Jim Thompson (จิม ทอมป์สัน) ขยายความยิ่งใหญ่กับการเปิดภาพลักษณ์ใหม่ มุ่งสู่การเป็น “แบรนด์ลักชัวรี่ระดับโลกแบรนด์แรกจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” (The first Southeast Asian global luxury brand) ปรากฏการณ์ครั้งสำคัญของคำว่าลักชัวรี่ระดับโลก ด้วยการนำเสนอเรื่องราวของรากเหง้าและตัวตนที่โดดเด่นของ จิม ทอมป์สัน สู่ “สไตล์” อันเป็นเอกลักษณ์ พร้อมเปิดตัว “จิม ทอมป์สัน แฟล็กชิปสโตร์” ปฐมบทแห่งความหรูหราที่สมบูรณ์แบบแห่งแรกของโลก ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน ดร.เจอร์ราลด์ เมซซาโลโว ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท จิม ทอมป์สัน กล่าวว่า “ความท้าทาย ครั้งยิ่งใหญ่ของ จิม ทอมป์สัน คือ การยกระดับภาพลักษณ์ใหม่ของแบรนด์ เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจและสร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์ในเวทีลักชัวรี่ระดับโลก โดยเราได้วางจุดมุ่งหมายเพื่อก้าวสู่การเป็น “แบรนด์ลักชัวรี่ ระดับโลกแบรนด์แรกจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” (The first Southeast Asian global luxury brand) ที่เด่นชัดด้วยอัตลักษณ์ของแบรนด์ (Brand Identity) ซึ่งเกิดจากการผสานรวม
พอพูดถึงเรื่องสไตล์การแต่งตัวของผู้ชายเราก็มักจะนึกเฉพาะดาราระดับ a-list หรือสไตล์ไอคอนมีชื่อเสียงที่สื่อคอยจับตามอง แต่อันที่จริงแล้วก็ยังมีนักร้อง นักแสดง ที่มีสไตล์โดนเด่นในโลกของแฟชั่น เพียงแต่พวกเขาเหล่านั้นไม่ได้ดังเปรี้ยงปร้าง จึงไม่ได้รับการจับตามองจากสื่อมากนัก ทีมงาน UNLOCKMEN จึงได้นำเอาคนเหล่านี้ที่มีสไตล์สุดคูลเป็นของตัวเอง จนน่าจะนำไปปรับใช้เป็นไอเดียในการแต่งตัวมาฝากกัน Jeff Goldblum หลายคนอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตาเขาเป็นอย่างดีจากการรับบทสมทบในภาพยนตร์ระดับ blockbusters มากมาย อาทิ Jurassic Park , Independence Day ซึ่งดูแบบผิวเผิน ก็เหมือนว่าเขาจะไม่ได้มีอะไรที่น่าสนใจ เป็นเพียงดาราตัวประกอบธรรมดา แต่หากมองลึกลงไปในสไตล์การแต่งตัวเวลาอยู่นอกจอ Jeff Goldblum จัดได้ว่าเป็นคนที่มีสไตล์น่าจับตามองเลยทีเดียวไม่ว่าจะเป็นแบบ formal หรือ casual จุดเด่นที่เรามักจะเห็น Jeff Goldblum แต่งกายออกจากบ้านบ่อย ๆ คือการนำเสื้อไบค์เกอร์แจ็คเก็ตมาสวมทับด้วยไอเท็มที่แตกต่างแบบ preppy ถือว่าเป็นการผสมผสานสองสไตล์เข้าหากันได้อย่างลงตัว หรือแม้กระทั่งในชุดสูท ตัวเขาก็มีวิธีเลือกให้เหมาะสมกับตัวเอง Instagram : jeffgoldblum Skepta ในวงการเพลงโดยเฉพาะฮิปฮอปถือว่ามีนักร้องมากมายที่แต่งตัวได้อย่างจัดจ้าน ไม่ว่าจะเป็น Kanye West , A$AP Rocky , Big
ถ้าไม่นับคนที่สามารถใส่เสื้อยืดไปทำงานได้ เสื้อเชิ้ตนับว่าเป็นแฟชั่นชิ้นสำคัญที่เราต้องอยู่กับมันเกือบ 365 วันต่อปี บางทีก็เบื่อการใส่เสื้อเชิ้ตไปดื้อ ๆ เรียกว่าหมดมุขหมดไฟ หมดไอเดียที่จะ Mix and Match style ไปอย่างน่าเสียดาย ทั้ง ๆ ที่ออฟฟิศสมัยนี้ก็ไม่ค่อยจะบังคับให้ใส่แต่งตัวเต็มเป๊ะทุกวันเหมือนในอดีต แต่ไม่ต้องแปลกใจ เราจะบอกว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา วันนี้เราจึงขอแนะนำหลากหลายไอเดียการจับคู่สไตล์ใส่เสื้อเชิ้ตให้ดูเท่ โดดเด่นกว่าใครในออฟฟิศ จนคนอื่นต้องแอบกระซิบถามว่า เฮ้ย ไปทำอะไรมาถึงได้ดูดี ดูมีสไตล์ขึ้นมา SHORT SLEEVE SHIRTS WITH CHINOS / TROUSERS / JEANS เริ่มด้วยเสื้อเชิ้ตที่เป็นมิตรกับอากาศบ้านเราก่อน อย่างที่เราบอกไปว่าปัจจุบันนี้ หลาย ๆ บริษัทไม่ค่อยจำกัดอิสรภาพด้านการแต่งตัวมากนัก การใส่เสื้อเชิ้ตแขนสั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดา และมันเป็นแฟชั่นชิ้นโปรดของเหล่าคน Agency และ Creative นิยมใส่กัน เพราะมีลูกเล่นมากมายให้เลือก Mix and Match แถมยังอยู่ในขอบข่ายที่พร้อมจะไปประชุมกับลูกค้าได้ทันที Short Sleeve Shirts หรือเสื้อเชิ้ตแขนสั้น เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ
สัปดาห์นี้ถือว่ามีรองเท้าหลายรุ่นเข้าใหม่ที่น่าสนใจวางจำหน่ายจำนวนไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นการรีโทรรองเท้ารุ่นเก่า หรือแม้กระทั่งการจับเอาโมเดลสุดเก๋าในอดีตมาใส่เทคโนโลยีใหม่ ๆ ให้ฉีกกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ดังนั้นลองมาดูกันว่าเราได้นำรองเท้ารุ่นใดที่น่าสนใจมาฝาก จนชาว UNLOCKMEN ไม่ควรพลาด adidas Predator Precision Ultraboost สำหรับคู่แรกถือว่าเอาใจคนรักฟุตบอล ซึ่งถ้าหากใครยังจำกันได้ รองเท้าคู่นี้เคยเป็นรองเท้าสตั๊ดคู่ใจของ David Beckham เมื่อช่วงปี 2000 โดยการกลับมาในปีนี้ทาง adidas ได้นำรองเท้ารุ่น Predator Precision กลับมาวางจำหน่ายอีกครั้งทั้งในรูปแบบของรองเท้าสตั๊ด และรองเท้าไลฟ์สไตล์ ซึ่งพวกเขาเก็บรายละเอียดเดิมบริเวณหน้าเท้าไว้อย่างครบถ้วน แต่จุดที่น่าสนใจ คือการใช้พื้นกลางเทคโนโลยี Boost แบบสมัยใหม่ ทำให้รองเท้าคู่น้ีน่าสนใจอย่างมาก เพราะเป็นการผสมผสานระหว่างอดีตกับปัจจุบัน adidas Predator Precision Ultraboost จะวางขายในวันที่ 8 กันยายนนี้ ราคาอยู่ที่ $200 (หรือประมาณ 6,xxx บาท) ที่ adidas.com/us สำหรับในประเทศไทยต้องลุ้นกันว่าร้าน Ari จะนำเข้ามาขายหรือเปล่า Air Jordan 1 “Bred” Flyknit
ในทุกปี อีกหนึ่งงานที่เหล่าบรรดาคนรักนาฬิกาต้องรอคอยคงหนีไม่พ้นงาน “เซ็นทรัล อินเตอร์เนชั่นแนล วอทช์ แฟร์ 2017 (Central International Watch Fair 2017)” มหกรรมนาฬิกาครั้งยิ่งใหญ่แห่งภูมิภาคเอเชียครั้งที่ 19 จัดโดย นิตย์สินี จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ร่วม บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด ณ ห้างเซ็นทรัลชิดลม ซึ่งในปีนี้ทางทีมงาน UNLOCKMEN ได้รับเกียรติร่วมงานเปิดตัวพร้อมร่วมรับเสด็จพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จไปทรงเปิดงานยิ่งใหญ่แห่งปีนี้ ภายในงานเซ็นทรัล อินเตอร์เนชั่นแนล วอทช์ แฟร์ 2017 จัดได้ยิ่งใหญ่และครบครันด้วยนาฬิกาแบรนด์เอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะห้างเซ็นทรัล รวมถึงคอลเลกชั่นใหม่ล่าสุด รุ่นลิมิเตด เอดิชั่น หรือเรือนเวลาสุดพิเศษที่มีเพียงเรือนเดียวเฉพาะห้างเซ็นทรัลเท่านั้น ที่ส่งตรงจากงานแสดงนาฬิการะดับโลกบาเซิลเวิลด์และงาน SIHH ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ กว่า 180 แบรนด์ระดับโลก มูลค่ารวมกว่า 5,000 ล้านบาท โดยภายในงานมีเหล่าเซเลบริตี้รุ่นใหม่แสดงแบบอวดโฉมนาฬิการุ่นไฮไลท์ งานนี้เรายังได้สัมผัสความหรูหราระดับเวิลด์คลาสบนข้อมือกับเรือนเวลาต่าง ๆ ที่โชว์ความพิเศษแห่งกลไก ความล้ำแห่งเทคโนโลยี ความก้าวหน้าด้านวิศวกรรม จากแบรนด์นาฬิกาชั้นนำและแบรนด์เอ็กซ์คลูซีฟระดับโลกที่ร่วมจัดแสดง อย่าง
Ryan Gosling เคยได้รับการโหวตว่าเป็นผู้ชายที่เซ็กซี่ที่สุดในโลก ซึ่งเราขอยอมรับด้วยว่าด้วยหน้าตาอันหล่อเหลาก็มีส่วนสำคัญช่วยทำให้เขาดูโดดเด่น กว่าใคร ๆ แต่อีกสิ่งหนึ่งที่จะขาดไม่ได้ และช่วยเกื้อหนุนบารมีความดูดีให้กับเขา นั่นก็คือสไตล์การแต่งตัวที่จัดว่าเฉียบไม่ว่าจะเป็น casual หรือ formal เพื่อถอดรหัสความเท่ของเขา วันนี้ทีมงาน UNLOCKMEN จึงได้นำเคล็ดลับการแต่งตัวของ Ryan Gosling มาฝากกัน เริ่มจากสไตล์การแต่งตัว ต้องถือว่าตัวเขาเองไม่ใช่คนที่เล่นไอเท็มหวือหวา เพียงแค่จับสิ่งที่มีอยู่มาเพิ่มลูกเล่น และใช้อย่างพิถีพิถันมีหลักการ ตัวอย่างเช่นการใส่เสื้อเชิ้ตแขนสั้นที่ดูแสนจะธรรมดา เขาก็บรรจงพับแขน แล้วทับมันเข้าในกางเกง ซึ่งเราแจกแจงมาเป็นข้อ ๆ ดังต่อไปนี้ อย่ามองข้ามไอเท็มพื้นฐานง่าย ๆ แม้ในปัจจุบันผู้ชายอย่างเราจะมีทางเลือกในการแต่งตัวมากมาย แต่สุดท้ายการย้อนไปหาอะไรที่เรียบง่ายอย่างเช่นเสื้อยืด กางเกงทรงเข้ารูป แล้วก็รองเท้า work boots ก็ยังคงความคลาสสิคได้ตลอดกาล ดูอย่างเช่น Ryan Gosling ที่บางครั้งเขาก็ยังคงแต่งตัวง่าย ๆ สบาย ๆ อย่างเสื้อยืดสีพื้นเพิ่มลูกเล่นด้วยสร้อยคอสวย ๆ แบบนี้ก็พอสำหรับหนุ่ม Urban ที่ไม่จำเป็นต้องประณีตอะไรให้มันวุ่นวาย ต้องเข้าใจเทรนด์ แต่ไม่ตกเป็นทาสของมัน เราเคยพูดเรื่องนี้ไปแล้วเช่นกันว่าเสื้อผ้าอินเทรนด์บางครั้งก็ไม่ได้เหมาะกับเราเสมอไป แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่เราไม่ควรตาม หรือเรียนรู้เรื่องของเทรนด์เลย เพราะหากเราสามารถบาลานซ์จุดตรงกลางได้ระหว่างสไตล์และเทรนด์ได้
เป็นงานสุดหรู ที่คุณผู้ชายอย่างเรา ๆ ควรจะพาสาว ๆ ไปเสพประวัติศาสตร์ของเครื่องหนังแบรนด์หรูหราคู่มนุษยชาติ หลุยส์ วิตตอง ร่วมกับสยามพารากอน สร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่ด้วยการรังสรรค์งานนิทรรศการ “ไทม์ แค็ปซูล” (Time Capsule) แสดงเรื่องราวและวิวัฒนาการของการเดินทางและหีบเดินทางตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 จนถึงปัจจุบัน โดยจะแสดงผลงานแห่งความสร้างสรรค์ทั้งหีบเดินทางและเครื่องหนังของหลุยส์ วิตตองที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 160 ปี ส่งตรงมาจากกรุงปารีสเพื่อมาจัดแสดงที่กรุงเทพฯ ประเทศไทยเป็นที่แรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ระหว่างวันที่ 7-25 กันยายน 2560 ณ ลานพาร์คพารากอน สยามพารากอน ภายในนิทรรศการ Time Capsule หลุยส์ วิตตองได้รวบรวมผลงานชิ้นเอกและเหตุการณ์สำคัญๆ ในประวัติศาสตร์ของแบรนด์เอาไว้โดยแบ่งการจัดแสดงเป็นโซนต่าง ๆ เช่น โซนประวัติศาสตร์ของแบรนด์ โซนวิวัฒนาการหีบและกระเป๋าหลุยส์ วิตตองกับการเดินทางรอบโลก โซนเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ในอดีตและปัจจุปันกับประเทศไทย เป็นต้น ผู้เข้าชมงานจะได้พบกับผลงานและผลิตภัณฑ์ของหลุยส์ วิตตองอันล้ำค่าและหาดูได้ยากซึ่งนำมาจากหอจดหมายเหตุของหลุยส์ วิตตอง ที่กรุงปารีส อีกทั้งจะได้ชมการสาธิตวิธีการทำเครื่องหนังด้วยทักษะขั้นสูงโดยช่างฝีมือชาวฝรั่งเศสที่บินตรงมาจากเวิร์คช็อปหลุยส์ วิตตอง ในเมืองอานิแยร์ส (Asnières) ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ที่สร้างชื่อเสียงและความเชื่อมั่นให้แบรนด์หลุยส์ วิตตองตลอดมา อีกเหตุผลที่ห้ามพลาด
ถือเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้วที่โลกของไฮแฟชั่นจะมาบรรจบกับสตรีทแวร์ เพราะดีไซน์เนอร์ต่างทนกระแสสังคมไม่ไหว ต้องลงมาจับมือกับแบรนด์สตรีทที่มีความเชื่อมโยงกับไลฟ์สไตล์มนุษย์ได้ดีกว่าเสื้อผ้าประเภทโอต์ กู ตูร์ ล่าสุดถือเป็นข่าวใหญ่ทางฝั่งต่างประเทศพอสมควรเมื่อตัวเก๋าของวงการอย่าง Karl Lagerfeld จะยอมลงมาทำคอลเลคชั่นพิเศษกับ Vans เพราะถ้าหากพูดเรื่องนี้เมื่อประมาณ 10-20 ปี อาจจะฟังเป็นเรื่องขำขัน แต่ในปัจจุบันมันได้กลายเป็นจริงแล้ว เพราะ Karl ได้ออกแบบคอลเลคชั่นสุดพิเศษให้กับทางแบรนด์สเก็ตบอร์ดในตำนาน อันประกอบไปด้วย รองเท้าทั้งหมดด้วยกัน 6 รุ่นได้แก่ Old Skool , Sk8 Hi , Slip On อย่างละสองแบบ อีกทั้งยังมีเสื้อกราฟฟิค แจ็คเก็ตฮู๊ด และบอมเบอร์แจ็คเก็ต หมวก กระเป๋า มาให้ใส่เป็นเซ็ตเท่ ๆ ได้ทั้งตัว สำหรับคอนเซ็ปต์ของคอลเลคชั่นนี้ก็จะมาในโทนสีขาว ดำ ที่เป็นสัญลักษณ์ของ Karl บวกกับลายตารางที่เป็นจุดเด่นของทาง Vans สนนราคาก็ไม่แพงอย่างที่คิดเพราะราคาเริ่มต้นตั้งแต่ $40-$300 และจะวางขายที่ช้อป Vans ทั่วโลกรวมถึงทางออนไลน์ ดังนั้นใครที่เป็นทั้งแฟนของ Karl Lagerfeld และ
ถือว่าปีนี้เป็นปีการฉลองครบรอบ 20 ปี สำหรับการวางจำหน่ายรองเท้ารุ่น Air Max 97 โมเดลคลาสสิคที่แม้แต่ในปัจจุบันยังคงเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างไม่ลดละ ซึ่งเมื่อต้นปีที่ผ่านมาก็ได้มีการปล่อยสี OG หรือ Silver Bullet ออกมาเอาใจแฟน ๆ ไปแล้ว แต่ดูเหมือนว่าทาง Nike จะไม่หยุดไว้เพียงเท่านี้ เพราะล่าสุดต่างทยอยปล่อย Air Max 97 สีต่าง ๆ ออกมาอยู่เรื่อย ๆ ซึ่งวันนี้ทีมงานจะขอนำเสนอรองเท้า Air Max 97 ที่กำลังจะวางขาย และน่าสนใจมาฝากกัน Air Max 97 x UNDFTD ความจริงแล้วรองเท้าคู่นี้ยังไม่มีกำหนดการวางจำหน่ายที่แน่นอน แต่ DJ Khaled ซึ่งได้รองเท้าคู่นี้มาแล้ว ดันถ่ายภาพอวดชาวบ้าน ทำให้ร้อนไปถึงแฟน ๆ สนีกเกอร์ที่เฝ้าคอยจะได้ยลโฉมรองเท้าคู่นี้กับเค้าบ้าง ซึ่งความแตกต่างของรองเท้าคู่นี้ก็น่าจะเป็นวัสดุที่คงเลือกใช้วัสดุอย่างดี เนื่องจากราคาก็ไม่ใช่ถูกอีกต่อไปสำหรับ Air Max 97 คู่นี้ ซึ่งทางด้านแบรนด์ Undefeated
แม้ว่าจะเป็นรองเท้าระดับตำนานที่ทำให้ใครหลาย ๆ คนหันมาบ้าคลั่งรองเท้าสนีกเกอร์กันอย่างจริงจัง แต่สินค้าทุกตัวย่อมมีวันที่ความนิยมลดลงเป็นเรื่องธรรมดา ไม่เว้นกระทั่งแบรนด์ที่ทรงอิทธิพลอย่าง Air Jordan โดยล่าสุดจากรายงานของ Business Insider ได้เขียนถึงวิกฤตของแบรนด์ที่ว่ายอดขายตกลงอย่างน่าใจหาย ซึ่งประกอบกับการที่ Foot Locker ได้ส่งสัญญาณว่ารู้สึกเป็นกังวลเกี่ยวความเสี่ยงที่แม้แต่แบรนด์ Jordan เองก็คงไม่เคยคาดคิดมาก่อน เพราะจากรายงานของซีอีโอ Dick Johnson ได้กล่าวว่า “ยอดขายของ Jordan ได้ลดลงและต่ำสุดเป็นประวัติการณ์แม้กระทั่งในอเมริกาซึ่งทำยอดขายได้ดีมาโดยตลอด” ทำให้เป็นเรื่องที่แบรนด์อย่าง Air Jordan ต้องมาคิดวิธีการแก้ปัญหาให้ตรงจุดนี้ เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่า Air Jordan ถือเป็นแบรนด์คลาสสิคตลอดกาลที่ไม่ว่าจะรีโทร หรือรีสต๊อกสินค้ามาเมื่อไหร่ก็ไม่เคยเพียงพอต่อความต้องการของตลาดตลอดว่ากว่า 20 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้พวกเขาถือไพ่เหนือกว่าทั้งผู้บริโภค และคู่แข่งเลยสามารถจะกำหนดกฎเกณฑ์ว่าจะทำการเลือกขายรุ่นใดเมื่อใดก็ได้ตามความต้องการของพวกเขา แต่มันไม่ใช่อีกต่อเพราะในปัจจุบันแม้แต่พฤติกรรมของผู้เสพรองเท้าก็มีการเปลี่ยนแปลง ผู้บริโภคในตลาดส่วนใหญ่หันมาสวมรองเท้าแบบ Low-Top มากขึ้น เนื่องจากสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตจริงมากกว่ารองเท้าบาสอย่าง Air Jordan ที่สวมใส่แม้กระทั่งกางเกงจ๊อกเกอร์ หรือสกินนี่ยังลำบาก บวกกับกระแสความนิยมที่เริ่มเอนเอียงไปทางแบรนด์คู่แข่งอย่าง adidas มากขึ้น จึงไม่น่าแปลกใจที่ยอดขายรุ่นต่าง ๆ จะไม่ดีเหมือนที่เคยป็นมา อย่างไรก็ตาม Nike เองซึ่งเป็นแบรนด์แม่ของ
SHIRT, FORMAL SHIRT, DRESS SHIRT, BUTTON SHIRT, BUTTON-FRONT SHIRT ไม่ว่าจะเรียกมันว่าอะไร สำหรับผู้ชายอย่างพวกเรา มันก็คือเสื้อเชิ้ตที่คุ้นเคยกันดีอยู่แล้วนั่นเอง แต่ที่หลายคนมักมองข้ามไป คือรายละเอียด จุดสำคัญในการเลือกใส่เสื้อเชิ้ตที่ความฟิตเหมาะกับรูปร่าง ซึ่งทำให้ดูดีขึ้นได้มาก มั่นใจได้ทุกสถานการณ์ เพราะรายละเอียดเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าเสื้อเชิ้ตนั้นจะราคาถูกหรือแพง ก็ใช้หลักการเลือกเหมือนกัน มันจึงเป็นสิ่งสำคัญที่เราควรหันมาใส่ใจให้มากขึ้น เพราะการได้เสื้อเชิ้ตขนาดพอดี นอกจากช่วยเสริมบุคลิกให้ดูดี มีสง่าราศี ยังช่วยเสริมภาพลักษณ์และจิตวิทยาได้มากขึ้นด้วย การใส่เสื้อเชิ้ตที่พอดีตัว เปรียบเสมือนการแสดงออกถึงความพร้อม ความรู้ วุฒิภาวะ รวมถึงความมั่นใจได้ โดยไม่ต้องพูดจาสื่อสารแม้แต่คำเดียว ได้คะแนน First Impression ไปเต็มสิบตั้งแต่เริ่ม เสื้อที่ฟิตพอดีเหมือนมี Layer เท่ ๆ ที่สามารถทำให้รูปร่างดูดี รวมถึงช่วยพรางหุ่นให้สมบูรณ์แบบขึ้นได้ ถึงตรงนี้น่าจะเห็นความสำคัญของการเลือกเสื้อเชิ้ตมากขึ้นแล้วหรือยัง? ไม่ต้องห่วงว่ามันจะยุ่งยาก เพราะเสื้อเชิ้ตที่ Best Fits พอดีตัว ไม่จำเป็นต้องสั่งตัดเสมอไป ปัจจุบันเสื้อเชิ้ต Ready-to-Wear Shirt ก็เป็นอีกทางเลือกที่ดี และมีข้อดีหลายอย่าง เช่น ประหยัดเวลา
ผู้ชายหลายคนอาจจะให้ความสำคัญกับผลฟุตบอลมากกว่าประเภท UNDERWEAR จากการพูดคุยทำให้รู้ว่ามีผู้ชายน้อยคนนักที่จะใส่ใจในเรื่องรูปทรง และฟังก์ชั่นของกางเกงชั้นใน ขาดความใส่ใจพิถีพิถัน เพราะคิดว่าคงไม่มีใครเห็นอยู่แล้วนอกจากตัวเราเอง มีอะไรก็ใส่ ๆ ไป แต่ที่จริงแล้ว UNDERWEAR มีผลกับความมั่นใจของผู้สวมใส่โดยไม่รู้ตัว ลองนึกถึงวันที่คุณใส่กางเกงในตัวเก่าเก็บ สีตก ขอบยืด ขาย้วย จะก้มจะเงยมันก็เลยเกร็งไปหมด แถมกางเกงในที่เนื้อผ้าหนา ยังเสี่ยงกับเรื่องกลิ่นอับชื้นจากเหงื่อเมื่อเจออากาศร้อน หรือหลังเตะบอล เล่นฟิตเนส ภายในกางเกงก็จะเหนียวเหนอะหนะ ส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์ชวนปวดหัว เป็นจุดเริ่มต้นของอาการคันในร่มผ้า หล่อแค่ไหนก็ต้องสูญเสียความมั่นใจไปหมดสิ้น ไม่ใช่แค่นั้น MEN UNDERWEAR ยังมีผลต่อความรู้สึกของผู้หญิงด้วยเช่นกัน เพราะนอกจากจะทำหน้าที่ห่อหุ้มน้องชาย กางเกงชั้นในยังช่วยเติมเต็มคาแรคเตอร์ของผู้สวมใส่ให้ออกมาชัดเจนมากยิ่งขึ้น ปัจจุบันนอกจากการพิจารณาที่สีสัน ลวดลาย หรือรูปทรงตามสไตล์การแต่งตัวแต่ละโอกาสแล้ว เรายังควรเลือกกางเกงชั้นในที่มีเทคโนโลยี AIRism ช่วยระบายอากาศ ช่วยให้เย็นสบายทุกการเคลื่อนไหว ไร้ความอับชื้น พร้อมลุยทุกไลฟ์สไตล์ได้ตั้งแต่เช้ายันเย็น อุ่นใจท่ามกลางอากาศร้อนอบอ้าว ไปดูกันว่า MEN UNDERWEAR แบบไหนเหมาะกับใคร และผู้หญิงจะรู้สึกอย่างไรกับแต่ละแบบกันบ้าง LOW RISE BOXER BRIEF LOW RISE BOXER BRIEF เป็น