Life

Rob Krar นักวิ่งแชมป์ Ultramarathon ไม่เคยมีเส้นชัยไหนที่ไปไม่ถึง

By: HYENA February 3, 2016

ลืมเรื่องของระยะทางใน Ultramarathon 100 Mile ไปได้เลย จากจุดเริ่มต้นสตาร์ทที่ห่วยแตกในการวิ่ง Marathon แต่ด้วยความพยายาม และไม่ยอมจำนนต่อความพ่ายแพ้ ความเหนื่อยล้า เค้ากลับมาวิ่ง Ultramarathon อีกถึง 4 ครั้ง สุดท้าย Rob Kras กลับมาผงาดอย่างผู้ชนะ ในการแข่งขันนี้ถึง 2 ครั้ง ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องง่ายแน่ๆ แต่อะไรที่เป็นแรงบันดาลใจ และผลักดันให้เค้าเข้าสู่เส้นชัยทุกครั้งในการวิ่ง วันนี้ UNLOCKMEN จะพาคุณไปดูว่าทำไม Rob Krar ถึงเริ่มที่จะวิ่ง Ultramarathon ในปี 2012 และหากคุณตั้งใจที่จะเริ่มปฎิวัติตัวเองในปีใหม่ และหันมาจริงจังกับการวิ่งโดยที่จะตั้งเป้าไว้ว่าจะวิ่งอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง คุณจะมีระยะทางทั้งหมดเท่าที่เค้าวิ่งในหนึ่งปีใน 2019 นู่นเลยทีเดียว

160203-robkrar-9

Chasing the Distannce ภาพยนตร์สั้น 4 นาที ตัดภาพมาจากการวิ่งของ Rob Krar ที่สร้างแรงบันดาลใจ และเปิดวิสัยทัศน์ให้ทุกคนได้เห็นวิวที่สวยงาม ผ่านการถ่ายจากโดรนในมุมสูง ในแถบแอริโซนา Rob Krar มีความพิเศษถึงขนาดที่จะเป็นพรีเซ็นเตอร์ที่ดีที่สุดสำหรับ Nike หรือ เครื่องดื่มชูกำลังยี่ห้อดังได้เลยด้วยซ้ำ เพราะต้องยอมรับเลยว่าถ้าคุณเห็นการวิ่งของเค้า เค้าก็คือหนึ่งในนักกีฬาที่มีคุณภาพที่ดีมากคนนึง โดยหนังสั้นตัวนี้ Sierra Club ได้ถ่ายทำ Krar เพื่อโปรโมตอนุสรณ์แห่งชาติแกรนด์แคนยอนที่ครอบคลุมพื้นที่กว่า 2 ล้านเอเคอร์ของแกรนด์แคนยอนที่เด่นตระหง่านผ่านกาลเวลามาอย่างยาวนาน

160203-robkrar-8

พูดถึงการวิ่ง Ultramarathon นั้น คนที่วิ่งไม่เพียงแต่จะต้องวิ่งข้ามแกรนด์แคนยอนเท่านั้น แต่คุณต้องวิ่งไป และ กลับ ด้วยตัวคนเดียวเพียงลำพัง วันนี้เราได้นำคำตอบที่หลายๆ คนอยากรู้จาก Rob Krar ว่าเค้าทำมันไปเพื่ออะไร เค้าทำได้อย่างไร และเป้าหมายต่อไปในปี 2016 นี้ที่ตั้งใจจะสร้างสถิติใหม่ให้เกิดขึ้นคืออะไรกันแน่

160203-robkrar-1

ได้ยินว่าภรรยาของคุณเป็นคู่วิ่งของคุณด้วยใช่ไหม?

“เอิ่ม…เราไม่ได้วิ่งด้วยกันบ่อยนัก เพราะเราว่าการเป็นคู่วิ่งมันไม่ดีเท่าไหร่นักสำหรับชีวิตแต่งงานของเรา แต่เราเลือกที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนให้กันและกันในการวิ่งมากกว่า ซึ่งวิธีนี้มันเวิร์คมากสำหรับเรา ผมพบกับ Chirstina ในปี 2009 ในวันที่ 6 ของการแข่งขันในโคโรราโด้ที่เรียกว่า Transrockies Run ผมได้รับบาดเจ็บ และทำให้ผมไม่สามารถวิ่งได้ถึง 2 ปี และในตอนนั้นผมก็ได้พบกับผู้หญิงที่แสนวิเศษคนนี้ ผมเลือกที่จะทำตามใจตัวเอง ผมกลับมาวิ่งอีกครั้งนึง ผมรู้สึกสนุกและต่อสู้กับมันได้สำเร็จอีกครั้ง และผมทำมันได้ในการวิ่ง Bootlegger 50 กิโลเมตรในลาสเวกัส”

160203-robkrar-2

ผมไม่เห็นว่าแกรนด์แคนยอนจะมีอะไรที่สร้างแรงบันดาลใจเลย อะไรที่ทำให้คุณอยากจะวิ่ง?

“ผมย้ายอยู่มามากมาย จาก Hamilton, Ontario ไป Flagstaff,Arizona และในปี 2005 ผมสามารถวิ่งหนีจากทุกสิ่ง มุ่งหน้าเข้าไปในแกรนด์แคนยอน และยืนอยู่จุดสูงสุดของ แกรนด์แคนยอน ได้ภายใน 90 นาที จุดสูงสุดนั่นแหละ แรงบันดาลใจของผม”

160203-robkrar-3

แล้วคุณคิดรึเปล่าว่า การที่คุณวิ่งมา 7 ปีแล้ว อยากทำลายสถิติโลกอะไรบ้างไหม?

“ผมเป็นนักกีฬา และเป็นนักวิ่งมาเกือบทั้งชีวิต ผมวิ่งตั้งแต่มัธยมเพียงแต่ตอนนั้นเป็นการวิ่งระยะทางสั้นๆ เท่านั้น ทำลายสถิติน่ะเหรอ…ไม่มีอะ…ผมแค่วิ่งออกไปตามใจเรียกร้องเท่านั้นเอง”

160203-robkrar-4

Casey เพื่อนของผม ซึ่งก็เป็นนักวิ่งมาราธอนเช่นกันได้เคยบอกใน Blog เกี่ยวกับหลักการของการวิ่งไว้ว่า ความอุตสาหะพยายามจะเริ่มขึ่นก็ต่อเมื่อคุณผ่านระยะทางไปแล้ว 80 เปอร์เซ็นต์ของการวิ่ง และอีก 20 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือคือของจริงที่คุณต้องสู้ เช่น 26.2 ไมลส์ยังไม่เริ่มจนกว่าจะถึงไมล์ที่ 22 มันจริงหรือเปล่า?

“ใช่ มันถูกต้องที่สุด ทั้งการฝึกซ้อม และการแข่งขัน มันเป็นระยะทางที่ยาว ทุกครั้งผมจะสลัดความคิดที่ว่า ”ผมจะทำมันได้ยังไง” ออกไป ผมก็จะกลายเป็นนักวิ่งที่มีความอดทน และไม่กลัวต่ออะไรทั้งนั้นทันที และที่ผมต้องอดทนจริงๆ ก็ต่อเมื่อเข้าสู่ช่วง 20 เปอร์เซ็นต์สุดท้ายของระยะทางการแข่งขัน นั่นแหละ ถ้าคุณทำได้ มันคือชัยชนะ”

160203-robkrar-5

เรามาพูดเรื่องการบาลานซ์ทุกอย่างให้นิ่งสงบอย่างที่คุณพูดไว้ในหนังสั้นซักหน่อย และช่วยเล่าวิธีการที่คุณจัดการกับความกดดันในการแข่งขันให้เราฟังหน่อยได้ไหม?

“การที่ผมจัดการกับความกดดันที่โถมกระหน่ำเข้ามาได้นั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ เปิดประตูบ้านออกไป ถึงแม้ฤดูหนาวมันจะดูยากลำบาก กลางวันสั้น และค่ำเร็วบวกกับอากาศที่หนาวเย็น แต่การมีอุปกรณ์ที่ดีจะช่วยได้ เสื้อผ้าที่ดีจะทำให้เราวิ่งได้ไกลขึ้น การวิ่งโดยโฟกัสอยู่ที่ตัวเอง เรียกง่ายๆ เหมือนกับการที่คุณทำสมาธิไปด้วย มันช่วยคุณได้ แถมมันยังเป็นการคาร์ดิโอที่มีอิมแพคมาก ทำให้ร่างกายของเราได้พักบ้าง มันเหมือนเป็นการฟื้นฟูจิตวิญญาณของผมในการที่อยู่คนเดียวบนภูเขาในแบบใหม่ๆ”

160203-robkrar-6

คุณวิ่งประมาณสัปดาห์ละเท่าไหร่?

“ผมพยายามที่จะไม่เคร่งครัดเกินไป อยู่ที่ประมาณ 80- 100 ไมลส์ต่อสัปดาห์ และผมจะมีวันหยุดหนึ่งวันเสมอ สิ่งหนึ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ คุณทำอะไรระหว่างวิ่ง คุณดูแรงร่างกายอย่างไร โภชนาการอาหารคุณดีพอไหม โภชนาการเป็นสิ่งที่สำคัญ ผมเอาใจใส่เรื่องนี้มาก ผมไม่กินเนื้อสัตว์ แต่ผมไม่เรียกตัวเองว่ามังสวิรัติ เพราะเมื่อไหร่ที่ผมสามารถทำฟาร์มของตัวเองได้ ผมจะเลี้ยงสัตว์ และผมจะกลับมากินเนื้อสัตว์อีกครั้ง การยืดเส้นถูกวิธีก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญ นอนหลับให้เพียงพอ ที่สำคัญคุณต้องฟังเสียงที่ร่างกายและใจของคุณกำลังสื่อสารกับคุณว่า คุณพร้อมรึเปล่า ร่างกายคุณดีอยู่ไหม ง่ายๆ คือ การดูแลร่างกายเป็นสิ่งสำคัญที่สุดมากกว่าการวิ่งซะอีก”

160203-robkrar-7

ทุกวันนี้คุณทำอะไรอยู่ นอกจากการวิ่ง?

“ผมทำงานเป็นเภสัชกรแบบเข้ากะมานานกว่า 12 ปี ทำงาน 7 วันติด และหลังจากนั้นก็หยุด 7 วัน นั่นทำให้ผมมีเวลาในการวิ่ง แต่มันเป็นเป็นอาชีพที่ไม่เคยรู้สึกเติมเต็มเลยชีวิตผมเลย มันไม่อิ่ม มันไม่ฟิน ผมจึงตัดสินใจลาออก และมันเป็นการเปิดมุมมองให้กับผมจริงๆ การลาออกมันมีผลกับชีวิตผมมาก การวิ่ง และความพยายามในการวิ่งของผมคืออาชีพหลักที่แท้จริงตอนนี้ เป็นโลกใหม่ที่ที่ใหญ่โตมาก และเมื่อคุณทำได้ คุณจะรู้สึกว่าคุณน่ะ แม่งโคตรเจ๋ง คุณน่ะแม่งโคตรกล้าหาญ ดีกว่ายืนอยู่หลังเค้าเตอร์ยาโง่ๆ อย่างที่ผมเคยทำ โลกมันกว้างนะคุณ”

ทุกวันนี้ Rob Krar ก็ยังคงวิ่งต่อไป เพราะการที่เค้าได้ออกไปวิ่งมันคือความเป็นอิสระอย่างแท้จริงและเป็นสิ่งที่เค้าค้นพบ แต่ไม่จะทำอะไรก็ตาม ความพยายาม และความุ่งมั่นก็ยังเป็นสิ่งสำคัญในการฝ่าฟันทุกอุปสรรค และที่สำคัญการที่คุณมีเวลาให้กับตัวเอง เพื่อสื่อการกับตัวเอง และรับฟังสิ่งที่ร่างกายของคุณเรียกร้องนั้น อาจจะทำให้หลายๆ คนที่กำลังเหนื่อยล้าจากร่างกาย หรือกำลังเจอทางตันของชีวิต ได้ยินเสียงของคำตอบออกมาจากตัวเองเหมือนอย่าง Rob Krar ก็ได้

HYENA
WRITER: HYENA
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line