DESIGN

MIDO Multifort Powerwind Chronometer เรือนเวลายอดนิยม ผสานกลิ่นอายวินเทจจากปี 1954

By: Chaipohn September 1, 2022

การกลับมาอีกครั้งของเรือนเวลาสไตล์เรโทรรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นที่ถือเป็นก้าวสำคัญในประวัติศาสตร์ของ “มิโด” (MIDO) “มัลติฟอร์ต พาวเวอร์วินด์ โครโนมิเตอร์” (Multifort Powerwind Chronometer) จากตระกูลมัลติฟอร์ต (Multifort) ถูกผลิตออกมาเพียงแค่ 1954 เรือนเท่านั้น เพื่อเป็นการรำลึกถึงรุ่นพาวเวอร์วินด์ (Powerwind) ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในปี 1954 และได้ปฏิวัติวงการนาฬิกาด้วยการเคลื่อนไหวที่แม่นยำและเที่ยงตรงที่สุดของ “มิโด” (MIDO) ในขณะนั้น

โดยล่าสุดในปี 2022 นี้ “มิโด” (MIDO) ได้หยิบยกเรือนเวลาระดับตำนานขึ้นมาสร้างสรรค์ใหม่อีกครั้งด้วยการเพิ่มเทคโนโลยีร่วมสมัยที่ดีที่สุด ให้นาฬิกามีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น พร้อมดีไซน์สุดคลาสสิกที่ผสานกลิ่นอายของความวินเทจเอาไว้ได้อย่างลงตัว โดดเด่นด้วยหน้าปัดสีน้ำเงินมิดไนท์ บลู (Midnight Blue) ซึ่งเหมาะสำหรับนักสะสมที่หลงใหลความวินเทจเป็นอย่างดี

“มิโด” (MIDO) แบรนด์นาฬิกาที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปี นับตั้งแต่ จอร์จ แชแรน (Georges Schaeren) เริ่มก่อตั้งบริษัท MIDO G.Schaeren & Co. AG ขึ้นที่เมืองโซโลธูร์น ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ตั้งแต่ ค.ศ. 1918 ภายใต้ปรัชญาของการสร้างสรรค์แบรนด์ให้อยู่เหนือกาลเวลาด้วยแนวคิดการออกแบบที่ร่วมสมัย ผ่านการคัดเลือกวัสดุคุณภาพเยี่ยมที่มีความหรูหรา ทนทาน และยังคงไว้ซึ่งฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบถ้วน

สำหรับ “มัลติฟอร์ต พาวเวอร์วินด์ โครโนมิเตอร์” (Multifort Powerwind Chronometer) รุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นนี้ ได้ติดตั้งเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดด้วยกลไกการบอกเวลาที่ไร้ที่ติด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทั้งเที่ยงตรงและแม่นยำสูง ซึ่งได้การรับรองโดยสถาบันทดสอบความเที่ยงตรงของนาฬิกาแห่งสวิตเซอร์แลนด์ (Official Swiss Chronometer Testing Institute หรือ COSC)

ตัวเรือนขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางอยู่ที่ 40 มิลลิเมตร พร้อมฟังก์ชั่นการกันน้ำลึกได้ถึง 50 เมตร ในดีไซน์หน้าปัดทรงกลมที่ทำจากสแตนเลสสตีลอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งครั้งนี้ “มิโด” (MIDO) ได้พานักสะสมย้อนวันวานด้วยแรงบันดาลใจจากโมเดลของมัลติฟอร์ต (Multifort) ในอดีต และนำเอกลักษณ์จากมัลติฟอร์ต (Multifort) แบบฉบับรุ่นเก่ากลับมารังสรรค์บนหน้าปัด เพิ่มเสน่ห์ให้หน้าปัดด้วยการใช้เฉดสีน้ำเงินมิดไนท์ บลู (Midnight Blue) พร้อมเคลือบซาตินบริเวณหน้าปัด เพิ่มความโดดเด่นด้วยการใช้โทนสีโรสโกลด์บริเวณตำแหน่งบอกเวลาและเข็มนาฬิกา อีกทั้งยังเคลือบสารสะท้อนแสงซูเปอร์ลูมิโนวา (Super-LumiNova) สีขาว เพื่อช่วยให้อ่านค่าเวลาได้ชัดเจนทั้งกลางวันและกลางคืน

บนหน้าปัดยังสลักชื่อแบรนด์และชื่อคอลเลกชั่นว่า ‘Mido MULTIFORT’ รวมถึงชื่อรุ่น ‘powerwind’ ในแบบดั่งเดิมภายใต้กระจกที่ทำจากคริสตัลแซฟไฟร์ทรงกลาสบอกซ์ ที่เป็นซิกเนเจอร์ อีกจุดเด่นที่ให้สัมผัสลุควินเทจเรียบหรูสมบูรณ์แบบคือสายนาฬิกาสแตนเลสสตีล 7 แถว และที่เรียงร้อยดีไซน์ของเม็ดรวงข้าวที่ยื่นออกมาจากตัวเรือนเหล็กขัดมันและเคลือบซาติน พร้อมตัวล็อกแบบพับได้พร้อมปุ่มกด เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการสวมใส่ และบริเวณด้านหลังตัวเรือนได้สลักเลขหมายรุ่นพิเศษเอาไว้อีกด้วย

นอกจากนี้ “มิโด” (MIDO) ยังได้แนะนำเคล็ดลับการแต่งตัวสไตล์เรโทรด้วยเรือนเวลาหรูให้โดดเด่นอย่างสมบูรณ์แบบว่า หากอยากแต่งตัวสไตล์เรโทรง่ายๆ นั้น สามารถหยิบเสื้อยืดลายพิมพ์หรือเสื้อฮาวายมาแมทช์กับกางเกงขาสั้นและรองเท้าผ้าใบสีขาว แล้วคอมพลีทลุคด้วยนาฬิกาวินเทจที่ผลิตจากสแตนเลสสตีลก็จะได้ Everyday look ชิลล์ๆ

แต่ถ้าใครเป็นสายแฟชั่นหน่อยสามารถแมทช์เสื้อยืดลายพิมพ์เท่ๆ กางเกงยีนส์ขาม้ากับรองเท้าบูทหนัง และนาฬิกาวินเทจที่โดดเด่นด้วยหน้าปัดโทนสีน้ำเงิน ก็สามารถเติมเต็มสไตล์เรโทรได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่ถ้าเป็นลุคทางการขึ้นมาหน่อย สามารถหยิบนาฬิกาเรือนเดิมมาแมทช์กับเชิ้ตขาวแล้วทับด้วยสูทและกางเกงขายาวในโทนสีน้ำตาลก็โดดเด่นได้เช่นกัน

สั่งจอง และเป็นเจ้าของเรือนเวลาเรโทรรุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่น “มัลติฟอร์ต พาวเวอร์วินด์ โครโนมิเตอร์” (Multifort Powerwind Chronometer) จากเรือนเวลาสัญชาติสวิตเซอร์แลนด์แบรนด์ “มิโด” (MIDO) นาฬิกาดีไซน์หรูคุณภาพมาตรฐานตามแบบฉบับ Swiss made ได้ที่เคาน์เตอร์ “มิโด” (MIDO) เซ็นทรัล, โรบินสัน, เดอะมอลล์ และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติ่มได้ที่เว็บไซต์ www.midowatches.com, LINE Official Account: @midothailand หรือติดต่อได้ที่เบอร์ 02-610-0299

Chaipohn
WRITER: Chaipohn
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line