“อาพริเลีย” แบรนด์ซูเปอร์ไบค์ระดับตำนานสัญชาติอิตาเลียน กลับมาสร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่ จัดใหญ่ จัดเต็ม ตอกย้ำดีเอ็นเอความเป็น “BE A RACER” แห่งวงการซูเปอร์ไบค์ของเมืองไทย ระเบิดความมันส์สนั่นเวทีมวยราชดำเนินในงาน “Aprilia SR GT The Ultimate Night” คอมมูนิตี้ที่รวบรวมเหล่าเซเลบริตี้ ดารา คนดังสายสปอร์ตระดับแนวหน้าของเมืองไทย นำทีมโดย ลีซอ – ธีรเทพ วิโนทัย / ภาค – บุญเกียรติ วงค์ษาแจ่ม / อองตวน ปินโต / บีม – ศรัณยู ประชากริช / พีท ทองเจือ / เชา – ชวลิต ชิตตนันท์ / จิต เชี่ยวสกุล / ท็อปแท็ป – จิรกิตติ์ คูอาริยะกุล /
MacBook Pro ใหม่มีประสิทธิภาพเร็วขึ้นสูงสุด 6 เท่า เมื่อเทียบกับ MacBook Pro ที่ใช้โปรเซสเซอร์ Intel ที่เร็วที่สุด และรองรับหน่วยความจำแบบรวมสูงสุด 96GB สำหรับเวิร์กโฟลว์หนักๆ ระดับโปร Apple ประกาศเปิดตัว MacBook Pro รุ่น 14 นิ้ว และ 16 นิ้ว ใหม่ที่มาพร้อมซิลิคอนระดับโปรเจเนอเรชั่นถัดไปของ Apple อย่างชิป M2 Pro และ M2 Max ซึ่งจะช่วยยกระดับประสิทธิภาพที่ยังคงประหยัดพลังงานและระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่สำหรับผู้ใช้ระดับโปร ชิป M2 Pro และ M2 Max ซึ่งเป็นชิปที่ทรงพลังและประหยัดพลังงานที่สุดในโลกสำหรับแล็ปท็อประดับโปร ช่วยให้ MacBook Pro สามารถจัดการกับงานหนักๆ อย่างการเรนเดอร์เอฟเฟ็กต์ได้เร็วขึ้นสูงสุด 6 เท่า เมื่อเทียบกับ MacBook Pro ที่ใช้โปรเซสเซอร์ Intel ที่เร็วที่สุด และปรับแก้สีได้เร็วขึ้นสูงสุด 2 เท่า ประสิทธิภาพของ
นักฟุตบอลระดับตำนานต่างบอกว่า พระเจ้าสร้างกีฬาฟุตบอลขึ้นมาเพื่อ Pele’ โดยเฉพาะ ทั้งสปีดความเร็วและเทคนิคการเล่นที่สวยงาม การจบสกอร์ที่ยอดเยี่ยม ทำให้ Pele’ ถูกยกขึ้นบูชาในฐานะ National Hero ของ Brazil เป็นสมบัติของชาติที่หวงแหน แม้จะไม่มีโอกาสได้ไปค้าแข้งลีกยุโรป แต่ก็เป็นนักบอลเพียงคนเดียวที่ได้สามแชมป์ World Cup สถิติที่ยังห่างไกลจากนักเตะแถวหน้าในโลกใบนี้ ชื่อจริงของ Pele’ คือ Edson Arantes do Nascimento ได้แรงบันดาลใจมาจาก Thomas Alva Edison ผู้คิดค้นไฟฟ้า โดยเอาตัว i ออกไปเหลือแค่ Edson เหตุผลเพราะบ้านของ Pele’ พึ่งจะมีไฟฟ้าเข้าถึงก่อนเขาเกิดมาเพียงไม่กี่วันเท่านั้น โดยตามทะเบียนบ้านระบุว่าเกิดในวันที่ 23 ตุลาคม 1940 ในเมือง Tres Coracoes ทางตะวันออกเฉียงใต้ของ Brazil แต่ตัว Pele เองกลับยืนยันว่าเจ้าตัวเกิดวันที่ 21 ตุลาคม แต่เป็นความผิดพลาดด้านเอกสาร ซึ่งคน Brazil
หลายคนอาจไม่เชื่อเรื่องดวงหรือชะตาชีวิต แต่หากย้อนไปในปี 1984 มีชายที่ชื่อ Bill Lumsden ได้ลองสัมผัสรสชาติของ Glenmorangie Original เป็นครั้งแรก และมันก็เหมือนพรหมลิขิตที่เปลี่ยนเส้นทางชีวิตของเขาไปตลอดกาล ซึ่ง Dr. Bill พูดอยู่เสมอในทุกบทสัมภาษณ์ว่า “ตัวของเขานั้นติดหนี้ซิงเกิลมอลต์แก้วนั้นอย่างประเมินค่าไม่ได้” วันนี้ Dr. Bill Lumsden (บิล ลัมส์เดน) ชายจากปี 1984 คนนั้น ได้กลายมาเป็นผู้อำนวยการโรงกลั่น ฝ่ายสร้างสรรค์วิสกี้ ผู้กำหนดทิศทางของเกลนมอเรนจีมานานถึง 25 ปี กับวลีติดปากที่สะท้อนความเป็นนักทดลองว่า “ถ้าเกิดว่า…?” ตลอด 25 ปีของ Dr. Bill Lumsden เขาถูกเปรียบเป็นดั่งนักวิทยาศาสตร์ ผู้ถนัดในสาขาสร้างสรรค์รสชาติและสัมผัสของซิงเกิลมอลต์ได้อย่างไร้ขีดจำกัด เป็นความตั้งใจนับตั้งแต่วันแรกเมื่อได้เข้ามาทำงานที่เกลนมอเรนจี เพื่อนำรสชาติที่หลากหลายจากทุกความเป็นไปได้มาใช้สร้างสรรค์รสสัมผัสใหม่ ๆ ให้ซิงเกิลมอลต์จากพื้นที่ไฮแลนด์ของสก็อตแลนด์ที่มีอายุยาวนานกว่า 175 ปี Dr. Bill Lumsden เริ่มทำงานในโรงกลั่นวิสกี้ครั้งแรกในปี 1995 ด้วยความตั้งใจที่จะต่อยอดรสชาติจากรากฐานสำคัญของตัว 10-year-old Original แรงบันดาลใจที่ทำให้เขาเองตัดสินใจเลือกเดินเส้นทางสายนี้
ในปี 1880 มีคนพบร่างไร้วิญญาณของหญิงสาวนิรนามคนนึงลอยอยู่ในแม่น้ำ Seine เมือง Paris ไม่มีเบาะแสว่าเธอเป็นใคร คนงานห้องเก็บศพจึงปั้นใบหน้าของเธอ (Death mask) หรือรูปปั้นส่วนศีรษะที่หล่อด้วยปูนปล๊าสเตอร์เพื่อตามหาคนรู้จัก แม้สุดท้ายจะไม่มีครอบครัวหรือญาติพี่น้องแสดงตัว แต่หลายคนกลับรู้สึกหลงใหลในใบหน้าที่สงบและเปื้อนยิ้มของเธอ กลายเป็นรูปปั้นที่ถูกใช้ตกแต่งบ้านหรือร้านค้าเพื่อความสวยงามไปทั่วยุโรป จนหลายคนเรียกใบหน้าของเธอว่า “Mona Lisa of The Seine” ใบหน้าของเธอยังถูกใช้เป็นแรงบันดาลใจในการแต่งนิยายมากมายหลายเรื่อง เช่น 1900 novella The Worshipper of the Image by Richard Le Gallienne หรือภาพยนตร์เยอรมันปี 1936 ชื่อ Die Unbekannte ที่ใช้เรื่องราวการเสียชีวิตของเธอในการแต่งเนื้อเรื่องขึ้น เวลาผ่านไปถึงปี 1950 เมื่อหมอสองคนคือ James Elam และ Peter Safar ค้นพบเทคนิคการทำ CPR แบบ mouth-to-mouth และอยากเผยแพร่เทคนิคที่มีประโยชน์นี้ให้คนอื่นได้ฝึกฝน จึงติดต่อไปที่บริษัทผลิตของเล่น Asmund Laerdal
ในบางครั้ง บันทึกหน้าประวัติศาสตร์สำคัญของโลก ก็เกิดขึ้นจากสิ่งเล็ก ๆ บนพื้นที่เล็ก ๆ แบบที่เราคาดไม่ถึง เช่นเดียวกับโลกของ Hip Hop และ Hennessy สองวัฒนธรรมที่โคจรมาพบกัน มีความสนิทสนมแน่นแฟ้นจนกลายเป็นภาพจำที่อยู่คู่กันมาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน เมื่อเห็น Rapper ต้องเห็นขวด Hennessy อยู่ในมือ และมีคำว่า Hennessy อยู่ในท่อนแร็พมาโดยตลอด ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เกิดภายหลังจากจุดเริ่มต้นของ Hip Hop ในอพาร์ทเมนท์ Sedgwick Avenue ห้อง 1520 ย่าน Bronx ณ มหานครนิวยอร์ก ปี 1973 เริ่มจากความต้องการหาเงินเพิ่มของ Cindy Campbell ที่อยากหาซื้อชุดสวยใส่รับเปิดเทอม แต่เด็กที่อาศัยในย่าน Bronx ยุคนั้นไม่ใช่เด็กที่จะแบมือขอเงินพ่อแม่ได้ เธอจึงเกิดไอเดียอยากจัด back-to-school party ในห้องพัก และว่าจ้างน้องชาย Clive aka ที่นั่น DJ Kool Herc ให้มารับบทดีเจสำหรับปาร์ตี้ที่ชื่อว่า
ชายผู้เคยบอกว่า AI นั้นน่ากลัวและเป็นภัยต่อมนุษยชาติ เมื่อคืนพึ่งจะเปิดตัวผลงานเทคโนโลยีชิ้นล่าสุดที่กำลังพัฒนาโดย Tesla มีนามว่า “Optimus” AI Robot ที่เปิดตัวอย่างสวยงามบนเวทีงาน Tesla AI Day ใน Silicon Valley มันสามารถเดินและเคลื่อนไหวได้อย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมโบกมือทักทายผู้คนในงานได้อย่างคล่องแคล่ว Elon Musk ตั้งใจพัฒนา Optimus ขึ้นมาเพื่อใช้ทำงาน routine ในโรงงาน Tesla ซึ่งคาดว่าจะสามารถวางขายเพื่อใช้แทนแรงงานมนุษย์ได้ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ด้วยราคาราว 750,000 บาทต่อตัว ซึ่งถือไม่แพงเลยหากมันช่วย automated บางขั้นตอนในการผลิตให้สามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีป่วย ไม่มีลา ไม่มีจับกลุ่มด่านินทาเพื่อนร่วมงานให้เกิดดราม่าในองค์กร และไม่ต้องกลัวว่าวันนึง Optimus จะชวนกันกลายร่างเป็น The Terminator robot แล้วหันยึดครองโลกมนุษย์ เพราะ Elon Musk จะจำกัดขีดความสามารถของมัน เช่น จำกัดความเร็วในการวิ่งไม่เกิน 5 mph พร้อมปุ่มสำหรับปิดฉุกเฉินแบบ hardwired
สืบเนื่องมาจากความรักที่เรามีให้คุณ Yvon Chouinard เจ้าของ Patagonia แบรนด์เสื้อผ้า Adventure เบอร์ต้นของโลก ที่เอาหุ้น 98% ของบริษัทมอบให้กับ Holdfast Collective องค์กรการกุศลช่วยพัฒนางานวิจัยต่าง ๆ เพื่อให้โลกมีชีวิตยืนยาวต่อไป โดยกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า เขาไม่ใช่นักธุรกิจ เป็นแค่คน ๆ หนึ่งที่เริ่มต้นจากการทำอุปกรณ์ปีนเขาให้เพื่อนเท่านั้น และหุ้นส่วนเดียวของเขาคือโลกใบนี้ ฮือออ : ( สิ่งที่ทำให้เราสนใจ (หลังจากร้องไห้จนตาปูด) คือในยุคที่ Covid 19 เป็นปีศาจร้ายควบคุมชีวิตมนุษย์ พลาดนิดเดียวก็ล้มกันยาว ๆ เอาตัวเองให้รอดก็ยากแล้วแบบนี้ มันจะมีแบรนด์แฟชั่นไหนที่ยังคงห่วงผู้คนแบบ Patagonia อีกบ้าง แล้วเราก็ได้เจอกับชื่อของ Sky High Farm ขอรีแคปไว ๆ ก่อนเล่ายาว ๆ นี่คือแบรนด์แฟชั่นที่ไม่ได้ตั้งชื่อด้วยคำว่า ‘Farm’ เพื่อทำคอนเซปต์หนุ่ม-สาวชาวทุ่งเอาเก๋ เพราะเขาคือ ‘ฟาร์ม’ จริง ที่ลงมือทำการเกษตรจริง โดยมีผลิตภัณฑ์แบรนด์เสื้อผ้าเป็นสะพานเชื่อมผู้คนให้หันมาเห็นความสำคัญของโลกกันมากขึ้น และรันองค์กรเพียงอย่างเดียวเท่านั้น UNLOCKMEN
‘จดหมาย’ เมื่อพูดถึงสื่อกลางการส่งข้อความหลักของมนุษย์ยุคก่อนเทคโนโลยีในปี 2022 ที่เทคโนโลยีเอื้อให้เราสามารถส่งข้อความได้ทุกวินาทีและที่ไหนก็ได้บนโลก ก็ดูจะเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยจำเป็นไปแล้วหากเราจะใช้เพื่อติดต่อสื่อสารกับใคร แต่ทว่า ในแง่ของ ‘ความสุนทรีย์’ นี่คือสิ่งที่ Timeless ตลอดกาล จดหมายอาจจะเป็นสิ่งประดิษฐ์แบบอนาล็อกที่เรียกได้ว่าสวยงามที่สุดเท่าที่มนุษย์เคยคิดค้นขึ้นมา มันช่วยแสดงถึงความรู้สึกจริง ๆ ของเราผ่านลายมือแบบที่เทคโนโลยีก็ทำไม่ได้ และผสมกับการใช้เวลาเพื่อส่งสาสน์ถึงผู้รับทุกครั้ง ก็ยิ่งสร้างเวทมนตร์ในแง่ของความหมายของการรอคอยที่เทคโนโลยีก็ทำไม่ได้อีกเช่นกัน (แต่เป็นข้อเสียแน่นอนถ้าเป็นข้อความเร่งด่วน) UNLOCKMEN ชวนทุกคนอัพสกิลการพิมพ์ข้อความให้คนที่แอบชอบและคนรัก ผ่าน ‘จดหมายรัก’ ของเหล่านักเขียนดังของโลก ที่จะช่วยเพิ่มเสน่ห์ทางภาษาของคุณจนใครก็ตกหลุมรัก E.B. White จดหมายถึงคุณภรรยาในวันที่เธอท้อง งานของ E.B. White ที่ทั้งโลกน่าจะรู้จักกันดีที่สุดคือวรรณกรรมเด็กเรื่อง Charlotte’s Web หรือในชื่อไทย ‘แมงมุมเพื่อนรัก’ นั่นเอง และขอบอกก่อนเลยว่าจดหมายฉบับนี้ของเขาน่ารักมากกก! มันเป็นจดหมายที่เขาเขียนเพื่อใช้บอกรัก และให้กำลังใจภรรยาของตัวเองที่กำลังตั้งครรภ์อยู่ ส่วนสาเหตุที่ทำให้ต้องเขียนจดหมายนั้น เป็นเพราะความรู้สึกของการเป็นพ่อครั้งแรกมันท่วมท้นมากเกินกว่าที่จะสามารถพูดกับเธอตรง ๆ ได้ แต่ไม่ใช่แค่นั้น เขาเขียนจดหมายฉบับนี้ผ่านมุมมองของ ‘เดซี่’ น้องหมาที่ทั้งคู่เลี้ยงด้วยกัน ผู้เป็นคนเฝ้าดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดตลอดเวลา “ถึงคุณนายไวท์” “รู้มั้ยครับว่าคุณไวท์ไม่ขยับตัวไปไหนมา 2 วันแล้ว เขาเป็นห่วงเล็กน้อยพร้อมกับไม่แน่ใจว่าตัวเองได้แสดงออกมากพอให้คุณรู้รึยัง ว่าเขาดีใจกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้มากแค่ไหน ดังนั้น
ความเป็นเกาะของประเทศญี่ปุ่นมีภูมิประเทศที่เป็นภูเขาครอบคลุมพื้นที่มากถึง 73% และป่าปกคลุม 69% ของประเทศ (อ้างอิงจากข้อมูลจากปี 2017) และเป็นที่รู้กันดีว่าแดนอาทิศอุทัยอุดมด้วยเหล่าผู้คนที่หลงใหลในความเร็วแทบจะทุกพื้นที่ เมื่อสมการของสถานที่อันแสนท้าทาย ผสมกับการเกิดของนักแข่งรถที่รักในความเร็ว เราจึงได้ Tōge สนามแข่งรถที่โอบล้อมด้วยความสวยงามแฝงอันตรายของธรรมชาติขึ้นมา UNLOCKMEN ขอพาทุกคนไปรู้จักกับสถานที่แข่งรถในตำนานของญี่ปุ่น ที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับมังงะชื่อ Initial D และเป็นจุดกำเนิดของการ ‘ดริฟต์’ ของโลก พร้อมกับการสร้าง Drift King ขึ้นมา ที่มาของ Tōge หรือ Touge ในภาษาญี่ปุ่นมีความหมายว่า ‘ผ่าน’ ซึ่งใช้เรียกถนนที่สร้างเป็นทางโค้งรูปตัว S ที่ตัดอยู่บนรอบภูเขาที่มีอยู่ทั่วประเทศญี่ปุ่น สร้างขึ้นเพื่อลดการขึ้นของทางอันลาดชัน จนสามารถทำให้รถวิ่งเต็มที่ 2 เลนได้อย่างสะดวก ในอดีตแรกเริ่มเดิมทีมีเพื่อใช้สำรวจภูเขา ต่อมาจึงตัดถนนเพิ่มจนสามารถใช้สัญจรทั้งในการเดินทาง และเชิงพาณิชย์ได้ และเมื่อเข้าสู่ช่วงปี 80s – 90s เหล่านักแข่งรถก็เริ่มมองเห็นเส้นทางใหม่ ที่ท้าทายยิ่งกว่าสนามแข่งไหน ๆ ที่เคยมีมา การใช้เส้นทาง Tōge เป็นสนามแข่งรถนั้น ผิดกฎหมายมาก ๆ ในญี่ปุ่น
เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ Artificial Intelligence หรือที่เราเรียกกันสั้น ๆ ว่า AI น่าจะเป็นสิ่งที่มีบทบาทกับชีวิตมนุษย์อย่างมากยิ่งในปี 2022 ก็ถูกพูดถึงอย่างเข้มข้นอย่างมากในแทบจะทุกด้านของชีวิตเรา และเมื่อเร็ว ๆ นี้สำหรับวงการศิลปะเอง ก็มีข่าวคึกคักของการใช้ AI ในการสร้างงานศิลปะได้มหากาพย์ความงามจนน่าทึ่ง ซึ่งปัญญาประดิษฐ์ตัวนี้มีชื่อว่า Midjourney ความมหัศจรรย์ของ Midjourney สร้างแรงกระเพื่อมให้เกิดคำถามมากมายถึงความหมายของ ‘ศิลปิน’ เมื่อ AI เองก็สามารถสร้างงานภาพสุดคราฟต์ไม่ต่างจากที่เหล่าศิลปินชื่อดังทำได้ ที่ทางของศิลปิน (มนุษย์) จะอยู่ตรงไหนทั้งในการสร้างงาน ไปจนถึงการทำงานในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ? (ภาพทั้งหมดในคอลัมน์นี้ถูกสร้างขึ้นจาก Midjourney ) ถ้าลอกตาม About Me ที่ทาง Midjourney เขียนถึงตัวเองเอาไว้ใน Discord ความหมายของมันจะเป็นอย่างนี้ “พวกเรา Midjourney คือกลุ่มนักวิจัยอิสระเล็ก ๆ ที่มีกันอยู่ 11 คน ซึ่งต้องการสำรวจแนวความคิดใหม่ ๆ ในจินตนาการของเผ่าพันธุ์มนุษย์” หลังจากเปิดให้ทดลองในเซิร์ฟเวอร์แชทของ Discord มาเป็นเดือน
‘สเก็ตบอร์ด’ กีฬาที่น่าจะแสดงภาพของความอิสระของมนุษย์มากที่สุด ทั้งความเร็วที่เราเป็นคนกำหนดด้วยแรงของตัวเอง หรือการทะยานขึ้นไปบนอากาศเหมือนกับนกที่กำลังบิน แต่ความ ‘อิสระ’ ของสเก็ตบอร์ด มักถูกแปะด้วยภาพของผู้ชายเต็มไปหมด เหล่าสเก็ตเตอร์หญิงอยู่ตรงไหน และคำว่า ‘อิสระ’ นั้นอิสระจริงใช่มั้ย? เราชื่อว่าทุกสังคม ทุกกีฬา มีความไม่เท่าเทียมบางอย่างอยู่ในตัว แต่การปลดล็อคสิ่งนั้นเพื่อทลายกำแพงลง ก็เป็นสิ่งที่ควรทำ ย้อนกลับไปในปี 2012 มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ต้องการจะทำลายกำแพงที่ว่าโดยการตั้งกลุ่มสเก็ตบอร์ดที่มีแต่ผู้หญิงชื่อ The Skate Kitchen ขึ้น … เรื่องราวการต่อสู้ของพวกเธอถูกทำเป็นภาพยนตร์ในปี 2018 และถูกทำเป็นซีรีส์ 2 ซีซั่น ฉายทาง HBO มาแล้ว UNLOCKMEN อยากแนะนำให้ทุกได้รู้จักกับกลุ่มสเก็ตเตอร์หญิงจากนิวยอร์ก The Skate Kitchen ผู้ลุกขึ้นสู้เพื่อความเท่าเทียม ที่ไม่ใช่แค่เพื่อตัวเอง หรือเพื่อพื้นที่ของผู้หญิงต่อความเป็นปิตาธิปไตยของกีฬาสเก็ตบอร์ดเท่านั้น แต่พวกเธอทำเพื่อให้ทุกคนได้เล่นสเก็ตบอร์ดอย่างที่อยากจริง ๆ ลานสเก็ตบอร์ดของ Nina Moran พื้นที่ซึ่งผู้หญิงไม่ได้ถูกรับเชิญ ไม่ว่าคุณจะดูภาพถ่ายรวมกลุ่มของ The Skate Kitchen กี่ครั้ง เสื้อมัดย้อมที่ทำขึ้นเองซึ่งเข้าชุดมากับการสวมหมวกตลอดเวลาของ Nina Moran