เอาใจสาวกดนตรีแนว Melodic House กับการกลับมาของงานดนตรีคอนเซ็ปต์ร่วมสมัย SIWILAI Tour ร่วมกับ Johnnie Walker โดยอาณาจักรไลฟ์สไตล์ SIWILAI พร้อมเปิดประสบการณ์ดนตรี ต้อนรับศิลปินและโปรดิวเซอร์แนว Melodic House ระดับโลกอย่าง KLINGANDE บนพื้นที่ SIWILAI CITY CLUB แหล่งแฮ้งเอาท์สำหรับทุกคน ที่เปรียบเสมือน Beach Club ในใจกลางเมือง ผู้นำเสนอเทรนด์ร่วมสมัยในวิถีที่เข้ากับไลฟ์สไตล์คนเมืองสมัยใหม่ โดยมุ่งเน้นความเป็นสากล แต่ก็ไม่ละทิ้งเอกลักษณ์กลิ่นอายความเป็นไทย บนชั้น 5 ของศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ไม่ว่าจะเป็นอาหารจานพิเศษซึ่งได้ถูกคัดสรร ส่วนผสมมาอย่างดี, เครื่องดื่มสูตรเฉพาะที่ไม่เหมือนใคร หรือประสบการณ์ดนตรีที่แสนน่าจดจำ SIWILAI CITY CLUB เป็นพื้นที่สำหรับ ทุกๆคน โดยเป็นจุดกำเนิดแห่งแรงบันดาลใจสำหรับคนเมืองผู้ชื่นชอบวัตนธรรมใหม่ ๆ รวมไปถึงเรื่องราวการเดินทางและการใช้ชีวิตอย่างมีรสนิยม โดยโซน Terrace ใน SIWILAI CITY CLUB ไฮไลท์ความสวยงามของทิวทัศน์ Skyline ในเมืองกรุงเทพฯ หรือจะเป็นเวทีการแสดง
ในทุกปี อีกหนึ่งงานที่เหล่าบรรดาคนรักนาฬิกาต้องรอคอยคงหนีไม่พ้นงาน “เซ็นทรัล อินเตอร์เนชั่นแนล วอทช์ แฟร์ 2017 (Central International Watch Fair 2017)” มหกรรมนาฬิกาครั้งยิ่งใหญ่แห่งภูมิภาคเอเชียครั้งที่ 19 จัดโดย นิตย์สินี จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ร่วม บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด ณ ห้างเซ็นทรัลชิดลม ซึ่งในปีนี้ทางทีมงาน UNLOCKMEN ได้รับเกียรติร่วมงานเปิดตัวพร้อมร่วมรับเสด็จพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จไปทรงเปิดงานยิ่งใหญ่แห่งปีนี้ ภายในงานเซ็นทรัล อินเตอร์เนชั่นแนล วอทช์ แฟร์ 2017 จัดได้ยิ่งใหญ่และครบครันด้วยนาฬิกาแบรนด์เอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะห้างเซ็นทรัล รวมถึงคอลเลกชั่นใหม่ล่าสุด รุ่นลิมิเตด เอดิชั่น หรือเรือนเวลาสุดพิเศษที่มีเพียงเรือนเดียวเฉพาะห้างเซ็นทรัลเท่านั้น ที่ส่งตรงจากงานแสดงนาฬิการะดับโลกบาเซิลเวิลด์และงาน SIHH ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ กว่า 180 แบรนด์ระดับโลก มูลค่ารวมกว่า 5,000 ล้านบาท โดยภายในงานมีเหล่าเซเลบริตี้รุ่นใหม่แสดงแบบอวดโฉมนาฬิการุ่นไฮไลท์ งานนี้เรายังได้สัมผัสความหรูหราระดับเวิลด์คลาสบนข้อมือกับเรือนเวลาต่าง ๆ ที่โชว์ความพิเศษแห่งกลไก ความล้ำแห่งเทคโนโลยี ความก้าวหน้าด้านวิศวกรรม จากแบรนด์นาฬิกาชั้นนำและแบรนด์เอ็กซ์คลูซีฟระดับโลกที่ร่วมจัดแสดง อย่าง
เป็นงานสุดหรู ที่คุณผู้ชายอย่างเรา ๆ ควรจะพาสาว ๆ ไปเสพประวัติศาสตร์ของเครื่องหนังแบรนด์หรูหราคู่มนุษยชาติ หลุยส์ วิตตอง ร่วมกับสยามพารากอน สร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่ด้วยการรังสรรค์งานนิทรรศการ “ไทม์ แค็ปซูล” (Time Capsule) แสดงเรื่องราวและวิวัฒนาการของการเดินทางและหีบเดินทางตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 จนถึงปัจจุบัน โดยจะแสดงผลงานแห่งความสร้างสรรค์ทั้งหีบเดินทางและเครื่องหนังของหลุยส์ วิตตองที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 160 ปี ส่งตรงมาจากกรุงปารีสเพื่อมาจัดแสดงที่กรุงเทพฯ ประเทศไทยเป็นที่แรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ระหว่างวันที่ 7-25 กันยายน 2560 ณ ลานพาร์คพารากอน สยามพารากอน ภายในนิทรรศการ Time Capsule หลุยส์ วิตตองได้รวบรวมผลงานชิ้นเอกและเหตุการณ์สำคัญๆ ในประวัติศาสตร์ของแบรนด์เอาไว้โดยแบ่งการจัดแสดงเป็นโซนต่าง ๆ เช่น โซนประวัติศาสตร์ของแบรนด์ โซนวิวัฒนาการหีบและกระเป๋าหลุยส์ วิตตองกับการเดินทางรอบโลก โซนเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ในอดีตและปัจจุปันกับประเทศไทย เป็นต้น ผู้เข้าชมงานจะได้พบกับผลงานและผลิตภัณฑ์ของหลุยส์ วิตตองอันล้ำค่าและหาดูได้ยากซึ่งนำมาจากหอจดหมายเหตุของหลุยส์ วิตตอง ที่กรุงปารีส อีกทั้งจะได้ชมการสาธิตวิธีการทำเครื่องหนังด้วยทักษะขั้นสูงโดยช่างฝีมือชาวฝรั่งเศสที่บินตรงมาจากเวิร์คช็อปหลุยส์ วิตตอง ในเมืองอานิแยร์ส (Asnières) ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ที่สร้างชื่อเสียงและความเชื่อมั่นให้แบรนด์หลุยส์ วิตตองตลอดมา อีกเหตุผลที่ห้ามพลาด
กินเหล้าเมายาเหมือนว่ามันกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผู้ชายอย่างเรา ๆ ไปแล้ว เพราะการกินเหล้านอกจากจะเป็นความสนุกสุขใจส่วนตัวแล้ว เรายังได้สังสรรค์สานความสัมพันธ์และมิตรภาพอีกด้วย แต่ความสุขและความสัมพันธ์อาจมาจากบรรยากาศในวงเหล้า โดยเราไม่จำเป็นต้องเมาหัวราน้ำก็ได้ นี่จึงเป็น 7 วิธีที่จะทำให้คุณนั่งอยู่ในวงเหล้าได้ทั้งคืนแต่ไม่ต้องเมาอ้วกแตกให้เสียสุขภาพ อย่าปล่อยให้ท้องว่าง ขั้นแรกเลยคืออย่าปล่อยให้ท้องว่าง ไม่ว่าจะรีบบึ่งไปหาเพื่อนเพื่อก๊งเหล้ามากแค่ไหน ก็หาอะไรรองท้องอย่าปล่อยให้ตัวเองไม่ได้กินอะไรไปเลย ถ้าไม่มีเวลากินอาหารมื้อใหญ่ก็ควรกินอะไรรองท้องไปหน่อย เพื่อสุขภาพยืนยาวจะได้อยู่กินเหล้าไปนาน ๆ กินช้า ๆ ได้พร้าเล่มงาม จะกินเร็วไปทำไม ในเมื่อเราไม่ได้มาเพื่อกรอกเหล้าเข้าปากให้จบ ๆ ไปแล้วกลับบ้านนอน เรามาเพื่อสังสรรค์ เอาบรรยากาศ และดื่มด่ำความสุขที่ได้รับจากการดื่มกิน ดังนั้นไม่ต้องรีบ ค่อย ๆ ละเลียดรสชาติของน้ำสีอำพันไป นอกจากได้ดื่มด่ำแล้ว ยังทำให้เมาช้าลงอีกด้วย ดื่มน้ำเยอะ ๆ การดื่มเครื่องดื่มมีแอลกอฮอลล์นั้นทำให้ร่างกายขาดน้ำอย่างที่เราคาดไม่ถึง ทางที่ดีควรดื่มน้ำก่อนกินเหล้า ดื่มน้ำระหว่างกินเหล้า และดื่มน้ำหลังกินเหล้าด้วย แต่ถ้าลืม ทำไม่ได้ กินเหล้าไปก็ดื่มน้ำไปก็สามารถช่วยให้เมาช้าลงได้ กินกับแกล้ม ไม่ว่าจะชอบกินกับแกล้มหรือไม่ชอบกิน แต่ถ้าไม่อยากเมาเร็ว ก็ดื่มไป ตักกับแกล้มกินไป ไม่ให้ท้องว่าง ยิ่งถ้าไม่ได้กินอะไรรองท้องมาตั้งแต่แรกแล้วล่ะก็ การมีกับแกล้มเป็นของคู่วงเหล้านับเป็นทางออกที่ชาญฉลาดที่สุดอีกทางหนึ่ง อย่าเชื่อฟังคำยุยงหมดแก้ว ๆ เราหมดยุคเด็กมัธยมโชว์เก๋า โชว์กระดกเหล้าหมดแก้วตามคำยุของเพื่อน แต่สุดท้ายก็เมาอ้วกไม่เป็นท่ามาแล้ว
วันว่างที่เราไม่อยากทำอะไร แค่อยากนั่งในร้านบรรยากาศดี กาแฟหอม ๆ สักแก้ว และหนังสือเล่มโปรดอีกหนึ่งเล่ม เน้นเสพบรรยากาศรอบ ๆ ตัว ยิ่งถ้ามีเพลงเพราะผ่านการคัดสรรจนลื่นหู และมิตรภาพที่พร้อมจะเกิดขึ้นกับการแชร์ที่นั่งกับคนแปลกหน้าที่มาเพื่อเป้าหมายเดียวกัน วันนี้เราขอแนะนำคาเฟ่ดี ๆ ชื่อ INK & LION บนเอกมัยซอย 2 อยู่ในเวิ้งตรงข้ามกับ Park Lane มีที่จอดรถมากมาย เป็นร้านที่เหมาะกับการปลีกตัวไปนั่งชิลล์คนเดียว ได้อารมณ์เท่ปนขรึมในโทนขาวดําสไตล์ Modern Industrial เน้นตกแต่งด้วย ไม้ เหล็กดิบ แม้จะดูหยาบ แต่ใส่ใจรายละเอียดให้ออกมามีดีไซน์ชื่อร้านที่แสดงออกถึงความอาร์ต มาจากการนําคําว่า INK ที่เจ้าของร้านสื่อถึงหมึกต้นกําเนิดแห่งการสร้างงานลายเส้นศิลปะ อีกนัยหนึ่งก็สื่อถึงกาแฟที่มีสีดํา ส่วน LION มาจากสัญลักษณ์สิงโตบนเครื่องชงกาแฟชั้นดีประจําร้านนั่นเอง บรรยากาศของร้านเต็มไปด้วยความร่มรื่น ผู้คนที่ดูสบายตา ระหว่างที่เรานั่งพิมพ์อยู่ก็ได้ทำความรู้จักกับชาวต่างชาติที่มาเที่ยวเมืองไทยอย่างสนุกสนาน จิบกาแฟไป พร้อมอ่านหนังสือดีที่กองเก็บไว้นานแล้วสักเล่มไปด้วย เป็นอารมณ์พักผ่อนที่สามารถทําคนเดียวได้อย่างไม่เคอะเขิน กาแฟของที่นี่ใส่ใจตั้งแต่การคัดสรรเมล็ดชั้นดีจากทั่วโลก รวมถึงกาแฟที่ผ่านวิธีการเบลนด์แบบพิเศษของทางร้าน ที่ชงแบบ Hand Drip ทําให้ได้กาแฟรสชาติและกลิ่นที่ยอดเยี่ยม จับคู่เข้ากับขนมชิ้นพอดีได้อย่างดี เหมาะแก่การปลีกตัวมาชิลล์คนเดียว หรือจะมานั่งฆ่าเวลากับสาวคนสนิทก็ให้ความรู้สึกดีไม่แพ้กัน แถมท้ายอีกนิด
CHANG ฉลองความสำเร็จแคมเปญ #OurSong ชวนชาวร็อคสร้างโมเม้นต์สุดมันร่วมกัน กับคอนเสิร์ตของวงร็อคแถวหน้าของเมืองไทยอย่าง “สล็อต แมชชีน” ชูไฮไลท์เพลง “ผ่าน” ด้วยมิตรภาพคำว่า “เพื่อน” ของสี่หนุ่มเพื่อนซี้ “เฟิด-แก๊ก-วิทย์-ออโต้” และแฟนเพลงทั้งฮออลล์ ตอกย้ำแนวคิด ‘ช้าง…เติมเต็มคำว่าเพื่อน’ ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา “เครื่องดื่มตราช้าง” ยังคงมุ่งตอกย้ำแนวคิดของแบรนด์ที่ว่า ‘ช้าง…เติมเต็มคำว่าเพื่อน’ ควบคู่ไปกับสร้างการมีส่วนร่วมในแบรนด์กับผู้บริโภค (Brand Engagement) ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ภายใต้แคมเปญ ‘#เพลงของเรา หรือ #OurSong’ อย่างต่อเนื่อง โดยใช้ ‘มิวสิค สตรีมมิ่ง’ เป็นเครื่องมือหลักในการสื่อสารไปยังกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมาย ซึ่งผลตอบรับ ที่ได้ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เพราะแคมเปญฯ นี้ กลายเป็นแคมเปญที่มียอดจำนวนคนเข้ามามีส่วนร่วมสูงที่สุดนับตั้งแต่ JOOX ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์หลักได้มีการจัดกิจกรรมในลักษณะของพาร์ทเนอร์ชิพร่วมกับแบรนด์ต่างๆ เลยทีเดียว และเพื่อเป็นการฉลองความสำเร็จของแคมเปญ #เพลงของเรา หรือ #OurSong ช้างได้ร่วมเป็นผู้สนับสนุนหลักให้กับคอนเสิร์ต ‘ช้าง มิวสิค คอนเน็คชั่น พรีเซ็นต์ สล็อต แมชชีน เดอะ มาเธอร์ชิพ
Taste it all 2017 @Ratchaprasong เทศกาลอาหารนานาชาติครั้งสำคัญ ที่นำเสนอสุนทรียรสระดับเวิลด์คลาส คัดสรรวัตถุดิบชั้นดีจากแหล่งผลิตที่ดีที่สุดในประเทศไทยของ “โครงการหลวง” ภายใต้คอนเซ็ปต์ Pheasant festival หรือ เทศกาลไก่ฟ้า พร้อมเชิญเซเลบริตี้เชฟจาก 8 ห้องอาหาร สุดหรูใจกลางกรุงเทพฯ มาร่วมปรุงแต่งซิกเนเจอร์เมนู ผสานศาสตร์แห่งความพิถีพิถันจนได้ ความมหัศจรรย์แห่งรสชาติอันกลมกล่อมของ “เมนูไก่ฟ้า” พร้อมเสิร์ฟรสชาติที่เหนือจินตนาการ เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก โดยสมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ (RSTA) ภายใต้การสนับสนุนของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และมูลนิธิโครงการหลวง คุณฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “ตามนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งความสำคัญในการเร่งพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตด้วยอุตสาหกรรม การท่องเที่ยว ซึ่งในปี 2561 ททท. ตั้งเป้าหมายเติบโตของรายได้จากการท่องเที่ยวร้อยละ 8 ตามที่รัฐบาลกำหนด โดยยังคงเน้นการปรับโครงสร้างตลาดอย่างต่อเนื่องเพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์การเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างยั่งยืน และจะผลักดันแนวทางการขยายฐานตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพด้วยการนำเสนอรูปแบบการท่องเที่ยว ผ่านวิถีการกิน ซึ่ง ททท. ได้เล็งเห็นถึงแนวทางการกระตุ้นส่งเสริมและยกระดับบริการด้านการท่องเที่ยวไทย การนำอาหารมาพัฒนาให้เป็นสินค้าทางการท่องเที่ยวที่สำคัญและสร้างแรงดึงดูดต่อนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างประเทศ ซึ่งจะเป็นการต่อยอดกระแสด้านอาหารซึ่งเป็นหมวดการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มเติบโตสูงสุดผ่านกิจกรรมหรืองานเทศกาลด้านอาหารต่างๆ ดังเช่น กิจกรรม “Taste it
วัฒนธรรมการกิน คือสิ่งที่เราเรียนรู้ได้ผ่านภาพยนตร์ ซีรีส์ หรือการท่องเที่ยวไปในหลายประเทศ วัฒนธรรมการกินไก่ทอดคู่เครื่องดื่มเย็น ๆ เพื่อ Refreshment ที่ทั้งอร่อยและผ่อนคลายของคนหลังเลิกงาน หรือของกลุ่มเพื่อนซี้ที่รวมตัวกันพูดคุยอย่างออกรส น่าจะเป็นบรรยากาศที่หลายคนคงคุ้นหูคุ้นตาความสุนทรีแบบนี้กันมาบ้าง โดยเฉพาะในอเมริกาและในเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นการจับคู่อาหารเพื่อดื่มด่ำความสุขอย่างลึกซึ้งมากกว่าแค่การกินเพื่ออิ่มท้อง ที่ชวนให้น้ำลายสอทุกทีที่ได้เห็นผ่านจอ เช่นเดียวกับในประเทศไทย คนไทยกับไก่ทอดและเครื่องดื่ม เป็นสาม Combination ที่ได้รับความนิยมมาโดยตลอด และตอนนี้ภาพบรรยากาศความสนุกกับเพื่อนซี้ พร้อมเครื่องดื่มเย็นฉ่ำแกล้มไก่ทอดกรอบ ๆ ได้ถูกพัฒนาไปอีกขั้น กับการรวมเอาทั้ง 3 Perfect combination เข้าไว้ด้วยกันให้ใกล้กว่าเดิม เพราะล่าสุดเมนูเครื่องดื่มเย็น ๆ ที่มาพร้อมไก่ทอดรสอร่อยได้เดินทางมาให้พวกเราชาวไทยลิ้มรสประสบการณ์ Chang @The PARQ กันถึงถิ่น เรียกได้ว่าเป็นการ Collabs ครั้งใหญ่ของวงการอาหาร และยังถือเป็นครั้งแรกของประเทศไทยกับเมนูเครื่องดื่มเย็น ๆ จาก Chang ที่ควงคู่มากับความกรอบฉ่ำละมุนรสเครื่องเทศของไก่ทอดสูตรผู้พันซึ่งพร้อมเสิร์ฟแล้ววันนี้ ที่ KFC Lifestyle Store สาขาพิเศษใหม่ล่าสุดที่ The PARQ ถนนพระราม 4 ขึ้นชื่อว่าเป็น KFC สาขาพิเศษทั้งที เราจึงไม่พลาดที่จะรีบมารีวิวให้รู้ว่าแตกต่างกับสาขาปกติยังไง
เราถูกดึงดูดด้วยบรรยากาศลึกลับ เท่ แต่คลาสสิคของ BAR SAVOY ตั้งแต่วินาทีแรกที่ก้าวเข้าไปถึง แต่เสน่ห์ดึงดูดของ SAVOY ไม่ได้จบลงแค่บรรยากาศเท่านั้น เพราะซิกเนเจอร์สุดโดดเด่นอย่างการเป็น Punch Bar และ Singing Rooms ยังเผยตัวชัดแจ้งจนเราอดที่จะกระโจนเข้าไปค้นหาไม่ได้ บอกได้เลยว่าชาว UNLOCKMEN ก็ไม่ควรพลาด ถ้าอยากดื่มด่ำความลึกลับ เท่ และคลาสสิคก็ตามไปพร้อม ๆ กัน สิ่งที่คุณจะค้นพบเมื่อย่างกรายเข้ามาที่ SAVOY แล้วรู้ทันทีว่านี่คือสิ่งที่พลาดไม่ได้คือ “พันช์” ก่อนที่คุณจะทำหน้าไม่เชื่อใจในรสนิยมตัวเอง UNLOCKMEN ขอทลายความเชื่อเดิม ๆ ของคุณที่ว่าพันช์เป็นเครื่องดื่มที่เหมาะกับผู้หญิงลงไปก่อน จุดเริ่มต้นของพันช์ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับสาว ๆ หรือผู้หญิงอย่างที่เป็นภาพจำในปัจจุบัน พันช์มีจุดเริ่มต้นไกลโพ้นอย่าง “อินเดีย” โดยคำว่าพันช์มาจากคำว่า “ปัญจ” ที่แปลว่า 5 เนื่องจากเครื่องดื่มชนิดนี้นั้นมีส่วนผสมจากวัตถุดิบ 5 อย่าง ได้แก่ แอลกอฮอลล์ น้ำตาล เลมอน เครื่องเทศ และน้ำเปล่าหรือน้ำชา SAVOY จึงไม่ได้มาเพื่อนำเสนอพันช์สีชมพูหวานแหววสำหรับสาว ๆ อย่างที่คุณคุ้นตาเท่านั้น
ชีวิตในเมืองใหญ่นั้น มีข้อดีตรงที่วิถีชีวิตของเราจะผลักดันให้ขับเคลื่อนเดินไปข้างหน้าตลอดเวลา เพราะเมืองใหญ่เป็นเมืองที่ไม่เคยหลับใหล ในตอนกลางวันเราต่างทำงานในเมืองที่ผู้คนพลุกพล่าน เร่งรีบ ล้อมรอบไปด้วยเนื้อหาต่าง ๆ รอบตัวตั้งแต่ก้าวเท้าออกจากที่พักอาศัย ในตอนกลางคืนก็สนุกต่อกับแสงสียามค่ำ ที่ทำให้เราตื่นตาตื่นใจ เสน่ห์ของแสงสว่างจากหลอดไฟ ชีวิตอีกมุมที่เพิ่งจะเริ่มต้นเมื่อพระอาทิตย์ตกดิน แต่บางครั้งการอยู่กับวิถีชีวิตที่ไม่หยุดนิ่ง ชีวิตที่เชื่อมต่อกับปัจจัยมากมายตลอดทั้งวัน ก็อาจทำให้เราไม่ได้หยุดพัก จนรู้สึกเหน็ดเหนื่อยได้เหมือนกัน ที่จริงแล้วในอีกมุมของเมืองใหญ่อย่างเอกมัย ที่เต็มไปด้วยไลฟ์สไตล์หลากหลายรอต้อนรับอยู่ตลอดทั้งวัน ก็ยังมีมุมที่ขับเคลื่อนไปอย่างช้า ๆ อนุญาตให้เราได้ปลีกตัวมาหยุดพัก ให้เวลากับตัวเอง ถามความต้องการของตัวเอง ทำสิ่งไร้สาระที่อยากทำมาตั้งแต่เช้า ซึ่งเป็นอีกสิ่งสำคัญที่ชีวิตต้องการ เป็นการรีชาร์จพลังก่อนที่จะกลับไปคึกคักกับแกงค์เพื่อนสนิท หรือต่อสู้กับวิถีชีวิตตามหน้าที่ของเมืองใหญ่อีกครั้ง โดยใช้เวลาเพียงแค่ก้าวเท้าออกมาจากจุดที่วุ่นวายไม่กี่ก้าว คราวนี้ก็ขึ้นอยู่กับอารมณ์คุณแล้วล่ะว่าอยากจะปลีกตัวไปชิลล์แบบเงียบๆ ลำพัง หรืออยากจะชวนก๊วนเพื่อนมาผ่อนคลายด้วยกันเพลิน ๆ ว่าแล้วก็ลองหาเวลาว่างแวะย่านเอกมัยไปสร้างความสมดุลในชีวิตกันดีกว่า CAFE FOR ME: FEATHERSTONE CAFE สำหรับคนที่มองหาการใช้เวลาคนเดียว ร้านกาแฟในห้างที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย ไม่น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีมากนัก ในขณะเดียวกัน ย่านเอกมัยที่ดูคึกคัก กลับมีคาเฟ่ที่เงียบสงบ ไลฟ์สไตล์ครบถ้วน ตกแต่งอย่างสวยงามสไตล์ยุโรป ตั้งโดดเด่นอยู่ในซอยเอกมัย 12 ซึ่งเป็นซอยที่เปรียบเสมือนโซนส่วนตัวสำหรับคนเอกมัย และทุกครั้งที่เราได้ไปนั่งอ่านหนังสือที่นี่ จิบกาแฟ เขียนบทความที่กำลังพิมพ์อยู่ตอนนี้ ก็ช่วยให้มีสมาธิที่ดี จนดูเหมือนเวลาพักผ่อนจะผ่านไปช้ากว่าปกติ การใช้เวลาจิบกาแฟ
เชื่อว่า วลี “บอลนอกแค่สะใจ แต่บอลไทยอยู่ในสายเลือด” นั้นเป็นถ้อยคำที่ฝังลึกอยู่ในใจของแฟนบอลชาวไทยแทบทุกคน แม้ว่าส่วนใหญ่แต่ละคนจะมีทีมรักอยู่ในลีกต่างประเทศ มีทีมชาติทีมโปรดที่เต็มไปด้วยนักเตะไอดอลในดวงใจ ซึ่งวาดลวดลาย โชว์ฝีแข้งระดับโลกให้ได้ลุ้นกันในทัวร์นาเม้นต์ใหญ่ ๆ แต่เมื่อถึงแมทช์สำคัญที่มีเหล่าช้างศึกนักเตะทีมชาติไทยลงสนาม แฟนบอลชาวไทยทั้งหลายไม่ว่าปกติจะเชียร์ทีมอะไรอยู่ ต่างเป็นต้องพร้อมใจรวมตัวกันแบบเฉพาะกิจ ลืมทีมลีกต่างประเทศ ทีมชาติของเหล่านักเตะซูเปอร์สตาร์ทั้งหลายเอาไว้ชั่วคราว เพื่อส่งแรงใจเชียร์นักฟุตบอลทีมชาติไทยอย่างเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน แม้บางช่วงที่ผลงานทีมไทยอาจดูไม่ค่อยเข้าตา จนกระแสความนิยมลดลง พื้นที่บนอัฒจันทร์ในสนามโล่งจนน่าใจหาย แต่ก็ยังต้องนับถือสปิริตของกองเชียร์เดนตาย แฟนพันธุ์แท้ทีมชาติไทยที่ยังคงยืนหยัดเคียงบ่าเคียงไหล่ ตามให้กำลังใจเหล่าช้างศึกอย่างไม่ลดละ เพราะไม่ว่าผลงานจะเป็นอย่างไร แต่ทุกครั้งที่เหล่านักเตะสวมเสื้อทีมชาติเพื่อสู้ศึกดวลแข้งในฐานะตัวแทนประเทศไทย นั่นคือความตั้งใจที่จะทำเพื่อชาติ เพื่อความสุขของพวกเราชาวไทยทุกคน และสิ่งที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการฝึกซ้อม กลยุทธ์ ความมุ่งมั่น และพรสวรรค์ส่วนตัวของนักเตะ ก็คือกำลังใจจากเสียงเชียร์ ซึ่งหลายต่อหลายครั้งในช่วงเวลาที่กดดัน แต่เสียงเชียร์ที่ดังกระหึ่มในสนามกลับเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญซึ่งสร้างแรงฮึดจนสามารถพลิกสถานการณ์กลับมาได้ หลังจากผ่านช่วงเวลาอันมืดมน ที่เรียกได้ว่าเกิดวิกฤตศรัทธาต่อฟุตบอลทีมชาติไทยอย่างหนัก จนมาถึงตอนนี้ถือเป็นเรื่องน่าดีใจ ที่ในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมา กระแสบอลไทยกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง ด้วยมาตรฐานของลีกฟุตบอลอาชีพในไทยที่สูงขึ้น ส่งต่อการพัฒนาฝีเท้าของนักเตะ การพัฒนาของแบบแผนการเล่น รวมถึงสปิริตการเล่นแบบมืออาชีพที่ส่งผลให้รูปเกมดีขึ้น ซึ่งเปรียบเสมือนของขวัญให้เหล่าแฟน ๆ ที่ตามเชียร์มาโดยตลอดได้ชื่นอก ชื่นใจ เชียร์ได้สะใจกว่าที่เคย อีกทั้งยังสร้างฐานแฟนบอลทีมชาติไทยกลุ่มใหม่ให้เพิ่มมากขึ้น โดยมิติของการสร้างระบบ สร้างทีมที่แข็งแกร่ง แฟนบอลอย่างเราคงไม่มีหน้าที่โดยตรงที่จะเข้าไปก้าวก่าย
เดินทางผ่านประวัติศาสตร์มายาวนานร่วม 60 ปี กับ Speedmaster หนึ่งในคอลเลคชั่นนาฬิกายอดนิยมจาก OMEGA แบรนด์นาฬิกาสุดหรูสัญชาติสวิส ที่นอกจากจะได้ความนิยมในระดับโลก ในประเทศไทยเองก็มีเหล่า Speedmaster Lover อยู่ไม่น้อยเช่นกัน เนื่องในโอกาสพิเศษแบบนี้ ทาง OMEGA จึงเลือกประเทศไทยให้เป็นอีกหนึ่งจุดหมายสำคัญในการจัดงาน “SPEEDMASTER 60th ANNIVERSARY” เฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปีแห่งการเดินทางให้กับเรือนเวลาโครโนกราฟเลื่องชื่อของโลกอย่าง Speedmaster แน่นอนว่า UNLOCKMEN ไม่พลาดที่จะไปเก็บบรรยากาศภายในงาน ซึ่งจัดขึ้นมาในรูปแบบเอ็กซิบิชั่นสุดพิเศษ พาผู้ร่วมงานอย่างเราย้อนเวลาสู่ความท้าทายแห่งห้วงอวกาศ เนรมิตพื้นที่ชั้น G ศูนย์การค้า Central Embassy ให้กลายเป็นพื้นผิวดวงจันทร์ที่ออกแบบขึ้นเป็นพิเศษ พร้อมแบ่งโซนจัดแสดงนิทรรศการเป็น 7 โซน ให้เราได้ซึมซับหลากเรื่องราวของ Speedmaster ที่ขึ้นหิ้งเป็นตำนานบนหน้าประวัติศาสตร์โลก ตั้งแต่จุดเริ่มต้นในสนามแข่งรถประลองความเร็ว ไปจนถึงความเกี่ยวพันกับห้วงอวกาศ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องราวที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ชายแทบทุกคนมาตั้งแต่ยังเด็ก สำหรับสุดยอดไฮไลต์ ที่เรามั่นใจว่าผู้หลงใหลมนตร์เสน่ห์แห่งเรือนเวลา รวมถึงเหล่า Speedmaster Lover ทั้งหลายเป็นต้องมุ่งตรงเข้าหา คือโซนที่ 7 โซนสุดท้ายที่เปิดโอกาสให้ได้ชื่นชมความล้ำค่าระดับมาสเตอร์พีซของ 12 เรือนเวลาแห่งประวัติศาสตร์