Life

TRAIN LIKE (ANTI) HERO: โปรแกรมฟิตที่ RYAN REYNOLDS ฝึกเพื่อเพิ่มความแกร่งใน DEADPOOL 2

By: PEERAWIT May 21, 2018

ทุกวันนี้ต้องยอมรับว่าภาพยนตร์แนว Superhero นั้นมาแรงกว่าแนวอื่น และเป็นหนึ่งในแนวหนังเบอร์ต้น ๆ ที่ผู้ชายอย่างเรามักจะเลือกดู คงเป็นเพราะความสนุกเหนือจินตนาการและเรื่องราวที่มันส์หลากหลายที่ค่ายใหญ่สามารถทำออกมาขายได้เรื่อย ๆ  ตราบใดที่นักแสดงยังไม่เมื่อยเราก็คงจะได้ดูต่อไปอีกหลากภาค เรื่องที่เรากำลังจะพูดถึงก็เช่นกัน…

อีกเรื่องที่กำลังมาแรงก็คือภาคต่อของ Super (Anti) Hero ชุดแดงโคตรเก่งและเกรียนอย่าง Deadpool ที่นำแสดงโดยดาราหนุ่มเท่ ๆ Ryan Reynolds  ซึ่งใน Deadpool 2 นี้ ฮีโร่แหวกแนวของเราต้องเจอกับภารกิจท้าทายยิ่งกว่า และต้องปลดล็อกความรู้สึกหลายอย่างออกมาเพื่อต่อสู้กับเหล่าร้าย โดยเรื่องเริ่มจาก… พอแล้วครับ ทีมงาน UNLOCKMEN ไปดูมาแล้ว แต่ไม่อยากสปอยล์ บอกแค่ว่าคุณจะได้แง่คิดอะไรหลาย ๆ อย่างจากเรื่องนี้แน่นอน รวมถึงเรื่องสุขภาพด้วย!?

แม้ว่า Wade Wilson พระเอกของเรื่องจะหน้าตาไม่ค่อยน่ามอง แต่ร่างกายของเขาก็ยังกำยำน่ามองอยู่ดี แถมฉากแอคชั่นแต่ละฉากนี่ดูจะต้องใช้ความแกร่งมากมายเยอะเหลือเกิน ตั้งแต่ไล่จัดการตัวร้าย จนถึงวิ่งหนีแก๊งโฉดที่ไล่ตามมาเป็นขบวน (อันนี้บอกได้ เพราะอยู่ใน trailer) โดย Reynolds ต้องฟิตร่างกายหนักขึ้นกว่าภาคแรก เพื่อความสมจริงสมกับความสามารถของ Deadpool ที่ดูเจ๋งขึ้นในภาคนี้ และมันก็ไม่ใช่ความลับที่หนุ่ม ๆ ทุกคนไม่มีสิทธิ์ฝึกตามแต่อย่างใด นี่คือแนวทางการออกกำลังกายในสไตล์ของ Deadpool

ร่วมทศวรรษแล้วที่ Reynolds ฝากผีฝากไข้เรื่องการฟิตร่างกายไว้กับ Don Saladino เทรนเนอร์ชื่อดังที่ขุนคนดังให้ฟิตปั๋งมาแล้วหลายคน โดย Saladino พูดถึงการเป็นเทรนเนอร์ให้กับซูเปอร์สตาร์วัย 41 ปีชาวแคนาเดียนว่า “ผมรู้สึกสนุกมาที่สามารถทำให้ร่างกายของ Ryan ดูดีขึ้นในขณะที่เขาอายุมากขึ้น โปรแกรมของเรานั้นค่อนข้างยืดหยุ่นและเปลี่ยนแปลงความเข้มข้นได้ตลอด ขึ้นอยู่กับว่าเขาเหนื่อยแค่ไหนหรือรู้สึกอย่างไรในวันนั้น แต่แน่นอนว่าผมต้องทำให้ร่างกายของเขาสามารถเคลื่อนไหวได้ดีเช่นเดียวกับรูปร่างที่ดูดี เพราะว่า Ryan ขอเล่นฉากบู๊เองเป็นส่วนใหญ่เพื่อความสมจริงที่สุด”  

Don Saladino

โปรแกรมการออกกำลังกายของ Saladino ที่จัดให้ Reynolds นั้นเป็นแบบ full-body circuit ที่รวบรวมเอาการออกกำลังแบบแอโรบิก, เวทเทรนนิ่ง และยืดเหยียดเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งช่วยลดไขมัน, เพิ่มความแข็งแกร่งและความกระชับของกล้ามเนื้อ รวมถึงช่วยให้หัวใจและระบบทางเดินหายใจดีขึ้น ใครที่เคยฝึกจะรู้ว่าโคตรเหนื่อยแต่โคตรดี ที่สำคัญอย่าลืมวอร์มอัพราว 10-15 นาทีก่อนเริ่มลุยด้วยนะครับ

 

วิธีการฝึก : ทำทุกท่าให้ครบตามจำนวนต่อเนื่องกัน พอครบทุกท่านับเป็น 1 รอบ ทำทั้งหมดให้ครบ 5 รอบ โดยพักระหว่างรอบด้วยเวลาจำกัด

Kettlebell Swing

5 ครั้ง

Kettlebell Swing คือท่าฝึกที่ใช้ทุกส่วนของร่างกายอย่างแท้จริง โดยเฉพาะกล้ามเนื้อบริเวณแนวเส้นผ่านศูนย์กลางหลังซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่สุดของร่างกาย ส่วนวิธีการฝึกต้องพยายามใช้ kettlebell ที่หนักที่สุดเท่าที่จะไหว และเหวี่ยงให้ถูกท่า

“มันไม่มีท่าไหนที่ดีที่สุดหรอก แต่ไอ้ท่าเนี่ยผมชอบสุด ๆ “ Saldino เชียร์ให้ลองทำ

 

Front Squat

5 ครั้ง – น้ำหนัก 80-85 % ของน้ำหนักที่ยกไหวในท่านี้จำนวน 5 ครั้ง

Front Squat เป็นท่าที่ขาดไม่ได้เลยเพื่อสร้างฐานรากที่มั่นคง และจะให้ได้ผลต้องใช้น้ำหนักที่ทำให้รู้สึกว่ามันยกยาก แต่ไม่ถึงขั้นกับหมดแรง โดยน้ำหนักที่ควรใช้คือราว 80-85 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักที่คุณยกได้ในท่านี้ 5 ครั้งแล้วหมดแรง หรือถ้ารู้สึกว่าไม่ถนัดเอา barbell มาพักไว้ด้านหน้า ก็อาจจะใช้ kettlebell หรือ dumbbell แทนก็ได้ แต่ต้องทำท่าทางให้ถูกต้อง หลังต้องไม่โค้งงอเด็ดขาด

“ท่านี้คุณควรจะต้องรู้สึกว่ามันหนักนะ แต่ต้องไม่หนักมากถึงขนาดทำให้ยกผิดท่า” Saladino แนะนำ

 

Bench Press

5 ครั้ง – น้ำหนัก 80-85 % ของน้ำหนักที่ยกไหวในท่านี้จำนวน 5 ครั้ง

Bench Press อีกหนึ่งท่าพื้นฐานที่มุ่งเป้าไปที่กล้ามเนื้อหน้าอก ดูเหมือนไม่ยาก แต่ถ้าจะให้มัน “ใช่” ก็ต้องเช็กท่าทางตัวเองหน่อย  Saladino แนะนำว่า “ให้จับ Barbell ด้วยความกว้างปานกลาง ยิ่งจับแคบเท่าไหร่กล้ามเนื้ออกจะทำงานได้ไม่ทั่ว และทำให้ยกยากขึ้น”

 

Pull-up

5 ครั้ง

Pull-Up นั้นเหมือนจะทำง่าย เพราะเป็นอีก 1 ท่าเบสิคในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อหลัง แต่สิ่งที่ยอดเทรนเนอร์ของเราแนะนำให้ทำให้ได้เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดก็คือต้องเกร็งลำตัวให้ตรงเหมือนกับเราทำท่า plank  การคุมร่างกายจะทำให้เราสามารถเคลื่อนไหวและใช้กำลังแขนได้เต็มที่ ไม่มีโกง

 

Carry

ท่าที่ดูแสนจะธรรมดานี้ แค่เดินถือ kettlebell น่าจะไม่มีอะไรยากเย็น แต่ Saladino บอกว่าท่านี้คือ “อาวุธลับ”​ ของความแกร่ง

“ผมมีท่าฝึกเดินถือน้ำหนักราว ๆ 20-30 ท่า และมันเป็นท่าที่เหมาะกับหนุ่ม ๆ อย่างเรามาก คุณจะไม่มีทางเห็นผมลืมใส่ท่านี้ลงในโปรแกรมอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง” Saladino พูดถึงท่า Carry

การฝึกไม่ยากแต่เมื่อยแน่ ๆ  ให้คุณถือ kettlenell เดินตามวิธีต่าง ๆ ทางด้านล่าง โดยใช้น้ำหนักมากที่สุดเท่าที่คุณจะไหวและไม่ทำให้ท่าทางผิดเพี้ยน และสามารถสับเปลี่ยนท่าถือเดินได้ระหว่างการฝึก

 

One-Arm Suitcase Carry

20-23 เมตร – สลับมือที่ถือไปมา

 

Double Suitcase Carry

20-23 เมตร

 

One-Arm Rack Carry

20-23 เมตร

 

One-Arm Overhead (Waiter) Carry

20-23 เมตร

 

Bottom-Up Carry

20-23 เมตร

 

โดยหลังจากฝึกตามโปรแกรมที่แนะนำแล้ว ควรปิดท้ายด้วยการ cardio ที่เน้นการพัฒนา heart rate เช่น การเดินบน treadmill หรือปั่นจักรยานบน spin bike ประมาณ 10 นาทีก็ดี แต่โปรแกรมที่ Saladino แนะนำก็คือ ปั่นบน air bike สุดแรงเกิด 30 วินาที สลับกับพัก 30 วินาที ทั้งหมด 5 รอบ ก่อน cool down และไปหาอาหารดีต่อสุขภาพทานต่อ

ถือเป็นอีกหนึ่งแรงจูงใจที่ดีสำหรับคนที่ต้องการหาความท้าทายใหม่ ๆ ในการเรียกความฟิต ยิ่งถ้าได้วิธีเดียวกับคนที่สวมบทบาทตัวเด่น ๆ ในหนังฮิต ยิ่งทำให้เราฝึกได้สนุกยิ่งขึ้น เป็นประโยชน์ทางอ้อมที่มีผลดีทางตรงกับร่างกายของเรา เพราะการเป็น superhero ในโลกความจริงนั้น เราต้องดูแลตัวเองให้ดีที่สุดก่อน ถึงจะดูแลคนอื่นได้เต็มที่

ส่วนเรื่องอารมณ์ขันสไตล์ Deadpool นั้น คงต้องฝึกกันเอาเองนะครับ ยอมใจพี่เขาจริง ๆ

SOURCE 1 / SOURCE 2

PEERAWIT
WRITER: PEERAWIT
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line