Perfect Selfie เคล็ดลับถ่ายเซลฟี่ให้ดูดีใน 6 ขั้นตอน

หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าการ Selfie ที่ดูจะเป็นวัฒนธรรมของคนทั้งโลก ถึงขั้นถูกบรรจุลงไปใน Oxford Dictionary ปี 2013 นั้นมีข้อดีที่ผู้ชายอย่างเราอาจจะคาดไม่ถึง จากผลการศึกษาของนักจิตวิทยามีการยืนยันว่าการเซลฟี่และได้รูปที่ดีนั้น เป็นการเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเองวิธีหนึ่ง และยังเป็นการเก็บความทรงจำในช่วงเวลาต่างๆของชีวิตที่ดีอีกด้วย แม้แต่เหล่า Online Influencer มากมายในปัจจุบันทั้งในไทยและต่างประเทศ ก็เริ่มต้นจากการเซลฟี่รูปต่างๆ โพสลงไปบน Social Platform อย่าง Facebook หรือ Instagram ไม่ใช่เฉพาะการเซลฟี่รูปตัวเองเพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงการเซลฟี่ในกิจกรรม ของสะสม หรือแม้แต่สิ่งที่เขาคิดว่าเจ๋ง ซึ่งสามารถดึงดูดคนที่มีความสนใจเดียวกันให้ตามมา Follow ได้อย่างรวดเร็ว

ในเมื่อโอกาสดีๆสามารถเกิดขึ้นได้จากการเซลฟี่ UNLOCKMEN เลยขอแนะนำเทคนิคการถ่ายเซลฟี่ให้ได้รูปออกมาเท่ที่สุด เพื่อเพิ่มความสนุกสนานเวลาถ่ายรูปให้กับทุกคนมากขึ้น โดยเรียงลำดับความสำคัญของเทคนิคดังนี้

หามุมเก่งของตัวเองให้เจอ

ใบหน้าของคนเราแต่ละคนไม่เหมือนกัน ตามหลักสากลจะแบ่งรูปหน้าของผู้ชายออกเป็น 9 ทรง ได้แก่หน้ารูปไข่ หน้าเหลี่ยม หน้ายาว หน้ากลม หน้ารูปเพชร หน้ารูปหัวใจ และหน้าสามเหลี่ยม รูปหน้าแต่ละแบบมีจุดเด่นในการหามุมและแสงตกกระทบไม่เหมือนกัน จึงไม่สามารถฟันธงได้ว่าต้องมุมนี้หรือมุมไหน วิธีที่ดีที่สุดคือการค้นหามุมด้วยตัวเองให้ดี ว่ามุมไหนใช่มุมไหนหล่อ บางคนอาจจะหล่อหน้าตรง บางคนอาจจะหล่อมุมข้าง ในขณะเดียวกันก็มีมุมต้องห้ามอยู่ เช่นมุมกดมุมเสยนี่บอกเลยว่าน่ากลัวสุดๆ เพราะเป็นมุมที่ทำให้ใบหน้าและคอของเรารวมเป็นก้อนเดียว

ที่เราให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากที่สุดเพราะการหามุมของตัวเองให้เจอ สามารถนำไปใช้ได้ในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายรูปจากกล้องเล็กกล้องใหญ่หรือกล้องวีดีโอ ลงทุนหามุมครั้งเดียว เอาไปใช้ได้ทุกสถานการณ์

แสงสว่างต้องพอได้

เคล็ดลับในการถ่ายภาพให้ได้รูปออกมาสวย สิ่งที่จำเป็นที่สุดคือแสงสว่าง ถึงแม้กล้องหน้าของ smartphone รุ่นใหม่จะได้รับการพัฒนาความละเอียดไปไกลถึง 8-megapixel บวกกับมุมถ่ายภาพที่กว้างมากขึ้นแล้ว แต่การหาแสงสว่างก็ยังเป็นสิ่งจำเป็นที่จะทำให้รูปดูสมบูรณ์มากขึ้น ลองมองหาแสงธรรมชาติช่วงเช้าสายหรือบ่ายแก่ๆ จะได้แสงแดดที่นุ่มนวลกำลังดี หรือจะใช้แสงจากไฟนีออนหรือโคมไฟช่วยก็ได้ อย่าลืมเช็คทิศทางของแสงอีกนิด จะช่วยให้หน้าของเราดูมิติโดดเด่นขึ้นมาทันที

แต่มีแสงบางประเภทที่เราควรหลีกเลี่ยง เช่นแสงแรงๆจากแดดตอนเที่ยงที่ส่องตรงลงกลางศีรษะ จะทำให้เกิดเงาที่ยากต่อการควบคุม และแสงจะดูแข็งเกินไป ภาพจะออกมาแบนๆไม่น่าสนใจ หรือการถ่ายภาพย้อนแสงแรงๆ จะทำให้ใบหน้าในภาพดำมืดหรือไม่ก็สว่างเกินจะใช้งานได้ ถ้าถ่ายแล้วแสงไม่ได้จริงๆ เราขอแนะนำท่าไม้ตายคือทำภาพให้เป็นสีขาวดำก็เท่ไปอีกแบบ

ปัญหายอดนิยมจากการถ่ายภาพในที่แสงน้อยที่ทุกคนต้องเจอ คือรูปที่ได้จะเบลอเนื่องจาก shutter ทำงานช้าหรือไม่ก็มืดเกินไปจนมองอะไรไม่เห็น แต่ปัจจุบันสามารถแก้ไขได้ไม่ยาก เพราะ smartphone รุ่นใหม่ๆอย่าง Huawei Mate 8 จะมีระบบกันภาพสั่น OIS ทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์ประมวลผลภาพ ISP แถมยังปรับ ISO ได้สูงสุดถึง ISO 1600 บวกกับเลนส์ sony ความละเอียด 16 megapixels f/2.0 ยิ่งทำให้ได้ภาพคมชัดรายละเอียดครบถ้วน ไร้ปัญหาแม้แสงน้อย

วางตำแหน่งภาพให้ดี

ในรูปถ่าย 1 ใบควรจะมีจุดดึงสายตาเพียงแค่จุดเดียว ดังนั้นเราต้องไม่ให้สิ่งของรอบข้างในฉากหลังมาเด่นกว่าตัวเราได้ แทนที่จะนึกได้ก็ควัก smartphone ขึ้นมาถ่ายเซลฟี่ ลองใช้เวลาเพิ่มอีกหน่อยในการหาพื้นหลังที่สวยงามหรือเลือกแบบเรียบๆ ไม่ดูรกจนเกินไป อย่าลืมเช็คว่ามีอะไรไม่น่ามองอยู่ในภาพหรือเปล่า เพราะเราคงไม่อยากให้รูปสุดเท่ในจังหวะที่หาไม่ได้ง่ายๆของเราโดน Photobomb ด้วยคนแปลกหน้าหรืออะไรที่ไม่น่าดู หรือเสี่ยงต่อการดราม่าถ้าบังเอิญถ่ายติดมือหรือของใช้ของสาวในทริปที่แฟนเราไม่ได้ไปด้วย

คำแนะนำคือการ compose ภาพหรือการจัดวางตำแหน่งภาพให้ดี วิธีที่คลาสสิคที่สุดคือให้กฏ rule of third แบ่งสัดส่วนระหว่างคนกับฉากหลังแบบ 1/3 ในกรณีที่มีสิ่งที่อยากโชว์ หรือในบางมุมอาจจะจัดแบบ center ถ้าพื้นหลังเรียบๆเพื่อดึงให้ตัวคนเด่นขึ้น

ข้อควรระวัง ไม่ควรพยายามถึงขั้นเสี่ยงชีวิตเพื่อให้ได้ background ที่น่าหวาดเสียวหรือขณะขับรถ แม้ภาพที่ได้จะสวย แต่จากข่าวทั่วโลกมีให้เห็นมากมายแล้วว่ามีคนเสียชีวิตไปจากการเซลฟี่อยู่ไม่น้อย

ใช้ฟังก์ชั่นของกล้องให้ครบถ้วน

การถ่ายเซลฟีอาจจะโดนจำกัดมุมด้วยความยาวแขนของผู้ถ่าย ทำให้หลายครั้งเราต้องเงื้อนิ้วไปกดปุ่มถ่ายด้วยความยากลำบาก ภาพที่ได้จึงมักจะเบลอหรืออยู่ในท่าที่ไม่พร้อม จึงเกิดเป็นความนิยมไม้เซลฟี่ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย แต่ความนิยมก็หายไปอย่างรวดเร็วเนื่องจากความปลอดภัย ถึงขั้นมีการแบนห้ามใช้ในหลายประเทศ

ทางแก้ที่ง่ายกว่านั้นแต่หลายคนมองข้ามไปคือการใช้ฟังก์ชั่นของ smartphone ให้เป็นประโยชน์ เช่นการใช้โหมดตั้งเวลาถ่ายได้ตั้งแต่ 2 วินาที 5 วินาที และ 10 วินาที แล้วค่อยถ่ายก็ได้ ในกรณีที่ถ่ายหลายคนเราแนะนำให้ตั้งเวลานานหน่อย จะได้จัดท่ากันได้อย่างเพียบพร้อม รวมถึงการใช้ปุ่มลัดในการลั่น shutter เพื่อความถนัด ภาพไม่สั่นเวลาถ่าย smartphone หลายๆรุ่นอาจจะใช้ปุ่ม volumn ในการลั่น shutter ได้ หรือใน Huawei Mate 8 ก็ง่ายหน่อย มีกดปุ่มด้านหลังช่วยให้กดลั่น shutter ได้ง่ายขึ้นไปอีก สะดวกสบายสุดๆ ซึ่งปุ่มด้านหลังยังใช้เป็นระบบสแกนลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อคเครื่องได้อีกด้วย

แต่งภาพก็ช่วยได้

แน่นอนว่าการถ่ายภาพที่มีแสงสวย ภาพที่ได้ก็น่าจะออกมาสมบูรณ์แบบอยู่แล้ว แต่ในบางกรณีเราอาจจะอยู่ในสถานการณ์ที่แสงไม่สวยจริงๆ ถ่ายออกมาแล้วดูชืดๆจืดๆแบนๆ ทั้งที่ compose ดี อารมณ์ได้ หรืออยู่ในเหตุการณ์ที่ไม่สามารถกลับไปถ่ายได้อีกแล้ว การใช้ฟังก์ชั่นความสามารถของ smartphone แต่งภาพก็เป็นทางออกอันดับแรกที่ดีที่สุด วิธีทั่วไปก็คือการใช้ Filter ที่มีอยู่แตกต่างกันออกไปในแต่ละเครื่อง ข้อได้เปรียบของ smartphone รุ่นใหม่ที่สามารถปรับตั้งค่าการถ่ายรูปได้มากกว่าด้วย Professional Mode เลือกชดเชยแสง, ความเร็วชัตเตอร์, จุดโฟกัส รวมถึงมีฟัก์ชั่นสำหรับการถ่ายเซลฟี่โดยเฉพาะให้เลือกเล่นได้มากกว่าด้วย

ฟังก์ชั่นด้านเซลฟี่ที่เราได้ลองใช้และพบว่ามีจุดเด่นใน Huawei Mate 8 คือ Perfect Selfie ซึ่งจะให้เราถ่ายรูปใน 3 มุมคือหน้าตรง หน้าเอียง และหน้าก้ม จากนั้นระบบจะรวมรูปทั้ง 3 เข้าไว้ด้วยกัน และมีให้เลือกปรับได้ทั้ง Smooth, Whiten, Enlarge eyes, Brighten eyes และ Thinnger face ที่สำคัญคือเมื่อเราตั้งค่าที่ต้องการเสร็จแล้ว ระบบจะจำไปตลอดแม้แต่การถ่ายรูปครั้งต่อไป ถ่ายยังไงก็ดูดีเหมือนเดิม

อารมณ์ดีใครๆก็อยากดู

โดยธรรมชาติของมนุษย์ เราจะชอบดูอะไรสดใสๆ ดูแล้วทำให้เราอารมณ์ดีตามไปด้วย เช่นเดียวกับอารมณ์ของภาพที่เราจะถ่าย อารมณ์ที่ดีย่อมทำให้ได้ภาพที่น่าดูตามไปด้วย ดังนั้นแทนที่จะทำหน้าเคร่งขรึม หรือหน้าดราม่า เลือกถ่ายภาพที่เป็นแนวหล่อหรือแนวสนุกสนานไปเลยดีกว่า บรรยากาศจะนำพาให้วิวทิวทัศน์รอบๆดูดีขึ้นไปด้วย ในทางกลับกัน การทำหน้าเศร้า หน้าเครียด จะฉุดบรรยากาศเท่ๆรอบๆให้หมดไป และมีส่วนอย่างมากที่จะทำให้อารมณ์ของภาพหม่นหมองไม่น่าดูได้เช่นกัน

ถ้าการใช้ Smartphone ถ่ายรูปเป็นฟังก์ชั่นหลักที่คุณใช้งาน รวมถึงแบตเตอรี่ที่อึดในระดับ 4000mAh ใช้งานได้ตลอดวัน และประสบการณ์การใช้งานที่เสถียรและตอบสนองได้รวดเร็วทันใจด้วยระบบประมวลผลรุ่นใหม่ล่าสุด Kirin 950 รองรับการใช้งานได้ทุกไลฟ์สไตล์ Huawei mate 8 smartphone รุ่นใหม่เครื่องนี้เป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากอีกรุ่นหนึ่งเลย

Key Specs :
6-inchs screen
Full HD 1920 x 1080 resolution
Android 6.0 Marshmallow
Rear Camera : Sony lens 16-megapixel พร้อมระบบกันภาพสั่น OIS
Front Camera : 8-megapixel
Kirin 950 processor ระบบประมวลผล 8 แกน แบ่งการทำงานเป็น 2 ชุด (A72 2.3 GHz + A53 1.8 GHz)
Memory 4GB RAM+64GB ROM