สำหรับนักเล่นรถสายแรร์ที่มองหาของสะสมหายากจากในหน้าประวัติศาสตร์ รถยนต์ที่ไม่ค่อยมีใครพูดถึงแต่เป็นที่รู้จักในหมู่นักสะสมและแฟน Honda สายลึก ขอแนะนำ Honda Integra Type-R DB8 ตัวแรงโลโก้ H แดง ตัวถัง 4 ประตูจาก Honda ที่มาก่อน Civic Type-R นานหลายปี Honda Integra Type-R รหัส DB8 ในตัวถัง 4 ประตู เริ่มผลิตในปี 1995 ในช่วงเวลาเดียวกันกับ Integra DC2 ซึ่งเป็นตัวถัง Coupe’ 2 ประตู โดยตัวถัง 4 ประตูมีการผลิตออกมาทั้งหมดจำนวนแค่ 5,135 คันสำหรับขายในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น (Japanese Domestic Market) แต่ถ้านับเฉพาะ DB8 ในปี 1995 คาดว่าจะมีไม่ถึง 300 คันเท่านั้น รายละเอียดเหมือนกันทุกอย่างระหว่าง DC2 Type-R
ผ่านกาลเวลามานานถึง 70 ปีแล้ว สำหรับ Toyota Land Cruiser รถถังในร่าง SUV ที่โดดเด่นด้านความแกร่งสำหรับใช้ขับลุยได้ทุกสภาพพื้นดิน และเพื่อฉลองให้โอกาสพิเศษนี้ จึงมี special edition Land Cruiser 70 Series ถือกำเนิดขึ้นมา Toyota Land Cruiser 70th Anniversary Edition รถสายลุยที่พิเศษด้วยกลิ่นอายความ retro จากตัวถังรุ่น 70 Series ที่ยังคงทำตลาดมาอย่างยาวนานอยู่ในบางประเทศเช่น UAE, Africa, Australia ดีไซน์ที่ดูย้อนยุคมาจากกระจังหน้าสีดำพร้อมตราโลโก้ Toyota แบบเก่าขนาดใหญ่เกือบเต็มพื้นที่ กันชนหน้าทั้งชิ้นและคิ้วล้อทรงสปอร์ตสีดำ ล้อขนาด 16 นิ้วสีดำ ตัดกับสี French Vanilla แบบในรูป เหมือนรถที่หลุดออกมาจากภาพยนตร์ในยุค 90s แต่มีรายละเอียดที่ทันสมัยซ่อนอยู่ เช่นใช้ไฟ LED ในไฟตัดหมอกและไฟ daytime running lights ภายในของ
ในยุคก่อน ถ้าคุณอยากได้รถหรูหุ้มเกราะเสริมความปลอดภัยให้ชีวิตสักคันนึง ต้องนำรถไปให้บริษัทผู้เชี่ยวชาญจัดการอีกต่อนึง แต่ปัจจุบัน รถยนต์หรูทุกค่ายต่างมีตัวเลือกเวอร์ชันหุ้มเกราะให้จากโรงงาน ไม่ว่าจะเป็น Mercedes-Benz, Audi, BMW หรือแม้แต่ Brabus สำหรับค่ายตราดาวที่พึ่งจะเปิดตัว new S-class ก็มีเวอร์ชันเสริมเกราะที่แต่งเป็นพิเศษทั้งคันออกมาในรหัสชื่อ “S680 Guard 4MATIC” ซึ่งเป็นตัวถังช่วงยาว long wheelbase ขุมพลัง V12 Turbocharged จาก Maybach ให้พลัง 600 แรงม้าขับเคลื่อนทั้ง 4 ล้อ มาพร้อมน้ำหนักมากกว่า 4 ตัน จึงทำความเร็วสูงสุดได้เพียง 189 km/h ดูจากภายนอกแทบแยกไม่ออกระหว่าง S-class ปกติกับเวอร์ชั่นหุ้มเกราะที่ซ่อนความพิเศษไว้ภายในบอดี้สุดหรู ด้วยระดับป้องกันสูงถึง VPAM VR10 class หมายความว่าเป็นระดับที่ผ่านการทดสอบการกันระเบิดและกระสุนด้วยรถคันจริงทั้งคัน ไม่ใช่แค่เคลมโดยการนำวัสดุต่าง ๆ มาทดสอบแยกกัน ยางซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่สุดสำหรับรถยนต์เป็นของ Michelin Pax run-flat ที่สามารถขับต่อได้ไกล 30 กิโลเมตรแม้จะแตกกระจุย
หากพูดถึงรถ ‘Renault’ คนไทยในยุคนี้อาจจะไม่ค่อยคุ้นหู หรือเห็นวิ่งอยู่บนถนนมากนัก แต่ถ้าย้อนกลับไปหลายสิบปีก่อน รถยนต์ ‘Renault’ ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในรถที่หล่อเหลาเอาการมากที่เดียว โดยเฉพาะในรุ่นตัวแรงอย่าง ‘Renault R5 Turbo’ จะว่าไปแล้วจริง ๆ ‘Renault’ ยังคงความโดดเด่นในเรื่องวิศวกรรมยานยนต์ในระดับชั้นนำของโลกอยู่ เห็นได้จากรถ Formula 1 จากหลายค่ายก็ยังคงใช้เครื่องที่ผลิตโดยบริษัท ‘Renault’ และถ้าเป็นในสเกลรถบ้าน ‘Renault’ ก็เพิ่งนำเอารถในตำนานอย่าง R5 มาปัดฝุ่นใหม่ และพัฒนาจนมีการเปิดตัว ‘Renault R5 Electric Prototype’ ซึ่งเป็นรถพลัง EV ไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา วันนี้เราจะพาทุกคนไปดู ‘Renault R5 Turbo 3’ ที่ถูกชุบชีวิตใหม่จากสำนักแต่งที่มีชื่อว่า ‘Legende Automobiles’ ให้ดูดุดันทันสมัย และต้องถูกใจคนรักรถ Classic อย่างแน่นอน ‘Renault R5 Turbo 3’ คันนี้ ถูกสร้างตัวถึงขึ้นใหม่โดยใช้วัสดุที่ทันสมัย และน้ำหนักเบาอย่างคาร์บอนไฟเบอร์ทั้งคัน ด้วยความเนี๊ยบของทีมช่างฝีมือระดับพระกาฬทำให้คนทั่วไปมองไม่ออกด้วยซ้ำว่านี่ไม่ใช่ตัวถังเดิม ระบบไฟทั้งหมดยังถูกอัพเกรดใหม่เป็นไฟ
เดือนมกราคม ปี 1995 ผู้คนในงาน Detroit Auto Show เป็นคนกลุ่มแรกที่ได้พบกับ Hypercar จากค่าย Ford ที่ตั้งใจสร้างรุ่นน้องของ Ford GT40 ให้มีศักยภาพพร้อมฟาดกับรุ่นใหญ่อย่าง Ferrari F40, Lamborghini Diablom, Bugatti DB110 หรือแม้แต่ McLaren F1 ในตำนาน แต่น่าเสียดายที่ตำนานบทนั้นไม่ได้ผ่านเข้าสู่กระบวนการผลิตจริง รถที่ควรจะเป็น Hypercar-Fighter จึงเป็นได้เพียง Concept Hypercar ที่หลายคนลืมมันไป แต่เราไม่เคยลืม เรื่องราวของ Ford GT90 เริ่มต้นขึ้นในปี 1994 เมื่อ John Coletti, หัวหน้าฝ่าย Ford’s SVT (Special Vehicle Team) ได้จัดตั้งทีมย่อยขึ้นมาหนึ่งทีม หน้าที่เดียวคือการสร้าง hypercar ที่ต่อยอดจากความสำเร็จของ Ford GT40 แห่ง Le
คนที่เกิดในช่วงปี ’90s เหมือนผม และตอนเด็ก ๆ ที่บ้านไม่ได้มีฐานะดีจนสามารถซื้อรถเท่ ๆ ในยุคนั้นไหว น่าจะรู้สึกเสียดายโอกาสเพราะหลังพยายามทำงานเก็บเงินจนพอจะกลับไปไล่เก็บความฝันวัยเยาว์ได้ รถเจ๋ง ๆ เหล่านั้นกลับราคาขึ้นหนีไปไกลจนเกินเอื้อมอีกครั้ง ต่อให้รัก R34 แค่ไหน เจอราคาสิบล้านแบบปัจจุบันคงทำได้แต่มอง หรือจะไปเล่นรถรุ่นใหม่ที่ต่อยอดจากตำนานบทเก่าอย่าง NSX หรือ Supra ก็กลับรู้สึกว่าชอบตัวเก่ามากกว่า แต่ก็ยังพอมีความหวังจากลิสต์ Sports car เลือด JDM ที่ได้รับความนิยมมากในอดีตจนถึงปัจจุบัน แต่รอเท่าไหร่ก็ไร้วี่แววจะเปิดตัว generation ใหม่ออกมา ไปดูกันว่ามีรุ่นอะไรตรงใจให้พวกเราได้เฝ้ารอไปพร้อมกันบ้าง บอกเลยว่าแต่ละรุ่นที่คัดมา ถ้าเปิดตัวใหม่เมื่อไหร่ รับรองว่าเรียกเสียงฮือฮาและเสียงกดเงินจองกันได้กระหึ่มแน่นอน เหลือเพียงจตุรเทพจากยุค ’90s เพียงหนึ่งเดียวคันนี้เท่านั้นที่ยังไม่มีรุ่นใหม่ออกไปปะทะกับ NSX, GT-R, SUPRA ซึ่งอาจจะถือเป็นโชคดีก็ได้ เพราะอีก 3 รุ่นที่ว่าเปิดตัวใหม่มาขัดใจแฟน ๆ ทั่วโลก จนราคารุ่นเก่าพุ่งพรวดกันยกแผง ซึ่งใครจะบอกว่าก็เคยมี RX-8 ที่ออกมาแล้วไง แต่จริง ๆ เรามองว่ามันไม่ใช่สายเลือดที่สืบทอดกันได้โดยตรง นับตั้งแต่ ‘FB’
ย้อนไปในปี 1997 เมื่อ Mercedes-Benz ต้องการกลับมาสร้างชื่อเสียงในฐานะเจ้าแห่ง Motorsport หลังปรึกษากับ AMG ทั้งคู่ก็ตกลงที่จะร่วมกันพัฒนา Mercedes-Benz CLK GTR สุดยอดเครื่องจักรที่จะลงไล่ล่าแชมป์ในรายการ FIA GT Championship โดยมีคู่แข่งสุดโหดมากมายไม่ว่าจะเป็น Ferrari, Porsche หรือ McLaren แต่ก่อนจะส่งรถคันใหม่ลงแข่งในรายการ GT1 ได้ มีข้อบังคับข้อนึงระบุว่าจะเป็นต้องสร้าง CLK GTR Strassenversion (Road-legal version) ให้ครบ 25 คันก่อน และด้วยเป้าหมายที่ชัดเจนว่าต้องการสร้างชื่อมากกว่ายอดขาย Mercedes-Benz จึงเลือกเพิ่มอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและความปลอดภัยเข้าไปอีกเล็กน้อยให้พอจดทะเบียนได้ เรียกว่าแทบจะไม่มี Road car รุ่นไหนที่ดิบห่ามแบบ Race car จากสนามแข่งได้เท่า CLK GTR ในยุคนั้น AMG ผู้อยู่เบื้องหลังการออกแบบและพัฒนา Mercedes-Benz CLK GTR ใช้เวลานับตั้งแต่สเก็ตช์ภาพจนได้ออกมาเป็นรถแข่งทั้งคันเพียงแค่ 128 วันเท่านั้น ก่อนจะเปิดตัวรถแข่ง
การปลุกตำนานรถสปอร์ตระดับไอคอน 1959 Ferrari 250GT SWB ครั้งล่าสุด นี่คือ “RML Short Wheelbase” ผลงาน Restomod จากสำนัก Motorsport มากประสบการณ์ RML (Ray Mallock Limited) Group บนพื้นฐาน chassis ของ Ferrari 550 Maranello ที่ผ่านขั้นตอนการดัดแปลงตัดต่อตัวถังใหม่ คงไว้ซึ่งเครื่องยนต์ 5.5-liter V12 สุดสะเด่าเร้าใจให้กำลังถึง 478 แรงม้า ชื่อ RML Group อาจจะไม่ค่อยเป็นที่ผ่านหูกันมากนัก แต่นี่คือบริษัทสัญชาติอังกฤษที่มีประสบการณ์และเทคโนโลยีด้าน Motorsport และ Car Engineering ปกติมักจะอยู่เบื้องหลังผลงานดัดแปลงแต่งรถโหด ๆ อย่าง Nissan GT-R-powered Juke-R รวมถึงการสร้าง Aston Martin Vulcan เปลี่ยนจาก Track-only Supercar
MG เปิดตัว “ALL NEW MG5” ด้วยคอนเซ็ปต์ “BEYOND” เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบความโดดเด่น มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยรถยนต์ที่มีรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยวสไตล์สปอร์ตคูเป้ซีดาน เหนือชั้นกว่ารถยนต์ในกลุ่ม B –Sedan และ Eco-Car ด้วยพื้นที่ห้องโดยสารขนาดใหญ่ ฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกครบครัน สมรรถนะการขับขี่ที่มาพร้อมระบบความปลอดภัยเหนือระดับ รวมถึงเทคโนโลยีล้ำสมัย ALL NEW MG5 เป็นยนตรกรรมรุ่นล่าสุดที่สะท้อนแนวทางการพัฒนาของเอ็มจี ประกอบด้วย 3 แกนหลัก ได้แก่ เทคโนโลยี (Technology) ความทันสมัย (Fashion) และ ความคุ้มค่า (Value) โดยมีรูปลักษณ์สไตล์สปอร์ตคูเป้ที่เป็นเอกลักษณ์ มีมิติตัวถังที่ใหญ่กว่ารถยนต์ประเภท B-segment ทั่วไป จึงให้มีพื้นที่ภายห้องโดยสารที่กว้างขวาง นั่งสบาย มีพื้นที่เหนือศีรษะที่สูงโปร่ง พร้อมการตกแต่งสไตล์สปอร์ตพรีเมียม การออกแบบคอนโซลกลางแบบ Driver-focus cockpit ที่ให้องศาที่เหมาะกับตำแหน่งคนขับ รวมไปถึงการติดตั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ ในระดับมาตรฐานของ B-Sedan มาตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED พร้อมระบบเปิดปิดอัตโนมัติ วัสดุภายในเป็นแบบผิวสัมผัสนุ่ม
เวสป้า เปิดตัว “Vespa Sprint S 150 i-Get ABS (TFT)” สกู๊ตเตอร์สายสปอร์ตเหนือชั้นรุ่นล่าสุดจากซีรีส์ SPRINT S ด้วยคอนเซ็ปต์ “When style meets technology, a new attraction is born” ตอบสนองไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ กับครั้งแรกของหน้าจอ TFT (Full-Colour TFT Display) ในรุ่น SPRINT พร้อมขับเน้นดีเอ็นเอแห่งดีไซน์โมเดิร์นสปอร์ตที่สะท้อนความคลาสสิกและเรียบหรูเฉพาะตัวมากยิ่งขึ้นด้วย 2 เฉดสี นำโดยสีใหม่ “สีบรอนซ์ Bronzo Antico” ที่โดดเด่นด้วยรายละเอียดตกแต่งสีดำ และ “สีดำด้าน Nero Opaco” ที่ดึงดูดด้วยรายละเอียดตกแต่งสีบรอนซ์ สกู๊ตเตอร์รุ่นนี้นับเป็นอีกหนึ่งไลฟ์สไตล์ที่มากกว่ายานพาหนะ พร้อมตอบโจทย์การใช้ชีวิตอย่างมีดีเทลให้กับหนุ่ม ๆ ผู้หลงใหลในดิจิทัลไลฟ์สไตล์อย่างโดดเด่นและลงตัว Vespa Sprint S 150 i-Get ABS (TFT) สีบรอนซ์
Audi เปิดตัวน้องเล็กรหัสแรง RS3 ใหม่พร้อมกันทั้งตัวถัง Sedan และ Sportback ด้วยสมรรถนะสุดแจ่ม 400 horsepower แรงบิด 500 Nm of torque จากเครื่องยนต์ 2.5-liter 5-cylinder turbocharged ทำเวลา 0-100 km/h ใน 3.8 วินาที นับเป็นอีกหนึ่งรถไซส์กะทัดรัดที่ขับสนุกเร้าใจไม่แพ้ค่ายไหนแน่นอน ทุกรายละเอียดของ RS3 รุ่นล่าสุดนี้ได้อัพเกรดโดยเน้นความดุดันขับมันส์เป็นหัวใจหลัก เกียร์ 7-speed dual-clutch สับไวกว่าเก่าด้วยอัตราทดใหม่ที่สั้นให้อารมณ์สปอร์ตกว่าเดิม ช่วยให้ออกตัวจากจุดหยุดนิ่งได้อย่างรวดเร็ว เมื่อบวกกับระบบ Quattro ขับเคลื่อน 4 ล้อเข้าไป ยิ่งได้เปรียบกว่าใครเมื่อเห็นสัญญาณไฟเขียว และพิเศษสุดด้วย “Drift Mode” ระบบช่วยควบคุม clutch และเพลาหลังเพื่อการกระจายแรงบิดไปที่ล้อหลังได้ตามต้องการ ช่วยให้การควบคุมที่ดีขึ้นแถมยังสั่งท้ายปัดได้ง่ายขึ้นกว่าขับ 4 ตลอดเวลาแบบปกติด้วย ช่วงล่างอัพเกรดเป็น RS Sport Suspension Plus ที่มี
ถูกยกให้เป็นหนึ่งใน Scooter ที่ดีไซน์โดนใจนักบิดมากที่สุดในโลก BMW Motorrad CE 04 Electric Scooter ออกแบบภายนอกด้วยคอนเซปต์แนวคิด futuristic styling พร้อมเทคโนโลยีขุมพลัง EV เป็น electric scooter ที่สร้างมาตอบโจทย์การใช้งานในเมืองโดยเฉพาะ ลายละเอียดภายนอกที่ออกแบบลายเส้นให้บึกบึน แฝงไว้ด้วยรายละเอียดจากอนาคต ขุมพลัง EV จากมอเตอร์ไฟฟ้าสร้างกำลังได้ 42 แรงม้า ความเร็วสูงสุด 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แบตเตอรี่ความจุ 8.9kWh ช่วยให้ขี่ได้ระยะทางมากถึง 128 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ความเจ๋งเทคโนโลยี EV นี้คือการคิดค้นและพัฒนาขึ้นเองโดย BMW Motorrad ที่ได้แชร์ know-how มาจาก BMW iX SUV ที่ล้ำหน้า จึงสามารถนำมาปรับใช้ใน Scooter คันนี้ได้อย่างรวดเร็วกว่าคู่แข่งในตลาด ใช้เวลาในการชาร์จไฟที่สั้นกว่า มีเทคโนโลยีช่วยในการขับขี่มากมาย เช่น Automatic Stability Contorl ช่วยควบคุมการทรงตัว