ท่ามกลางการแข่งขันของรถยนต์ EV ที่กำลังร้อนแรง ซึ่งหลายคนต่างโฟกัสไปที่ราคา รวมไปถึงตัวเลขเร้าใจต่าง ๆ จากตารางสเปค แต่จริง ๆ แล้วยังมีอีกหลายปัจจัยในการตัดสินใจเลือกซื้อยนตรกรรมพลังไฟฟ้ามาใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นชื่อชั้นของแบรนด์ ความพร้อมในการให้บริการหลังการขาย รวมไปถึงรางวัลระดับโลกที่สามารถการันตีความมั่นใจได้อีกขั้น และการมาของ IONIQ 5 รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกจาก HYUNDAI ค่ายรถยักษ์ใหญ่แดนโสมที่พกพาเอาชื่อเสียง ความนิยม และรางวัลมากมาย พร้อมลุยตลาดในไทยอย่างเป็นทางการ น่าจะทำให้หลายคนที่รอคอยการเป็นเจ้าของ mid-size CUV พลังไฟฟ้าคันนี้สมหวังกันถ้วนหน้า แต่สำหรับใครที่กำลังลังเลว่าว่าจะควักกระเป๋าออกใบจองทันที หรือจะรอเก็บข้อมูลประกอบการตัดสินใจไปอีกสักพัก วันนี้ UNLOCKMEN จึงขออาสา สรุป 5 เหตุผล ที่ตอกย้ำว่า IONIQ 5 ควรค่าแก่การครอบครองมากขนาดไหน เริ่มต้นที่เหตุผลแรกกับงานออกแบบอันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของ IONIQ 5 ภายใต้คอนเซปต์ Retrofuturistic โดย Giorgetto Giugiaro นักออกแบบยานยนต์ชื่อดังชาวอิตาลีที่เคยร่วมงานกับ HYUNDAI ผู้กลับมาปลุกตำนานรถยนต์คลาสสิกอันโด่งดังให้กลับมาโลดแล่นอีกครั้งในฐานะยนตรกรรมพลังไฟฟ้าแห่งอนาคต ด้วยการนำดีไซน์ของรุ่นคลาสสิกอย่าง HYUNDAI PONY ซึ่งเป็นรถยนต์รุ่นแรกของค่ายที่ส่งออกทั่วโลกในปี 1975 มาผสานกับรถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบ
เหมือนจะทิ้งทวนก่อนเข้าสู่ยุคของการจูนรถไฟฟ้า Manhart ถึงได้จัดเต็มสร้าง M5 ที่แรงที่สุดเท่าที่สำนักเคยทำมา รหัส MH5 900 สื่อถึงตัวเลขแรงม้าทะลุ 928 horsepower (ปกติมีแต่คนปัดขึ้น แต่ Manhart ปัดเลขแรงม้าลง) 914 lb-ft of torque จากขุมพลัง 4.4-liter twin-turbo V8 engine ในจำนวนจำกัดเพียง 5 คันเท่านั้น เครื่องยนต์ S63 ถูกนำมาอัพเกรดระบบและไส้ในใหม่ทั้งหมด จัดเต็มทุกจุดไม่ว่าจะเป็น carbon fiber intake, Wagner Tuning intercooler, Carillo forged pistons, H-shaft connecting rods สามารถรองรับแรงม้าได้สูงสุดถึง 1,200 HP ระบบไอเสีย racing downpipes พร้อมท่อ stainless steel และปรับจูน ECU เต็มระบบ