เห็นหัวข้อแบบนี้ คนที่ไม่ได้ออกกำลังกายหรือจริงจังกับการออกกำลังกายมากนักคงจะงงว่า “แค่กินหรือไม่กินก่อนออกกำลังกายมันจะอะไรนักหนา” แต่เราบอกเลยว่าถ้าใครได้ลองเข้ายิมจริงจังหรือออกกำลังกายสม่ำเสมอ คำถามนี้คือคำถามแรก ๆ ที่พวกเขาสงสัยกัน เหตุผลง่าย ๆ คือ หลายคนกลัวว่าถ้าไม่กินก็กลัวว่าจะออกกำลังกายได้ไม่นาน ไม่อึด ไม่มีแรง หรือตอนกินข้าวตามหลังออกกำลังกายเสร็จอาจจะโหมหนักกว่าจนน้ำหนักพุ่งพรวด ไอ้ที่พยายามรักษามาออกแรงแทบตายอาจจะไม่มีผล ขณะที่ฝั่งที่กิน ก็กังวลว่ามันจะจุกไหม หรือต้องกินอะไรดีถึงจะเหมาะสม และเพราะเรื่องนี้ “เรื่องกินกับออกกำลังกาย” จึงยังเป็นคำถามระดับชาติของคนออกกำลังกายที่ UNLOCKMEN ไปหาข้อมูลมาไขปริศนาจากผลวิจัย งานวิจัยระดับยีน ผู้ทดลองระดับน้ำหนักเกิน ผลการศึกษาใหม่ของนักวิทยาศาสตร์สุขภาพจาก the Universities of Bath and Birmingham ที่ตีพิมพ์ในวารสาร the Journal of Clinical Endocrinology and Metabolism เป็นงานวิจัยที่ประเมินผลผลกระทบเฉียบพลันและถาวรด้านการใช้ไขมันและกล้ามเนื้อของร่างกายเมื่อออกกำลังกายและการเผาผลาญของกลูโคสช่วงกลางวัน เปรียบเทียบระหว่างก่อนและหลังรับสารอาหาร โดยวัดจากปฏิกิริยาของยีนในเนื้อเยื่อไขมันที่ตอบสนองต่อการออกกำลังกาย 30 คนกับ 6 สัปดาห์แห่งการพิสูจน์ความจริง รูปแบบการวิจัย เริ่มด้วยการนำผู้ชายทั้งหมดที่มีโรคอ้วนหรือมีน้ำหนักเกิน 30 คน มาแบ่งกลุ่มเป็น 3 กลุ่มเพื่อทำกิจกรรมที่แตกต่างกัน จากนั้นเปรียบเทียบผลการทดลองและสรุปผล
ในสังคมที่เทคโนโลยีก้าวไกลขึ้นทุกวัน ผู้คนดูเหมือนจะตัวใครตัวมัน ไม่ค่อยได้พึ่งพากัน อยู่มาเป็น 10 ปีบางทีเราอาจจะไม่รู้จักคนข้างบ้านเลยก็ได้ เพราะสนใจโลกโซเชียลหรืออินเทอร์เน็ตมากกว่าจนบางคนก็มองว่ายุคนี้เป็นยุคแล้งน้ำใจ แต่ความจริงโลกไร้พรหมแดนที่ทุกคนเชื่อมถึงกันได้โดยไม่ต้องเดินทางผ่านอินเทอร์เน็ตนี้ ก็ยังมีแง่มุมเกื้อกูลและมิตรภาพอีกหลายด้านที่คุณอาจยังไม่รู้ ผู้คนเริ่มสร้างสรรค์ข้อมูลและการระงับวิกฤตกันผ่านช่องทางออนไลน์ และอาจมีใครอีกหลายคนที่ยังไม่รู้ว่า “เรามีสิ่งนี้เกิดขึ้นบนโลกด้วยเหรอ” ให้ทำกันในช่วงนี้ 4 สิ่งต่อไปนี้ที่เราเฟ้นมาจากทั่วโลก ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ บางอย่างอาจจะเป็นทางออกให้ชาว UNLOCKMEN และคนอื่น ๆ ได้ MASK MAP THAILAND หน้ากากที่หายไปให้เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม แต่ตอนนี้ถ้าจะหาหน้ากากอนามัยมาใช้งานแบบไม่ต้องแห้วไปเดินสุ่มตามร้านขายยาอีกต่อไป เพราะล่าสุดในไทยมีเว็บไซต์ตามหาพิกัดหน้ากากอนามัยแบบเรียลไทม์ที่เพิ่งจะเปิดตัวเมือ่ไม่กี่วันมานี้แล้ว! ไอเดียสุดสร้างสรรค์นี้คือไอเดียของ Eggyothin Pila ชายไทยที่เอาความสามารถที่มีปั่นสร้างแผนที่เจาะตำแหน่งให้คนเข้าไปคีย์บอกจำนวนหน้ากากอนามัยแบบเรียลไทม์ โดยเขาเผยผ่านสเตตัสส่วนตัวในเฟซบุ๊กว่าได้รับแรงบันดาลใจจากข่าวการแก้ไขปัญหาของรัฐมนตรีไต้หวันที่ให้ทีมงานสร้างแอปฯ เพื่อดูสต็อกหน้ากากแบบเรียลไทม์ และภายใน 2 วันที่เขาทุ่มเท ในที่สุดวันนี้มันกลายเป็นเครื่องมือที่สามารถช่วยคนทั้งประเทศได้! ข้อดี สามารถ Track สถานที่ขายที่อยู่ใกล้เราได้ทันที และมีรายละเอียดให้ทั้งชื่อร้านและเบอร์โทรศัพท์ติดต่อกรณีที่เราต้องการสอบถามข้อมูล รู้ราคาและจำนวนสินค้าเพื่อตัดสินใจตามกำลังเงินในกระเป๋า ข้อเสีย ยังมี Bug สำหรับการใช้งานอยู่บ้าง ระบบอาจรวนในบางครั้ง ระบบไม่มีการยืนยันข้อมูล หากผู้ไม่ประสงค์ดีเข้าไปกรอกรายละเอียดอาจสร้างมีจำนวนลวงเกิดขึ้นบนแผนที่ GUIDEBOOK จากมูลนิธิ ALIBABA CLOUD
ต้องยอมรับว่าวันนี้หลายคนหวั่นใจกับการไปอยู่ร่วมกับคนอื่นทั้งคนแปลกหน้าและคนใกล้ชิด เพราะยอดการติดชื้อที่เพิ่มขึ้นโดยจับมือใครดมไม่ได้ ค่าตรวจเชื้อก็โหดเอาเรื่อง แพงกว่าค่าซื้อประกันไปอีก ดังนั้น ทุกธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจึงต้องออกระบบการจัดการเพื่อเรียกความเชื่อมั่นกลับมา UNLOCKMEN รวบรวมไอเดียจาก 5 ธุรกิจเสี่ยงที่ไม่ยอมแพ้และลุกขึ้นมาปรับตัว เปลี่ยนกลยุทธ์การให้บริการเพื่อเอาตัวรอดในสถานการณ์นี้ เพื่อเรียกความเชื่อมั่นกลับมาอีกครั้ง ใครที่อยู่ในธุรกิจอุตสาหกรรมเดียวกัน เคยสับสนว่าจะทำอย่างไรนอกจากรอมาตรการเยียวยา เราว่านี่คือโอกาสดีที่ทุกคนจะลุกขึ้นมาเริ่มต้นปรับเปลี่ยนตัวเองเพื่อหาทางออกก่อน ใครอยากลอกวิชาการตลาดเดียวกันนี้ไว้ก็ไม่ว่ากัน นาทีนี้คงไม่มีใครจะมานั่งคิดค่าลิขสิทธิ์ “เพราะสุดท้าย เราหวังเสมอว่า พวกเราจะไม่อดตาย ก่อนที่ไวรัสจะเข้ามาฆ่าเรา” โรงภาพยนตร์เว้นระยะห่างให้นั่งสบายเป็นส่วนตัว เริ่มต้นด้วยธุรกิจที่กระทบทั้งขึ้นทั้งล่องเป็นแห่งแรกคือ “โรงภาพยนตร์” เพราะเดิมก็มีปัญหาเรื่องต้องชนกับบริษัทสตรีมมิงทุกเจ้าทั้ง Netflix, Apple TV, Disney+ และ Youtube จนรายได้หดแล้ว วันนี้พอมรสุม Covid-19 เข้ายิ่งทำให้การตีตั๋วน้อยเข้าไปใหญ่ จากเหตุผล 2 ข้อหลัก คือ โรงภาพยนตร์เป็นสถานที่ปิดที่ต้องอยู่ร่วมกับคนแปลกหน้า ตำแหน่งการใช้บริการที่คนซื้อตั๋วมาต้องนั่งติดกัน การแก้เกมเบื้องต้นเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อเพิ่มความปลอดภัยของโรงภาพยนตร์จากเครือเมเจอร์ซินิเพล็กซ์จึงเป็นการประกาศเว้นระยะห่างในโรงภาพยนตร์ แบบแถวเว้นแถว และเว้นห่างระหว่างที่นั่งทุก 2 ที่นั่งเพื่อเป็นมาตรการป้องกัน COVID-19 ล่าสุดโรงภาพยนตร์ทั้งเครือเมเจอร์และ SF ได้ขยายมาตรการเพิ่มระดับความปลอดภัยด้วยการประกาศปิดโรงภาพยนตร์ตามมติ ครม. ชัตดาวน์สถานบันเทิง-ร้านนวดใน กทม.-ปริมณฑล 14 วัน
โลโก้กว่าจะดังติดตาต้องสั่งสมบารมีไว้หลายปีดีดัก ดังนั้นบางอย่างที่แม้เป็นของธรรมดา ถ้าปะสิ่งที่เรียกว่าโลโก้เข้าไป มันจะกลายเป็นของมีค่ามีราคาขึ้นมาทันที อาจจะโดดไปแตะหมื่นแตะแสน แตะความเป็นลิมิเต็ดที่คนทั้งโลกคลั่งไคล้ชั่วพริบตา แต่ใครจะจินตนาการออกว่าถ้าเอาโลโก้มาสร้างบ้านจะเป็นอย่างไร ? UNLOCKMEN นำผลงานการออกแบบทางสถาปัตยกรรมสุดน่าทึ่งของ Karina Wiciak จาก Warehouse Studio ที่เนรมิตโลโก้ที่เราคุ้นเคย เปลี่ยนเป็นอาคารสไตล์ Luxury น่าปักหลัก จนเปลี่ยนภาพลักษณ์จาก Dream Shoes หรือ Dream Cars กลายเป็น Dream Houses ได้ง่าย ๆ เริ่มที่ตัวแรก พอเดาออกไหมว่านี่คือแบรนด์อะไร ? Trihouse : Adidas บอกเลยตอนแรกเรามองไม่ออก แต่พอข้ามกระจกไป เพ่งไปที่วัสดุอย่างหิน ภาพสามขีดที่คุ้นเคยจาก Adidas ก็ชัดกระแทกเข้าเบ้าตาทันที อาคารหลังนี้ชื่อว่า Trihouse ได้แรงบันดาลใจการออกแบบมาจากแบรนด์ Adidas จุดที่น่าสนใจอยู่ที่การสร้างสเปซลวงตา ถ้ามองปกติตามแนวเส้นทแยงของอาคารเราจะรู้สึกว่าอาคารเอียง แต่กระจกที่โชว์พื้นที่ใช้สอยด้านในทำให้เห็นระนาบขนานพื้นดิน ทำให้อาคารหลังนี้มีเสน่ห์มากขึ้น สอดรับกับบริบทแวดล้อมรอบข้างอย่างลงตัว The Ringshouse :
เสื้อผ้าสำหรับบางคนอาจจะมองว่าเป็นอุตสาหกรรมใส่แล้วทิ้ง สร้างขยะ แต่สำหรับผู้ชายเราที่ไม่ได้ซื้อเสื้อผ้าเปลี่ยนบ่อยและไม่ได้ตามเก็บทุกคอลเลกชันของแบรนด์โปรดขนาดนั้น เรารู้ดีว่าเราจะเลือกเสื้อทน ๆ อยู่กันยาว ๆ มากกว่าเสื้อสวย ๆ ส่วนเงินที่เหลือก็เก็บไว้ซื้อ gadgets ล้ำ ๆ หรือ Toy boy ที่ชอบแทน แต่ถ้ามีเสื้อที่ผลิตมาโดยเคลมว่า “มันทนทานอยู่ได้เป็น 100 ปี” ล่ะ เราจะยังกล้าซื้อมาใส่อยู่ไหม เพราะไม่รู้ว่าระหว่างเรากับเสื้ออะไรจะตายจากกันไปก่อน หรือเราจะเบื่อมันก่อนไหม เพราะยังไงเสีย มันก็ไม่มีทางพังในชั่วอายุขัยของเราแน่นอน VOLLEBAK ผู้เชี่ยวชาญการผลิตเสื้อผ้าได้ผลิตเสื้อ “100 Year Hoodie” โดยเริ่มรุ่นแรกตั้งแต่ปี 2017 และรุ่นล่าสุด (รุ่นที่ 3) ใช้เวลาวิจัยกว่า 2 ปี และผลิตชุดอย่างประณีตอีก 40 สัปดาห์ ในที่สุดผลงานเสื้อฮู้ดพันธุ์แกร่งรุ่นที่ 3 ก็ออกมาให้ยลโฉม พร้อมสั่งซื้อไปใช้งาน โดยการันตีความทนทานว่ามันจะอยู่ได้นานเป็น 100 ปีและทดสอบให้เห็นจะจะ ชนิดคนรักเสื้อเห็นแล้วรู้สึกสงสารแทน คุณสมบัติกว่าจะเป็นรุ่นที่ 3 100 Year
ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไรที่สิทธิในเรือนร่างเรากลายเป็นของสังคม แม้ไม่ใช่ด้วยกฎหมายกำหนดแต่ก็ด้วยไม้บรรทัดอีกชิ้นจากสายตาผู้คนรอบข้าง สำหรับผู้หญิงคงมีเรื่อง “โป๊เปลือย” กำกับส่วนผู้ชายมักเป็นเรื่อง “รอยสัก” ที่นำมาตีตราว่าเป็นคนไม่น่าวางใจ เป็นนักเลงหัวไม้ สารพัดความหมายเชิงลบมาผสมกัน “Exaggerate” คือ Solo Exhibition หนึ่งที่กำลังจัดแสดงที่ Green Lantern Gallery ใกล้ BTS ทองหล่อ เล่าเรื่องราวของศิลปะบนร่างกายทั้งหญิงและชายผ่านภาพถ่าย เพื่อดึงให้เรากลับมาคิด คิดถึงความหมายที่แท้จริงผ่านศิลปะบนร่างกายที่เปลือยเปล่า คิดถึงลวดลายสักยันต์โบราณและความคิดคำนึงที่แท้จริงของชายคนหนึ่งที่มีอักขระจารทั่วร่างไปจนถึงกระหม่อม บันทึกช่วงเวลาเปิดเผยเนื้อหนัง ไร้เสื้อผ้าและเส้นผมปิดบังผ่านชัตเตอร์ เรื่องราวเหล่านี้มีความหมายอย่างไร แบบไหนที่ “ว่าเกินจริง (Exaggerate)” แบบไหนที่เป็นของจริง คงไม่มีใครพูดถึงมันได้ดีกว่าเจ้าของผลงานชิ้นนี้ ภัทร – พงศ์ธวัช พยุงชัยธนานนท์ ชายที่มีอาชีพช่างภาพอิสระจบการศึกษาด้านศิลปะการถ่ายภาพจากวิทยาลัยเพาะช่าง ที่หลายคนอาจคุ้นเคยหน้าตาของเขาจากการจำหน่ายกล้องฟิล์ม เพราะเขาคือเจ้าของ House of Film Camera สิ่งที่เห็นอาจไม่ใช่สิ่งที่เป็น ศิลปะที่รอการพิสูจน์ เราบุกมานั่งคุยกับภัทรถึงสตูดิโอส่วนตัวของเขา หลังจากดูงานนิทรรศการเดี่ยวของเขาจบลง ภาพผู้ชายท่าทีสุภาพที่มีรอยสักหลายจุดบนเนื้อตัว ทั้งท่อนแขนและขา ชวนให้เราคิดถึงภาพที่จัดแสดงในห้องสีแดงอีกครั้ง จนเราต้องเอ่ยถามคอนเซ็ปต์งานที่เขาต้องการสื่อในนิทรรศการครั้งนี้ “คอนเซ็ปต์คือ Exagerate หรือ ‘ว่าเกินจริง’ เกินจริงที่แปลว่าพูดเกินความจริงที่เห็น และเกินจริงที่เป็นเรื่องเหนือจริงผสมกัน
หลังจากครั้งที่แล้วที่เราทำคอนเทนต์บอกวิธีทิ้งหน้ากากอนามัยใช้แล้วทิ้งให้ถูกวิธีไปคราวที่แล้ว ครั้งนี้ก็เป็นอีกปัญหาที่ UNLOCKMEN สงสัยอย่างเรื่องการป้องกันโรคด้วยการทำความสะอาดบ้าน เพราะหน้ากากอนามัยอาจจะใช้แล้วทิ้ง แต่พวกข้าวของที่ออกไปนอกบ้านพร้อมกับเราล่ะ ใช้แล้วจะทำอย่างไร แปลว่าต่อให้เราคิดว่าในบ้านเรามันปลอดเชื้อแค่ไหนเพราะไม่มีสมาชิกคนไหนติดเชื้อ แต่สุดท้ายโอกาสที่เราหรือคนอื่น ๆ จะนำไวรัสกลับมาอยู่ที่บ้านก็ยังมีอยู่ดี บ้านที่น่าจะปลอดภัยจึงอาจกลายเป็นสถานที่อันตรายที่สุดได้หากไม่หมั่นทำความสะอาด แต่เอาเป็นว่าก่อนจะไปกำจัดมัน ต้องเริ่มต้นจากความเข้าใจมันก่อน COVID-19 ปัจจุบัน เชื้อที่แค่ถูกน้ำสบู่ก็ตายแล้ว ? แม้จะสามารถติดเชื้อระหว่างบุคคลได้ง่าย ทำให้ระบาดจนกลายเป็นเชื้อไวรัสที่หลายประเทศจับตาเฝ้าระวัง แต่เรื่องหนึ่งที่ต้องรู้คือ มันแพร่ง่ายมันก็ตายง่ายด้วยเช่นกัน เพราะตามข้อมูลที่แพทย์และกระทรวงสาธารณสุขเผยตรงกันคือเราสามารถฆ่าเชื้อไวรัสได้ด้วย “น้ำสบู่” วัสดุราคาถูกที่อยู่ใกล้มือ หน้ากากอนามัยหนึ่งชิ้นอาจจะแพงกว่าสบู่ก้อนเดียวที่เราใช้ได้หลายครั้งเสียอีก ความจริงเรื่องนี้มาจากเหตุผลที่ ดร.วีระพงษ์ ประสงค์จีน อาจารย์ประจำคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เจ้าของเพจ ดร. แกง อธิบายไว้สรุปการฆ่าเชื้อด้วยน้ำสบู่ดังนี้ ไวรัสไม่ใช่สิ่งมีชีวิต อยู่ลำพังไม่ได้ แต่ต้องอาศัยสิ่งมีชีวิต (Host) เป็นตัวจับเพื่อผลิตชิ้นส่วนชีวิต การเพิ่มจำนวน และเดินทางออกจากเซลล์พักพิงไปสำรวจเนื้อเยื่อและอวัยวะอื่นๆ ตัวไวรัสโควิด-19 ที่กำลังระบาดอยู่ตอนนี้เป็นไวรัสประเภทมีเยื่อหุ้ม (Envelope) และเยื่อหุ้มของมันประกอบด้วยสารไขมันและโปรตีนเป็นส่วนประกอบเลยยิ่งง่ายต่อการถูกทำลายเมื่อเจอน้ำสบู่ ทั้งหมดเกิดจากโมเลกุลสบู่มีส่วนประกอบ 2 ส่วนคือส่วนหัวกับส่วนหาง ส่วนหัวชอบน้ำแต่ส่วนหางไม่ชอบน้ำ ดังนั้นเวลาล้างมือส่วนหางของโมเลกุลที่ไม่ชอบน้ำจึงไปจับไขมันในเยื่อหุ้มไวรัส จากนั้นเมื่อไขมันโดนแย่งออกจากเยื่อหุ้มไวรัส เยื่อหุ้มก็โดนทำลาย ทำให้ไวรัสอยู่ไม่ได้จึงต้องตายไปในที่สุด แล้วเราต้องล้างมือด้วยสบู่กี่รอบต่อวัน ?
ช่วงนี้คนที่กำเงินไปลงทุน หัวใจคงเต้นไม่เป็นจังหวะเพราะเห็นชัดว่าเศรษฐกิจขาลงสุด ๆ พอร์ตก็แดง บิตคอยน์ก็ร่วงหลายกิจการได้รับผลกระทบเรื่องโควิด-19 จนเซกันเป็นแถวไม่ทางตรงก็ทางอ้อม UNLOCKMEN เชื่อว่าทุกคนคงเกิดคำถามและพยายามหาคำตอบว่าควรตั้งหลักอย่างไรกับเงินที่มีและการลงทุนช่วงนี้ ยิ่งวันนี้ SET ลงแตะ 1,100 จุดแล้ว เบรกแตกจนไม่รู้ว่าจะแหกโค้งไปถึงไหน! เพื่อไขข้อสงสัยด้านการลงทุน จะมีอะไรดีไปกว่าการถามกูรูการลงทุนหนุ่มเจ้าของหมวกกันน็อกที่ปิดบังหน้าตา แต่เป็นเจ้าของหนังสือและสื่อออนไลน์ที่วิเคราะห์ด้านการลงทุน “ลงทุนแมน” กับ 4 คำถามที่เราเชื่อว่าหลายคนสงสัยไม่ต่างกัน Q1: มนุษย์เงินเดือนที่อยากลงทุนตอนนี้ ควรลงทุนด้านไหนถึงจะดี หรือควรเก็บเงินสดไว้ในมือก่อน ลงทุนแมน: ทุกช่วงเวลา มีโอกาสลงทุนได้เสมอ ขึ้นอยู่กับว่าเรามีความเข้าใจในสิ่งที่เราลงทุนมากแค่ไหน การลงทุนที่เหมาะสมของแต่ละคนอาจต่างกัน บางคนรับความเสี่ยงได้น้อย บางคนรับความเสี่ยงได้มาก หลายคนคิดว่าลงทุนต้องให้ผลตอบแทนมากที่สุด แต่จริง ๆ แล้วการลงทุนเราต้องได้ผลตอบแทนภายใต้สิ่งที่เราสบายใจด้วย ต่อให้ได้ผลตอบแทนเป็น 100% แต่ถ้านอนไม่หลับ เครียด มานั่งวิตกรายวัน ไม่แนะนำ เพราะสภาพจิตใจของเราสำคัญกว่าตัวเงินเสียอีก ความสบายใจในการลงทุนของแต่ละคนก็แตกต่างกัน ขึ้นกับความเข้าใจในสิ่งที่ลงทุน ในธุรกิจเดียวกันบางคนอาจเข้าใจเป็นอย่างดี แต่บางคนอาจไม่เข้าใจเลย ดังนั้นคำตอบของเรื่องนี้ก็คือ ต้องถามกลับว่าเราเข้าใจในสิ่งที่เราจะลงทุนมากแค่ไหน สินทรัพย์นั้นคืออะไร ทำธุรกิจอะไร โครงสร้างรายได้คืออะไร กรณีเลวร้ายที่สุดของธุรกิจนั้นคืออะไร ถ้าเราเข้าใจดีแล้ว
เมืองไทยเมืองร้อน อุณหภูมิเดือดปุด ๆ เดือน 3 แบบนี้ทำให้เหงื่อออกทั้งหน้าและตามข้อพับ แต่ไอ้ที่เจ็บสุดคงไม่พ้นซอกแร้ที่ดับความมั่นใจเวลาพรีเซนต์และออกไปข้างนอกของเราทุกที บางคนหาทางแก้ด้วยการนั่งในห้องแอร์ อยู่ในที่อุณหภูมิต่ำ ๆ เน้นออกจากบ้านเฉพาะช่วงฤดูหนาว ซึ่งมันก็พอช่วยได้ แต่ไอ้ช่วยได้นี่มันไม่ได้ใช้ได้กับทุกคน และถ้าคุณคือคนนึงที่สังเกตว่าต่อให้อยู่ที่เย็นพอจะเลี้ยงเพนกวินได้ ตัวจะแข็งตาย ไอ้รักแร้เจ้ากรรมมันก็ผลิตเหงื่อออกมาเรื่อย ๆ เป็นดวง ๆ บนเสื้อผ้า ไม่รู้ว่ามาจากสาเหตุอะไร UNLOCKMEN มีคำตอบ ดื่มแอลกอฮอล์ ขณะที่ร่างกายร้อนผ่าวเพราะแอลกอฮอล์วิ่งผ่านลำคอสิงห์คอทองแดงอย่างเรา ๆ รักแร้เราก็ดันเปียกต่อหน้าสาว ๆ เสียได้ ทั้งหมดเพราะผลกระทบจากแอลกอฮอล์ทำให้หัวใจเราสูบฉีดและเป็นสาเหตุให้หลอดเลือดขยายและคลาย ร่างกายก็พยายามจะลดอุณหภูมิในร่างกายจึงผลิตเหงื่อออกมา ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจว่าต่อให้ในบาร์จะเย็นแค่ไหน เหงื่อก็ออกได้เช่นกัน เครียด ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ความเครียดที่อยู่ในสมองเรามันไม่แค่ทำให้เรามือเท้าเย็นเท่านั้น แต่มันยังทำให้รักแร้เปียกได้ด้วย เหตุผลมาจากความเครียดมันสัมพันธ์กับต่อมเหงื่อ Apocrine sweat glands ที่เป็นต่อมเหงื่อสร้างกลิ่นเป็นหลัก (ต่อมนี้จะอยู่บริเวณรักแร้ อวัยวะเพศภายนอก และบริเวณรอบ ๆ ทวารหนัก) ออกกำลังกายบ่อย รู้ไหมว่าการออกกำลังกายบ่อย ๆ จะช่วยเพิ่มความสามารถของร่างกายเราให้ผลิตเหงื่อระบายความร้อนออกจากกร่างกายได้มากขึ้น ดังนั้น คนที่ออกกำลังกายบ่อย ๆ เป็นกิจวัตร มักจะเหงื่อออกมาระหว่างออกกำลังและขยับแขนขาได้ง่ายไม่เกี่ยวสภาพอากาศ
การหยุดวิกฤตสถานการณ์โควิด-19 วันนี้ เรื่องยากไม่ใช่วิธีรักษาแต่เป็นการกักกันการแพร่ระบาดของเชื้อมากกว่า เพราะวันนี้คนที่เป็นพาหะของเชื้ออาจจะไม่แสดงอาการและแพร่ไวรัสสู้คนรอบข้างจนลุกลามได้ หลังจากที่มหาเศรษฐีทั่วโลกพยายามใช้เงินที่มีหยุดวิกฤตนี้ Bill Gates เองก็ไม่นิ่งนอนใจ อัดฉีดเงินไปสู้เหมือนกัน และล่าสุดหนึ่งในโครงการที่เขาจัดตั้งอย่าง Bill and Melinda Gates Foundation ที่ตั้งอยู่ในเมือง Seattle ก็คิดค้นวิธีระงับไฟตั้งแต่ต้นลม โดยประกาศว่าจะปล่อยชุด Home Testing Kits ซึ่งคาดการณ์ว่าจะสามารถทดสอบได้กว่า 400 การทดสอบต่อวัน หลักการตรวจจะใช้พื้นฐานมาจากวิธี Nose-swab ซึ่งเป็นการทดสอบทางการแพทย์เกี่ยวกับผู้ที่มีปัญหาด้านระบบทางเดินหายใจทั่วไปอยู่แล้ว จากนั้นจะเอาอุปกรณ์ตัวนี้ส่งไปให้กระทรวงสาธารณสุขตรวจอีกครั้งเพื่อให้แจ้งผลกลับภายใน 2 วันว่าคุณมีผลทดสอบเป็น positive หรือเปล่า ถ้าพบเชื้อ เขาจะส่งแบบทดสอบออนไลน์มาให้กรอกอีกครั้งเพื่อระบุว่าก่อนหน้านี้เราเคยมีความเคลื่อนไหวอย่างไร พบปะใครบ้าง ซึ่งข้อมูลทั้งหมดนี้จะส่งไปให้เจ้าหน้าที่เพื่อให้แจ้งสู่บุคคลเสี่ยงติดเชื้อให้ตรวจสอบและกักกักตัวเองต่อไป Scott Dowell จาก Bill & Melinda Gates Foundation ผู้เป็นแกนนำรับผิดชอบโปรเจกต์โคโรนาไวรัสให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อ the Seattle Times ว่า “แม้จะมีอะไรให้ทำอีกมาก แต่สิ่งนี้มีศักยภาพมหาศาลต่อการพลิกสถานการณ์แพร่ระบาดโรค สิ่งหนึ่งที่สำคัญจากมุมเราที่ทำได้ คือการระบุผู้ติดเชื้อเพื่อให้แยกเขาไปดูแลต่ออย่างปลอดภัยและระบุตัวผู้เกี่ยวข้องเพื่อกักกัน ป้องกันการแพร่ระบาด”