คันนั้นก็อยากขับ คันนี้ก็อยากขับ นี่คือนิสัยของผู้ชายทุกคนอย่างแท้จริง ต่อให้รวยอยู่ในกลุ่มที่ซื้อ Porsche ได้ แต่จะให้เปลี่ยนบ่อยเดือนละหลายคันก็คงไม่ไหว Porsche Cars North America (PCNA) จึงเปิดตัวโปรแกรมในฝัน สำหรับคนที่มีเงินเหลือจ่ายเดือนละแสนบาทสบาย ๆ แล้วเลือกขับรถ Porsche ได้ตามใจชอบสูงสุด 22 รุ่นแบบไม่มีเงื่อนไข โปรแกรมถูกใจคนรักรถของ PCNA เรียกว่า Porsche Passport เป็นบริการจ่ายเงินรายเดือน เหมือนการจ่ายค่าสมาชิกเช่าวีดีโอ แล้วจะเลือกคันไหนไปขับก็ได้ตามใจชอบ โดยแบ่งออกเป็น 2 package LAUNCH จ่ายรายเดือนเริ่มต้น $2,000 หรือประมาณ 66,000 บาท ก็จะได้สิทธิในการเลือกใช้รถ Porsche ได้มากถึง 8 รุ่น อย่างเช่น 718 Boxster, Cayman S, Macan S และ Cayenne แบบไม่มีเงื่อนไข ไม่จำกัดระยะทาง ACCELERATE จ่ายรายเดือนเริ่มต้น $3,000
YASHICA ชื่อคุ้นหูของคนสายเล่นกล้องรุ่นเก๋าทั้งหลาย ที่ได้ยินคำนี้เมื่อไหร่ ต้องเงยหน้าหาแหล่งที่มากันแน่นอน หลังจากที่เงียบหายจากวงการไปกว่า 10 ปี แบรนด์กล้องถ่ายรูประดับตำนานประดับวงการของญี่ปุ่น เตรียมตัวหวนคืนสู่ตลาดอีกครั้งแบบที่ทุกคนไม่ทันได้ตั้งตัว เพราะไร้ข่าวลือใด ๆ เตรียมซัดของใหม่ออกมาเต็มเหนี่ยว YASHICA เตรียมตัวเปิดตัวสินค้ากล้องถ่ายรูปตัวใหม่ ในชื่อรุ่น YASHICA Y35 ที่เป็นการผสมผสานความเป็นดิจิทัลและแอนาล็อกยุคเก่าเข้ามาไว้ด้วยกัน ซึ่งถูกถอดแบบมาจากรุ่น YASHICA Electro 35 ตัวเก๋ารุ่นโด่งดังที่สุดของค่าย รูปแบบตัวกล้องเป็นการควบคุมระบบการลั่นชัตเตอร์ด้วยไฟฟ้าจับคู่กับระบบ DigiFilm ที่ตัวกลักฟิล์มดิจิทัลแต่ละแบบจะให้ภาพที่แตกต่างกันออกไป คล้ายกับการเลือกใช้ฟิล์มเมื่อสมัยก่อน ๆ กับพวกกล้องแอนาล็อก YASHICA Y35 ยังคงเสน่ห์ความเก่าเก๋าเอาไว้ไม่ทิ้งลาย เพราะว่าทุกการใช้งานจะเป็นแบบเดียวกับการถ่ายกล้องฟิล์มคือไม่มีจอให้พรีวิวรูปภาพที่ถ่ายไปและต้องทำการ หมุนด้วยแกนฟิล์มก่อนที่จะถ่ายรูปทุกครั้ง ส่วนภาพที่ถ่ายจะถูกบันทึกลงไปใน SD Card ทันที แก้ไขหรือลบภาพ ณ ขณะนั้นเลยไม่ได้ ต้องกลับมาเสียบการ์ดเปิดดูทีหลังเท่านั้นครับ ซึ่งเบื้องต้นจะมีวางขาย digiFilm ทั้งสิ้นประมาณ 4 แบบ คือ – digiFilm™ – ISO1600 High Speed –
ปกติเวลาเราเดินทางไปไหนนอกจากต้องสำรวจสภาพอากาศล่วงหน้าแล้ว การจัดเตรียมชุดให้เหมาะสมกับช่วงเวลาที่เดินทางไปก็เป็นสิ่งที่ควรทำเป็นอันดับต้น ๆ เพราะถ้าเราดันไปที่ที่เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว กระเป๋าที่จัดไปก็ยิ่งหนาและดูยุ่งวุ่นวายยากขึ้น ซึ่งคงไม่มีใครอยากจะแบกอะไรหนัก ๆ เวลาออกเที่ยวหรอกใช่ไหมละ เพราะงั้น UNLOCKMEN มีเสื้ออัจฉริยะตัวเดียวเที่ยวได้ทั่วมาแนะนำให้ครับ Kinesix แจ็คเก็ตอัจฉริยะที่สามารถปรับความอุ่นให้อัตโนมัติตามอุณหภูมิภายนอกของผู้สวมใส่ ทำให้เราไม่ต้องพกชุดเยอะ ๆ ให้วุ่นวายในการเดินทาง ไม่ว่าจะไปเจอเมืองร้อนหรือหนาวก็ตาม โดยเสื้อ Kinesix ยังถูกออกแบบให้สามารถใส่ได้ในทุกโอกาสอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการปีนเขา ออกกำลังกาย เดินเล่น เพราะว่าภายในตัวเสื้อถูกฝังตัวทำความร้อนเอาไว้ที่ด้านหน้า ด้านหลังและตัวปกเสื้อ โดยผู้สวมใส่สามารถเปิดการทำงานแบบทีละส่วนหรือทุกส่วนพร้อมกันผ่านสมาร์ทโฟนที่เชื่อมต่อกับตัวเสื้อได้ทันที ในโหมด Manual นี้ ผู้สวมใส่สามารถปรับอุณหภูมิได้อุ่นสุดถึง 40 องศาเซลเซียสและเปิดได้ยาวนานติดต่อกันถึง 3 ชั่วโมง หลังจากนั้นก็แค่นำตัวแบตเตอรี่มาชาร์จใหม่ก็สามารถกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง ส่วนถ้าใครที่ไม่ชอบปรับอุณหภูมิด้วยตัวเอง ก็สามารถตั้งเป็นระบบอัตโนมัติที่ช่วยปรับความอุ่น ความเย็นด้วยตัว Sensor ที่ติดอยู่ภายนอกและภายในของตัวเสื้อ ยกตัวอย่างเช่นถ้าเราสวมใส่อยู่ในสภาพอากาศที่หนาวเย็น ตัวเสื้อก็จะค่อย ๆ ปรับอุณหภูมิให้พอเหมาะ ณ ขณะนั้น หรือถ้าเดินตากแดดอากาศร้อน ๆ ระบบอัตโนมัติก็จะเปิดระบบคลายความร้อนอัตโนมัติ เนื้อผ้าของเสื้อ Kinesix มีคุณสัมบัติกันน้ำ กันลม แล้วยังสามารถระบายอากาศได้อย่างดี มาพร้อมช่องกระเป๋าใส่ของได้มากถึง
หากใครที่เป็นแฟนการ์ตูน “GTO คุณครูพันธุ์หายาก” ที่มีตัวเอกดำเนินเรื่องก็คือ โอนิซึกะ เอคิจิ คงจะไม่พลาดหนังสือการ์ตูนที่มีชื่อว่า “คู่คนลุยเลอะ” ซึ่งเป็นภาคก่อนหน้า ว่าด้วยเรื่องราวสมัยก่อนที่ โอนิซึกะ จะได้มาเป็นอาจารย์สุดห่าม โดยที่ยังเป็นนักเรียน และเป็นหัวโจกแห่งโรงเรียนโชนันเคียคุโต ร่วมกับ ดันมะ ริวจิ เพื่อนซี้ และมีสมญานามว่า คู่หูโอนิบาคุ ซึ่งมีพาหนะเป็นมอเตอร์ไซค์คู่ใจ และทำเอาผู้ชายหลายคนที่อ่านการ์ตูนทั้ง 2 เรื่องนี้ หันมาคลั่งไคล้มอเตอร์ไซค์ Kawazaki Z2 ที่โอนิซึกะได้รับมาจากคุณมาซากิ ชายผู้ได้ชื่อว่าเร็วที่สุดในโชนัน ถึงแม้ว่าในการ์ตูนจะเขียนออกมาเว่อร์เกินความจริงไปบ้าง สำหรับเรื่องของความแรง แต่ทว่าในโลกแห่งความจริง คนที่เล่นรถมอเตอร์ไซค์จะรู้ดีว่า Kawasaki Z1 และ Z2 นั้น เป็นรถที่มีคุณค่าน่าสะสม และเป็นรถที่หาสภาพสวย ๆ จับได้ยาก ด้วยจำนวนอันน้อยนิดเนื่องจากถูกผลิตตั้งแต่ปี 1970 และนาน ๆ จะมีคนจะยอมปล่อยออกมาสักคัน ข่าวดีคือพวกเราเตรียมเฮกันให้ลั่นทุ่งได้เลย เมื่อทาง Kawasaki ได้ประกาศว่าจะนำเอาโมเดลในตำนานกลับมาผลิตใหม่ และวางขายในชื่อว่า Kawasaki Z900RS ในปี 2018!!
ปล่อยให้ Sony โกยเงินจาก Full-Frame Mirrorless เป็นกอบเป็นกำไปนานหลายปี ค่าย Nikon ก็พูดชัดว่ากำลังพัฒนาอยู่นะ รออีกหน่อย ทำให้สาวกหนอนอาจกำลังมึนงงว่าทำไมค่าย Canon ของเราไม่ปล่อยของออกมาสักที ล่าสุดข่าววงในจาก Canon Rumors ที่เชื่อถือได้ยืนยันว่า Full-Frame Mirrorless ของ Canon มาแน่ และมาเยอะด้วย แต่น่าจะโผล่มาปลายปี 2018 นู่นเลยนะ แหล่งข่าววงในที่อ้างรายงานเจาะลึกจากการประชุมแผน Roadmap 2108 ของบริษัท ยืนยันว่า Canon Full-Frame Mirrorless ที่กำลังซุ่มพัฒนากันอยู่นั้น คาดว่าจะเป็นการลุยอย่างจริงจังตั้งใจ ด้วยตลาดผู้ใช้กล้องกลุ่มนี้ที่มีขนาดใหญ่มากขึ้นเรื่อย ๆ โดยจะใช้ CMOS sensor ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อสินค้าไลน์นี้โดยเฉพาะ แทนที่จะยก sensor มาจากรุ่นใหญ่ของค่ายอย่าง 5D Mark IV จึงคาดว่าน่าจะเป็นกล้องตระกูลใหม่ที่มีสไตล์โทนของภาพแตกต่างออกไป นอกจากนี้ยังมีอีกข่าว ที่แม้จะระบุว่าน่าเชื่อถือน้อยกว่า แต่ก็นับว่าน่าตื่นเต้นไม่น้อย บอกว่า Canon Full-Frame Mirrorless
หลังจากเดือนที่แล้ว Mitsubishi ได้แง้มภาพด้านท้ายของ DNA ใหม่ในตระกูลตัวแรง Evolution ภายใต้รหัส e-Evolution ให้วงการรถยนต์ได้ขนลุกชูชันกันไปพองาม วันนี้เรามีภาพเพิ่มเติมของรถยนต์คอนเซปต์ร้อนแรงมาเรียกน้ำย่อยกันอีกนิด โดยคราวนี้มีภาพด้านหน้าที่เผยให้เห็นรายละเอียดสำคัญ ๆ ตั้งแต่ไฟหน้า ไปจนถึงกระจังหน้า ช่วยให้เราได้เห็นภาพรวมของ e-Evolution ว่ามีความเป็น Sporty SUV Coupe’ ที่ดูล้ำสมัย น่าสนใจมากเลยทีเดียว Mitsubishi e-Evolution รถยนต์ตัวแรงที่ขับเคลื่อน 4 ล้อตามสไตล์ค่าย แต่แปลกใหม่ด้วยการเลือกใช้พลังงานไฟฟ้า แม้จะยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับตัวเลขสมรรถนะ แต่มีข่าวค่อนข้างชัดเจนว่า e-Evolution จะขนระบบสั่งการอัจฉริยะ AI intelligence มาเต็มอัตรา พร้อมตอบสนองทุกสถานการณ์การขับขี่ สภาพถนน หรือแม้แต่สภาพการจราจร และเรียนรู้อุปนิสัยของผู้ขับโดยอัตโนมัติ Mitsubishi e-Evolution จะถูกเปิดผ้าคลุมเป็นครั้งแรกในงาน Tokyo Motor Show ที่กำลังจะถึงนี้ สาวก Evolution คงต้องรอดูว่า สายเลือดใหม่ของตัวแรงค่าย Mitsubishi จะออกมาในทิศทางไหน ถ้าน่าสนใจ เราเชื่อว่า Mitsubishi
เราเชื่อว่าปัญหาหน้าจอแตกเป็นอะไรที่สุดแสนจะน่าเบื่อสำหรับผู้ใช้สมารท์โฟนในปัจจุบัน เพราะถ้าย้อนกลับไปราว ๆ 10 ปีก่อน หากคุณจะทำหน้าจอโทรศัพท์แตกนั้นต้องมาจากการกระแทกอย่างรุนแรงเท่านั้น ยิ่งเทคโนโลยีพัฒนาก้าวหน้าไปมากเท่าไหร่ โทรศัพท์แบบจอสัมผัสก็มีขนาดกว้างใหญ่ขึ้นตามมาเท่านั้น ซึ่งหากพูดในเรื่องการใช้งานแล้วต้องถือว่าตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค แต่ในอีกแง่หนึ่งคือเรื่องความปลอดภัยที่นับวันจะยิ่งเปราะบางมากขึ้นเท่านั้น โดย iSmash บริษัทผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการซ่อมโทรศัพท์สมารท์โฟนของประเทศในเครือสหราชอาณาจักร ได้ทำการเก็บข้อมูลลูกค้าที่ส่งซ่อม แล้วคำนวณว่าคนส่วนใหญ่มักจะทำหน้าจอแตกเมื่อผ่านการใช้งานไปจำนวน 105 วัน (iPhone) เท่ากับว่าคนเราจะมีอายุการใช้งานโทรศัพท์เพียง 3 เดือนเศษเท่านั้นก่อนที่จะทำหน้าจอแตก ดังนั้นใครใกล้จะครบ 3 เดือนกว่า หรือเพิ่งทำ iPhone ตกแตกไปก็ไม่ต้องเสียใจ เพราะซื้อ iPhone X พร้อมเปิดแพ็คเกจกับ Truemove H จะช่วยประหยัดค่าเครื่องได้สูงสุดถึง 10,500 บาท พูดง่าย ๆ คือสามารถเป็นเจ้าของ เครื่อง iPhone X รุ่น 64 GB ได้ในราคาเริ่มต้นถูกสุด ๆ เพียง 30,500 บาทเท่านั้น ใครที่ซื้อเครื่องพร้อมแพ็คเกจ 4G+ FUN Unlimited จาก TrueMove H นอกจากจะได้
ในโลกปัจจุบันนี้ ทุกอย่างได้ถูกเทคโนโลยีเข้าครอบงำไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไม่เว้นแม้กระทั่งเสื้อผ้า ที่ไม่น่าเชื่อว่ามันจะกลายเป็นสิ่งที่สามารถเชื่อมต่อกับ Smartphone ได้ด้วย ถึงอย่างไรก็ตามในวันนี้ สิ่งที่ไม่น่าเชื่อนั้นก็ถือกำเนิดขึ้นแล้ว ด้วยการร่วมมือจากผู้นำทางด้านแฟชั่นการแต่งกาย และผู้นำทางด้านเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดอย่าง Levi’s และ Google กับเสื้อยีนส์สุดพิเศษที่พวกเขาได้เปิดตัวออกมา และบอกว่า มันสามารถ Connect กับ Smartphone เพื่อใช้งานบน Application ได้ ตอนนี้เรามาดูกันว่ามันมีอะไรน่าสนใจบ้าง? โดยเสื้อแจ็กเก็ตยีนส์ตัวนี้ มีความพิเศษจากการที่คุณสามารถควบคุมการทำงานบางอย่างบน Smartphone ได้ โดย Google ได้ทำการออกแบบ และสร้างเส้นใยที่ไวต่อการสัมผัสขึ้น จากนั้นก็ทำการทอมันเข้าไปในเนื้อผ้าของเสื้อแจ็กเก็ตยีนส์ และที่สำคัญที่สุดก็คือ มันจะไม่หลุดออกไปแม้เวลาที่คุณนำไปซักในเครื่องซักผ้า เส้นในแบบพิเศษนี้ จริง ๆ แล้วมันเป็นชุดข้อมูลที่สามารถรับ-ส่งสัญญาณ Bluetooth ไปยัง Smartphone ทำให้คุณสามารถเปลี่ยนเพลงที่คุณกำลังฟังผ่าน Smartphone ได้โดยการลูบที่แขนเสื้อเท่านั้น!! นอกจากนั้นคุณยังสามารถใช้คำสั่ง Play – Pause หรือ Stop ได้โดยการสัมผัสบริเวณแขนเสื้อ และสามารถสั่งเปิด – ปิด
ช่วงนี้เราอาจจะเห็นแบรนด์รถยนต์หลายแบรนด์เริ่มลงมือผลิตรถไฟฟ้ากันอย่างตูมตาม ซึ่งไม่เพียงแต่รถยนต์เท่านั้นนะครับ เพราะว่าฝั่งมอเตอร์ไซค์ก็เริ่มเตรียมบุกตลาดด้วยเช่นกัน โดยรอบนี้ทาง Honda ไม่ยอมน้อยหน้าใครที่ไหน เตรียมเปิดตัว Honda Riding Assist Motorcycle รถมอเตอร์ไซค์สุดล้ำที่สามารถทรงตัวได้เอง โดยกำลังเตรียมจะเปิดตัวในงาน Tokyo Motor Show ครั้งที่ 45 นี้ Riding Assist-e จะเป็นรถที่ใช้พลังงานไฟฟ้า และมีความสามารถในการ Self-Balancing ที่จะทรงตัวได้ในความเร็วต่ำ หรือแม้แต่จอดนิ่ง ๆ ก็ไม่ต้องลงขาตั้ง (ต้องเปิดสวิทช์การทำงานฟังก์ชั่นนี้ไว้ด้วย) โดยมีคอนเซ็ปท์อย่างเป็นทางการว่า “Enjoying The Freedom of Mobility” (ความสนุกสนานในการเคลื่อนที่อย่างอิสระ) และ “A Carbon-Free Society” (สังคมไร้มลพิษ) เพื่อต้องการเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้งานที่มากขึ้นและยังรักโลกมากขึ้นอีกด้วย โดยตัวรถจะเป็น (AI) ที่ออกแนวกึ่ง ๆอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ มากกว่า นอกเหนือจากความสามารถด้านการทรงตัวและพลังงานไฟฟ้าแล้ว ยังมีการออกแบบตัวรถไม่ว่าจะเป็นเฟรมรถหรือสวิงอาร์มก็ถูกได้รับการออกแบบมาอย่างดี พร้อมระบบเบรค Nissin และระบบกันสะเทือนแบบลิงค์แอสซิสที่เชื่อมต่อกัน คันเร่งจะเป็นระบบไฟฟ้าและติดตั้ง LED รอบคัน ซึ่งเรายังไม่มีราคาหรือรายละเอียดตัวเครื่องยนต์อย่างเป็นทางการ
ก่อนหน้านี้ UNLOCKMEN เคยนำเสนอบทความเกี่ยวกับเครื่องแปลภาษาแบบทันใจมาก็หลากหลายตัวแล้ว โดยมีจุดประสงค์เพื่อที่จะช่วยเพิ่มประโยชน์ให้แก่ใครที่ติดขัดหรือเป็นปัญหาด้านภาษา อย่างเช่นคนที่เดินทางบ่อย ๆ และใช้การสื่อสารเป็นหลัก ซึ่งแต่ละครั้งแต่ละตัวที่เราพยายามนำเสมอมา ก็ล้วนแต่ยังไม่วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ หรือบางทีก็ไม่สามารถใช้ได้เต็มที่แบบตอนที่โฆษณา ตอนนี้ปัญหาที่พบเจอมาเกี่ยวกับอุปกรณ์แปลภาษากำลังจะสิ้นสุดแล้วครับ เพราะว่าตอนนี้ทาง Google เตรียมวางจำหน่ายหูฟังไร้สายอัจฉริยะ ที่กำลังจะล้มทุกตัวในตลาดตอนนี้ ซึ่งจะเจ๋งและน่าสนใจขนาดไหน มาดูกัน Google ได้เปิดตัวหูฟังไร้สายอัจฉริยะ “Pixel Bugs” ที่สามารถรองรับภาษาใช้งานได้มากถึง 40 ภาษาในปัจจุบัน (คาดว่าอนาคตจะเพิ่มอีก) โดยตัวสายของหูฟังเป็นแบบสายถักและมีโลโก้สัญลักษณ์ G ทำงานคู่กับ Pixel Phone โดยหลักการทำงานของมันแค่ผู้ใช้แตะค้างบริเวณหูฟังด้านขวา ตัวระบบจะทำการเปิด Google Assistant ขึ้นมาให้เราเรียกใช้แปลภาษา และเมื่อพูดเสร็จ Google Assistant จะแปลเป็นอีกภาษาที่สั่งไว้ให้ผ่านลำโพงของ Pixel โดยการตอบกลับก็สามารถพูดได้ผ่าน Pixel และก็จะถูกแปลออกมาผ่านทาง Pixel Buds เช่นกัน Pixel Bugs สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 24 ชั่วโมง (รวมแบตเตอรี่หูฟังและแบตเตอรี่จากเคส) และการชาร์จไฟก็จะมีกล่องเก็บแล้วเสียบชาร์จไฟผ่าน USB-C โดยการทำงานทั้งหมดของหูฟังจะต้องใช้คู่กับ
ปล่อยให้อัพเดทกันไปไม่นานสำหรับ iOS 11 ที่นอกจากจะมีการเปลี่ยนแปลงฟังก์ชั่นการใช้งานเพียบแล้ว ยังมาพร้อมกับขนาดของไฟล์อัพเดทที่เรียกว่าใหญ่และหนักมาก ซึ่ง Apple ก็ย่อมรู้ดีว่า 16GB มันไม่เพียงพอแล้ว จึงเริ่มปล่อยแต่รุ่น 32GB ไล่มาจนถึง 64GB ในปัจจุบัน แต่เราว่าส่วนใหญ่ยังมีเพื่อน ๆ หลายคนที่ติดอยู่ใน 16GB กลืนไม่ได้คายไม่ออก จะไม่อัพเดทก็ไม่ได้เพราะแอปฯ ส่วนใหญ่จะไม่รองรับ แต่ถ้าอัพเดทไปแล้วก็เหลือพื้นที่ว่างให้ถ่ายรูปหรือโหลดแอปฯ อื่น ๆ ช่างน้อยนิดเหลือเกิน ทำไงดี UNLOCKMEN เลยจะแนะนำวิธีจัดการและเคลียร์พื้นที่ให้กลับมาเยอะขึ้นกว่าเก่ามาบอก อย่างแรกเลย iOS 11 มีมาตราฐานการบีบอัดไฟล์แบบใหม่ ๆ ในรูปแบบ HEIF สำหรับการถ่ายภาพและ HEVC สำหรับวิดีโอ ทำให้ประหยัดพื้นที่ได้ถึง 50% จากเดิม ในขณะที่ได้คุณภาพเท่ากัน นอกจากนี้ iOS 11 ยังมีคำแนะนำในการจัดการพื้นที่เก็บข้อมูลส่วนบุคคลต่าง ๆ ได้ดีกว่าเก่าอีกด้วย ดังนี้ 1. ปิด Apps อัตโนมัติซะ น่าจะเป็นวิธีที่แรกที่เราแนะนำให้หยิบเครื่องมาทำเลยครับ
ใครที่เป็นสายเสพติดสมาร์ทโฟนหรือขาดไฟฟ้าแทบจะไม่ได้ UNLOCKMEN มีแนะนำตัวช่วยเจ๋ง ๆ ที่เหมาะสำหรับคนชอบไปไหนมาไหน แต่แบตเตอรี่สำรองที่มีมันไม่พอ ไม่สะใจ กับ “Lib-AID E500” แบตเตอรี่สำรองใหม่สุดโหดจาก Honda Lib-AID E500 รูปทรงน่ารัก ๆ ถูกโชว์ตัวครั้งแรกในงาน Tokyo Motor Show เมื่อปี 2015 แต่เพิ่งได้เริ่มวางขายจริงอย่างเป็นทางการแล้วในวันนี้ โดยมีขนาดตัวเครื่องเพียง 26.6 × 18.2 × 24.8 เซนติเมตร และน้ำหนักเพียง 5.3 กิโลกรัมเท่านั้น Lib-AID E500 มีหน้าที่เสมือน Power Bank ที่เราพกพากันอยู่ในชีวิตประจำวัน แต่มีขนาดใหญ่และหนักกว่าเยอะ แต่ก็สามารถจัดเก็บประจุไฟฟ้าได้มากแบบไม่น่าเชื่อเลยทีเดียว โดยสามารถจ่ายไฟกระแสสลับเพื่อชาร์จพวกรถยนต์ไฟฟ้าได้ รวมถึงจ่ายไฟฟ้าให้กับบ้านทั้งหลังของเรายามสถานการณ์ฉุกเฉิน จุดประสงค์หลักของ Lib-AID E500 ไม่ใช่ให้เราหิ้วพกไปนอกบ้านนะครับ แต่ให้ใช้เป็นแหล่งพลังงานยามฉุกเฉินเมื่อเกิดเรื่องที่เราไม่ทันตั้งตัว อย่างพวกภัยพิบัติต่าง ๆ เช่น แผ่นดินไหว, สึนามิ โดยตัวเครื่องจะมาพร้อมกับพอร์ต USB