The Purge เป็นภาพยนตร์ที่ตีความได้หลากหลาย ถ้าคนดูแบบไม่คิดอะไร มันคือภาพยนตร์ Action โหดเลือดสาดที่ดูมันส์ ดูเพลิน แต่ถ้าคนดู The Purge เป็นคนสนใจเรื่องการเมือง ก็สามารถตีความการเสียดสีเรื่องสังคมการเมืองในอเมริกาได้เจ็บแสบเช่นกัน โดยเฉพาะ The Purge ภาคล่าสุด ‘The First Purge’ ที่ผู้กำกับจะพาย้อนไปไขความลับ จุดเริ่มต้นของการเริ่ม Purge เป็นครั้งแรก เวลา 12 ชั่วโมงในค่ำคืนไร้กฎหมาย การปลดปล่อยความอำมหิตในใจมนุษย์ที่สามารถฆ่าคนได้อย่างอิสระ เพื่อการสร้างชาติที่สงบปลอดภัยตลอดปี มี Crime Rate ต่ำกว่า 1% แต่การจะได้มา ย่อมต้องมีคนเสียสละกันบ้าง The First Purge ภาคนี้อาจจะมีกลิ่นอายที่เปลี่ยนไปจาก 3 ภาคแรก เพราะเป็นครั้งแรกที่เปลี่ยนตัวผู้กำกับเป็น Gerard McMurray ผู้เคยฝากผลงานไว้กับภาพยนตร์สุดเข้มข้น Burning Sands ได้รับความไว้วางใจให้นั่งตำแหน่งสำคัญ ไม่ต้องห่วงว่าเนื้อเรื่องจะเพี้ยนไป เพราะยังคงได้ James DeMonaco ผู้เขียนบทและกำกับ The Purge, The Purge:
เป้าหมายของงานดีไซน์ คือการยกระดับคุณภาพชีวิตที่มีอยู่ให้ดีขึ้น ไม่ใช่แค่ออกแบบให้ดูสวยงามเพียงอย่างเดียว ซึ่งการออกแบบสามารถเป็นอะไรก็ได้ แม้แต่ตัวหนังสือ โดยล่าสุดนักออกแบบ Kosuke Takahashi ผู้เกิดความสงสัยว่า ทำยังไงถึงจะอ่านอักษรเบรลล์ ซึ่งเป็นอักษรสำหรับคนตาบอด ประดิษฐ์โดย หลุยส์ เบรลล์ (Louis Braille) ครูตาบอดชาวฝรั่งเศส ทำให้คนตาบอดจำนวน 285 ล้านคนสามารถใช้ชีวิตตามปกติได้ Kosuke จึงเกิดไอเดียอยากออกแบบตัวอักษรที่ทำให้ทั้งคนตาดีและคนตาบอดใช้ร่วมกันได้ นี่จึงเป็นที่มาของ BRAILLE NEUE ฟอนต์สุดเท่เปลี่ยนโลกชุดนี้ Kosuke เริ่มการทดลองโดยการเอาตัวอักษรเบรลล์มา map เข้ากับตัวอักษรปกติ แน่นอนว่าการวางเข้าไปเฉย ๆ มันยังไม่พอ เพราะอักษรเบรลล์นั้นมีความซับซ้อน ไม่ได้ represent ตัวอักษรปกติได้มากนัก ตัวอย่างเช่นเลข 2 กับ 3 โดยเลข 2 ในอักษรเบรลล์จะเป็น 2 จุดเรียงลงมา แต่เลข 3 ก็มี 2 จุดเหมือนกัน ไม่ใช่ 3 จุด และเรียงเป็นแนวนอนด้านบน ยิ่งยากยิ่งท้าทาย
บอกตามตรงว่ามีไม่กี่รายการที่เรายังคงติดตามดูหน้าจอทีวีอยู่ นอกจาก บริษัทฮาไม่จำกัด อีกรายการหนึ่งก็คือ Iron Chef สมรภูมิเชฟกระทะเหล็ก ด้วยความเข้มข้นของการทำอาหารที่ยากเกินคนธรรมดาอย่างเราจะสามารถสร้างสรรค์ได้ ก็ขนาดทำข้าวผัดธรรมดา เรายังใช้เวลาเป็นชั่วโมง พร้อมข้าวของในครัวเละเทะเหมือนเกิดสงครามโลก การเห็นคนทำอาหารเก่ง ๆ ใช้วัตถุดิบเทพ ๆ แข่งกัน มันให้อารมณ์น่าติดตามอย่างบอกไม่ถูก ถ้าคุณก็ดูเหมือนกัน น่าจะเคยคิดอิจฉากรรมการ และเต็มไปด้วยความสงสัยว่า อาหารจากฝีมือเชฟเทพ ๆ เหล่านั้นรสชาติจะดีขนาดไหนกันนะ ด้วยความอยากลิ้มรสนี้เอง จึงกำเนิดเป็นร้านอาหาร Iron Chef ที่ The Taste ทองหล่อ 11 ซึ่งเป็นร้านที่แฟนรายการ และนักชิมที่อยากกินของดีที่สุดต้องเคยไปลองกันมาแล้ว กับอาหารที่รังสรรค์โดย บรรดาสุดยอดเชฟกระทะเหล็ก ทั้ง เชฟเอียน เชฟชุมพล เชฟบุญธรรม เชฟป้อม เชฟไก่ เชฟอาร์ท แต่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าร้านได้มีการปรับเปลี่ยน Concept ใหม่ กลายเป็น Iron Chef Dragon ที่เน้นรังสรรค์อาหารจีนร่วมสมัยเมนูสุดสร้างสรรค์ แปลกใหม่ วัตถุดิบจัดเต็ม ในรสชาติดีเกินบรรยาย Iron Chef
คนเราให้ความสำคัญของแต่ละอย่างไม่เท่ากัน อย่างเจ้าของบ้านหลังงามในเมือง Yokohama ครอบครัวนี้ เป็นบ้านที่รักการอ่านหนังสือมากเป็นพิเศษ จึงมีชั้นวางหนังสือที่ใหญ่โตกว่าบ้านทั่วไปนัก แต่ติดปัญหาที่ประเทศญี่ปุ่นนั้น ต้องพบกับแผ่นดินไหวบ่อย ๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แน่นอนว่าชั้นวางหนังสือที่ใหญ่โตขนาดนี้ ย่อมทำให้เสี่ยงอันตราย และชั้นวางรูปทรงทั่วไป ยิ่งทำให้หนังสือตกเสียหายได้ จึงตัดสินใจไปปรึกษากับบริษัทออกแบบ Shinsuke Fujii Architects ได้ออกมาเป็นบ้านในคอนเซปต์ชื่อ The Bookshelf House Shinsuke Fujii Architects แก้ไขปัญหาชั้นหนังสือ ด้วยการปรับเปลี่ยนมุมชั้นวางที่มีขนาดใหญ่เป็นส่วนหนึ่งของกำแพง ให้มีองศาโน้มเอียงลึกลงไปแบบเส้นทะแยงมุม แต่ละชั้นมีไม้ยื่นออกมาเหมือนขั้นบันได ช่วยให้ทุกคนในบ้านสามารถใช้งานได้ง่าย แม้ต้องปีนขึ้นไปหยิบหนังสือชั้นบนสุด ก็สะดวกเหมือนเดินขึ้นลงทั่วไป ที่สำคัญคือความปลอดภัยในสุขภาพของคนในบ้านเมื่อเกิดแผ่นดินไหว เพราะจะไม่โดนหนังสือถล่มทับ และสุขภาพของหนังสือสะสมหายาก ที่จะไม่หล่นลงมาชำรุดเสียหาย นอกจากชั้นหนังสือ พื้นที่ฟังก์ชั่งทั้งหมดของตัวบ้านออกแบบสไตล์ Seamless แทนที่จะแบ่งพื้นที่เป็นชั้น 1 ชั้น 2 เจ้าของบ้านตัดสินใจรวมพื้นที่ทั้งหมดเข้าไว้ด้วยกันให้ความรู้สึกเหมือนห้อง Penthouse ขนาดใหญ่ โต๊ะทานข้าวและครัวอยู่บริเวณด้านล่าง ส่วนด้านบนซึ่งเป็นพื้นยกระดับ เป็นส่วนของพื้นที่นั่งเล่น ห้องทำงาน และห้องนอน ไม่ใช่เด่นแค่ด้านใน ภายนอกก็ออกแบบได้เท่ไม่น้อย แผ่นเหล็กสีดำขนาดใหญ่ยาวต่อเนื่องตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่บนฐานคอนกรีต ทำให้เห็นประโยชน์ใช้สอยอีกอย่างของชั้นหนังสือจากภายนอก ซึ่งมุมทะแยงช่วยกันฝนขณะเปิดปิดประตูได้อีกด้วย และเพื่อความเป็นส่วนตัว
สำหรับคนที่เกิดในยุค 70’s – 80’s เป็นต้นมา น่าจะเติบโตพร้อมกับภาพความเท่ของมือกีตาร์วง Rock and Roll ที่ถือว่าหล่อกินเรียบกว่าใครในวง เป็นอาชีพที่เท่สุดยอดกว่าอาชีพใด ทำรายได้ถล่มทลาย สาววิ่งกรี๊ดตามรถตู้เพราะอยากจะโยนตัวเองเอาใส่บรรดามือกีตาร์เหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็นความคูลของ Slash กับกีตาร์ Gibson คู่ใจ หรือความเท่ของ The legendary Jimi Hendrix กับกีตาร์ Fender ข้างกาย แต่ใครจะไปคาดคิดว่าปัจจุบัน บริษัทกีตาร์ระดับขึ้นหิ้งทั้ง 2 แบรนด์ กำลังตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก เป็นหนี้ก้อนใหญ่มหาศาลและไม่มีทีท่าว่าจะหมุนมาจ่ายทัน เสี่ยงต่อการล้มละลายอย่างสูง ดูเหมือนยุคสมัยนี้จะเป็นยุคแห่งเก้าอี้ดนตรี ใครปรับตัวไม่ทัน ก็มีโอกาสล้มพับได้ทุกราย ไม่ว่าจะเคยยิ่งใหญ่มาแค่ไหน เอาง่าย ๆ ก็คือสิ่งที่เราเห็นจากวงการ Magazine ที่ปิดเล่มล้มกองกันจนเกือบหมดแผง จากการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภค ไม่เว้นแม้แต่ในอุตสาหกรรมกีตาร์ที่มี Big Player หลัก ๆ อยู่แค่ 2 แบรนด์ยักษ์ใหญ่ระดับ Iconic อย่าง Gibson และ
ก่อนหน้านี้ใครที่ไม่ได้ติดตามความเคลื่อนไหวของเรื่อง Technology อย่างจริงจัง อาจจะไม่รู้ว่า Honda นั้น นอกจากการมุ่งผลิตรถยนต์ที่มีคุณภาพสูง ช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้พวกเราในชีวิตประจำวัน พร้อมกับดูแลธรรมชาติรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างไม่หยุดยั้ง จากงาน Motor Show ที่ผ่านมา น่าจะทำให้ทุกคนได้เห็นและสัมผัสเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย เน้นการเข้าถึงไลฟ์สไตล์ของมนุษย์มากขึ้น และเทคโนโลยีพลังงานทางเลือกที่เป็นมิตรกับธรรมชาติมากขึ้น สิ่งที่ Honda เลือกมานำเสนอนั้น ทำให้เราเห็นทิศทางอนาคตที่ Honda มุ่งไปอย่างชัดเจน นอกจากความ Sporty ซึ่งเป็น DNA ของ Honda อย่างไม่ต้องสงสัย ดูได้จากเทคโนโลยีในรถยนต์หลาย ๆ รุ่น การรีดพลังที่ให้สมรรถนะเกินตัวจากเครื่องยนต์ตระกูล i-VTEC มาจนถึง VTEC Turbo ที่คนทั่วโลกยอมรับถึงเรี่ยวแรงมหาศาล พร้อมเทคโนโลยีประหยัดน้ำมันกว่าเครื่องยนต์บล็อคเดียวกันในตลาด และยังควบคุมการปล่อยไอเสียให้ต่ำกว่าระดับมาตรฐาน เป็นการขับเคลื่อนสังคมไปข้างหน้าได้อย่างมีสีสัน ลบภาพที่เคยถูกจำกัดว่า ความสปอร์ต ความปลอดภัย กับความประหยัดพร้อมลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ไม่สามารถพัฒนาไปพร้อมกันได้ เพราะ Honda พิสูจน์แล้วว่า Passion ทำให้สร้างสรรค์สิ่งเหล่านี้พร้อมกันได้จริง ในขณะเดียวกัน เราอยากจะแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกับอีกด้านของ Honda ที่ทุ่มเทใช้
ตลาดกล้องถ่ายรูปในประเทศไทยถือว่าเป็นตลาดที่มีการเติบโตสูงมาก เราสังเกตได้ง่าย ๆ จากไลฟ์สไตล์ของคนทั่วไป ที่จะเดินไปไหนก็พกกล้องถ่ายรูปติดตัวไปด้วยเสมอ จากที่เคยคาดการณ์กันว่ากล้อง Smartphone จะมาแทนที่กล้องถ่ายรูปได้ ก็กลับกลายเป็นกล้องสำหรับคนละวัตถุประสงค์ ไม่ได้เบียดแย่งลูกค้ากันอย่างที่เคยคิดไว้ และปัจจุบันตากล้องคนไทยก็พัฒนาความสามารถไปไกล รูปถ่ายที่เราเห็นบน Social Network ก็สวยงามดูดี คนที่ได้อานิสงส์ไปเต็ม ๆ ก็คงเป็นร้านขายกล้อง ปัจจุบันจึงมีการแข่งขันที่ดุเดือดเลือดสาดกันมากขึ้น ล่าสุดเราจึงไปพูดคุยกับคุณชิดชัย และคุณธนสิทธิ์ เธียรกาญจนวงศ์ 2 ผู้บริหารใหญ่ของ Big Camera เกี่ยวกับทิศทางการทำตลาดในปีนี้ ว่าจะมีไม้เด็ดอะไรในการรับมือกับคู่แข่ง เพื่อรักษาความเป็นเบอร์หนึ่งของตัวเองเอาไว้ พร้อมกับปรับตัวให้เข้ากับความต้องการที่เปลี่ยนไปของลูกค้า จะเห็นได้ว่า demand กล้องราคาแพง กล้องรุ่นพิเศษ หรือเลนส์เทพ ๆ นั้น ขายดีมากขึ้นกว่าในปีก่อน ๆ ที่กระจุกตัวอยู่ในกลุ่มตากล้องมืออาชีพเท่านั้น คุณธนสิทธิ์ เธียรกาญจนวงศ์ แชร์ Insight ได้อย่างน่าสนใจว่า “ภาพรวมตลาดกล้องดิจิทัลของไทยในปี 2560 ที่ผ่านมา อยู่ที่ 310,000 ตัว หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 8,600 ล้านบาท โดย
ระยะหลังตลาดรถยนต์ในบ้านเรามีความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีค่อนข้างมาก จากเมื่อก่อนที่เราได้แต่มองรถยนต์รุ่นเทพ ๆ วางขายในต่างแดนตาปริบ ๆ ส่วนโมเดลที่วางขายในประเทศไทยมักจะเป็นรุ่นพื้นฐานที่เน้นยอดขาย เพราะส่วนใหญ่รุ่นเจ็บ ๆ มักจะราคาขายพุ่งแรงจนฐานลูกค้าเหลือไม่มาก แต่ปัจจุบันตลาดรถบ้านเราเปิดตัวแทบจะพร้อมกับตลาดโลก และมีการนำรุ่นท็อป ๆ เข้ามาวางขายเป็นทางเลือกนักเลงรถตัวจริง โดยเฉพาะแบรนด์ BMW ที่มีการวางขายรถตระกูล M มากขึ้นในระยะหลัง เรียกเสียงตื่นเต้นและสร้างยอดขายจากกลุ่ม Beemer ในประเทศไทยได้ไม่น้อย ล่าสุดในงาน Motor Show 2018 ก็เป็นอีกครั้งที่ BMW ประกาศศักดาทั้งความหรูและความแรง เปิดตัวรถยนต์โมเดลน่าสนใจหลายรุ่นพร้อมกัน แต่ที่เราจะนำมาเน้นกันวันนี้ก็คือ BMW X2, BMW M4 CS, BMW M5 และ BMW 530i Touring ล้วนเป็นรุ่นเจ็บ ๆ ที่เราไม่คาดคิดว่า BMW Thailand จะนำเข้ามา เพราะปกติใครอยากได้โมเดลพวกนี้ ต้องไปสั่งจาก Importer เท่านั้น ซึ่งจะเสียเปรียบเรื่องการซ่อมบำรุงไป ดังนั้นปีนี้จึงเป็นโอกาสดีสำหรับสาวก BMW ที่ต้องการครอบครองรถรุ่นเทพ
เป็นปัญหาใหญ่สำหรับนักออกแบบ ตากล้อง หรือใครก็ตามที่ต้องใช้ iMac ในการทำงาน แม้ประสิทธิภาพจะจัดว่าเด็ดตามประสา apple หน้าจอจะแจ่มชัดจัดเต็มแค่ไหน แต่เมื่อต้องไปทำงานออกกองแบบ on-site หรืออยากจะแบกคอมไปจบปัญหาแก้งานแก้สีต่อหน้าลูกค้า ครั้นจะแบก iMac ไปก็ทุลักทุเลเหลือรับ ถามใครที่เคยแบกไปจะรู้ดีว่าการต้องยัด iMac ใส่กล่องหอบขึ้นรถไฟฟ้ามันเหมือนฝันร้ายชัด ๆ วันนี้เรามีทางออกมาบอกกล่าวชาว iMac User โดยเฉพาะ นั่นคือ Lavolta Carrying Case Bag กระเป๋าที่ถูกออกแบบมาเพื่อบรรจุ iMac สะพายอย่างเหนือชั้น Lavolta Case Bag เป็นกระเป๋าที่ผลิตแบบ handmade อย่างดี ภายนอกดีไซน์สวยงาม ภายในมีผ้า Microfiber นุ่ม ๆ คอยรองรับหน้าจอไม่ให้มีรอยขีดข่วย และรองรับแรงกระแทกได้ประมาณหนึ่ง มีหน้าที่ห่อหุ้ม iMac ได้แบบง่าย ๆ ใน 3 ขั้นตอน สวมเข้าจากด้านล่าง เอาขาตั้งลอดเข้าไปในหูหิ้ว ดึงกระเป๋าขึ้นคลุมถึงจอด้านบน จากนั้นก็รูดซิปปิดเป็นอันเสร็จพิธี ยังไม่จบแค่นั้น
ในขณะที่ตลาดรถ Mid-Size Car กำลังตกที่นั่งลำบาก โดนทั้ง SUV และ Crossover แย่งกลุ่มลูกค้าไปแบบไม่หยุดยั้ง จากอดีตที่เคยเป็น Segment ที่ยิ่งใหญ่ หลายแบรนด์จึงไม่อาจทำใจปล่อยให้มันเลยตามเลยได้ ทั้ง Honda ที่เพิ่งจะปล่อย Accord ใหม่ไป แม้ผลตอบรับจะติด ๆ ขัด ๆ ไปบ้าง แต่น่าจะมีวิธีรับมือในไม่ช้า รวมถึง Toyota Camry ใหม่ ที่ปรับโฉมให้เฟี้ยวเฉี่ยวล้ำ เตรียมเปิดผ้าคลุมคันจริงใกล้บ้านท่านเร็ว ๆ นี้ หลายคนที่เคยถามว่า แล้ว Nissan ล่ะหายไปไหน การขยับตัวล่าสุดเผยโฉม 2019 All-New Altima สุดยอด Mid-Size Car จาก Nissan ที่หน้าตาเท่โดนใจสไตล์สปอร์ต หล่อทั้งภายนอกภายใน Nissan ใช้เวที 2018 New York Auto Show เปิดตัว All-New