Survival

TABLE MANNERS: พาสาวไปกินร้านหรูยังไงให้รอด? เพราะกินที่บ้านช้อนไม่เยอะแบบนี้

By: PSYCAT February 27, 2020

ได้ชื่อว่า “โอกาสพิเศษ” ทั้งที ก็หมายความว่าช่วงเวลานั้นอาจไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย ๆ ไม่ต่างจาก “คนพิเศษ” ที่เป็นมนุษย์ผู้ที่เราให้ความสำคัญเป็นพิเศษเช่นกัน ดังนั้นเมื่อผู้ชายอย่างเราอยากพาสาวคนพิเศษไปมีวันพิเศษ ๆ ทั้งที จะให้กินข้าวร้านปกติธรรมดาที่เคยกินกันอยู่ทุกวันก็คงดูไม่พิเศษเท่าไร

การพาคนที่เรารักไปกินข้าวร้านหรูในโอกาสพิเศษจึงถือเป็นของขวัญและการใช้เวลาร่วมกันที่ล้ำค่า แม้ความตั้งใจจะเต็มอกลูกผู้ชายอย่างเรา แต่ชีวิตก็เต็มไปด้วยความท้าทายเสมอ กินข้าวอยู่ที่บ้านก็ใช้ช้อนหนึ่งส้อมหนึ่ง (อาจมีช้อนกลางอีกหนึ่ง) ถือว่าจบ

แต่เมื่อเราไปร้านเรียบหรู เสิร์ฟ Fine Dining มารยาทบนโต๊ะอาหารก็มีรายละเอียดที่แตกต่างจากที่เราคุ้นเคย สำหรับหนุ่ม ๆ ที่เห็นจำนวนช้อนส้อมและมีดบนโต๊ะวางเรียงราย อย่าเพิ่งตื่นตระหนก อนุญาตให้แอบคิดในใจว่า “ใช้ยังไงวะ?” ได้ เพราะ  UNLOCKMEN จะชวนคุณมา SURVIVAL เอาตัวรอดและเรียนรู้มารยาทบนโต๊ะอาหารให้ดูเป็นมืออาชีพในสายตาเธอ (และคนรอบข้าง) ไปด้วยกัน

 

“ผ้าเช็ดปาก” ศาสตร์และศิลป์ที่ไม่ควรมองข้าม

“ผ้าเช็ดปาก” คือสิ่งแรกที่เราอยากพูดถึง เนื่องจากเป็นอุปกรณ์เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ผู้ชายอย่างเรามักมองข้ามเพราะคิดว่าไม่ต้องสนใจอะไรมากก็ได้ แต่อุปกรณ์เล็กน้อยนี้เองที่จะยิ่งแสดงให้เห็นว่าเรามีความรู้เรื่องธรรมเนียมบนโต๊ะอาหารและเป็นคนพิถีพิถัน

ขั้นตอนแรกของการใช้ผ้าเช็ดปากคือการพับครึ่งเป็นสี่เหลี่ยม จากนั้นวางไว้บนตักตลอดการรับประทานอาหารมื้อนั้น ข้อควรระวังคือการที่ผู้ชายอย่างเรามักมีภาพจำจากภาพยนตร์ตลกบางเรื่องที่ตัวละครใช้ผ้าเช็ดปากเหน็บไว้ที่คอปกเสื้อ ซึ่งนั่นไม่ใช่วิธีการที่ถูกต้อง พับแล้ววางไว้บนตักเพื่อป้องกันเศษอาหารหกเลอะเทอะ รวมถึงใช้เช็ดมือและปากได้สะดวกคือวิธีที่เหมาะสมที่สุด

เมื่อขึ้นชื่อว่าผ้าเช็ดปาก คุณสมบัติหลักของมันก็คือการเช็ดคราบสกปรก ดังนั้นเมื่อปากเราเลอะ ให้นำผ้าขึ้นมาแล้วใช้นิ้วชี้กดผ้าด้านในขึ้นมาค่อย ๆ แตะ ๆ ซับ ๆ (ไม่ใช่เช็ดปาด รอยจะยิ่งเลอะ) เหตุผลที่ต้องใช้ด้านในคือเมื่อใช้เสร็จ รอยเปื้อนก็จะถูกซ่อนอยู่ด้านใน ไม่ทำให้เสื้อผ้าเราเลอะตามและทำให้ผ้าดูขาวสะอาดอยู่ตลอด

ประโยชน์ของผ้าเช็ดมือนอกจากจะเพื่อเช็ดคราบสกปรกทั่วไปแล้ว อีกคุณสมบัติหนึ่งคือไว้ใช้ซับปากก่อนดื่มไวน์ ดื่มน้ำ หรือเครื่องดื่มอื่น ๆ เพื่อไม่ให้แก้วนั้น ๆ เลอะคราบไขมันอาหารที่ติดอยู่ที่ริมฝีปากเรา

 

“นอกเข้าใน” คาถาพิชิตอุปกรณ์ที่เรียงยาวเหยียด

แม้จำนวนส้อม ช้อนและมีดที่วางเรียงรายจะทำให้เราถึงกับเหงื่อตก กลัวว่าจะหยิบอะไรก่อน? ใช้อะไรหลัง? หรือใช้ช้อนอย่างเดียวกับทุกอย่างจบ ๆ ไปเลยได้ไหม? เราแนะนำว่าให้นิ่งไว้ หลักการที่ง่ายที่สุดและจำให้ขึ้นใจคือ “นอกเข้าใน” จำสามคำนี้ไว้ รับรองรอดทุกสถานการณ์ ไม่ว่าอุปกรณ์จะมีจำนวนมากแค่ไหน ก็ใช้ไล่จากที่อยู่ด้านนอกสุดเขาหาด้านในสุดเสมอ

เนื่องจากการรับประทานอาหารแบบ Fine Dining นั้นแตกต่างจากการรับประทานอาหารที่เราคุ้นเคย โดยคอร์สอาหารลักษณะนี้จะเสิร์ฟอาหารเป็นลำดับ (ไม่ได้มีอาหารมาวางทีเดียวตอนต้น แล้วเก็บทีเดียวตอนจบ) ดังนั้นในแต่ละรอบที่อาหารเสิร์ฟก็ให้ใช้ที่อยู่ด้านนอก แล้วไล่ไปตามลำดับของอาหารที่เสิร์ฟ

ใช้มือขวาจับมีด ส่วนมือซ้ายถือส้อมให้มั่นคง โดยคว่ำส้อมใช้จิ้มหรือยึดอาหารให้นิ่ง และมีดในมือขวาจะคอยทำหน้าที่ตัดอาหารเป็นชิ้น ๆ แต่ถ้าเจออาหารประเภทข้าวหรือถั่ว ให้เราหงายส้อมขึ้น (เหมือนเวลาเราจับช้อนกินข้าวตามปกติ) แล้วใช้มีดกวาดอาหารเข้ามาอยู่ในส้อมแทน

ข้อควรระวังอุปกรณ์ทุกชิ้นที่เราหยิบขึ้นมาใช้แล้ว เราจะไม่นำกลับไปวางไว้บนโต๊ะอีกเด็ดขาด ถ้าเราไม่ใช้มีดให้พักไว้บนขอบจานหลัก บริเวณขวาบน ทำมุม 45-60 องศา

 

ซอสต้องปาดหรือแต้ม ห้ามเทราดบนอาหาร

นิสัยของคนไทยที่คุ้นเคยคือจะกินอะไรก็ต้องจิ้มซอส จิ้มน้ำจิ้ม เพิ่มรสชาติอาหารให้จัดจ้านมากขึ้น การรับประทานอาหารแบบ Fine Dining นั้นก็มีซอส มัสตาร์ดคอยบริการ วิธีการที่ถูกต้องคือการปาดซอสมาไว้ที่มุมของจานเราเอง เมื่อต้องการจะกินให้ใช้ปลายมีดแต้มซอสบนอาหารคำนั้น ๆ แล้วตักเข้าปาก เราจะไม่ตักซอสมาปาดบนอาหารโดยตรง

การปาดซอสไว้ที่มุมจานแล้วค่อย ๆ ปาดเป็นคำ ๆ นี้จะช่วยคุมรสชาติอาหาร ไม่ให้เสียรสชาติเกินไป รวมถึงช่วยรักษาความสะอาดของจานไม่ทำให้ซอสเลอะละลายปะปนบนจานอาหารจนเละเทะดูไม่น่ากินได้อีกด้วย

ข้อควรระวังเพิ่มเติมคือแม้จะมีซอสติดอยู่ที่ปลายมีด (และถ้าอยู่ที่บ้านเราอาจจะดูดซอสนั้นจากอุปกรณ์จนเกลี้ยงด้วยความเอร็ดอร่อย) แต่พาสาวไปกินอาหารมื้อพิเศษทั้งทีก็ควรทำตามธรรมเนียมที่ถูกต้อง ดังนั้นห้ามใช้มีดนำอาหารเข้าปากหรือใช้ลิ้นเล็มเลียซอสจากมีดโดยเด็ดขาด

 

วิธีการตักซุปแบบโปรต้องค่อย ๆ ซด

ขอให้ลืมวิธีการกินน้ำซุป น้ำแกงแบบอาหารไทย ๆ ไปก่อน เนื่องจากวิธีการกินนั้นต่างกัน โดยเริ่มจากวิธีการตักซุปที่ปกติเราอาจจะตักอย่างไรก็ได้ตามที่ถนัด แต่ถ้าอยากดูมืออาชีพเราต้องตักโดยตักออกจากตัว จากนั้นค่อย ๆ จิบซุปที่ตักขึ้นมาจากด้านข้างช้อน (ไม่เอาช้อนเข้าปากทั้งอัน)

อย่างไรก็ตามร้านอาหารบางแห่งอาจเสิร์ฟซุปมาในถ้วยที่มีหู เราสามารถยกซุปขึ้นดื่มได้ เพียงแต่ต้องระวังไม่ให้เกิดเสียงซู้ดซ้าดเสียงดัง และข้อควรระวังคือห้ามเอาขนมปังเราไปจิ้มซุปเด็ดขาด

 

“กินอาหารพอดีคำ” ธรรมเนียมพื้นฐานที่ห้ามละเลย

มารยาทบนโต๊ะอาหารอีกอย่างที่อาจดูเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ถ้าเราใส่ใจก็จะสร้างความแตกต่างที่ยิ่งใหญ่ และดูโปรขึ้นมาทันที มารยาทนั้นก็คือ “การตักอาหารเป็นชิ้นพอดีคำ” เคล็ดลับง่าย ๆ สำหรับผู้ชายอย่างเราคือการใช้มีดตัดอาหารให้พอดีคำก่อนเสมอ

กรณีอาหารที่เราไม่ชินนักอย่างสลัดผักที่ผักเน้นใบช่างใหญ่โต ก็อย่าเพิ่งกังวลไป ให้ใช้มีดตัดผักจนมีขนาดพอดีคำ ก่อนจะใช้มีดและส้อมพับผัก แล้วดันเข้าไปในส้อมเพื่อกินได้ในคำเดียว นอกจากจะกินได้ง่ายขึ้น ยังไม่เลอะเทอะ แถมดูสวยงามสมกับเป็นมืออาชีพอีกด้วย

 

ปิดจบมื้ออย่างดงาม เชี่ยวชาญยันหยดสุดท้าย

ความงดงามของมารยาทบนโต๊ะอาหารคือการที่ตั้งแต่ต้นจนจบนั้นทุกอย่างมีขั้นตอนของตัวเอง เมื่อกินเสร็จแล้วอยากดูมืออาชีพก็อย่าแค่เดินออกจากโต๊ะไปเฉย ๆ ให้รวบมีดและส้อมไว้บนจาน วางส้อมหงายขึ้น หันคมมีดเข้าหาตัวส้อม แล้วทำมุมเฉียงไปที่ทิศ 11 นาฬิกา ส่วนผ้าเช็ดปากวางไว้บนโต๊ะด้านขวาของจาน ห้ามวางพาดพนักเก้าอี้ หรือ บนจานที่กินเสร็จแล้ว

เราเชื่อว่าไม่มีอะไรที่ยากเกินการเรียนรู้ ตอนที่เราไม่คุ้นชินการเห็นอุปกรณ์วางเรียงรายหรือบรรยากาศเรียบหรูก็อาจทำให้ตื่นตระหนกได้ แต่ถ้าใจรักจะเรียนรู้ มารยาทบนโต๊ะอาหารก็ง่ายนิดเดียว ไม่ว่าจะโอกาสพิเศษกับคนพิเศษก็ไม่ต้องเขิน หรือจะมื้อสำคัญในการเจรจาธุรกิจก็เอาตัวรอดได้ทุกสถานการณ์แน่นอน

สำหรับหนุ่ม ๆ ที่อยากเห็นการหยิบจับแบบเป็นภาพเคลื่อนไหว ติดตามได้ที่คลิปด้านล่างนี้

LOCATION: Brasserie by Water Library
PHOTOGRAPHER: Krittapas Suttikittibut & Warynthorn Buratachwatanasiri

PSYCAT
WRITER: PSYCAT
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line