Music

NEXT COVER, SAME MOOD 06 : อ่านหนังสือเล่มไหนต่อดี เมื่ออินกับเพลงในอัลบั้ม ‘Why Don’t I …..? ’ ของ Lemony

By: GEESUCH January 7, 2023

เปิดปี 2023 กับวงที่เราอยากให้ทุกคนได้รู้จักตั้งแต่ปี 2022 แต่ปลายปีของชาวออฟฟิศก็วุ่นวายกันนิดหน่อย เราเลยขอยกยอดวงนี้มาเป็นศิลปินเบอร์แรกเปิดซีรีย์ Next Cover, Same Mood ของปีเลยละกัน กับ Lemony จาก Sanamluang Music  

แนะนำประวัติวงคร่าว ๆ กันเล็กน้อย เนื่องจากว่าเป็นวง New Blood ที่น่าสนใจมาก เพราะเอาจริง ๆ พวกเขาก็ไม่ใช่วงหน้าใหม่ของวงการเสียทีเดียว ก่อนหน้าที่จะเป็นวง Lemony พวกเขาทั้ง 4 คนเคยใช้ชื่อว่า Kordyim (อ่านว่า ‘โคตรยิ้ม’) แต่ด้วยที่ต้องการปรับเปลี่ยนแนวทางของดนตรี + ทิศทางของวงใหม่ จึงจัดการรีเซ็ทใหม่หมด กว่าจะออกมาเป็น Lemony กับอัลบั้มแรกให้ทุกคนได้รู้จักในวันนี้ ก็ใช้เวลากว่า 10 ปีเลยทีเดียว !  

ถ้าคุณเคยรู้จัก Lemony ในร่างที่แล้วมาก่อน จะเข้าใจเลยว่า Why Don’t I …..? เป็นอัลบั้มที่ย้ำคาแรคเตอร์ของวง Lemony ในหน้าหนังสือบทใหม่แบบชัดเจนมาก บางอย่างที่เป็นตัวตนของพวกเขามาโดยตลอดนั้นยังคงอยู่ แต่สิ่งใหม่ที่ก็เป็นตัวตนของพวกเขาก็น่าประทับใจไม่แพ้กัน และสำหรับคนฟังเพลงเป็นอัลบั้มแบบเรา ความเปรี้ยวซ่า ความเศร้าหมอง ความสนุกสนาน ทุกความรู้สึกของทั้ง 7 เพลง เกิดจากการอะเรนจ์ของวงที่เข้าใจความเป็นตัวเองอย่างแท้จริงแบบที่เรามักจะพูดเสมอในตอนที่ก่อนหน้านี้  

อัลบั้มนี้เป็นเหมือนการออกไป Road Trip กับเหล่าสมาชิกทั้ง 4 ของวง ออกไปสู่โลกใบใหม่ ออกไปให้ไกลจากเมืองใหญ่ ให้ชีวิตของเราได้ถูกชาร์จแบตจนเต็มอีกครั้ง แต่บอกก่อนเลยว่า มันจะเป็นการ Road Trip ที่เต็มไปด้วยเสียงเอะอะตลอดทาง เพราะความเรียบร้อยไม่ได้อยู่ในพจนานุกรมของวงเลยแม้แต่หน้าเดียว … เปิดอ่าน Next Cover, Same Mood ตอนที่ 6 ไปเจอกับเพลงของพวกเขาที่แมทช์กับหนังสือได้เลย


เพลง : เอายังอะ
หนังสือ : โหดไม่ถามชื่อ (The Fable) / Katsuhisa Minami 

เป็นเพลงเปิดอัลบั้มแบบคลาสสิกมากกก คือมีความตะโกน มีพลังวัยรุ่น สิ่งที่ดีที่สุดคือเมื่อเราฟังจบทั้งอัลบั้ม 1 รอบ ก็จะเข้าใจว่าเพลง ‘เอายังอะ’ ก็ทำหน้าที่วางความเป็น Lemony ในช่วงเวลาของ Why Don’t I ….. ? ได้อย่างครบถ้วน 

ทุกคนที่อ่านมังงะเรื่อง ‘โหดไม่ถามชื่อ’ แล้ว อาจจะสงสัยว่าทำไมเราถึงยกมังงะเรื่องนี้ขึ้นมาพูดถึงเพลงเปิดของ Lemony แต่ถ้ายังจำกันได้ดี ในโหดไม่ถามชื่อจะพูดถึงชีวิตของ Akira Sato นักฆ่าฉายา The Fable ที่เก่งเหนือนักฆ่าด้วยกัน ซึ่งถูกเจ้านายให้ปฎิบัติภารกิจเลิกฆ่าคน จงเก็บตัวเงียบ ๆ อยู่ในเมืองเล็กห่างไกลผู้คน แล้วใช้ชีวิตในแบบของคนธรรมดา ตัว Akira Sato ก็ใช้ชีวิตธรรมดาโดยการเลือกเป็น Illustrator หาเลี้ยงชีพ ซึ่งไม่ใช่อะไรที่เขาเคยทำมาก่อนเลยในชีวิต ! 

จากเหตุการณ์ของ Akira Sato ที่วางมืออันเปื้อนเลือด มาจับเมาส์ปากกาสร้างความสุขให้กับลูกค้าแทน มันทำให้เราเห็นความเป็นไปได้ของชีวิตไม่จำกัดที่จะมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุขในรูปแบบที่ต่างกันออกไป ใน ‘เอายังอะ’ พวก Lemony ก็พยายามชวนคนฟังสร้างความเปลี่ยนแปลงนั้น ตั้งแต่เรื่องเล็กน้อยที่สุดอย่างการออกไปผจญภัยในสถานที่ใหม่ เพราะการที่ไม่ลองเลย เท่ากับว่าเราก็จะไม่ได้รู้ถึงความสนุกอีกมากมายของโลกใบนี้


เพลง : รู้ตัวได้แล้ว
หนังสือ : Fresh (2022) / Mimi Cave  

พอเข้าเพลง 2 ของอัลบั้มเริ่มจับทางได้ละ วงนี้เขาเก่งทำเพลงจังหวะ Medium ค่อนไปเร็วแน่ ๆ คือเพลงเศร้าก็สนุกได้ แล้วเพลงสนุกก็เศร้าได้ด้วย อย่างเพลงนี้ก็ออกไปทางความเศร้าของชีวิตนะ แม้จะไม่ได้หดหู่ก็ตาม เนื้อหาพูดถึงการ Recab ความสัมพันธ์ที่พังทลายลงเพราะความ Toxic มันกัดกินเราทั้งคู่ ไม่ว่าเราจะพยายามมากแค่ไหน ก็เหมือนว่าโลกจะหมุนรอบตัวเธอตลอดเวลาอยู่ดี  

ในลิสต์ที่สุดของหนัง Terror & Horror ปี 2022 ของทุกคนมีเรื่องอะไรในใจกันบ้างครับ ของเราจะต้องมี Fresh ของ Mimi Cave อยู่ในนั้นแน่นอน คือมันทำให้รู้สึกว่าเจนของหนังแนวนี้ในยุคสมัยใหม่มันจะมีหน้าตาประมาณยังไง – หนังเรื่องนี้เล่าเรื่องของ Noa ที่บังเอิญเจอกับหนุ่มหล่อในซุปเปอร์มาร์เก็ตชื่อ Steve ทั้งคู่ก็สานสัมพันธ์ เคมีลงตัวราวกับเกิดมาเพื่อกันและกัน แต่ก่อนที่จะรู้ตัวว่าความสัมพันธ์นี้มันจะ toxic ในตอนจบ ทุกอย่างก็สายเกินแก้แล้ว และตัวจริงของ Steve คือฆาตกรต่อเนื่องก็ถูกเปิดเผยออกมา   

หัวใจหลักสำคัญของเพลงนี้คือการที่ Lemony พูดเชิงประชดเจืออารมณ์น้อยใจอยู่ในเนื้อเสียง “ถ้ารู้งี้ ใช้กับความรักไม่ได้เสมอไปหรอก มีแต่การใช้เวลาร่วมกันที่เราจะรู้ได้ว่าใครคือคนที่ใช่จริง” เออมันเป็นมุมมองเล็กน้อยที่บางทีเราก็มองไม่เห็นเหมือนกันนะ เพราะถ้าเอาแต่จะตามหาคนที่ใช่โดยไม่คำนึงถึงสิ่งนี้ ความรักที่เกิดขึ้นก็คงจะ Toxic ในท้ายที่สุด


เพลง : I’m always waiting for you 
หนังสือ : ชายที่คนรักจากไป (Men Without Women) / Haruki Murakami 

“ซาวด์แทร็ค Road Trip ของสองเรา ในวันที่ส่วนหนึ่งซึ่งหายไปบนโลกนี้ได้ถูกเติมเต็มจนสมบูรณ์”

ใน I’m always waiting for you เพลงของ Lemony ไม่ได้ต้องการพูดถึงใครที่จากไป แต่มันคือการตามหาอีกส่วนที่หายไปจากความรู้สึก เพื่อถมรูโหว่ภายในจิตใจให้เต็มไปด้วยพื้นที่จากใครอีกคนที่เข้ากันดี ซึ่งหนึ่งในเรื่องสั้นที่มีชื่อเสียงที่สุดของมูราคามิอย่าง Drive My Car (จากหนังสือรวมเรื่องสั้น Men Without Women) พูดถึงสิ่งที่คล้ายกัน ในสถานการณ์ที่ต่างออกไป 

Drive My Car เล่าเรื่องของ Yûsuke Kafuku นักแสดงที่สูญเสียภรรยาไปเพราะโรคร้าย แต่ความเศร้าโศกจากความตายของเธอนั้นกัดกินจิตใจของ Kafuku มากกว่าที่เขาคิด เพราะเธอจากไปพร้อม ๆ กับความลับที่ว่าตัวเองมีสัมพันธ์สวาทกับนักแสดงรุ่นน้องปิดบังซ่อนเขามาตลอดเวลา แต่ทว่า สิ่งที่ภรรยาของ Kafuku ไม่รู้คือเขาเองก็รู้ความลับนี้ด้วย … ในช่วงเวลาที่เธอจากไป Kafuku ที่เหลือตัวคนเดียวยังคงรักษาความทรงจำที่ทั้งคู่เคยมีให้กันเอาไว้เป็นอย่างดี ผ่านการขับ (1987) Saab 900 Turbo รถที่มีภาพของทั้งสองซ้อนทับอยู่ตลอดเวลา

ถึงอะไรจากต่างกัน แต่ ‘ความเหงา’ ในรูปแบบที่เราใช้คำเองว่า Positive Lonely คือสิ่งที่เพลงกับหนังสือเล่มนี้มีเหมือนกัน มันเป็นความเหงาเจือความหวังว่าสักวันจะต้องเป็นวันที่เราจะได้เจอกับคน ๆ นั้น หนังสือเลือกอธิบายความหวังนี้ผ่านภาษาอันงดงามของมูราคามิและการค่อย ๆ เติบโตของตัวละครหลัก ส่วน Lemony ก็เล่าผ่านดนตรี Surf Rock จังหวะชวนเต้นเบา ๆ ในน้ำเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ของวงเอง พร้อมกับคอยย้ำประโยคสำคัญเพื่อให้กำลังใจตัวเองว่า “I’m always waiting for you ยังรอคอย เธออยู่ไหน” (นี่คือเพลงที่รักที่สุดในอัลบั้มนี้ของเราล่ะ)


เพลง : Have a Good Day 
หนังสือ : Nick & Norah’s Infinite Playlist (2008) / Peter Sollett  

 

อื้อหือ เพลงนี้ดีมาก เป็นซาวด์แทร็คสำหรับ Road Trip เหมือนกัน แต่เป็นภาคต่อของเพลงก่อนหน้า หลังจากที่คำอษิฐานได้รับการตอบรับให้สมหวังแล้ว … จนมาถึงวันที่ใครอีกคนในความสัมพันธ์เหนื่อยล้า เราทั้งสองจะพากันหนีออกจากเมืองใหญ่ บนทิวทัศน์ที่มีท้องฟ้ากว้าง ภูเขา แม่น้ำ นอนดูดาว จะที่ไหนก็ได้ที่มีเธอไปด้วยกัน 

ตัวเพลงมีความเป็น Slice Of Life อยู่เหมือนกันนะ แบบว่าผจญภัยไปเรื่อย ๆ ไม่ต้องคิดอะไรเลย รถหนึ่งคันฉันกับเธอ ดนตรีก็สนุกสนานด้วยไลน์กีตาร์ซิ่ง ๆ ไลน์เบสดิ้น ๆ จังหวะกลองสนุก ๆ แล้ว พอท่อน ‘จุมพิตใต้แสงจันทร์’ ขึ้นมา เราก็คิดถึงหนังเรื่อง Nick & Norah’s Infinite Playlist ทันทีเลย

Nick & Norah’s Infinite Playlist เล่าเรื่องระหว่าง Nick O’Leary กับ Norah Silverberg ที่บังเอิญเจอกันด้วย CD มิกซ์เทปโง่ ๆ จนนำไปสู่ค่ำคืนที่ดีทีสุดของชีวิตทั้งคู่ผ่านการขับรถเก่า ๆ ด้วยกันตลอดทั้งคืนตามหาโลเคชั่นลับของวงดนตรีอินดี้ที่ดังที่สุดของยุคสมัย .. ใครที่ชอบหนังเกี่ยวกับดนตรีเราไม่อยากให้พลาดเรื่องนี้เลย (ใน Netflix มี) มันมีทั้งความเนิร์ดของคนรักดนตรีอย่างเต็มเปี่ยม แถมยังมีอารมณ์ของชั่วเวลาต้องมนตร์จากดนตรีทุกขณะ เป็นอะไรที่สามารถใช้คำว่า Have a Good Day ออกมาดัง ๆ เหมือนกับที่เพลงของ Lemony เป็น


เพลง : ถึงคุณที่จากไป 
หนังสือ : แผลลึกหัวใจสลาย (Never Let me Go) / Kazuo Ishiguro 

พาร์ทเศร้าแบบ Deep ที่สุดของ Lemony ที่เราอยากขอชมอะเรนจ์ของตัวเพลงนี้หนัก ๆ ก่อนเลย ร้ายกาจมาก คือการทำให้มีแค่กลอง เปียโน ร้อง ไม่ง่ายเลยนะ จะพูดว่าเป็นการออกจาก Safe Zone ในการอะเรนจ์เพลงเลยก็ไม่ผิด เพราะโดยทั่วไปแล้วดูเหมือนจะเป็นองค์ประกอบที่ขาด ๆ เกิน ๆ แต่วงนี้คือเขาคิดมาดีแล้ว มินิมอลระดับนี้คือถูกต้อง จะไม่รู้สึกเลยว่าต้องการเสียงไหนเพิ่มจากเครื่องดนตรีอื่น เป็นการอะเรนจ์แบบที่เข้าใจ Empty Space ของเพลงจริง ๆ 

 ความใจสลายเพราะคนรักจากไปกระทันหันของเพลงนี้ สัมพันธ์โดยตรงกับวรรณกรรมดิสโทเปียชื่อ Never Let Me Go ของคุณ Kazuo Ishiguro ซึ่งเรื่องย่อของหนังสือเราไม่สามารถพูดได้มาก เพราะถ้าเล่านิดเดียวก็จะเป็นการเฉลยจุด Plot Twist ของเรื่องเลย เอาเป็นว่านี่คือหนังสือที่เล่าเรื่องของกลุ่มเพื่อน 3 คน ที่เติบโตด้วยกันในโรงเรียนมัธยมเฮลแชม ผ่านการเล่าเรื่องผ่านความทรงจำของ Kathy H  

ตัวหนังสือเล่าความรู้สึกในเพลง-แล้วตัวเพลงก็เล่าพาร์ทหนึ่งของหนัง ในตอนจบที่ Kathy H อยู่ตัวคนเดียว ในวันที่คนรักจากไป โลกที่เธออยู่ไม่เคยเป็นโลกในความต้องการของเธออีกแล้ว เพราะโลกที่แท้จริงของเธอคือสิ่งที่ถูกเล่าผ่านความทรงจำถึงคุณที่จากไปของเธอนั่นเอง


เพลง : โลกจำลอง 
หนังสือ : Fight Club / Chuck Palahniuk 

เป็นเพลงที่เราพูดเสมอว่าอยากให้มีอีกเยอะ ๆ บนโลกนี้ เป็นเพลงที่ให้เราหลีกหนีจากความจริง เข้าไปสู่โลกในจินตนาการ หรือที่ Lemony เรียกว่า ‘โลกจำลอง’

เออแต่แปลกดีที่ฟังเพลงนี้แล้วรู้สึกถึงนิยาย Fight Club หนังสือเล่มเดียวกันกับที่ถูกทำเป็นภาพยนตร์เวอร์ชั่นของ David Fincher เล่าเรื่องของชายหนุ่มมนุษย์ออฟฟิศคนหนึ่ง ที่คอนโดถูกไฟไหม้จนสูญเสียทุกอย่างไป แล้วชีวิตก็เปลี่ยนไปเมื่อได้เจอกับ Tyler Durden ช่างทำสบู่ที่บงเอิญเจอกันบนเครื่องบิน     

ภายใต้ภาพความรุนแรงของกลุ่มไฟต์คลับที่ตะบันต่อยกันไม่ยั้งเพื่อเรียนรู้รสชาติของชีวิต มันคือโลกในจินตนาการที่ถูกจำลองขึ้นด้วยกันจากเหล่าผู้คนอันหลากหลายบนโลกจริง เพราะว่าชีวิตบนโลกมันห่วยแตกสุดเกินทน ไม่ว่าจะสังคม การเมือง วัฒนธรรมต่าง ๆ การมีสถานที่ที่ให้เราได้เป็นตัวเองหลีกหนีจากความจริงให้เราได้ชาร์จแบตก่อนไปพบเจอโลกแห่งความจริงอีกครั้งเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก


เพลง : Why Don’t I …..? 
หนังสือ : Booksmart (2019) / Olivia Wilde  

ปิดท้าย Why Don’t I …..? ด้วยเพลงชื่อเดียวกันกับอัลบั้ม ที่เป็นหัวใจหลักของประเด็นที่เราเชื่อว่าอัลบั้มนี้ต้องการจะพูดถึง ซึ่งก็คือ ‘การเป็นตัวเอง’ นั่นเอง ความเจ๋งก็คือ ที่เราเกริ่นไปในตอนแรกว่าการ Road Trip ในอัลบั้มนี้กับ Lemony มันไม่ใช่การเดินทางแบบชิล ๆ แต่จะเต็มไปด้วยความเอะอะโวยวาย ตัวเพลงสุดท้ายนี้ล่ะคือตัวตนของเจ้าพวกวงตัวดีนี้เลย   

ปีที่แล้วเราบังเอิญได้ดูหนังเรื่อง Booksmart ที่พูดถึง Amy และ Molly นักเรียนมัธยมปลายหัวกระทิที่ขยันอย่างหนัก อ่านหนังสือเตรียมตัวตั้งแต่ขึ้นไฮสคูลวันแรกเพื่อจะได้มหาวิทยาลัยตามที่ฝันกันเอาไว้ แล้วทั้งคู่ก็ทำได้จริง ๆ แต่สุดท้ายพวกเธอกลับพบว่า ตัวเองได้พลาดชีวิตวัยมัธยมเพราะมัวเอาแต่เรียนไม่ลืมหูลืมตา ทั้งคู่จึงจัดการชดเชยด้วยการตระเวณปาร์ตี้ในคืนสุดท้ายก่อนจบการศึกษาอย่างบ้าระห่ำ ก่อนจะพบว่าการเป็นเด็กเนิร์ดคงแก่เรียนตั้งแต่แรกมันไม่ใช่เส้นทางที่ผิดเลยเว้ย      

ตอนที่เพลงนี้จบลง เหมือนเราได้ยิน Lemony ตะโกนย้ำอีกครั้งว่า “เป็นตัวเองเหอะ ชีวิตมีครั้งเดียวนะเว้ย อยากทำอะไรก็ลุกขึ้นมาได้แล้ว” ซึ่งเออก็จริงว่ะ ชีวิตจะมีความหมายเมื่อเรารู้ว่าชีวิตมีครั้งเดียวนี่นะ ลุยเว้ย !

GEESUCH
WRITER: GEESUCH
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line