“AI จะเปลี่ยนโลกนี้ให้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป” คำพูดนี้ไม่เกินจริงเลย เพราะในปี 2024 เรียกว่าเป็นปีแห่งการเริ่มต้นนำ AI เข้ามาใช้เป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กร ยังรวมไปถึงเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของพนักงานและอยู่ในชีวิตของผู้คนทั่วไป ปี 2025 มั่นใจว่า AI ก็จะยังคงได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องให้มีความฉลาดและการทำงานที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น แน่นอนว่าก็เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวก และนำไปประยุกต์ใช้ในวงกว้าง ทั้งช่วยปลดล็อคการทำงานของพนักงาน สร้างขีดความสามารถในการแข่งขันขององค์กร หาแนวทางรับมือกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของประเทศไทยและระดับโลก ในขณะเดียวกันก็จะต้องสร้างหลักการกำกับดูแลการใช้งาน AI ให้มีจริยธรรมและความรับผิดชอบอย่างเป็นรูปธรรม ‘ธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์’ (กรรมการผู้จัดการใหญ่ ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย) เผยเทรนด์ AI ที่น่าจับตามองในปี 2025 เพื่อให้องค์กรไทยทั้งภาคธุรกิจ ภาครัฐ และคนไทยได้เตรียมความพร้อมประยุกต์ใช้ AI ในวงกว้างมากยิ่งขึ้น จุดประสงค์เพื่อช่วยลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ เป็นตัวกำเนิดความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ จะมีเทรนด์อะไรบ้าง เลื่อนลงไปอ่านพร้อมกันเลย 1.Scaling Laws : AI จะยกระดับศักยภาพและเติบโตอย่างก้าวกระโดด ในปีหน้า AI จะได้รับการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดยิ่งกว่าทุกการปฏิวัติอุตสาหกรรมที่ผ่านมา ฉีกกฏการเติบโตจากเดิมที่เติบโตด้วยตัวเองอย่างค่อยเป็นค่อยไปตามกาลเวลา โดยคาดการณ์ว่า AI จะเพิ่มขึ้นแบบเป็นทวีคูณในทุก ๆ
“ถ้ามี Glasses Store ที่สามารถดูแลสไตล์ลิ่งของผู้ชายได้แบบ Bespoke Eyewear มันจะดีแค่ไหนกัน” คำถามเล่น ๆ ปนเอาจริงของคนที่ใส่แว่นมาทั้งชีวิตอย่างเราที่กำลังมองหาร้านแว่นตาเซอร์วิสได้ระดับ Bespoke ก็ถูกเติมช่องว่างให้เต็มทันทีที่ได้มาใช้บริการของ ‘O33 VISION SOLUTION แบรนด์สโตร์แว่นตาลักชัวรี ที่ให้ความสำคัญกับแว่นตาระดับอวัยวะชิ้นที่ 33 ดูแลลงลึกระดับที่ว่าไม่ใช่แค่ได้แว่นตาที่ใช้ดีที่สุด แต่จะเป็นแว่นตาที่คุณภูมิใจพร้อมกับอยากให้โลกมองเห็นคุณอย่างชัดเจนในทุกวันเลยล่ะ O33 เป็นร้านที่เกิดขึ้นจาก ‘หมออ๊อบบี้ (พญ.ชมพูนุท ภูมิรัตนประพิณ)’ จักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพสายตาที่มีประสบการณ์กว่า 10 ปี กับ ‘หมอตั้ม (นายแพทย์คณพล ภูมิรัตนประพิณ)’ อายุรแพทย์เฉพาะทางดูแลผู้สูงอายุและผู้ก่อตั้ง Health at Home หมออ๊อบบี้เล่าความตั้งใจของตัวเองให้เราฟังว่า ที่เปิด O33 เพราะอยากให้ทุกคนได้ใส่แว่นแล้วชอบทั้งแว่นตาที่ตัวเองเลือก พร้อมกับชอบตัวเองมากขึ้น ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องของค่าสายตาที่ดีขึ้นเท่านั้น แต่ว่าบุคลิกภาพที่ทำให้โลกมองมาที่คุณเองก็สำคัญ “เราอยากให้คุณมองโลกชัดเจนขึ้น และให้โลกมองเห็นคุณ” คือสโลแกนของที่หมออ๊อบบี้ใช้บอกกับทุกคนที่เข้ามา เราติดใจประโยค Quotes อันนี้เข้าอย่างจังเพราะไม่คิดว่าจะได้เลือกแว่นใหม่ที่ถูกดูแลใส่ใจตัวเองได้มากเท่านี้มาก่อน บทความนี้ UNLOCKMEN ได้ไปสัมผัสประสบการณ์แบบ Bespoke Eyewear (คำที่เราเรียกขึ้นเอง)
หลังจากที่เข้าไปอยู่ในช่วงเวลาสุดพรีเมียมของคนไทยมาได้สักพัก ก็ได้เวลาแล้วที่ PRAKAAN (อ่านว่า ‘ปราการ’) ฉลองการเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในงาน ‘UNVEIL THE FLAVORS OF THAILAND’ ที่สุดของการค้นพบเสน่ห์แห่งรสสัมผัส เผยถึงอัตลักษณ์ของแบรนด์จากจุดเริ่มต้น สู่ผลงานชิ้นเอกด้วยคุณภาพและสุนทรียสัมผัสอันเป็นเอกลักษณ์ สะท้อนความภาคภูมิใจความเป็นไทยผ่านรูปแบบ Immersive Experience ณ The House on Sathorn – W Hotel Bangkok UNVEIL THE FLAVORS OF THAILAND มาด้วยคอนเซปต์ Multisensory ที่ให้ความสำคัญกับทุกประสาทสัมผัสทั้ง 5 ตลอดเส้นทางการค้นหารสสัมผัสอันเป็นเอกลักษณ์ ชูไฮไลต์ของแบรนด์ได้ครบทุกมิติ สะท้อนแนวคิดของแบรนด์ที่ว่า “Irresistible Quest, Unforgettable Taste” การออกเดินทางค้นหารสชาติและสุนทรียสัมผัสที่ไม่อาจลืมเลือน ผ่าน Room Of 3P Provenance ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักอันดับแรกของ PRAKAAN สะท้อนผ่านเรื่องราวของต้นกำเนิดวัตถุดิบคุณภาพจากรากฐานความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าตะวันตก (Western Forest Complex) ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในผืนป่ามรดกโลกจาก
ขอออกตัวก่อนว่าเราเป็นมนุษย์ December Lover ที่รักเดือนธันวาคมมาก เพราะมันไม่มีเดือนไหนที่จะไวบ์ Festive Moment เหมาะสมต่อการดริงก์ดื่มได้เท่ากับลมหนาวของเดือนนี้อีกแล้ว และเพื่อฉลองให้กับเดือนที่รัก December Time = Drinker Times เราเลยอยากพาทุกคนไปรู้จักกับคนสำคัญของอาชีพนี้ก็คือ ‘บาร์เทนเดอร์ (Bartender)’ ผ่านการคุยกับ SANTO METODO ผู้เป็น Bar Manager ของ ZUMA BANGKOK ชายหนุ่มที่เราสามารถพูดได้เลยว่าเป็นตัวแทนของบาร์เทนเดอร์ที่หลงใหลและทำตามความฝันของตัวเองได้สำเร็จ สำหรับคนที่มีความสนใจในอาชีพบาร์เทนเดอร์ หรืออยากรู้จักว่าอาชีพนี้ต้องทำอะไรบ้าง กดอ่านบทสัมภาษณ์ชิ้นนี้ของ UNLOCKMEN ไปพร้อมกัน UNLOCKMEN : ช่วยแนะนำตัวเองและตำแหน่งใน Zuma Bangkok หน่อย ผมชื่อ Santo Metodo มาจากเมือง Naples ประเทศ Italy ตำแหน่ง Bar Manager ของ Zuma Bangkok ผมทำงานที่นี่เป็นปีที่ 4 กำลังจะเข้าสู่ปีที่ 5
ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ไม่สามารถปฎิเสธได้เลยว่าพอนึกถึงชื่อของ ‘แสนสิริ’ (Sansiri) เราจะต้องคิดไปถึงโครงการบ้านที่ดีที่สุดบนทำเลทองของกรุงเทพเสมอ แต่หลังจากที่แสนสิริเป็น Design Leader ผู้นำที่รังสรรค์ที่อยู่อาศัยระดับแลนด์มาร์กของประเทศมากว่า 40 ปี วันนี้แสนสิริจะขอเข้าไปอยู่ในชีวิตของผู้คนให้มากกว่าเดิม The Society พื้นที่ Social Space ที่แสนสิริเปิดประตูบ้านของตัวเองโอบรับทุกคนให้เชื่อมโยงถึงกัน ผ่านพื้นที่ซึ่งสร้างขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตแบบ Connect + Inspire เปลี่ยนคนแปลกหน้าให้กลายเป็นสนิทสนม ผ่านศิลปะ วัฒนธรรม และการใช้เวลาร่วมกันจากกิจกรรมที่ถูกคิดขึ้นมาทุกคนโดยเฉพาะ โดยที่ขอให้ไม่ว่าใครก็ตามที่เข้ามาได้เป็นตัวเองแล้วมาอยู่รวมกัน ข่าวดีก็คือแสนสิริพร้อมต้อนรับชาว The Society ทุกคนแล้วตอนนี้ The Society จะปักหมุดโลเคชั่นแรกที่จังหวัดภูเก็ต เกิดเป็น Sansiri Phuket + The Society เพราะชาวภูเก็ตรู้ดีว่าแสนสิริถือเป็นผู้บุกเบิกตลาดบ้านพร้อมกับได้รับความเชื่อใจมามากกว่า 13 ปี และด้วยความที่ภูเก็ตเป็นเมืองแห่งประวัติศาสตร์ คงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ท้องถิ่นแสนวิจิตรเฉพาะตัว ก็เรียกว่าไม่มีทำเลไหนจะเหมาะสมไปกว่าการตั้งชุมชนแรกให้เกิดขึ้นได้เท่ากับที่นี่อีกแล้ว หนึ่งเป้าหมายสำคัญของการสร้าง The Society ของแสนสิริ จึงมีขึ้นเพื่อพาเมืองภูเก็ตสู่สายตาชาวโลก ผ่านวัตถุดิบ วัฒนธรรม ที่ทุกคนจับต้องได้ ต่อจากนี้ไปทุกครั้งที่นึกถึงแสนสิริ ทุกคนก็จะนึกถึงชุมชน
– คำถาม : เป็นไปได้มั้ยที่รองเท้าผู้ชายแบบ DRESS SHOES ที่มีความเป็น FORMAL USE มากที่สุดชนิดหนึ่งของรองเท้าบนโลก จะสามารถเป็น EVERYDAY SHOES ใส่ที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้ตามต้องการ ? – คำตอบ : ถ้าคุณยังลังเลในคำตอบ อาจจะหมายความว่าคุณยังไม่เคยลองสวม KENNETH COLE ! ปฎิเสธไม่ได้ว่าคำถามข้างบน เป็นหนึ่งในความฝันของผู้ชายที่รักการสวมรองเท้า DRESS SHOES เป็นประจำทุกคนอยู่แล้ว ไม่ว่าจะด้วยความหลงใหลส่วนตัวจากแฟชั่น CLASSIC MEN’S WEAR / SATORIAL หรือเพราะว่าต้องสวม DRESS SHOES ตัวเก่งเพื่อออกไปทำงานทุกเช้า ตกเย็นเข้างานสังคมก็ตาม KENNETH COLE คือแบรนด์รองเท้า Designer Shoes Brand สไตล์ New York Classy ที่มองเห็นว่าผู้ชายทุกคนควรจะสามารถใส่รองเท้าแบบ DRESS SHOES ได้ทุกโอกาส และพยายามที่จะเป็น DRESS
บนหน้าปัดโทนสีทองที่ถูกโอบล้อมไปด้วยแผ่นวงแหวนสีดำเซรามิก ซึ่งจับคู่กับสเกลนาทีสีเบจบนขอบตัวเรือน Stainless Steel ของนาฬิการุ่นใหม่ SEIKO Prospex 1968 Heritage Diver’s GMT ที่มาในคอนเซปต์ ‘The Night Of Siam’ นั้น มีภาพประวัติศาสตร์ที่อัดแน่นไปด้วยเรื่องราววัฒนธรรมของผู้คน ณ ช่วงเวลาที่กรุงเทพมหนาครฯ ถูกเรียกว่า ‘สยาม’ ซ่อนอยู่ แรงบันดาลใจของนาฬิการุ่น ‘The Night Of Siam’ เกิดขึ้นจากช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านของวัน ตอนที่ อาทิตย์กำลังจะลาลับขอบฟ้า โมเมนต์สั้น ๆ แสนสำคัญตอนที่ดวงอาทิตย์กำลังจะหายไปพร้อมกับการฉายแสงอร่ามทั่วพื้นที่ เกิดเป็นโมเมนต์ที่เมืองเจิดจรัสและโอ่อ่าที่สุดของวัน ผู้คนออกมาพบปะกัน เสียงดนตรีในบาร์ที่กำลังเตรียมจะบรรเลง วิวที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่สวยที่สุดที่หนึ่งในโลกเผยตัวเองออกมาให้ทุกคนได้เห็น เพราะฉะนั้น การที่คอลเลกชั่นสุดพิเศษ LIMITED EDITION ผลิตเพียง 500 เรือนทั่วโลก ก็ยังหมายถึงช่วงเวลา MAGIC HOUR ของกรุงเทพ เป็นจำนวนที่เป็นภาพสะท้อนของช่วงเวลาสั้น ๆ ที่ช่วงเวลาต้องมนตร์ของกรุงเทพเผยตัวให้เห็นในเวลาไม่กี่วินาทีของวันเหมือนกัน ในบทความนี้ UNLOCKMEN ขอพาทุกคนไปดื่มด่ำช่วงเวลาก่อนที่กรุงเทพจะเข้าสู่ยามค่ำคืนผ่านนาฬิกา
เมื่อแบรนด์ ‘เศรษฐสิริ’ ของ Sansiri กลับมาตอกย้ำภาพของความเป็นโครงการบ้านเดี่ยวแบบ “Portrait of Success” ความลักซ์ชัวรีที่จะตอบโจทย์กับความสำเร็จของกลุ่มลูกค้า Success Younger อย่างภาคภูมิแบบยกระดับขึ้นไปอีกขั้น ใน โครงการเศรษฐสิริ ราชพฤกษ์ – พรานนก (SETTHASIRI RATCHAPRUEK – PHRAN NOK) มันทำให้เราตั้งคำถามต่อทันทีเลยว่า ภาพที่ใช้คำว่า ‘ความสำเร็จ’ ของโครงการบ้าน ราชพฤกษ์ – พรานนก นั้นจะต่างจากบ้านอื่นของโครงการเศรษฐสิริอย่างไร เช็คลิสต์ไหนบ้างที่โครงการนี้จะเข้ามาเติมเต็มชีวิตของผู้อยู่อาศัยที่มองหาทั้งความสงบพร้อมความสะดวกของการใช้ชีวิต .. แต่สงสัยได้ไม่นาน แสนสิริตอบคำถามของเราด้วยภาพและ Benefits ทั้งหลายของโครงการ PRIME LOCATION WITH BEST BENEFITS AREA โลเคชั่นของ โครงการเศรษฐสิริ ราชพฤกษ์ – พรานนก สามารถเข้าออกได้ 2 ทาง ทั้งจากถนนพรานนก-พุทธมณฑล สาย 4 และถนนราชพฤกษ์ ทำให้สามารถเดินทางเขาถนนสายหลักได้หลายเส้น
ช่วงนี้ก็จะได้ยินเพลงของ Bakery Music บ่อยหน่อยเนาะ เพราะว่าโปรเจกต์ Back To The Bakery VOL.2 ที่เพิ่งปล่อยออกมาทั้ง 9 เพลงนั้น มันชวนให้รู้สึกเหมือนกับว่าเข็มเวลาที่เคยหยุดไปของเพลงในช่วงเวลา 90s ได้กลับมาเดินอีกครั้ง เพลงที่ยังคงดังอยู่ในหัวใจของชาว Bakerian เสมอทุกครั้งที่เปิดฟัง วงการเพลงไทยไม่เคยเหมือนเดิมตั้งแต่จุดเริ่มต้นในปี 1994 ของการก่อตั้งค่ายเบเกอรี่ เบื้องหลังความสำเร็จของค่ายเพลงไทยที่ทำอะไรไม่เหมือนใคร และตามใจตัวเองสุด ๆ (อ้างอิงจากคำพูดของป๋าเต็ด) มีเพื่อนสำคัญคนหนึ่งที่สามารถใช้เนื้อเพลงของวง PAUSE “เพื่อนฉันคนนี้นั้นไม่มีวันห่าง และไม่มีวันจากไปไหน” นิยามได้ เขาคนนั้นคือ ‘ไฮเนเก้น’ แบรนด์ที่ซัพพอร์ตเบเกอรี่มาตั้งแต่วันแรก ๆ เพราะเชื่อว่าความแตกต่างคือเชื้อเพลิงสำคัญที่จะขับเคลื่อนวงการเพลงไทยให้วิ่งต่อไปข้างหน้าได้ .. และการที่ Bakery Music ได้ส่งแรงบันดาลใจมากมายให้กับวงดนตรีไทยมาจนถึงยุคปัจจุบัน ก็ตอบได้อย่างชัดเจนว่าไฮเนเก้น คิดถูกต้อง ด้วยความรักที่มีให้กับ Bakery Music และความชื่นชมที่มีให้กับสิ่งที่ไฮเนเก้นทำ UNLOCKMEN ขอใช้โพสต์นี้เล่าช่วงเวลาที่หอมหวานที่สุดครั้งหนึ่งของประวัติศาสตร์วงการเพลงไทย ผ่านเรื่องราวความผูกพันระหว่างค่ายเล็ก ๆ ค่ายหนึ่งที่ทำในสิ่งที่ตัวเองเชื่ออย่างแรงกล้า กับแบรนด์ที่เชื่อมั่นในความตั้งใจตรงนั้นไม่ต่างกัน การร่วมมือที่ทำให้วงการเพลงไทยไม่เหมือนเดิมอีกเลย เชื่อว่าทุกคนรู้จัก
6lur (เบลอ) อัลบั้มที่ 6 ของ Slur เป็นเหมือน ‘สายลม’ ที่พัดพาช่วงเวลา ความรู้สึก ไปพร้อมกับการกักเก็บความทรงจำของคนฟังเอาไว้อยู่ในมวลอากาศ จะเปิดฟังแบบที่ไม่ต้องโฟกัสก็ได้ แต่ในวันที่เปิดฟังจริงจังก็ยิ่งรู้สึกมากเหลือเกิน โดยเฉพาะพาร์ทของเพลงเศร้าที่ทำให้เราคิดย้อนกลับไปถึงวันที่ฟังอัลบั้มแรก Boo! ในมุมที่ว่า ‘ความ Youth Power แบบ Slur มันโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นอีกครั้งแล้วว่ะ’ พลังวัยรุ่นในวันนั้นมันถูกเคี่ยวจนงวดเป็นความมันส์ด้วยท่าทีที่สุขุมขึ้น เศร้าอย่างเข้าใจ และซ่าแบบที่ลิมิตจะไปถึง การได้ฟังเพลงในอัลบั้มนี้หลาย ๆ รอบเพื่อเขียนถึง ทำให้เข้าใจความเป็น Slur หลาย ๆ อย่างที่ไม่เคยมองเห็นเหมือนกันนะ อย่างเนื้อร้องของพี่เย่ที่เลือกเพียงคำที่ทำงานกับความรู้สึกจริง ๆ ไลน์กีตาร์ของพี่เฮาส์ดีไซน์ให้มีความเย็น ๆ ซนแต่ไม่ซ่าจนเกินไปก็เข้ากับความเป็น Slur ในยุคหลังได้ถูกต้องที่สุด ไลน์เบสของพี่บู้ที่มีความแฟชั่นดีไซน์ไม่ตีกรอบอยู่เสมอ และริทึ่มกลองของพี่เอมที่หวดแบบวิ่ง ๆ สับ ๆ ริทึ่มที่เป็นมากกว่าให้จังหวะแต่ยังเป็นเหมือนเมโลดี้คุมตัวตนความซนของ Slur ในทุกเพลง Next Cover, Same Mood ตอนล่าสุดเลือกหนังและซีรีส์สำหรับคนที่มูฟออนจากเพลงหลากอารมณ์ในอัลบั้ม 6lur ไม่ได้