุณไม่จำเป็นจะต้องทำครบทั้งหมดนี้ เพียงแต่ เลือก และจัดการมันให้เป็นส่วนหนึ่งของทุกๆ เช้าของคุณ

 

1) Be grateful

มีอยู่สิ่งนึงสำหรับคนที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่จะมีอยู่ในความรู้สึก และแสดงออกมาตลอดก็คือ ความรู้สึกซาบซึ้งในสิ่งที่พวกเค้ามี มันเป็นเรื่องง่ายๆ ที่คุณสามารถทำได้ ตั้งแต่ลืมตาตื่นนอนขึ้นมา และเมื่อคุณมามองไปรอบๆ ตัว คุณเห็นสิ่งที่คุณมีอยู่ในชีวิต คุณมีผ้าห่มที่ให้ความอบอุ่น คุณมีครอบครัวที่น่ารัก คุณมีอะไรหลายๆ อย่างในชีวิตที่ดีเยี่ยมอยู่ตลอดเวลา

เมื่อคุณรู้สึกถึงสิ่งเหล่านี้ คุณจะรู้สึกว่าอารมณ์ของคุณนั้นเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ครั้งนึง  James Altucher  ผู้ชายที่สามารถทำยอดขายถล่มทลายให้กับหลายบริษัท ได้กล่าวเอาไว้ว่า  “ความลับที่นำให้ผมไปสู่ความสำเร็จก็คือ ผมสังเกตเห็นความอุดมสมบูรณ์ในทุกๆ ที่รอบตัวผม ไม่ว่าจะเป็นตอนติดอยู่ในรถ ท่ามกลางการจราจรที่แออัด ผมก็ยังเห็นสิ่งดีๆ อยู่เต็มไปหมด มันเป็นเคล็ดลับในการดึงดูสิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิตของผม และผมเชื่อว่า เมื่อเรามองหาแต่สิ่งดีๆ สิ่งเหล่านั้นก็จะเข้ามาหาเราเช่นกัน”

นอกจากสิ่งของรอบตัวคุณแล้ว อีกสิ่งนึงที่คุณจะลืมมันไปไม่ได้ก็คือ ร่างกายของคุณเอง การขอบคุณ และซาบซึ้งในร่างกายของคุณ สามารถส่งผลบางอย่างที่เป็นพลังงานด้านบวกให้กับตัวคุณเองอย่างคาดไม่ถึง คุณจะมีสุขภาพที่แข็งแรง สดใส ทั้งหมดนี้มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้จริง เพียงแค่คุณเปลี่ยนมุมมองร้ายๆ ให้กลายเป็นดี

 

2) Exercise

แน่นอนว่า เราเห็นข้อดีของการออกกำลังกายได้อย่างชัดเจน และมันก็เป็นสิ่งที่เราทุกคน ควรจะทำมันเป็นกิจวัตรประจำทุกเช้า การวิจัยแสดงให้เห็นว่า การออกกำลังกายสามารถเพิ่มพลังทางจิตใจให้อยู่ในระดับที่ดีมากๆ ได้นานถึง 4-10 ชั่วโมง มันเป็นข้อดีที่หลายคนไม่เคยรู้มาก่อน นอกจากการออกกำลังช่วยเผาผลาญไขมัน และความอ้วน ยังส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมีในสมองอีกด้วย

นอกจากนี้ยังมีการค้นพบอีกว่า คนที่คิดจะลักไก่ด้วยการ  Situps  ไม่กี่ที  Pushups  อีกนิดนึง แล้วมโนว่านี่คือการออกกำลังกายตอนเช้า เราต้องของบอกไว้ก่อนเลยว่ามันไม่เพียงพออย่างแน่นอน การจะทำให้รู้สึกได้ถึงผลเชิงบวก แนะนำให้ออกกำลังกายอย่างน้อยก็  5 – 10  นาที เอาให้ได้เหงื่อ หัวใจได้เต้นรัวกันระดับนึงจะดีมาก

 

3) Visualization

90%  ของจำนวนคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตทั้งหมด มีสิ่งที่เกิดขึ้นในหัวเหมือนกันคือ การสร้างภาพจิตนาการ เห็นตัวเองมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีในอนาคต และมองเห็นความสำเร็จมากมาย ที่รอเราก้าวเข้าไปหามันอยู่อย่างชัดเจน ดังนั้น เราทุกคนควรจะเริ่มทำมันหลังจากตื่นนอนกันได้แล้ว กับวิธีง่ายๆ เพียงแค่ปิดตาลง จินตนาการถึงตัวคุณที่ได้เป็นในสิ่งที่อยากเป็น เห็นภาพของตัวเองบรรลุเป้าหมายที่ตั้งใจ นึกถึงความรู้สึก และบรรยากาศของความสำเร็จที่สำคัญที่สุดในชีวิต ทุกๆ สิ่ง จะทำให้คุณมีพลัง และกระหายจะไปให้ถึงจุดหมายที่ตั้งเป้าไว้

 

4) Meditation

เรามักจะเห็นว่า การนั่งสมาธิ มักจะเป็นส่วนหนึ่งของเคล็ดลับต่างๆ ในชีวิต ไม่ว่าจะเป็น หลักการทำงาน หลักการเรียน หลักการใช้ชีวิต เรียกได้ว่า มีอยู่แทบทุกคำแนะนำเลยก็ว่าได้ ในบทความนี้ก็เช่นกัน คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต ที่มีชีวิตอยู่บนโลกกว่า 80% ทุกคนล้วน ฝึกนั่งสมาธิกันทั้งนั้น ดังนั้นเราเองก็ควรจะเริ่มต้นวันใหม่ ด้วยกิจกรรมดีๆ ที่ทำได้ไม่ยาก โดยคุณอาจจะตั้งเวลาไว้สัก 10 นาที จากนั้นให้คุณหลับตา กำหนดลมหายใจเข้าออก และพยายามจะไม่ให้มีสิ่งใดเข้ามาทำให้คุณวอกแวก จนกว่าเสียงนาฬิกาปลุกที่ตั้งไว้จะดังขึ้น นี่ถือเป็นอีกหนึ่งความลับ ที่คนประสบความสำเร็จในชีวิตทำมันแทบจะทุกครั้งที่มีเวลา

 

5) Drinking water

การดื่มน้ำเปล่า ทันทีหลังจากที่ตื่นนอน มีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายเป็นอย่างมาก มีบทความมากมายที่ พยายามบอกให้เราทุกคนดื่มน้ำทันทีหลังจากตื่นนอน เพราะร่างกายที่ต้องการน้ำหลังจากการนอนพักเป็นเวลานาน ในด้านความรู้สึกก็มีประโยชน์เช่นกัน ช่วยทำให้รู้สึกสดชื่น หายงัวเงีย พร้อมผจญภัยกับวันใหม่ จึงเป็นส่วนสำคัญที่ทุกคน ควรทำมันอย่างเป็นกิจวัตรในทุกๆ เช้าเช่นกัน

 

6) Goal Setting

การตั้งเป้าหมายในชีวิต ก็เป็นเหมือนการเปิดแผนที่ และเส้นทางการเดินทางไปสู่จุดประสบความสำเร็จที่ตั้งใจไว้ ดังนั้น หากคุณตั้งเป้าหมาย ในทุกๆ เช้า ว่าวันนี้ควรจะทำอะไรบ้าง มันจะช่วยทำให้คุณก้าวอยู่ในเส้นทางที่ถูกต้อง ไม่ออกนอกเส้นทาง เมื่อคุณมีจุดเริ่มต้น และเป้าหมายที่ชัดเจน ทุกวันเวลาที่คุณใช้ไปจะไม่มีทางเปล่าประโยชน์อย่างแน่นอน

Options for a bad morning routine

มาถึงกิจวัตรยามเช้า ที่จะส่งผลเสียต่อการใช้ชีวิต ทั้งในระยะสั้น และระยะยาว เป็น 2 สิ่ง ที่เรากล้าพูดได้เลยว่า คนทำงานส่วนใหญ่ มักจะทำมันเป็นประจำ ก่อนที่จะลุกขึ้นจากเตียงอย่างแน่นอน ดังนั้นเราจะนำเอาเหตุผลที่คุณ ควรเลิกทำ 2 สิ่งนี้มาฝาก ถ้าอยากประสบความสำเร็จในชีวิต

 

1) Checking e-mail

ทันทีที่ลืมตาขึ้นมา มีคนจำนวนไม่น้อยเลย ที่คว้าโทรศัพท์มาเช็ค Email เพื่อดูว่ามีงานอะไรกำลังจะกระหน่ำเข้ามาบ้างในวันนี้ แต่จากการพูดคุณกับคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตส่วนใหญ่ เช่น Tim Ferris และ Pat Flynn บอกว่า คนเหล่านั้นจะไม่มีวันเปิดดู Email จนกว่าจะถึง 10 โมงเป็นอันขาด เพราะ Email เป็นแหล่งที่บอกทั้งข่าวดี และข่าวร้าย ซึ่งนำมาทั้งความสุข และความรู้สึกไม่พึงประสงค์ คุณเคยได้ยินที่คนมักพูดกันมั้ยว่า ถ้าอารมณส์เสียแต่เช้า คุณจะอารมณ์เสียไปตลอดทั้งวัน

ดังนั้น หลังจากที่คุณตื่นนอน คุณควรที่จะรับรู้ถึงความสบายในชีวิต ซึบซับสิ่งดีๆ ที่ทำให้คุณรู้สึกมีความสุขซะก่อน จากนั้น ถึงจะเป็นเวลาแห่งการทำงาน การแก้ปัญหา ซึ่งมันสอดคล้องกับ Tinké ที่ทาง Drew Canole ได้นำมาใช้ทดลองในคนที่ตื่นนอนมาแล้ว จัดการเปิดดู Email เป็นอันดับแรก ซึ่งได้คะแนน เพียง 18 น้อยที่สุด ในทุกสิ่งทุกอย่างเท่าที่ทดลองทำมา

 

2) Hitting snooze over and over

ปุ่ม Snooze เรียกได้ว่าเป็น ปุ่มประจำสำหรับหลายคนเลยก็ว่าได้ ทันทีตื่นนอนจากเสียงนาฬิกาปลุก คุณไม่ควรที่จะกดปุ่มนี้เพื่อนอนต่อเป็นอันขาด เพราะนั่นแสดงให้เห็นว่า คุณกำลังเริ่มต้นวันใหม่ด้วยความอ่อนแอ พ่ายแพ้ และขาดความกระตือรือร้น มันคือปุ่มแห่งการยอมแพ้ สำหรับคนขี้เกียจเท่านั้น!

 

So what’s it gonna be?

มันไม่ใช่สิ่งที่ยากเกินไปที่ใครสักคนจะลงมือทำมันได้ อาจจะเป็นวันพรุ่งนี้เลย ก็ไม่ใช่เรื่องยากแต่อย่างใด หากคุณเป็นคนนึง ที่อยากก้าวเดินเข้าใกล้สู่ความสำเร็จในทุกๆ วัน คุณจะได้ในสิ่งที่คุณต้องการอย่างแน่นอน แต่ในทางกลับกัน คุณจะย่ำอยู่กับที่ ถ้าหากคุณไม่คิดที่จะลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงอะไรเลย ไม่แม้แต่จะตื่นขึ้นมาทำในสิ่งที่คุณต้องทำ หรือทำอะไรที่ไร้ประโยชน์ ทำลายความสุขในการใช้ชีวิต อย่างเช่น นึกถึงแต่ความโหดร้ายที่จะต้องเจอในวันนี้ คนที่คิดแบบนี้จะเห็นได้เลยว่า พวกเค้าไม่อยากที่จะไปทำงาน แต่ถ้าเป็นคนที่มีกิจวัตรในยามเช้าที่ดี พวกเค้าจะรู้ว่า เค้าต้องรีบตื่น และออกไปเดินทางต่อ เพื่อจะไปถึงจุดความสำเร็จที่ตั้งเป้าเอาไว้ให้เร็วที่สุด และมันจะเร็วขึ้นกว่าที่คุณคิดอย่างแน่นอน

 

Reference:  SOURCE

HYENA
WRITER: HYENA
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line