ใช่ครับ อ่านไม่ผิดแน่นอน สำหรับหลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า Jack Daniel เจ้าพ่อ whiskey maker กลิ่นหอมหวานแห่งเมือง Tennessee นั้น มีหน่วยดังเพลิงอาสาสมัครของตัวเอง พร้อมขบวนรถดับเพลิงที่แยกแยะได้จากระยะไกลในโทนสีดำทอง (Black and Yellow) ยิ่งดูยิ่งป๋าเหมือนโทนสีของบรรดา Rapper โชว์สร้อยทอง ล่าสุด Jack Daniel ได้เปิดตัวมอเตอร์ไซค์ chopper รุ่นใหม่ล่าสุด ที่ได้แรงบันดาลใจจากบรรดานักดับเพลิงของเค้าโดยเฉพาะ ซึ่งรุ่นนี้นับได้เป็นรุ่นที่ 3 แล้วที่ได้ร่วมมือกับ Indian Motorcycle มาตั้งแต่ปี 2016 โดยเริ่มจากรุ่น 2016 Indian Springfield Jack Daniel’s Limited Edition และ 2017 New Bike Indian Chieftain Jack Daniels Limited Edition แน่นอนว่าทั้งสองรุ่นได้รับความนิยมถล่มทลาย ถูกใจชาว American ฝังเส้นเลือดเป็นอย่างดี มาถึงปีนี้ที่ Jack Daniel
มีรถยนต์เพียงไม่กี่แบรนด์ที่คงความคลาสสิคตั้งแต่วันแรกถึงปัจจุบันไว้ได้อย่างแข็งขัน หนึ่งในนั้นก็คือ Morgan Motor Company บริษัทรถยนต์ของอังกฤษ ที่ขึ้นชื่อเรื่องสไตล์ของตัวเอง และความละเอียดประณีตในการผลิตแบบ Handmade ตั้งแต่ปี 1910 กำลังการผลิตอยู่ที่ราว 1,300 คันต่อปี และถ้าใครควักเงินจองลงไป ก็ต้องรออีกราวครึ่งปีจึงจะผลิตเสร็จเรียบร้อย ใครที่ติดตามเรื่องรถยนต์มานาน อาจจะคุ้นตาดีไซน์ของรถยนต์ Morgan เป็นอย่างดี ด้วยรูปทรงที่คลาสสิคเหมือนรถโบราณสุดล้ำค่า แม้จะเป็นรถโมเดลที่ผลิตในปีใหม่ก็ตาม เช่น Morgan 4/4, +8, Roadster และที่สร้างชื่อเสียงได้มากที่สุดก็คือ Morgan Aero 8 รถหน้าตาคลาสสิคที่ว่ากันว่ามีสมรรถนะดีอยู่ในระดับ Supercar ด้วยน้ำหนักตัวที่เบาหวิว และใช้เครื่องยนต์ BMW V8 โดย generation ล่าสุดปี 2015 Aero 8 ทำตัวเลขได้ถึง 367 แรงม้า ล่าสุดในงาน Geneva Motor Show ไม่มีใครคาดคิดว่า Morgan จะเปิดตัวหมัดเด็ด Morgan Aero GT
16 ปี เป็นตัวเลขที่มีความสำคัญในประวัติศาสตร์หลายอย่าง 16 ปีแห่งความหลัง…… เพลงระดับตำนานประเทศไทยของอาจารย์สุรพล สมบัติเจริญ 16 ปีแห่งความหลัง…… ที่ตำนานของ Toyota Supra ได้หยุดลง และพวกเราต่างเฝ้ารอให้ Iconic Sports car คันนี้กลับมาโลดแล่นอีกครั้ง จนกระทั่ง Nissan Skyline GT-R กลับมายึดความยิ่งใหญ่ไปแล้ว Honda NSX ก็กลับมาเรียกเสียงฮือฮาแล้ว แน่นอนว่ามันทำให้เลือดของเราสูบฉีด แต่ในขณะเดียวกัน มันเหมือนชีวิตลูกผู้ชายยังขาดอะไรบางอย่างอยู่ เหมือนตำนาน 3 ผู้ยิ่งใหญ่ยังไม่ครบคน จนกระทั่งเราได้เห็น Toyota เปิดตัวหน้าตาแบบ Official ของ Supra ทำให้ชีวิตเหมือนได้รับการเติมเต็มอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน อย่าเพิ่งคิดว่า Supra จะโหดขนาดนี้ ที่เราเห็นยังไม่ใช่โฉมหน้ารุ่น Production สำหรับชาวบ้านทั่วไป แต่เป็นโมเดลพิเศษ Gazoo Racing Edition ที่ได้เปลี่ยน Supra ทั้งคันให้กลายเป็นรถแข่ง เพิ่มความดุดันจากช่องดักอากาศขนาดใหญ่ด้านหน้า ซุ้มล้อไซส์มโหฬาร ปีกหลัง Carbon Fiber
ตั้งแต่ค่ายรถยนต์ไฟฟ้าเชื้อสายอเมริกันอย่าง Tesla ของยอดชายนาย Elon Musk สร้างรถที่ใช้พลังงานไฟฟ้าทั้งระบบ 100% ก็ได้เรียกกระแสสั่นสะเทือนวงการรถยนต์ทั่วโลกไปในทันที เพราะนอกจากจะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแบบสุด ๆ แล้ว สมรรถภาพของรถยังเหนือชั้นกว่ารถใช้น้ำมันบางค่ายเสียอีก ด้วยความนิยมที่กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้บรรดายักษ์ใหญ่ต่างโดดเข้ามาร่วมวงสร้างส่วนแบ่งในตลาดนี้หลายรายด้วยกัน จนมีรถไฟฟ้าใหม่ ๆ ตามออกมาวางจำหน่ายกันมากขึ้นให้เหล่าผู้ที่สนใจพลังงานทางเลือกได้ซื้อหาจับจอง แต่สำหรับมนุษย์ผู้รักการ DIY แบบเข้าเส้น การจะถอยรถไฟฟ้าคันใหม่ก็ดูจะธรรมดาไป เลยเป็นที่มาของคนหัวใสที่จับเอาเจ้าเครื่องยนต์ไฟฟ้าสุดล้ำของ Tesla มายัดใส่ในรถสุดเก๋าของ Honda จนเกิดเป็น Teslonda ขึ้นมา รถไฟฟ้าภายใต้ตัวถังญี่ปุ่นนี้เป็นผลงานของแฮ็กเกอร์อย่าง Jason Hughes ซึ่งได้เอาชิ้นส่วนของรถไฟฟ้า Tesla Model S และ Model X มา Hack ระบบเพื่อติดตั้งและใช้งานกับรถ Honda Accord ปี 1976 จนกลายเป็นรถไฟฟ้าตัวถังสุดวินเทจที่เขาตั้งชื่อเล่นมันว่า “Teslonda” แน่นอนว่าเพราะมันเป็นรถที่ใช้เครื่องยนต์พลังงานไฟฟ้า อัตราการเร่งของรถคันนี้ จึงทำเวลาได้ดีกว่าเครื่องเดิมมาก ๆ สามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง
โดยปกติถ้าเราจะยืมรถมาขับเพื่อรีวิวหรือแชร์ประสบการณ์ส่วนตัว เรามักจะต้องเลือกเส้นทางที่เบา ๆ ไม่โหดร้ายมากนัก เพื่อความมั่นใจว่าจะช่วยรักษารถของลูกค้าให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ได้ เพราะส่วนใหญ่ราคามักจะค่อนข้างสูง ยิ่งถ้าเป็นรถยนต์โมเดลใหม่ล่าสุดอย่าง All New BMW X3 แม้จะรู้ว่ามันลุยทางวิบากได้ แต่คงจะไม่มีใครใจกล้าพอจะใช้งานมันอย่างโหดร้ายขนาดนั้น แต่สำหรับครั้งนี้ เราเลือกที่จะทดสอบความทรงพลัง อึด ถึก ทน ของมันแบบเน้น ๆ จะได้รู้ว่าสิ่งที่รวมอยู่ในราคาและ Fact Sheet นั้น สามารถใช้งานจริงได้แค่ไหน สำหรับรถยนต์ BMW X3 xDrive20d xLine รถยนต์ Compact Luxury Crossover SUV รหัส G01 คันนี้เป็น Generation ที่ 3 ซึ่งแม้จะดูเหมือนอยู่มาไม่นาน แต่ที่จริงแล้ว BMW X3 ได้ทำตลาด segment นี้มานานกว่าที่คิด ถ้าย้อนไปไกลถึง Generation แรกกับรหัส E83 ช่วง 2003 –
“If it ain’t broke, don’t fix it” หมายถึงอะไรที่มันดีอยู่แล้ว ก็อย่าไปยุ่งกับมัน เป็นประโยคที่ใช้กับการเก็บความคลาสสิคดั้งเดิมจากของสิ่งนั้นให้คงอยู่ ยกตัวอย่างเช่นสูตรลับของอาหารต้นตำรับที่สืบทอดกันมาตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษ หรือรถคลาสสิคสายลึกที่นักสะสมบางกลุ่มเลือกเฟ้นหาอุปกรณ์ของตรงรุ่นทุกชิ้นในการดูแลรถยนต์ของตัวเอง เรียกว่าแม้แต่น็อตก็ต้องใช้ของเดิมเพื่อคุณค่าทางจิตใจ แต่อีกหลายกลุ่มในวงการรถยนต์อาจจะไม่เห็นด้วย เพราะคิดว่ารถยนต์ต้องตอบสนองการใช้งานจริงให้ได้มากที่สุด จะต้องข้ามสายพันธุ์บ้างก็ไม่ว่ากัน อย่าง Supra ใส่เครื่อง RB26DETT ก็ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของผู้ครอบครองมัน และจากเทรนด์ควบคุมการปล่อยไอเสียรถยนต์ที่กำลังเข้มงวดมากขึ้นแบบก้าวกระโดดในฝั่งยุโรป สำนักแต่งรถหลายแห่งจึงเริ่มปรับตัวเข้าไปวัฒนธรรมใหม่ นั่นคือการใช้พลังงานไฟฟ้า ไม่แปลกที่ Tesla จะเป็นรถที่ขายดีมากภายในไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ Voitures Extravert สำนักแต่งรถใน Hollland อยากจะฉีกไปหาทางเลือกพลังงานไฟฟ้าที่มันส์และมีคุณค่าทางจิตใจมากกว่า จึงริเริ่มโปรเจคที่น่าสนใจชื่อ “Quintessenza” สร้างคอลเลคชั่นฟื้นฟูรถ Porsche 911 ช่วงปี 70’s – 80’s ให้ใหม่หมดจด พร้อมเปลี่ยนเป็นรถพลังงานไฟฟ้า 100% และอัพเกรดสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ให้ทันสมัย ไว้ใจได้ในทุกวันที่ใช้งาน เพราะรถเก่าที่สวยงามไม่จำเป็นต้องจอดเก็บอยู่ในโรงรถให้มดไต่เสมอไป Quintessenza ‘The All-Electric Classic” Porsche 911
ประเทศญี่ปุ่นขึ้นชื่อเรื่องการเป็นเมืองหลวงแห่งวงการรถแต่ง เพราะไม่ว่าจะไปที่ไหนก็สามารถเห็นรถแต่งขับอยู่บนท้องถนนได้ในชีวิตประจำวัน แถมยังมีอู่สำนักแต่งรถให้ปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมอัพเกรดหน้าตาและสมรรถนะจากรถธรรมดาบ้าน ๆ ให้กลายเป็นรถแข่งสุดเท่ได้ตามใจสั่ง แต่ท่ามกลางผู้คนในวงการแต่งรถของญี่ปุ่นนั้นยังมีชายที่แตกต่างและมีตัวตนที่ชัดเจนกว่าคนอื่น นั่นก็คือ Shinichi Morohoshi ผู้ที่เอา Lamborghini Diablo มาแต่งให้เป็นสีชมพูจี๊ดจ้าดชวนบาดใจ จากความฝันตอนวัยรุ่นที่ได้เห็นรถซุปเปอร์คาร์ยี่ห้อนี้ Shinichi Morohoshi หรือเป็นที่รู้จักกันในนาม Morohoshi-san นั้นมีจุดเริ่มต้นความฝันที่อยากจะครอบครอง Lamborghini ตั้งแต่ตอนอายุ 17 ปี ซึ่งเขายังอยู่ในกลุ่มเด็กแว๊นของญี่ปุ่นที่เรียกกันว่า Bōsōzoku หรือ Bōsō แปลว่า “ชนเผ่าที่ใช้ความรุนแรง” ในกลุ่มนี้จะใช้มอเตอร์ไซค์ที่ประกอบชิ้นส่วนจากมอเตอร์ไซค์อังกฤษ , อเมริกาและถูกตกแต่งในลักษณะแปลก ๆ เช่นติดหลอดไฟนีออน ท่อไอเสียที่ใหญ่กว่าปกติ ธงสัญลักษณ์ประจำกลุ่มที่ถูกติดไว้ตรงแฟริ่งตัวถัง แน่นอนว่ากลุ่ม Bōsō นั้นขับรถซิ่งอย่างอันตรายบนถนนในโตเกียวไม่ต่างกับกลุ่มเด็กแว๊นในบ้านเราเลย Morohoshi ใช้ชีวิตแบบนี้จนกระทั่งเขาถูกจับในคืนวันก่อนปีใหม่ และนั่นเป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นรถในฝันอย่าง Lamborghini “ผมได้ยินเสียงมันก่อนที่ผมจะเห็นมันซะอีก เสียงท่อไอเสียมันหนักแน่น ผมถูกสะกดด้วยรถคันนี้ทันทีและไม่รู้ว่ารถคันนี้ทำเสียงดังขนาดนั้นได้ยังไง เราหมดเงินไปเป็นแสนเยนกับท่อมอเตอร์ไซด์ แต่นี่มันดังกว่าซะอีก หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีผมถึงเห็นมัน รถ Lamborghini Countach สีดำขับลงมาจากถนน Nakasendō ผมบอกตัวเองเลยว่า
ปล่อยให้บรรดาพี่ ๆ ตัวหลักเผยโฉมกันไปเกือบครบตระกูลแล้ว ตั้งแต่ 7-Series, 6-Series, 5-Series หรือแม้แต่ X3 ใหม่ คิวต่อไปที่พวกเราเฝ้ารอคอยความคืบหน้าก็คือน้องเล็กพิมพ์นิยม 2019 3-Series ในรหัส G20 ที่ถึงวันนี้มีเพียงภาพ Spy Shot ปล่อยออกมา โดยไม่มีรายละเอียดใด ๆ หลุดรอดออกมาเลยแม้แต่น้อย ยิ่งสร้างความน่าตื่นเต้นให้กับแฟน ๆ ใบพัดฟ้าขาวจนเนื้อตัวสั่นกันไปหมด เรียกว่าจะถอยรถใหม่ช่วงนี้ก็ต้องคิดแล้วคิดอีก เพราะกลัวจะพลาดโอกาสครอบครอง G20 คันนี้ไป ซึ่งดูจาก Spy Shot แล้วต้องบอกว่ามันเท่โคตรมากเหลือเกิน จากภาพ Spy Shot ล่าสุดโดยทาง Carscoop และ BMW BLOG เผยให้เห็นจุดสำคัญหลายอย่างในรถโมเดลใหม่ล่าสุดคันนี้ คงไม่ต้องเดาว่าโฉมหน้าต้องถอดแบบจากรุ่นพี่อย่าง 5-Series มาแน่นอน แต่ด้านหลังดูเหมือนจะผ่านการออกแบบใหม่หมด โคมไฟท้ายที่เรียวเล็กกว่าเดิม กับขนาดโดยรวมที่ดูอวบอ้วนกว่าเก่า ชวนให้นึกถึง Audi a4 ให้อารมณ์สปอร์ตที่หรูหรามากขึ้น แต่น่าเสียดายที่ดูเหมือนว่า Air Breather
นับว่าเป็นข่าวมาแรงที่กลบทั้งกระแสนาฬิกาหรู ฆ่าเสือดำ ไปเลยทีเดียวสำหรับข้อพิพากระหว่างป้าทุบรถกับคู่กรณี ที่กลายเป็นประเด็นถกเถียงกันในสังคมถึงความเหมาะสมเกิดเป็นทีมป้าและทีมโดนทุบ โดยในฐานะที่ UNLOCKMEN เป็นสื่อมวลชนก็ขอไม่ลงความเห็นใด ๆ เกี่ยวกับกรณีนี้ ปล่อยให้ว่ากันไปตามประมวลกฎหมายและข้อเท็จจริงของระบบตุลาการต่อไป เพราะเป็นกระแสสังคมเราจึงได้หยิบประเด็นนี้มาเล่นต่อ คือถ้าเกิดผู้อ่าน UNLOCKMEN กลัวว่าจะไปจอดรถแล้วโดนมือดีมาทุบรถ เพราะต้องยอมรับว่าสมัยนี้ เราได้นำรถสุดแกร่งที่แม้จะโดนยกมาทุบทั้งหมู่บ้านรับรองว่าไม่มีสึกหรอ มาลองดูกันว่ามีรถยี่ห้ออะไรบ้าง Gurkha LAPV เริ่มคันแรกที่รถหุ้มเกราะส่วนบุคคลอย่าง Gurkha LAPV หรืออีกชื่อคือ Knight XV ของบริษัท ARMET ผู้ผลิตรถหุ้มเกราะสัญชาติอเมริกัน รถรุ่นนี้ได้ชื่อมาจากกลุ่มทหารนักรบเนปาลชื่อดังอย่างกรูข่านั่นเอง ถูกพัฒนาโดยใช้พื้นฐานจากรถ Ford F550 พี่ใหญ่ตัวแรงในรุ่นกระบะปิคอัพ ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ V8 ขนาด 6.4 ลิตร 350 แรงม้า ความเร็วสูงสุดที่ 155 กม./ชม. บรรทุกผู้โดยสารได้ 8 คน ตัวถังหุ้มด้วยเกราะระดับ 3 จาก 5 ระดับตามมาตรฐาน NATO (STANAG 4569) ที่สามารถกันระเบิดได้
เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมากสำหรับผู้ชายรักรถทุกคนที่เคยใฝ่ฝันอยากครอบครองรถหรู สมรรถนะแรงแบบ Bi-Turbo ตระกูล AMG เพราะที่ผ่านมาการนำเข้าทำให้ราคาตั้งอยู่สูงจนได้แต่ชะเง้อมอง แต่โอกาสที่ความฝันนั้นจะเป็นจริงมาถึงแล้ว ด้วยการเปิดตัวรถยนต์ Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupe รุ่นประกอบในประเทศเป็นครั้งแรก ในราคาที่ลดลงมาในระดับที่ทำให้หลายคนต้อง ‘ลำบากใจ’ Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupe ถือเป็นรถยนต์สมรรถนะสูงตระกูล 43 ที่ผู้เป็นเจ้าของสามารถสัมผัสถึงความโดดเด่นของแบรนด์ Mercedes-AMG ได้ในทุกจังหวะการขับขี่ ซึ่งรถยนต์รุ่นนี้ได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นตามหลักปรัชญา “Driving Performance – ขับเคลื่อนทุกสมรรถนะ” ได้อย่างไร้ที่ติ พร้อมทั้งยังผสมผสานนวัตกรรมของรถสปอร์ตและรถแข่งไว้ได้อย่างลงตัว ดีไซน์ภายนอกของรถยนต์รุ่นนี้ นักออกแบบของ Mercedes-AMG ได้เน้นคุณลักษณะของแบรนด์ที่ให้ความสำคัญในด้านความก้าวหน้าของนวัตกรรมยานยนต์ เพื่อให้เกิดสมรรถนะที่เหนือกว่า รวมถึงการตกแต่งฝาครอบเครื่องยนต์ด้วยแถบสีแดงทรงวี เพื่อสะท้อนสมรรถนะเครื่องยนต์แบบวี 6 สูบเทอร์โบคู่ได้อย่างสมบูรณ์ หลังคาพาโนรามิคซันรูฟเลื่อนเปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า, กระจังหน้า diamond grille สีเงิน พร้อมตราสัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ และ AMG, AMG Bodystyling (กันชนหน้า-หลังและสเกิร์ตข้าง), ล้ออัลลอยดีไซนสปอร์ตจาก AMG
เมื่อพูดถึง ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ เชื่อว่าสิ่งแรกที่สิงห์นักบิดหลายคนนึกถึง คือภาพของรถจักรยานยนต์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ผสมผสานงานออกแบบที่สวย คลาสสิก ร่วมสมัย เข้ากับความแม่นยำในการควบคุมรถ และสมรรถนะอันเป็นเลิศ ซึ่งล่าสุดตำนานบทใหม่ของไทรอัมพ์กำลังจะถือกำเนิดขึ้น กับโมเดลสุดคลาสสิกอย่าง “ไทรอัมพ์ บอนเนวิลล์ สปีดมาสเตอร์” (Triumph Bonneville Speedmaster) ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากต้นฉบับคัสตอมสุดคลาสสิกที่พรั่งพร้อมไปด้วยดีเอ็นเอสายพันธุ์แท้ของตระกูลบอนเนวิลล์ แต่สามารถใช้งานได้ง่ายดายและคล่องแคล่วขึ้นกว่าที่เคยมีมา ซึ่งเป็นมิติใหม่ของรถมอเตอร์ไซค์ตระกูลบอนเนวิลล์สไตล์คัสตอมสุดคลาสสิกแบบฉบับอังกฤษที่มาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานในระดับสูงขึ้น ทีมงาน UNLOCKMEN จึงไม่พลาดเอาทีเด็ดของโมเดลนี้มาแชร์กัน เครื่องยนต์ ลักษณะอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของสายพันธุ์การออกแบบที่สืบทอดมาจากบอบเบอร์ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องยนต์ขนาด 1200 ซีซี ครีบเครื่องยนต์กลึงขึ้นรูป เรือนปีกผีเสื้อคู่สไตล์คาร์บูเรเตอร์ เส้นสายคอท่อที่เรียบง่ายชัดเจนสวยงาม ครีบคอท่อ อีกทั้งกล่องแบตเตอรี่แบบดั้งเดิมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากต้นฉบับ แฮนด์สไตล์ Beach Bar และเบาะที่นั่งสุดคลาสสิก แฮนด์บังคับเลี้ยวกวาดไปด้านหลังสไตล์ Beach Bar ตลอดจนเบาะที่นั่งคู่อเนกประสงค์และที่นั่งเดี่ยวที่สามารถถอดออกได้ ส่งมอบภาพลักษณ์คัสตอมสุดคลาสสิกสไตล์สบายผ่อนคลายที่เพิ่มความสะดวกสบายในการบังคับรถและการควบคุมที่เหนือชั้นด้วยตำแหน่งการขับขี่ที่ออกแบบตามหลักสรีระศาสตร์ ท่อไอเสีย ท่อไอเสียสแตนเลสสตีลสองชั้นชุบโครเมียมสามารถซ่อนจุดเชื่อมต่อไปยัง Cat box ได้อย่างแนบเนียน รวมถึงติดตั้งชุดกรองอากาศคู่และการออกแบบไส้กรองอากาศคู่ เพื่อส่งมอบเสียงที่ดีที่สุด จึงทำให้ บอนเนวิลล์ สปีดมาสเตอร์ มีโทนเสียงที่ลุ่มลึกและหนักแน่นมากยิ่งขึ้น ไฟหน้า
เป็นเวลานานจนเราจำแทบไม่ได้ว่า ครั้งล่าสุดที่เราเฝ้ารออะไรบางอย่างด้วยความตื่นเต้นนั้นคือเมื่อไหร่ แต่ระยะหลังความรู้สึกเฝ้าติดตามอย่างจดจ่อแบบนั้นได้หวนกลับคืนมาอีกครั้งหนึ่ง เพราะเรากำลังเข้าใกล้การเผยโฉมอย่างเป็นทางการของ 2018 Toyota Supra ตำนานภาคใหม่ของ Iconic Supercar แดนปลาดิบ ที่เป็นวัฒนธรรมแทรกซึมเข้าไปในหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะวงการภาพยนตร์ ซึ่งกำหนดการล่าสุดก็เตรียมเปิดผ้าคลุมครั้งแรกเดือนหน้านี้ในงาน Geneva Motor Show ช่วงนี้จึงมีข่าวคราวความคืบหน้าเกี่ยวกับ 2018 Supra หลุดออกมาอย่างต่อเนื่อง แม้ทาง Toyota จะเผยภาพ Official Teaser ออกมาเพียงภาพเดียว คือ shot ท้ายรถและ Spoiler หลังแบบมืด ๆ ไม่มีรายละเอียดและสเปคใด ๆ แต่ข่าวดีคือ Best Car magazine ของญี่ปุ่น ได้ปล่อยข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับ Supra คันนี้ พร้อมหน้าตาแบบไม่มีอะไรปกคลุมซึ่งเมื่อเทียบกับภาพ Concept และคัน Camouflage ที่วิ่งทดสอบแล้ว ต้องบอกว่ามีโอกาสที่ข้อมูลจะถูกต้องค่อนข้างมาก เรื่องหน้าตาความสวยงามเป็นเรื่องนานาจิตตัง แต่เราน่าจะคุ้นตากันดี เพราะได้รับอิทธิพลมาจาก FT-1 Concept ที่เผยโฉมไปในงาน Detroit