MUSIC

ดนตรี วัยเยาว์ และความเหงา ชีวิตเบื้องหลังเลข 250 โปรดิวเซอร์คนสำคัญของ NewJeans

By: GEESUCH April 30, 2024

Oh, my baby, sweet like bubble gum
Bouncin’ like playin’ ball

จะร้องไห้ นี่สินะที่เขาเรียกว่าวางรากฐานมาดีซะจนจะฉีกไปทำอะไรที่ออกจากวงกลมของ Comfort Zone มาก ๆ ก็ได้แล้ว ใครจะนึกว่าจะได้ฟังเพลงที่มีความเป็น City Pop จาก NewJeans กันนะ แล้วพอไล่อ่านเครดิตก็ไม่ผิดคาด 250 ในตำแหน่ง Producer เหมือนอย่างที่แล้วมา ตั้งแต่วงเดบิวต์กับ ADOR ในปี 2022 ที่ผ่านมา


ย้อนกลับไปในงาน Korean Music Awards ครั้งที่ 19 (KMA 2022) เป็นปีที่ Lee Ho-hyeong สามารถคว้ารางวัลทั้งฝั่งเบื้องหน้าในการเป็นศิลปินและเบื้องหลังของการเป็นโปรดิวเซอร์เองก็ตาม ชื่อที่ถูกส่งเข้าชิงรางวัลไม่ใช่ชื่อที่คุณเพิ่งอ่านไปในบรรทัดก่อน แต่สำหรับวงการเพลง K-pop เขาถูกเรียกด้วยรหัส 250 (이오공) เหตุผลไม่ซับซ้อน ชื่อจริงของเขาออกเสียงคล้ายกับตัวเลข 2 5 และ 0 ในภาษาเกาหลีง่าย ๆ แบบนั้น ง่ายเหมือนที่เขาจริงใจกับดนตรีมาตลอดชีวิตของตัวเอง

– Album of the Year

– Best Electronica Song จากเพลง 뱅버스 (Bang Bus)

– Best Electronic Album จากอัลบั้ม 뽕 (PPONG)

และ Musician of the Year รางวัลสำคัญที่สุดของปี 250 คว้าไป 4 รางวัล จากการถูกเสนอเข้าชิง 5 รางวัล นับเป็นคนที่ได้รางวัลมากที่สุดของปี 2022 ไม่เท่านั้น เขายังทำลายกรอบของเพลง K-Pop ให้ไปสู่อะไรที่มากกว่า โดยการเป็นหนึ่งในผู้อยู่เบื้องหลังรางวัล Rookie Of The Year ของ NewJeans ในปีที่แก๊งกระต่ายหัดกระโดดเป็นครั้งแรกและไปได้ไกลทันที ในฐานะโปรดิวซ์และคนเขียนเพลงหลักของเพลง Attention / Hype Boy และ Hurt จาก Ep. แรกที่ชื่อ NewJeans 1st Ep. ‘NewJeans’

ด้วยรางวัลทั้งหมดที่ว่าไป มันมากพอที่จะเติมเต็มความรู้สึกของคนทำงานเพลงในอุตสาหกรรมที่ศิลปะดนตรีแข่งขันกันสูงมาก ๆ จนเขาสามารถพูดคำว่า 2022 จะเป็นปีที่ไม่มีวันลืมลงได้เลย ถึง 250 จะไม่ได้บันทึกเรื่องราวของตัวเองไว้ในบทสัมภาษณ์มากนัก แต่ความพูดน้อยของเขาก็ยังมีน้ำหนักพอที่คนฟังผลงานทุกคนพอจะเข้าใจได้ ว่าอะไรทำให้ 250 กลายเป็นโปรดิวเซอร์ตัวพลิกวงการอย่างนั้น เพื่อจะเล่าสิ่งนั้น เราคงต้องทวนเข็มนาฬิกากลับไปไกลกันหน่อย


“Jazz / Blue / Swing / Electronic / Synth-Pop  และดนตรีเต้นรำดั้งเดิมของเกาหลีใต้ที่เรียกว่า ‘ppongjjak’ เป็นต้นกำเนิดสำคัญในเส้นทางดนตรีของ 250”

ในช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านสู่การเติบโต ดนตรีเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของ Lee Ho-hyeong มาโดยเสมอ เพราะว่าพ่อแม่ต้องออกไปทำงานนอกบ้านทั้งคู่ การอยู่บ้านคนเดียวหลายชั่วโมงสำหรับเด็ก ม.1 คนหนึ่งเต็มไปด้วยความเหงาและโดดเดี่ยวที่ไม่น่ารัก ถ้าไม่มีเพลงโลกนี้ก็คงจะเงียบจนเกินไป ไม่เท่านั้น บ้านของเขายังอยู่ไกลจากโรงเรียนโดยต้องเดินทางเป็นเวลา 1 ชั่วโมงครึ่ง สิ่งนั้นทำให้ Lee Ho-hyeong  ไม่อยากไปโรงเรียนเมื่อต้องนึกถึงความโดดเดี่ยวที่ต้องเดินทางคนเดียว แต่เมื่อมีเพลงเข้ามาประกอบการเดินทาง ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป และมันทำให้เด็กชายได้รู้ตัวจริง ๆ ว่าสิ่งที่เรียกว่า ‘ดนตรี’ มีความหมายต่อชีวิตของเขามากแค่ไหน

ตอน ม.1 เด็กชาย Lee Ho-hyeong คลั่งไคล้ในเพลงฮิปฮอปแบบสุดตัว Cypress Hill / Seo Taiji and Boys / Puff Daddy / Tupac / Notorious B.I.G. / Wu-Tang Clan เขาเริ่มต้นด้วยการรักเพลงฮิปฮอป ก่อนจะรักดนตรีอันหลากหลายในเวลาต่อมา

เวลาผ่านไป Lee Ho-hyeong กำลังเข้าสู่ปีสุดท้ายของ High School ชีวิตที่ไม่เงียบเพราะมีเสียงเพลงกำลังจะทุ้มอยู่ในใจดังเป็นเท่าตัวเมื่อเขาพบกับโปรแกรมทำเพลงตัวหนึ่ง เด็กชายในวันนั้นบอกกับตัวเองว่าสิ่งนี้ล่ะที่ใช่ การทำดนตรีออกมาด้วยมือของตัวเองเป็นสิ่งที่เขาจะสามารถทำมันไปได้ตลอดชีวิต ในแบบที่ถึงแม้ว่าจะไม่มีใครมาจ่ายเงินจ้างเขาทำสิ่งนี้ก็ตาม และเด็กชายคนนั้นที่เปี่ยมไปด้วยความรักดนตรีแบบนั้นก็ยังคงอยู่ในตัวของผู้ใหญ่วัย 42 ในปัจจุบันมาโดยตลอด

หลังจากผ่านมัธยมมาได้ Lee Ho-hyeong มีเข็มทิศของตัวเองกำเอาไว้ในมือแล้ว เขาไม่ลังเลที่จะมุ่งเข้าหาเสียงเพลงด้วยการเลือกศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัย Hanseo University ในเอก Film Music Production จนได้ทำงานแต่งเพลงให้ซีรีส์ จากนั้นจึงไปเป็น DJ ที่ Cakeshop ผับชื่อดังในเกาหลีใต้ ที่ถูกเรียกว่าเป็นศูนย์กลางดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ของกรุงโซล แล้วด้วยความแตกต่างที่พยายามเอาเพลง ppongjjak หรือเพลง Trot ดนตรีบัลลาดดั้งเดิมของเกาหลีที่เขาเติบโตเข้ามาผสมกับดนตรีอิเล็กทรอนิกส์สมัยใหม่ ทำให้ชื่อของ Lee Ho-hyeong โด่งดังไปอย่างรวดเร็ว และไปไกลมาก ๆ เสียจนวันหนึ่ง ค่ายตึกแดง SM Entertainment ได้ติดต่อเพื่อส่งงานมาให้ทำ และปี 2015 เขาก็เดบิวต์ตัวเองด้วยการทำรีมิกซ์เพลง 4 Walls ของวงเกิร์ลกรุ๊ปชื่อ f(x) หนึ่งในเพลงดังที่สุดของวง ก่อนจะมาดูแลเพลงให้ยูนิต NCT127 / มีการกระโดดรับงาน JYP Entertainment ทำเพลงให้ Itzy / กับ Hybe ก็มีไปรับงานทำให้ BTS ด้วย ตรงนั้นเองที่ชื่อ 250 หมายถึงโปรดิวเซอร์ทำบีทแบบที่หากศิลปินของคุณกำลังต้องการความแตกต่างก็ควรจะจ้างเขาทันที


โดยส่วนตัวสำหรับเราทัศนคติการทำเพลงแบบ 250 เป็นอะไรที่น่าจะใกล้เคียงกับที่ในวัฒนธรรม Hip-Hop ใช้สื่อถึงคำว่า Real ได้มากที่สุด เป็นความคิดที่ว่าพื้นฐานของเพลงที่ดีคือเพลงที่คนทำได้แสดงตัวตนของตัวเองออกไปมากที่สุดเท่าที่จะทำได้

“สำหรับบางคนเพลงของผมคงจะฟังดูเป็นอะไรที่ไร้สีสันสุด ๆ แต่ถึงยังไงมันก็ได้แสดงความเป็นตัวตนของผมผ่านดนตรีอยู่ดี ถ้าเพลงคลิกกับคนฟัง มันก็กลายเป็นเทรนด์ขึ้นมา แต่ถ้าไม่ อย่างน้อยเพลงนั้นก็จะเป็นแรงบันดาลใจให้คนฟังเชื่อว่ามันโอเคมากที่สุดเลยในการเป็นตัวของตัวเอง”

“จุดแข็งในการโปรดิวซ์ให้ศิลปินสำหรับผมคือการที่ผมแทบไม่ได้แยกแยะประเภทของดนตรีออกจากกัน และไม่ได้จำกัดขีดจำกัดของตัวเองด้วยการบอกว่า เพลงนั้นน่าจะเป็นแบบนี้นะ แต่ผมใช้วิธีเอาหลาย ๆ สิ่งมาผสมเข้าด้วยกัน ทั้งจากประสบการณ์ส่วนตัวหรือแนวเพลงที่เคยได้ทำก็ตาม”

“ถ้าถามว่าใครคือโปรดิวเซอร์คนโปรดของผม ก็คงต้องตอบว่า Timbaland ส่วนนักดนตรีคนโปรดคือ Prince / Ryuichi Sakamoto และ Shin Hae Chul”

เราเชื่อว่าชาวบันนี่ส์ทุกคนต้องมีเพลงของ 250 เพลงโปรดในใจกันอยู่แล้วล่ะ ไม่ว่าจะ Ditto หรือ ETA หรือเพลงอะไรก็ตาม แต่จะบอกว่าเพลงที่ 250 ไปโปรดิวซ์คือยังมีที่ยอดเยี่ยมมาก ๆ อีกหลายเพลงเลย ก็เลยจะขอแปะ 5 Tracks Recommend มาให้ไปตามกันต่อข้างล่างนี้ครับผม อ้อ ! แล้วก็ขอแนะนำอัลบั้ม NJWMX (2023) ที่เป็นการเอาเพลงของ NewJeans มารีมิกซ์แบบ 2 นิ้วโป้ง Thum Up ! เป็นการปล่อยของของ 250 มาก ๆ


250 The 5 Tracks Recommend By UNLOCKMEN

1.NCT 127-내 Van (My Van)

2.ITZY – Gas Me Up

3.BTS – Look Here

4.E SENS – 비행 (Flight)

5.Beenzino – Camp


Credit PHOTO : 

soundoflife.com

nylon.com

bandwagon.asia

Ref.

1 / 2 / 3 / 4

GEESUCH
WRITER: GEESUCH
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line